บทที่ 24 เพลิงสวรรค์รุนแรง
บทที่ 24 เพลิงสวรรค์รุนแรง
“เจ้าอยากตายหรือ!” ฉางฮ่าวเฉียน ราวกับสิงโตโกรธจัด มือทั้งสองของเขาสั่นเทา และลูกไฟขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากอากาศบาง อุณหภูมิของสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นแต่เดิม เปลี่ยนเป็นร้อนจัด จนทำให้ผู้คนเหงื่อไหล
นี่คือจิตวิญญาณการต่อสู้ของฉางฮ่าวเฉียน, สิงโตเพลิงเล่ยเหยียน
“พี่ฉาง ความแข็งแกร่งของเจ้านั้น ดีขึ้นอีกครั้ง เจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรชั้นเรียนขั้นสูงของเรา” หนึ่งในนั้นหัวเราะ ชื่อของเขาคืออี้ฉวน และความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับปานกลาง เขามองไปที่ฉางฮ่าวเฉียนด้วยความริษยา
“ถูกต้อง แม้ว่าเราทั้งคู่จะอยู่ที่ระดับเจ็ดของขั้นกลั่นพลังปราณ แต่ความแข็งแกร่งของคนอื่น ๆ อ่อนแอกว่าเจ้ามาก” คนอื่นๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
ฉางฮ่าวเฉียนนั้นอายุเพียงสิบแปดปี แต่เขาก็แข็งแกร่งที่สุดในขั้นที่เจ็ดของขั้นกลั่นพลังปราณแล้ว ส่วนคนอื่น ๆ อายุ 20 ปี และไม่มีใครเทียบเขาได้ พูดไปก็ทำให้รู้สึกอิจฉา
“พี่ฉาง ...พูดได้เลยว่าเป็นอัจฉริยะระดับชั้นยอด ในอนาคตเจ้าจะกลายเป็นผู้อาวุโสที่โดดเด่นต่างจากตระกูลเย่อย่างแน่นอน”
ทุกคนต่างชื่นชมฉางฮ่าวเฉียน ท้ายที่สุด เขาเป็นชายผู้ทรงพลังที่มีอนาคตอันไร้ขีดจำกัด ทุกคนต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ฉางฮ่าวเฉียนฟังคำชมของอีกสี่คนและรู้สึกภาคภูมิใจในใจ
เย่สวี่จะเปรียบเทียบกับคนที่มีความสามารถอย่างเขาได้อย่างไร? การต่อสู้ในวันนี้คือการต่อสู้เพื่อให้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นไปอีก เขาต้องการเหยียบศพของเย่สวี่และกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงขจรไกล!
"ไฟ?" เย่สวี่มองไปที่ลูกไฟสองลูกที่เกิดจากสิงโตเพลิงเล่ยเหยียนและอมยิ้ม รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ ความสงบ และความสังเวชใจเท่านั้น
“เจ้าอยากเล่นกับไฟจริงๆ หรือ แต่เจ้าไม่มีคุณสมบัตินั้น” ทันทีที่เขาพูดจบ เปลวไฟสีขาวขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเย่สวี่มันพลิ้วไหวไปกับสายลม ราวกับจะดับมอดไปได้ทุกเมื่อ
“เจ้ามีจิตวิญญาณการต่อสู้ธาตุไฟด้วยหรือ?” ฉางฮ่าวเฉียนตกตะลึง เมื่อเขาเห็นเปลวไฟของเย่สวี่ เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เปลวไฟขนาดเท่านิ้วก้อย จะมีประโยชน์อะไร? เจ้าต้องการฆ่าข้าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว! เจ้าไม่รู้ความแตกต่างระหว่างความเป็นกับความตายจริงๆ ฮ่า ๆ !” ฉางฮ่าวเฉียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยกมือทั้งสองขึ้น และรวมบอลเพลิงสองลูกไว้ในฝ่ามือของเขาเข้าด้วยกัน ทันใดนั้น เปลวไฟขนาดเท่าร่างมนุษย์ก็ควบแน่น
เปลวลมร้อนพัดรุนแรงทำให้คนเหงื่อออกไม่หยุด
เมื่อเห็นเช่นนี้ ดวงตาของเย่เฟยหยูแสดงออกถึงความพึงพอใจ แน่นอนตามที่เขาคาดเอาไว้ มีเหตุผลที่ว่าฉางฮ่าวเฉียนนั้นยืนอยู่บนจุดสูงสุด ด้วยลูกไฟของเขา อาจมีนักรบระดับแปดขั้นกลั่นพลังปราณไม่มากที่สามารถทำได้อย่างเขา
"ไป!"ฉางฮ่าวเฉียนร้องตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้นลูกไฟขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้าหาเย่สวี่ ระหว่างทางที่มันพุ่งเข้าหาเย่สวี่ ต้นไม้ ใบหญ้าที่สัมผัสโดนพลังร้อนระอุของมันกลายเป็นเถ้าถ่านมอดไหม้ในทันที
ทางด้านของเย่สวี่สงบนิ่งมาก เขาสะบัดเปลวไฟสีขาวบนปลายนิ้วเบา ๆ และเผชิญหน้ากับลูกไฟขนาดใหญ่ ราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะดับลงได้ทุกเมื่อ
เมื่อเห็นเช่นนี้ คนอื่น ๆ ต่างแสดงความรังเกียจต่อเปลวไฟของเย่สวี่มีขนาดเพียงนิ้วก้อยเดียว ในขณะที่สิงโตเพลิงเล่ยเหยียนของฉางฮ่าวเฉียน มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณครึ่งเมตร
ความแตกต่างระหว่างทั้งสอง เป็นเหมือนสวรรค์และนรก การกระทำของเย่สวี่ไม่แตกต่างจากการฆ่าตัวตาย
ทางด้านฉางฮ่าวเฉียนเหยียดยิ้มอย่างมั่นใจ ในความคิดของเขา เย่สวี่ไม่มีทางจะรอดชีวิต ตราบใดที่เขาฆ่าเย่สวี่ลงไปได้ ตำแหน่งของผู้อาวุโสในตระกูลจะอยู่ไม่ไกล จากนี้ไปเขาจะเป็นผู้อาวุโสในตระกูลเย่
ภายใต้การจ้องมองอย่างแน่วแน่ของทุกคน บอลเพลิงสองลูกปะทะกันอย่างต่อเนื่อง คลื่นความร้อนระเบิดออก และกระทบบริเวณโดยรอบ
เปลวไฟสีขาวดูเหมือนจะมีความคิดเป็นของมันเอง ทันใดนั้นมันก็ล้อมรอบบอลเพลิงทั้งหมดในลักษณะแปลก ๆ ก่อนที่บอลเพลิงจะทันได้ทำอะไร มันก็ถูกเปลวเพลิงสีขาวขนาดนิ้วก้อยกลืนกินเข้าไป
ดูเหมือนทุกคนจะรู้สึกถึงเปลวไฟสีขาวที่อ้าปากและเรอออกมาเบา ๆ และเผยให้เห็นร่องรอยของความน่าขยะแขยงของเปลวไฟสีขาว ราวกับไม่โปรดปรานสิ่งนี้
“ช้าก่อน! มันเป็นไปได้อย่างไร!” บอลเพลิงของฉางฮ่าวเฉียนถูกเปลวไฟเล็ก ๆ กลืนเข้าไป! ใบหน้าของฉางฮ่าวเฉียนซีดเผือด เขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่า บอลเพลิงของเขาไม่ได้ถูกกลืนกิน แต่มันถูกทำลายลงไป!
นั่นคือการหายตัวไป ในระดับที่ซับซ้อนที่สุด ไม่หลงเหลือร่องรอยใด ๆ ไว้! “น่ากลัว... มันน่ากลัวเกินไป!”
ฉางฮ่าวเฉียนตกใจมากจนหลั่งเหงื่อเย็น ๆ ออกมา เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง ทันทีที่เปลวไฟสีขาวปรากฏขึ้น ราวกับว่าเขาเห็นสัตว์ประหลาดเปลวไฟที่สามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง!
นั่นคือพลังการปราบปรามอย่างสมบูรณ์! เย่สวี่อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเนื่องจากภาพที่เขาเห็น ความตั้งใจเดิมของเขาคือการปล่อยให้เพลิงสวรรค์กำจัดฉางฮ่าวเฉียงโดยตรง แต่เพลิงสวรรค์นั้นซุกซนเกินไป มันจงใจที่จะโอ้อวดความสามารถของมันให้ดู
หลังจากที่มันกลืนกินลูกไฟ แต่ก็ยังรู้สึกว่าระดับของลูกไฟนั้นอ่อนด้อยเกินไป และมันน่าขยะแขยงเกินกว่าจะกินลงไป เมื่อเห็นใบหน้าที่สิ้นหวังของฉางฮ่าวเฉียน เย่สวี่ก็ยิ้มจาง ๆ
มันไม่ใช่ความผิดของฉางฮ่าวเฉียน แต่ทว่าพลังเต๋าเพลิงสวรรค์ เป็นราชันย์แห่งไฟ และสิงโตเพลิงเล่ยเหยียน ไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย
เย่สวี่ไม่สนใจที่จะต่อสู้กับฉางฮ่าวเฉียน ผู้ซึ่งสูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้ไปแล้ว
หากเขาไม่สามารถดึงตัวเองออกมาจากเงามืด เย่สวี่จะกลายเป็นฝันร้ายของเขาตลอดไป และ ฉางฮ่าวเฉียนจะหมดอนาคตทางด้านการฝึกฝนไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา
สำหรับคนที่ตั้งใจจะเป็นชายผู้มีอำนาจ นี่คือเรื่องที่โหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาเสียอีก
“เย่สวี่ ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำไป!” การแสดงออกของเย่เฟยหยูมืดมนมาก
เย่สวี่สามารถเอาชนะฉางฮ่าวเฉียนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว หากไม่ใช่เพราะเขาแสดงความเมตตา ฉางฮ่าวเฉียนก็คงจะกลายเป็นศพไปแล้ว
เย่เฟยหยูได้มองเห็นและคำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าความแข็งแกร่งของเย่สวี่จะสูงมากเกินไป
“พวกเจ้าสี่คน โจมตีพร้อมกัน!” เย่เฟยหยูมองไปที่อี้ฉวน และออกคำสั่ง
“ให้เราโจมตีพร้อมกัน” ชายทั้งสี่คนตกใจ พวกเขามองไปที่เย่สวี่ที่สงบนิ่ง และรู้สึกประหม่ากังวล
เดิมทีพวกเขาเคยได้ยินจากเย่เฟยหยูว่า เย่สวี่เป็นขยะ แต่พวกเขาไม่เคยเห็นขยะที่สามารถเอาชนะ ขั้นกลั่นพลังปราณระดับที่ 7ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยในคำพูดของเย่เฟยหยูก่อนหน้านั้น
"สารเลว!" เย่เฟยหยูมองเห็นความลังเลใจและรู้ทันทีว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่
เขาหยิบยาเม็ดวิญญาณเมฆาออกมาสี่เม็ดแล้วพูดว่า "นี่คือรางวัลของข้า ตอนนี้ขอมอบให้เจ้า หากเจ้าฆ่าเย่สวี่ได้ ข้ารับประกันว่า ข้าจะให้ทรัพยากรการฝึกฝนแก่เจ้าในอนาคต!"
การแสดงออกของพวกเขาเริ่มร้อนแรงอีกครั้งเมื่อพวกเขาจ้องไปที่เย่สวี่
“ขอโทษด้วย แต่ข้าจะถอนตัว” อี้ฉวนก้าวถอยหลังและกล่าวตามความประสงค์ของเขา แม้ว่าพรสวรรค์ของอี้ฉวน จะอยู่ในระดับปานกลาง แต่เขาก็ไม่ได้โง่เขลา
ความแข็งแกร่งของเย่สวี่นั้น ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่สิ่งที่เย่เฟยหยูสัญญาให้ไว้นั้น ไม่มีความน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย แม้ว่ายาเม็ดวิญญาณเมฆาจะดีมาก แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อมัน
แม้ว่าการกระทำของเขาจะทำให้เย่เฟยหยูขุ่นเคือง แต่อี้ฉวนก็ไม่ใส่ใจ
จากนั้นเย่เฟยหยูกลอกตาและพูดอย่างขึ้นว่า "ด้วยวิธีนี้ สำหรับพวกเจ้าสามคน เจ้าจะสามารถแจกจ่ายทรัพยากรได้มากขึ้นในอนาคต"
เหลียงเฟยจั๋วเป็นหนึ่งในสามที่ปรากฏดวงตาเต็มไปด้วยความละโมบ เขากล่าวว่า “อี้ฉวน เจ้ามันคนขี้ขลาด!”
เหลียงเฟยอางเป็นน้องชายของเหลียงเฟยจั๋ว เขาคว้าดาบเหล็กสีดำออกมาแล้วพูดด้วยเจตนาสังหารว่า “หากเราสามคนโจมตีพร้อมกัน เย่สวี่จะตายแน่นอน!”
เมื่อเห็นเหตุการณ์วุ่นวาย เย่สวี่ก็มองไปยังอี้ฉวน เนื่องจากอี้ฉวนฉลาดพอที่จะถอนตัว ในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม เย่สวี่คิดว่าหากแผนของเย่เฟยหยูสำเร็จ ด้วยนิสัยอาฆาตพยาบาทของเย่เฟยหยู เขาจะไม่มีวันปล่อยให้อี้ฉวนมีชีวิตอยู่ แต่อย่างน้อยเขาก็ดีกว่าพวกคนโง่สามคนนั้นมาก
“พวกเจ้าพูดจาไร้สาระเกินไปแล้ว” เย่สวี่เยาะเย้ย จกานั้นเคาะปลายเท้าเบาๆ ราวกับว่าเขาได้หลอมรวมร่างกายเข้ากับสายลม ก่อนที่เจตนาสังหารจะถูกเปิดเผย เขาแทบไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆเลย
เหลียงเฟยจั๋วและอีกสองคนต่างมองหาเย่สวี่อย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นเลือดก็สาดกระเด็นไปทุกหนทุกแห่ง
เหลียงเฟยอางมองไปที่ดาบยาวที่หน้าอกของเขาโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งเขาตาย เขายังสงสัยว่าทำไมเย่สวี่สามารถฆ่าเขาด้วยดาบเดียวเท่านั้น
"น้องชาย!"เหลียงเฟยจั๋วร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขายกดาบขึ้นและแทงไปที่ร่างของเย่สวี่ทันที อย่างไรก็ตาม เขาทำได้เพียงแทงดาบไปยังเงาของเย่สวี่เท่านั้น
ดาบสีดำขนาดใหญ่แทงทะลุหลังของเหลียงเฟยจั๋ว จากนั้นเหลียงเฟยจั๋วเบิกตากว้างและกุมหน้าอกของเขาไว้ เขาต้องการหันศีรษะกลับไปมองเย่สวี่ให้ชัด ๆ
แต่ก่อนที่เขาจะหันศีรษะกลับมาได้ ลมหายใจของเขาก็หยุดลง
“นี่มันต้องเป็นผีแน่ ๆ!” ชายคนที่เหลือตื่นตระหนก ทั้งเหลียงเฟยจั๋วและ เหลียงเฟยอางเสียชีวิตเร็วเกินไป เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะโต้ตอบ และไม่มีเวลาแม้แต่จะปลดปล่อยจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา
ความเร็วดังกล่าวคาดเดาไม่ได้ เขาจะต่อสู้กับการดำรงอยู่เช่นนั้นเพื่อทรัพยากรอะไรในอนาคต? ชายคนนั้นทุบหน้าอกของเขาและกระทืบเท้าด้วยความเสียใจ น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มียารักษาความเสียใจ
จากนั้นเย่สวี่ไม่แสดงความเมตตาอีกต่อไป ผู้ที่ยังคงติดตามเย่เฟยหยูในเวลานี้ ไม่มีค่าในการแสดงความเมตตาใด ๆ แม้แต่น้อย จากนั้นเย่สวี่เข้าโจมตีอีกครั้ง!
ชายทั้งสามคนที่พูดอย่างไร้ยางอายว่า พวกเขาต้องการจะฆ่าเย่สวี่ แต่ในตอนนี้ ได้เสียชีวิตทั้งหมดภายใต้คมดาบของเย่สวี่!