บทที่ 20 ดูเรื่องดีๆ ที่เจ้าทำสิ
บทที่ 20
ดูเรื่องดีๆ ที่เจ้าทำสิ
ทานข้าวเช้าแล้ว ฉินจิ่นเลยเอาผักและเนื้อที่ซื้อเมื่อวานไปส่งที่บ้านแม่สามี
“สะใภ้รอง ข้าได้ยินเรื่องเมื่อวานแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้ามีวิธี” ฉินจิ่นตบเบาๆที่มือของแม่สามีแล้วพูดว่า “นี่คือเนื้อและก็ผัก พวกท่านกินก่อนนะเจ้าค่ะ ถ้าไม่พออีกสองสามวันข้าจะซื้อมาส่งให้อีก”
“พอแล้ว พอแล้ว” แม่สามีพยักหน้า ชี้ไปที่ผักที่อยู่ในครัว “ที่เจ้าซื้อมาครั้งที่แล้วยังกินไม่หมดเลย”
หลังจากพูดคุยไปหลายคำ ฉินจิ่นเองก็อยู่ต่อนานไม่ได้ วันนี้นางยังมีเรื่องที่ต้องรีบไปทำอีก
เวลานี้ของทุกๆ เดือนของคุณหนูเจียงนั้น จะต้องไปที่ร้านด้วยตัวเอง ไปให้อาจารย์ทำเสื้อผ้าใหม่ให้นางทั้งตัว
ฉินจิ่นรออยู่ฝั่งนี้แต่เช้าตรู่ รอให้คุณหนูเจียงวัดตัวเสร็จหมดแล้ว ถึงได้รีบพุ่งเข้าไป “คุณหนูเจียง คุณหนูเจียง นี่เป็นถุงหอมที่ข้าทำใหม่ คุณหนูลองดูสิเจ้าค่ะว่าชอบรึเปล่า”
“อันนี้สวยดี” คุณหนูเจียงดูแล้วก็ขอบคุณ ดูซ้ายดูขวา “เท่าไหร่รึ”
“อันนี้ทำให้คุณหนูเจียงเจ้าค่ะ ทดแทนความรู้สึกผิดที่ทำให้คุณหนูแพ้ขนแกะเมื่อครั้งที่แล้ว”
ป้าหวังจ้องมองฉินจิ่นและถุงหอมนั้นอยู่อีกฝั่ง “แม่นาง ในนี้มีของอย่างอื่นอีกรึเปล่า จะทำให้คุณหนูของเราแพ้อีกรึเปล่า”
“ไม่หรอกเจ้าค่ะ นี่เป็นยาจีนทั้งนั้น ทำให้ช่วยผ่อนคลายได้” ฉินจิ่นพูดอธิบาย “เจ้าดมดูสิ ยังมีสมุนไพรอีกด้วย”
ป้าหวังยังไม่ได้วางใจ พูดขู่ว่า “ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ระวังจะได้ส่งเจ้าให้ทางการล่ะ”
สำหรับคุณหนูของตัวเองแล้ว ป้าหวังเอาใจใส่เป็นที่สุด
ฉากนี้อยู่ในสายตาของโจวหลันหลันที่อยู่ร้านข้าวตรงข้ามทั้งหมด นางเห็นฉินจิ่นเอาถุงหอมให้คุณหนูเจียง เลยยกเค้กดอกอบเชยที่อยู่บนโต๊ะ แล้วเดินสะบัดก้นออกไป
“นี่คุณหนูเจียงไม่ใช่รึเจ้าคะ” โจวหลันหลันเหลือบฉินจิ่นไปทีนึง มุมปากนั้นมีรอยยิ้มอยู่แล้วพูดว่า “ไม่ได้เจอคุณหนูมาตั้งนานแล้ว ช่วงนี้สบายดีหรือไม่เจ้าคะ”
คุณหนูเจียงพูดแปลกๆ ว่า “เจ้าเพิ่งจะไปหาข้ามาเมื่อวันก่อนไม่ใช่รึ”
“นั่นก็นานแล้วนะเจ้าคะ” โจวหลันหลันเอาเค้กดอกอบเชยที่อยู่ในมือส่งให้ตรงหน้าของคุณหนูเจียง “คุณหนูลองชิมดูสิเจ้าค่ะ รสชาติเป็นยังไงบ้าง”
“ได้สิ ได้สิ” คุณหนูเจียงหยิบมาไว้ในมือหนึ่งชิ้นแต่กลับไม่ได้กิน เพียงแต่บอกว่า “ข้าต้องกลับก่อนแล้ว ท่านพ่อยังรอข้าอยู่ที่บ้านน่ะ ถ้าให้เขารู้ว่าข้าห่วงเล่นอีก ไม่แน่อาจจะบ่นข้าอีกก็เป็นได้”
โจวหลันหลันทำหน้าตายิ้มแย้ม “เจ้าค่ะ”
หลังจากรอให้พวกคนของคุณหนูเจียงไปกันหมดแล้ว โจวหลันหลันก็จ้องมองฉินจิ่นอย่างเคียดแค้น “อย่าหาว่าข้าไม่เตือนล่ะ วันดีของเจ้ามาถึงแล้วล่ะ”
“จะวันดีหรือไม่ดี ก็ไม่ได้อยู่ที่เจ้าพูดสักหน่อย”
ในใจของฉินจิ่นนั้นพอจะเดาออกแล้ว ว่าโจวหลันหลันเห็นตัวเองได้ดีไม่ได้
……
ตอนที่คุณหนูเจียงกลับถึงบ้าน นายท่านเจียงก็กำลังอ่านหนังสือในห้องหนังสืออยู่
“ท่านพ่อ พ่อดูสิ” คุณหนูเจียงกางฝ่ามือออก ในฝ่ามือนั้นมีเค้กดอกอบเชยหนึ่งชิ้นอยู่
“เค้กดอกอบเชย เจ้าเอามาจากที่ไหน” นายท่านเจียงแปลกใจเล็กน้อย
“โจวหลันหลันภรรยาของเถ้าแก่จ้าวให้ข้ามาเจ้าค่ะ ครั้งก่อนวันที่มีอาการแพ้ข้าก็กินเค้กดอกอบเชยของนาง” คุณหนูเจียงพูดอธิบาย “ขนแกะของแม่นางฉินนั้นข้าจับตั้งแต่อยู่ที่บ้านจางแล้วเจ้าค่ะ แต่หลังจากกลับบ้านแล้วก็ไม่ได้แพ้อะไร”
ตอนนี้นายท่านเจียงถึงจะนึกขึ้นได้ว่าลูกสาวของตัวเองนั้นแพ้ดอกอบเชย สังเกตเจอตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะฉะนั้นเลยกำชับแต่แรกว่าในอาหารนั้นห้ามใช้ดอกอบเชย คนในบ้านต่างก็ระวังกันหมด แต่โจวหลันหลัน ที่ส่งเค้กดอกอบเชยมาให้อย่างเงียบๆ
นึกถึงตอนนี้นายท่านเจียงก็เข้าใจแล้ว คนทั้งเมืองนี้ต่างก็รู้กันหมด ว่าโจวหลันหลันไม่ถูกกับฉินจิ่น ถึงจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่นางใช้เรื่องที่ลูกสาวตัวเองแพ้ดอกอบเชย มาวางแผนเพื่อทำร้ายฉินจิ่นนั้น มันเกินไปมากจริงๆ
นายท่านเจียงนั่งอยู่ห้องโถง แล้วก็เรียกคนมา “ตอนนี้แม่นางฉินอยู่ที่ไหนรึ”
“เมื่อกี้ตอนอยู่นอกร้าน ยังให้ถุงหอมกับข้าอยู่เลยเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะยังอยู่รึเปล่า” คุณหนูเจียงตอบ
“รีบไปเร็ว ไปตามตัวแม่นางฉินมา”
ตอนนั้น ฉินจิ่นกำลังเดินสำรวจอยู่แถวๆ บ้านเจียง ได้ยินว่านายท่านเจียงคนนี้นั้นดีมาก เพราะฉะนั้นนางเลยเดาว่าถ้านายท่านเจียงรู้ความจริงแล้วต้องส่งคนมาตามหาตัวเองแน่นอน
พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีคนกลุ่มนึงออกมาจากบ้านพอดี เห็นฉินจิ่นอยู่ทางนี้ก็พุ่งมาทันที
“แม่นางฉิน นายท่านของเราให้มาเชิญไป”
พอถึงบ้านแล้ว นายท่านเจียงเห็นฉินจิ่นก็เข้าต้อนรับทันที “โทษทีนะ แม่นาง เป็นเพราะข้าวู่วามเกินไป เลยทำให้แม่นางต้องได้รับความเจ็บปวด”
“มิกล้าหรอกเจ้าค่ะ นายท่านเจียงก็ถูกหลอกเหมือนกัน”
“เอาแบบนี้ ที่แม่นางยังมีผ้าพันคอกับถุงมืออีกเท่าไหร่”
ฉินจิ่นนับไว้ในใจตั้งแต่แรกแล้ว “ผ้าพันคอกับถุงมือทั้งหมดสิบห้าชุดเจ้าค่ะ
“อื้ม” นายท่านเจียงลูบเคราแล้วพูดว่า “เอาแบบนี้แล้วกัน เจ้าขายให้ข้าทั้งหมด เจ้าลองดูว่าสามตำลึงพอรึไม่”
นี่มันเยอะเกินไปรึเปล่า ในใจฉินจิ่นนั้นคิดคำนวณอยู่นาน สูงกว่าราคาตลาดมาก
“แม่นางฉินไม่ต้องรู้สึกว่าไม่ดีนะ เป็นความผิดของข้าแต่แรกอยู่แล้ว” นายท่านเจียงคิดๆ แล้วพูดขึ้นอีก “พรุ่งนี้เจ้าไปขายที่เดิมของเจ้านะ เดี๋ยวข้าไปซื้อที่นั่นดีกว่า”
ในใจของฉินจิ่นดีใจจนดอกไม้แทบบาน สามตำลึง มันเยอะมากจริงๆ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองรวยแล้ว
วันนั้น ฉินจิ่นนั้นมาวางของขายแต่เช้าตรู่ แต่ครอบครัวเจียงนั้นมาเช้ากว่านางซะอีก เห็นฉินจิ่นเอาของมาเยอะขนาดนี้ก็รีบเข้ามาช่วยฉินจิ่นถือ แล้วก็ช่วยวางแผงลอยด้วย “เรื่องแค่นี้ต้องถึงมือแม่นางฉินที่ไหนกัน สั่งกำกับพวกเราก็พอจ้ะ”
รอให้ของทุกอย่างวางหมดแล้ว ก็มีคนกลุ่มนึงมามุงรอบๆ “เห้อ ทำไมเจ้ายังมาขายที่นี่อยู่อีก ของของเจ้ามันทำให้คนตายได้นะ”
“ใช่ ทำไมท่านยังกล้าซื้ออยู่อีกล่ะ”
นายท่านเจียงกระแอมหนึ่งที เพื่อสื่อให้ทุกคนสงบลง “ทุกคนฟังข้า ลูกสาวข้าไม่เป็นอะไร แค่แพ้เท่านั้น”
“ก็ยังแพ้ผ้าพันคอนี้อยู่ไม่ใช่รึ”
“ลูกสาวของข้าแพ้ดอกอบเชย วันนั้นโจวหลันหลันภรรยาเถ้าแก่จ้าวส่งเค้กดอกอบเชยมาให้ลูกสาวข้า แล้วโจวหลันหลันนั้นไม่ถูกกันกับฉินจิ่นมานานแล้ว เลยใช้วิธีนี้ทำร้ายแม่นางฉิน จากนั้นก็จงใจเผยแพร่ออกมา ก็เพราะอยากจะให้ทุกคนไม่ซื้อของของแม่นางฉินอีก”
ทุกคนยังคงสงสัย “ของนี้ไม่เป็นไรจริงๆ รึ”
“ข้าผู้นำตระกูลเจียงขอรับรองกับทุกคนว่า ของของแม่นางชิ้นนี้นั้นไม่มีปัญหาแน่นอน”
นายท่านเจียงชี้แจงและประกาศให้ทุกคนทราบถึงความจริง ทุกคนจึงเลิกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เป็น โจวหลันหลันทั้งหมดที่บอกว่าคุณหนูบ้านเจียงเป็นอะไร วันนี้นายท่านเจียงบอกว่าไม่เป็นอะไรก็คงจะไม่เป็นอะไร
วันนั้นนอกจากจะขายผ้าพันคอที่ตกลงกับนายท่านเจียงไปแล้ว แล้วก็ขายผ้าพันคอและถุงมือที่ตัวเองเอามาอีกจนเกลี้ยง ได้เงินสามตำลึงสองก้วน ทำเอาฉินจิ่นดีใจสุดๆ
พอนายท่านเจียงรู้ว่าโจวหลันหลันกล้าใช้ลูกสาวตัวเองในการแก้แค้นฉินจิ่นแล้ว เขาก็ตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับร้านของเถ้าแก่จ้าวทันที
“เจ้าดูเรื่องดีที่เจ้าทำสิ” เถ้าแก่จ้าวโยนสมุดบัญชีลงตรงหน้าโจวหลันหลัน
“อยู่ๆ เจ้าไปหาเรื่องฉินจิ่นทำไม จบแล้วล่ะ บ้านเจียงไม่ทำธุรกิจกับเราต่อแล้ว”