บทที่ 16 นางฟ้าตัวน้อยต้องมีความมั่นใจในตัวเองหน่อย
บทที่ 16
นางฟ้าตัวน้อยต้องมีความมั่นใจในตัวเองหน่อย
ฉินจิ่นยุ่งมาทั้งวัน พอหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย ปกติแล้วน้อยมากที่นางจะฝัน แต่วันนี้นั้นพิเศษหน่อย เลยฝันไปเรื่องนึง
ในฝันนั้นเริ่มด้วยเว่ยเหยียนถิงพูดกับนางว่า ฉินจิ่น ข้าไม่เอาเจ้าแล้ว
ต่อมานั้นก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่อวบหน่อยๆ และไม่รู้จัก พุ่งมาหัวเราะลั่นแล้วพูดกับฉินจิ่นว่า “เจ้าฉลาดขนาดนี้แล้วมีประโยชน์อะไร ก็ยังไม่มีเงินอยู่ดี ถึงแม้ข้าจะเป็นม่าย แต่ตระกูลของข้าร่ำรวย มีที่อยู่หลายพันไร่ เว่ยเหยียนถิงเหมาะที่จะแต่งงานกับข้าเท่านั้น เจ้ารีบไสหัวไปซะ ไสหัวไปไกลๆ เลย”
ฉากนึงผ่านไป อีกฉากนึงก็เข้ามา แล้วภาพสุดท้ายก็เป็นภาพแผ่นหลังที่เว่ยเหยียนถิงโอบผู้หญิงคนนั้นไว้ ทีละก้าวทีละก้าวยิ่งอยู่ก็ยิ่งไกลไปเรื่อยๆ จนมองไม่เห็น เขาหันกลับมาแล้วบอกกับนางว่า เจ้าไปเถอะ ข้าไม่เอาเจ้าแล้ว
ฉินจิ่นลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทันที ผ้าห่มนั้นเปียกโชกไปหมด นางสูดหายใจเฮือกใหญ่ เห็นได้ชัดว่าตกใจตื่น
ทำไมถึงฝันอะไรแบบนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงรึเปล่านะ
ฉินจิ่นนึกถึงคำพูดของเว่ยจวนที่พูดเมื่อตอนกลางวัน จู่ๆ ในใจก็กังวลขึ้น
ฟ้ายังมืดอยู่มาก ฉินจิ่นปลอบใจตัวเอง ไม่เป็นไร เป็นแค่ฝันทั้งนั้น ตัวเองแค่คิดมากไป คิดอะไรตอนกลางคืน คืนนั้นก็คงจะฝันถึงสิ่งนั้น
ในฐานะที่เป็นคนสมัยปัจจุบันคนหนึ่ง ฉินจิ่นเชื่อมาตลอดว่าความฝันคือปฏิกิริยาในชีวิตจริงของตัวเอง ใช้ทำนายอะไรไม่ได้ เป็นแค่แบบจำลองเล็กๆ ของสถานการณ์ตอนนี้ของตัวเองเท่านั้น
ฉินจิ่นนอนลงใหม่อีกครั้ง จับผ้าห่มไว้แน่น เพียงแค่หลับตาแล้ว แต่ก็นอนไม่หลับอีกเลย
ไม่ได้แล้ว ต้องไปดูเว่ยเหยียนถิงหน่อยแล้ว!
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินจิ่นก็ตื่นแต่เช้า เสี่ยวซีขยี้ตาเล็กๆ อย่างง่วงนอน “พี่สาว ทำไมวันนี้พี่ตื่นเช้าจังล่ะ”
ฉินจิ่นกำลังอุ่นกับข้าวของเมื่อวาน จากนั้นก็ต้มโจ๊ก “เด็กดีเสี่ยวซี เดี๋ยวพี่จะไปตลาด อยู่บ้านต้องดูแลตัวเองนะ พี่จะไปดูพี่เขย อาจจะกลับมาดึกหน่อย”
“ขอรับ” พอเสี่ยวซีได้ยินว่าฉินจิ่นจะไปดูเว่ยเหยียนถิง ก็ดีใจมาก “ข้าจะดูแลตัวเอง พี่สาวไม่ต้องเป็นห่วงนะขอรับ”
......
ตลาดก็ครึกครื้นเหมือนเดิม ตลอดทางนั้นฉินจิ่นไม่กล้าแวะ มุ่งไปหาพี่หูทันที
“พี่หู ขนแกะยังมีอยู่ไหมเจ้าคะ”
“มีๆ” พี่หูนั้นยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว “ที่เจ้าไม่มาหลายวัน ข้าเก็บไว้ให้เจ้าตลอดเลยล่ะ ลองดูว่าใช้ได้รึเปล่า”
ฉินจิ่นเปิดถุงนั้นดู ทั้งหมดข้างในเป็นขนแกะที่สะอาดมาก สีสวยสุดๆ “ดีมากเลยเจ้าค่ะ พี่หู นี่เงินของพี่ วันนี้ข้าซื้อแค่ถุงเดียว ให้พี่สิบเหวินได้ไหมเจ้าคะ”
“ได้สิได้สิ” เขานั้นพูดคุยด้วยง่าย ของที่ไร้ประโยชน์ในตอนแรก ตอนนี้ได้เงินจากมันแน่นอนว่าไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว
ออกมาจากร้านพี่หูแล้ว ฉินจิ่นอยากจะไปดูๆ เว่ยเหยียนถิง ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่นั่นนั้นกินอยู่ยังไง ทำนาให้คนอื่นนั้นต้องลำบากอยู่แล้ว
“ขายผลไม้จ้ะ ขายผลไม้” เสียงเรียกขายของดังมาก
ฉินจิ่นเดินผ่านพอดี เลยคิดว่าจะซื้อไปให้เว่ยเหยียนถิงหน่อยดีกว่า
“ขายยังไงจ๊ะ” ฉินจิ่นหยิบแอปเปิลมาลูกนึงแล้วถาม
“แม่หนู กิโลละห้าเหวินจ้ะ
นี่ถือว่าคุ้มมาก แล้วก็ไม่ได้แพงมากด้วย
ฉินจิ่นตั้งใจเลือกแอปเปิลสองสามลูก คุณป้าเห็นท่าทางที่เลือกผลไม้ของฉินจิ่นแล้วก็หัวเราะ “แม่หนู นี่เลือกไปให้สามีของเจ้าใช่หรือไม่”
ฉินจิ่นรู้สึกแปลกใจ “ป้ารู้ได้ยังไงจ๊ะ” นางคิดอยู่นานว่าไม่ได้บอกคนคนนี้ว่าตัวเองออกเรือนแล้ว แล้วก็ยิ่งไม่ได้บอกด้วยว่าซื้อไปให้สามีของตัวเอง
คุณป้าเหมือนคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน แล้วพูดว่า “ตั้งใจขนาดนี้ ผลไม้ที่เลือกก็ต้องให้สามีอยู่แล้วล่ะ”
ฉินจิ่นนั่งยองอยู่ตรงนั้น จนหน้าแดงหมดแล้ว ทำได้เพียงยื่นผลไม้ออกไปแล้วพูดว่า “ป้าจ๊ะ ทั้งหมดนี้เท่าไหร่จ๊ะ”
“ไม่เยอะแล้วก็ไม่น้อย สิบเหวินพอดี” คุณป้ามองตาชั่งแล้วพูด
ฉินจิ่นจ่ายเงินแล้ว ก็หยิบผลไม้ขึ้นแล้วก็มุ่งไปคฤหาสน์จางทันที นานแล้วที่ไม่ได้เจอเว่ยเหยียนถิง ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าประตู ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ฉินจิ่นพูดกับคนงานที่อยู่หน้าประตูว่า “รบกวนฝากบอกหน่อยจ้ะ ว่าข้ามาหาคนคนหนึ่งที่ชื่อเว่ยเหยียนถิง”
“เจ้าเป็นอะไรกับเขา” คนงานถามนาง
ฉินจิ่นพูดกับเขาอย่างมั่นใจว่า “ข้าเป็นภรรยาของเขา เราแต่งงานกันแล้ว”
คนงานเห็นนางพูดแบบนั้น ก็เปลี่ยนน้ำเสียงแล้วพูดว่า “ที่แท้ก็เป็นภรรยาของพี่เว่ยนี่เอง เจ้าเข้ามาก่อนสิ เขายังอยู่ในนาอยู่น่ะ ยังไม่กลับมา”
เข้ามาถึงในลาน นายน้อยตระกูลจางนั้นกำลังเล่นสนุกอยู่กับคุณหนูตระกูลเจียง
ฉินจิ่นนั่งไปที่อีกฝั่ง มองดูขนแกะถุงนั้น แล้วก็ใช้เวลานี้ เลือกสีที่ไม่ค่อยสวยออกมา
ตอนแรกคุณหนูตระกูลเจียงนั้นเล่นอย่างสนุกสนาน ต่อมาก็เห็นว่าในลานนั้นมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง กำลังค่อยๆ ยุ่งอยู่กับขนสีขาวๆ อยู่
“นี่อะไรหรือ”
ฉินจิ่นพูดอธิบาย “นี่คือขนแกะจ้ะ”
“ขนแกะเหรอ พี่พวกนี้เอาไปทำอะไรหรือ”
“ใช้ทำผ้าพันคอได้จ้ะ”
คุณหนูเจียงฟังดูแปลกใหม่ เลยไปนั่งข้างๆ ฉินจิ่นแล้วถาม “อะไรคือผ้าพันคอหรือเจ้าคะ”
“ตอนฤดูหนาวน่ะคอนั้นหลีกเลี่ยงความหนาวไม่ได้อยู่ตลอด ก็ใช้ขนแกะถักเป็นผ้าพันคอ พอพันไว้บนคอก็จะไม่รู้สึกหนาวแล้วจ้ะ ใช้กันลมหนาว เหมือนกับเสื้อผ้า” ฉินจิ่นพยายามอธิบาย ไม่รู้ว่านางจะฟังเข้าใจรึเปล่า แล้วก็รู้สึกว่าน่าจะพกผ้าพันคอมาด้วยผืนนึง ถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะสามารถเอาตัวอย่างออกมาให้นางดูได้
“ว้าว งั้นถ้าพี่ทำเสร็จ ส่งมาให้ข้าผืนนึงนะ”
“ได้จ้ะ” ได้ขายอีกผืนแล้ว
พูดจบ คุณหนูเจียงก็ไปเล่นสนุกสนานต่อ
“อาจิ่น” น้ำเสียงของเว่ยเหยียนถิงเต็มไปด้วยความดีใจ “เจ้ามาแล้วรึ”
พอฉินจิ่นหันไปเห็นว่าเว่ยเหยียนถิงมาแล้ว ก็เหมือนว่าเขาเพิ่งจะกลับมาจากทำนา ทั้งตัวนั้นยังมีดินโคลนอยู่
“อื้ม” ฉินจิ่นรู้สึกว่าผ่านไปแค่ไม่กี่วัน ผิวของ เว่ยเหยียนถิงนั้นตากแดดจนจะดำกว่าเมื่อก่อนแล้ว ผิวสีข้าวสาลีที่ดูสุขภาพดี จับคู่กับหน้าที่ได้ถูกตัวเองศัลยกรรมให้เรียบร้อยแล้วนั้น เหมือนเทพบุตรจริงๆ
“สองสามวันนี้เจ้าอยู่ที่บ้านลำบากรึเปล่า เสี่ยวซีซนรึเปล่า”
“ไม่จ้ะ พี่ลืมไปแล้วรึ ว่าเสี่ยวซีน่ะไม่เคยมีตอนที่ซุกซนหรอกเจ้าค่ะ”
เว่ยเหยียนถิงจับไปที่หัวของตัวเอง ยิ้มอย่างประหม่าว่า “คงเพราะไม่ได้เจอนาน ข้าคิดถึงเจ้ามากเลยล่ะ”
คำพูดหวานที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้ฉินจิ่นรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คนมองกันเยอะขนาดนี้ ฉินจิ่นก็รู้สึกอายอยู่เหมือนกัน เอาผลไม้ที่ถืออยู่ส่งให้ “นี่คือแอปเปิลที่ข้าซื้อมาจากข้างทาง สองสามวันนี้พี่คงเหนื่อย กินเยอะๆ นะเจ้าค่ะ”
เว่ยเหยียนถิงกลับจับมือนางแล้วพูดว่า “ทำไมมือเจ้าถึงได้เย็นแบบนี้ล่ะ” พูดแล้วก็เอามือไปไว้ใกล้ปากแล้วก็เป่าลมร้อนให้ แล้วก็ใช้มือถู ถามว่า “แบบนี้ดีขึ้นบ้างแล้วรึยัง ยังหนาวอยู่รึเปล่า”
“พี่เว่ย พี่น่ะเป็นห่วงเป็นใยเมียตัวเองจริงๆ” คนงานที่พาฉินจิ่นเข้ามาเมื่อกี้นั้นหัวเราะ
เว่ยเหยียนถิงหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง ฉินจิ่นเห็นเขาคนเดียวเลยถามว่า “น้องสี่ล่ะจ๊ะ เขาไม่ได้มากับพี่เหรอ”
“น้องสี่ยังอยู่ที่นาอยู่ ข้ากลับมาเอาของ แล้วเดี๋ยวจะไปอีก”
ฉินจิ่นมองดูใบหน้านี้ นึกถึงเรื่องที่ตัวเองฝันแบบนั้นตอนเมื่อวานกลางคืนแล้ว ก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ตัวเองนั้นก็ผิวขาวสวย ขาก็ยาวด้วย เว่ยเหยียนถิงก็เอาใจใส่แล้วก็ทุ่มเทให้ตัวเองด้วย จะนอกใจได้ยังไงล่ะ
“งั้นพี่ไปเอาของเถอะจ้ะ รีบไปเร็ว ฉันก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
“ได้สิ” เว่ยเหยียนถิงพูด “เจ้ารอพี่ก่อนนะ พี่ไปเอาของเสร็จแล้วเดี๋ยวจะไปส่งเจ้า”