ตอนที่ 1 การตายก่อนกำหนด
มันเป็นห้องมืดที่เพียงเพียงหน้าต่างบานเล็กที่ยังคงเปิดอยู่ ปล่อยให้สายลมที่เย็นช่ำไหลเข้ามาป้องกันไม่ให้ห้องอบอ้าวมากเกินไป
ที่จุดศูนย์กลางของห้อง มีโทรทัศน์ที่โบราณเปิดอยู่ มันเป็นหนึ่งในโทรทัศน์แบบกล่องอันใหญ่เทอะทะที่มีหน้าจอหนาทึบซึ่งเป็นของในพิพิธภัณฑ์ ทุกวันนี้โทรทัศน์ทุกเครื่องต่างก็ใช้เครื่องฉายภาพโฮโลแกรมแล้ว
ด้านหน้าของโทรทัศน์ที่ล้าสมัยนั้นมีเตียงเดี่ยวไนลอน น่าแปลกมากที่เตียงนอนแบบพับได้เหล่านี้ซึ่งมีสายไนลอนสามารถทนต่อกาลเวลาได้
ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียง ดวงตาของเขาจดจ่ออยู่กับโทรทัศน์ เขาดูเด็กมาก เขาอาจจะยังอายุไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ แต่อันที่จริงเขาอายุยี่สิบสองปีแล้ว
ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับใบมีดที่แหลมคมซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนที่มองพวกมัน
ในโทรทัศน์ โฆษณาที่กินเวลาไม่กี่นาทีกำลังเล่นอยู่
“ประสบการณ์ครั้งใหม่!”
“คุณลองนึกถาพเกมที่ทำให้คุณได้อยู่ในโลกใหม่ดูสิ?”
ในขณะที่พิธีกรกล่าว ฉากก็สลับไปมาอย่างรวดเร้วระหว่างแม่น้ำ ภูเขา และท้องฟ้าสีคราม
“เกมใหม่—เรียลเวิลด์ มีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งร้อยล้านคนที่เข้าร่วมในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา และจำนวนก็ยังคงพุ่งทะยานต่อไป!”
“มันเป็นเกม แต่สิ่งที่รอคอยคุณอยู่นั้นไม่ต่างจากชีวิตจริงของคุณเลย!”
โทรทัศน์แสดงฉากที่ดูเหมือนกับหนังภาพยนตร์ทีละฉาก และผู้คนก็กล่าวราวกับว่าพวกเขามีชีวิตจริง ทว่าชายหนุ่มรู้ว่าพวกมันไม่ใช่ฉากที่ตัดต่อมาเพื่อจุดประสงค์ในการโปรโมทเกมโดยเฉพาะ สิ่งที่เกมสามารถทำได้ก็เหมือนกับชื่อของมัน มันเป็นโลกที่แท้จริง
เมื่อคิดแบบนั้น เขาก็กำหมัดแน่นในขณะที่ดววงตาฉายอารมณ์อันรุนแรงออกมาซึ่งก็คือความขมขื่น
“แน่นอนว่ามีการต่อสู้ในเกมอยู่เสมอ!” พิธีกรกล่าวอย่างกระตือรือร้น “การต่อสู้จะดำนเนิไปแบบเรียลไทม์ ดังนั้นคึณจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้นและความเร้าร้อนของการต่อสู้เหมือนกับในสมัยโบราณ!”
ฉากเปลี่ยนไปอีกครั้ง คนหลายคนกำลังตะโกนในขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับศัตรูตรงหน้าพวกเขาซึ่งคือกิ้งก่ายักษ์ หนึ่งในพวกเขานั้นถือโล่ทรงกลมที่เปล่งออร่าศักดิ์สิทธิ์ออกมา ออร่าขยายจนกลายเป็นบาเรียที่ล้อมรอบสหายของเขา ป้องกันกรดทุกหยดที่กิ้งก่าพ่นใส่พวกเขา
เมื่อเห็นโอกาส ชายคนหนึ่งที่ถือเคลย์มอร์ที่ยาวเท่ากับมนุษย์ก็ได้พุ่งเข้าหาสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ แสงสีแดงเข้มประกายออกมาจากร่างกายของเขา
(เคลย์มอร์เป็นดาบประเภทหนึ่งของสก็อตแลนด์)
ชายหนุ่มรู้จักมัน มันคืออาชีพที่ถูกเรียกว่าเบอร์เซิร์กเกอร์
กลับมาบนโทรทัศน์ คนเหล่านั้นร่วมมือกันเป็นทีมและในที่สุดก็เอาชนะมอนเตอร์ได้ ทุกคนได้แสดงรอยยิ้มอันสดใส
“เรียลเวิลด์ใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่จะนำคุณเข้าสู่เกมด้วยคลื่นสมองของคุณ! มันหมดยุคของการคลิกเมาส์แล้ว!”
โฆษณาตอนนี้ได้แสดงให้เห็นหมวกล้ำยุคที่หมุนวนอย่างช้าๆ
“เรียลเวิลด์ เกมที่จะนำคุณสู่ชีวิตใหม่! ความท้าทายกำลังรอคอยคุณอยู่!”
ชายหนุ่มปิดโทรทัศน์ด้วยความหดหู่
ผู้เล่นหนึ่งร้อยล้านคน? จำนวนที่แท้จริงนั้นเหนือกว่านั้นมาก เกมนี้ทำให้ผู้คนได้สัมผัสกับชีวิตที่แตกต่าง! โดยไม่คำนึงถึงเพศและอายุ เราจะสามารถต้านทานการล่อลวงดังกล่าวได้ยังไงกัน จำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเรื่องนั้นก็เพิ่มความขมขื่นของเขา
โทรศัพท์ของเขาส่งเสียงในกระเป๋าเสื้อของเขา เมื่อหยิบมันขึ้นมา เขาก็มองดูว่าใครโทรมาและสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ”
“คุณเหยา นี่ฉันเองนะ” เสียงที่ดูมีอายุดังเข้าหูของเขา
เขาไม่มีความตั้งใจที่จะดูถูกชายชราเพียงเพราะอายุที่มากของชายชรา คนที่เขากำลังถือสายอยู่ในตอนนี้นั้นกุมชะตาของทั้งอุตสาหกรรมเกมของเมืองตะวันออกที่สิบ ตัวเขาเองก็มีฐานะพอสมควร แต่ก็ไม่สามารถเย่อหยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับชายชราคนนี้ได้
“มันผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ฉันแน่ใจว่านายคงเห็นว่าผู้คนตอบสนองยังไงต่อโฆษณาใช่มั้ย?”
ชายหนุ่มกล่าวอย่างขมขื่นว่า “มันไม่ยุติธรรมเลย ต้องมีบางอย่างผิดปกติ! มันจะเป็นเรื่องบังเอิญไปได้ยังไงกันในเมื่อเกมชื่อเหมือนกันล่ะ? นี่คือการลอกเลียนแบบอย่างโจ่งแจ้ง…”
“คุณเหยา!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ “ได้โปรดมองความจริง พวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว และนายยังคงเตรียมเปิดเบต้า ใครกันแน่ที่ล้มเหลว? แล้วเรื่องการลอกเลียนแบบล่ะ? นายคือคนเดียวที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง! นอกจากนี้ การลอกเลียนแบบงั้นเหรอ? ไม่มีใครสนใจเรื่องนั้นในโลกธุรกิจ เช่นเดียวกับการที่ผู้ชนะมักจะเขียนประวัติศาสตร์ใหม่เสมอ ไม่มีใครสนใจคนที่ล้มเหลว”
คำพูดของชายชราแทงทะลุหัวใจของเขาราวกับลูกศร ทั้งสองเงียบลงหลังจากการโต้เถียงกันครั้งนั้น
หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน ในที่สุดชายชราก็กล่าวขึ้นมาว่า “คุณเหยา ฉันเป็นเพื่อนของพ่อนาย สถานการณ์ที่บริษัทของนายเผชิญอยู่ในตอนนี้… ฉันมั่นใจว่านายรู้ดีกว่าฉัน ฉันจะเข้าประเด็นเลยละกัน ฉันยินดีที่จะซื้อบริษัทของนาย และเราจะประกาศว่ามันเป็นการควบรวมธุรกิจต่อสาธารณะชน ฉันสัญญาว่าจะไม่ไล่พนักงานออกแม้แต่คนเดียว แต่…”
เขายิ้มอย่างบิดเบี้ยว “แต่ฉันจะต้องลงจากตำแหน่งประธานใช่มั้ย?”
ชายชราเงียบลงสักพักหนึ่งและกล่าวว่า “คุณเหยา นายน่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว บริษัทของนาย นอกจากความรุ่งโรจน์ในอดีตของชื่อ ‘จูบิแลนซ์เกม’ อันไร้ค่าสำหรับฉัน ฉันเชื่อว่าเงินและเงื่อนไขที่ฉันเสนอไม่ใช่สิ่งที่นายจะปฏิเสธได้
ชายหนุ่มไม่สามารถกล่าวอะไรได้ในขณะที่ความคิดของเขาพิจารณษถึงข้อเสนอของชายชราอย่างรวดเร็ว
“ด้วยการเงินของบริษัทนาย… นายสามารถทำมันได้ถึงหนึ่งเดือนเหรอ?”
ราวกับชายชราสัมผัสได้ถึงความลังเลใจ คำพูดของชายชราก็ทำลายปราการด่านสุดท้ายในหัวใจของเขาในที่สุด
“ดี ฉันจะขายมัน”
…
เขาขึ้นรถบัสแม็กเลฟห้าชั้น ดวงตาของเขาจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปยังทิวทิศน์อันงดงามของท้องถนน
“สถานีต่อไป ถนนหลวงแกรนด์เล็คกาซี่”
เมื่อเขาได้ยินเสียงอิเล็กทรอนิกส์จากรสบัส เขาก็ตื่นจากภวังค์อย่างรวดเร็วและรีบลงจากรถบัส เขาเดินค่อนข้างเร็วซึ่งดูเหมือนการวิ่งเหยาะๆ แต่อันที่จริงเขาเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าการวิ่งของคนทั่วไป มันน่าทึ่งมากที่เขาไม่ได้แสดงอาการหอบเลย
ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็นำบัตรออกมา บัตรประธานนี้ของเขา ในไม่ช้ามันก็จะกลายเป็นไร้ค่าใช่มั้ย?
เมื่อบัตรแตะกับเครื่องอ่านบัตร เขาก็เข้าไปในอาคารและมุ่งหน้าไปที่โรงอาหาร เขาเปิดประตู่โรงอาหารอย่างไม่ลังเล และไม่แสดงอาการตกใจจากพนักงานหลายร้อยคนที่รวมตัวกันอยู่ที่นั่นเนื่องจากเขาเป็นคนที่เรียกพวกเขามา
ทุกคนมองไปที่ประธานหนุ่ม บางคนแสดงความชื่นชม บางคนดูถูกเหยียดหยาม… สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย
จากนั้นชายหนุ่มก็กล่าวว่า “สวัสดีทุกคน ฉันดราโก้ ประธานของพวกคุณ”
“ฉันขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ใช่ประธานของพวกคุณอีกต่อไป นั่นเป็นเพราะจูบิแลนซ์เกมไม่ได้เป็นของตระกูลเยาอีกต่อไป ฉันขายมันให้กับหัวหน้าผู้อำนวยการของเมืองตะวันออกที่สิบแล้ว แต่ฉันมั่นใจว่าจะไม่มีพวกคุณคนไหนถูกไล่ออก”
ที่มุมหนึ่ง ผู้คนหลายสิบคนทั้งชายและหญิงอยู่รวมกันนั้นร้องไห้อย่างเงียบๆ
พวกเขาอยู่ในแผนกพัฒนาเกม มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้อย่างชัดเจนว่าประธานอุทิศตนและเสียสละเพื่อบริษัทมากแค่ไหน เพื่อพัฒนา ‘เรียลเวิลด์’ เขาไม่เพียงแค่กู้เงินเท่านั้น แต่เขายังขายรถยนตร์หรูและอพาร์ตเมนต์ของเขาเพื่อให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของบริษัท
ในตอนที่พวกเขากำลังจะประกาศเปิดเบต้าของเกมที่แปลกใหม่ด้วยความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ ‘เรียลเวิลด์’ ที่ตอนนี้ยังคงแสดงโฆษณาทางโทรทัศน์นั้นก็มาจากที่ไหนไม่รู้และทำลายทุกอย่าง
‘เรียลเวิลด์’ ของพวกเขาแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่โฆษณา เพียงแค่เทคโนโลยีคลื่นสมองที่น่าทึ่งก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายความหวังของทุกคนที่ทำงานในจูบิแลนซ์เกม
เนื่องจากไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ พวกเขาพยายามเปิดเผยข้อบกพร่องของระบบคลื่นสมองและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ แต่สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือเทคโนโลยีนี้ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์มากกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก เทคโนโลยีคลื่นสมองไม่ได้ทำอันตรายต่อระบบประสาทแต่อย่างใด
การตายก่อนกำหนด—ไม่มีคำไหนจะบรรยายได้ดีไปกว่านี้แล้ว
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน