White Online : ตอนที่13 ราเชล
ตอนที่13 ราเชล
เช้าวันรุ่งขึ้น
ไอแซคตื่นขึ้น อาบน้ำ แปรงฟัน และสวมเสื้อผ้าก่อนจะลงไปข้างล่าง กิจวัตรต่างๆของเขาเหมือนกันในทุกเช้า
หลังจากลงมาข้างล่างแล้ว เขาก็พบว่าบ้านนั้นเปล่าเปลี่ยวเช่นเคย
เขาสวมรองเท้าและเสื้อแจ็คเก็ตก่อนจะออกไปสัมผัสแดดยามเช้า
พื้นดินเต็มไปด้วยหิมะเหมือนในทุกๆวัน แม้ว่าเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านจะช่วยโกยออกไปแล้ว แต่มันก็ยังกลับมาใหม่ได้ในทุกวัน
พ่อบ้านแม่บ้านโค้งคำนับไอแซคด้วยความเคารพ ไอแซคก็พยักหน้าตอบกลับเหมือนทุกครั้ง
แม้ว่าที่นี่จะไม่มีฤดูอื่นนอกจากฤดูหนาว แต่ช่วงนี้มันก็เป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี
ผิวหนังทุกส่วนของไอแซคเริ่มจะแข็งทื่อ เขาสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นที่ใหลเข้าไปในปอด
ไอแซคเดินมาถึงประตูเหล็กหน้าคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว โดยที่มีชายสองคนสวมเสื้อผ้าฤดูหนาวหนาๆ ก้าวเท้าออกมาหาเขา
“เช้านี้จะออกไปไหนครับนายน้อย?” บอดี้การ์ดคนแรกถามอย่างสุภาพ เขาคนนี้มีชื่อว่า ไมเคิล ซึ่งเป็นคนที่ไอแซคชอบมาก
ถึงกระนั้นไอแซคก็ไม่ได้มีอารมณ์จะคุยเล่นด้วย เขาถอนหายใจและตอบกลับไปว่า “ออกไปเดินเล่นครับ”
“ผมไปด้วยได้ไหม? มันเป็นคำสั่งของนายท่านหน่ะครับ” บอร์ดี้การ์ดอีกคนสอบถามเข้าประเด็นแบบคนตั้งใจทำงาน เขาคนนี้มีชื่อว่า ริชาร์ด
“ถ้างั้นผมตอบอะไรไปมันก็ไม่สำคัญใช่ไหม?” ไอแซคถามพร้อมกับยักคิ้วสูง
ไมเคิลยิ้มแหยๆ “ขอโทษครับนายน้อย คำสั่งของนายท่านนั้นเด็ดขาด”
ไอแซคพยักหน้า “ก็ได้..”
หลังจากไอแซคยินยอมให้ติดตามไปด้วย บอร์ดี้การ์ดทั้งสองก็เปิดประตูเหล็กให้อย่างมีความสุข
ไอแซคออกจากคฤหาสน์ในขณะที่บอร์ดี้การ์ดทั้งสองติดตามไปด้วย แต่ก็มีการเว้นระยะห่างไว้ 10เมตร
ไอแซคเดินไปกุมมือไป “ผมน่าจะเอาถุงมือมาด้วย ไม่น่าดูถูกฤดูหนาวเลย...”
“ขอโทษครับ นายน้อย” ไมเคิลวิ่งมาข้างๆไอแซค
“ว่าไง ไมเคิล?” ไอแซคตอบกลับ
ไมเคิลดึงถุงมือคู่หนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อโค้ทแล้วส่งให้ไอแซค
ไอแซกส่ายหัว “ไม่เป็นไรครับ ...ผมไม่ได้อยากได้มันหน่ะ”
ไมเคิลยิ้มแหยๆ “พวกเราจำเป็นต้องปกป้องคุณจากความหนาวเหน็บเหมือนกัน..”
ไอแซคถอนหายใจและไม่อยากจะเถียงอะไร เพราะนี่มันคือความตั้งใจของครอบครัวเขา เถียงไปยังไงก็ไม่มีประโยชน์
“ขอบคุณนะไมเคิล” ไอแซคหยิบถุงมือมาและสวมใส่
ไมเคิลยิ้มให้ไอแซคและชะลอฝีเท้าเพื่อกลับไปหาริชาร์ด
‘ผมไม่ใช่เด็กทำอะไรไม่เป็นนะ!!’ ไอแซคโวยวายในใจ
“เฮ้.. ไอแซค!”
เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นมา ไอแซคหันหน้าไปตามเสียง มันดังมาจากคฤหาสน์หลังหนึ่งใกล้ๆ
ไอแซคยิ้มเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวบอบบางที่ยืนอยู่อีกด้านของประตู
เธอสวมเสื้อกันหนาวหนาๆ มีผมสีบลอนด์ยาวสลวยคิ้วบาง จมูกแหลมที่ทำให้ดูน่ารัก และมีใบหน้าที่สามารถท้าชนนางแบบได้ทุกคน
“คุณราเชล” ไอแซคพยักหน้าและยิ้มทักทาย
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มตอบ “ฉันบอกให้เรียกฉันว่าราเชลก็พอ เธอเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็สบายดี วันนี้ผมแค่รู้สึกเบื่อๆเลยออกมายืดเส้นยืนสายหน่ะ” ไอแซคพูดและหันมามองบอร์ดี้การ์ดทั้งสอง
ราเชลเข้าใจความหมายของไอแซค เธอหัวเราะและยกมือขึ้นมาปิดอย่างสง่างาม “เข้าใจแล้วหล่ะ เธอรู้ใช่ไหมว่าที่พ่อแม่ทำไปก็เพราะเป็นห่วงหน่ะ”
“ผมรู้...” ไอแซคขานตอบ
ราเชลเอื้อมมือทั้งสองออกมาตีแก้มของไอแซคเบาๆ “นุ่มเหมือนเดิมเลยนะ!”
“ทำไมเธอชอบทำแบบนี้หล่ะ?” ไอแซคถาม
“ฉันแค่อิจฉาผิวเธอหน่ะ” ราเชลพูดอย่างตรงไปตรงมา “ผู้หญิงคนไหนก็ต้องอิจฉาเธอ!”
ไอแซครู้ว่านี่เป็นการคุยเล่นหยอกล้อกันเขาก็เลยคุยเล่นกลับ “ผมไม่รู้เลยว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะยังไงผมก็เป็นผุ้ชาย”
“เชื่อสิ เธอสามารถแต่งหญิงได้โดยที่คนอื่นไม่รู้เลยนะว่าเป็นชาย” ราเชลพูดและขยิบตา
“ไม่เอา!!” ไอแซคพูดเสียงดัง “แต่ก็ดีใจนะที่ได้พบเธอ”
ไอแซคพูดเสร็จก็หันหลังกลับและรีบออกไป
“รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยหล่ะ” ราเชลตะโกนให้หลังมา “บ้านเรายินดีต้อนรับเธอเสมอนะ”
ไอแซคโบกมือเหนือหัวไหล่โดยที่ไม่หันหน้ากลับมามอง
เขามุ่งหน้าไปยังทางออกหมู่บ้านแล้วก็เจอกับยามทั้งสอง
ยามคนแรกใช้ศอกสะกิดยามอีกคน “เด็กเวรนี่อีกแล้ว”
“อ้าวเยี่ยมสิ มาถ่วงเวลามันกัน” ยามอีกคนตอบกลับ
ยามคนแรกได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้า
ไอแซคไม่ได้ยินประโยคที่ยามทั้งสองคนนี้พูด เมื่อเขามาถึงเขาก็จ้องไปที่ป้อมยาม
“แสดงตัวตนด้วย” ยามพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“แสดงตัวตน? ขอโทษนะครับ” ไอแซคยักคิ้วสูง
ยามทำหน้าบูดเบี้ยว “หูหนวกรึเปล่า? อยากออกไปก็ยืนยันตัวตนมา”
ไอแซคขมวดคิ้วไม่พอใจ แต่เขาก็ดึงกระเป่าสตางค์ออกมาและแสดงบัตรประชาชนให้ยามดู
“ไม่เห็นเหมือนในรูปเลย” ยามพูดทันที
“ตลกรึเปล่า? รูปนี้พึ่งถ่ายเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน” ไอแซคขึ้นเสียงกลับ “จะถ่วงเวลาทำไม แค่ปล่อยผมออกไป!”
“ด้วยท่าทีแบบนั้นหน่ะหรอ?” ยามสบถใส่ “รีบกลับไปหาแม่ส้ะ ไอเด็กเวร!”
ไอแซคทำหน้าบูดบึ้ง และทันใดนั้นก็มีเงาสองเงาสาดเข้ามาในป้อมยามแล้วมันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของยามทั้งสองก็เบิกกว้างตาโตทันทีเมื่อเห็นไมเคิลและริชาร์ดกระโดดข้ามรั้วประตูสูงไป
ไมเคิลชักปืนออกมาและเล็งไปทางป้อมยาม
“นี่คือนายน้อยของตระกูล ไวท์ล็อค ได้โปรดให้เกียรติเขาด้วย!” ไมเคิลตะโกนออกมาเสียงดัง
ผู้คุมเห็นปืนจ่อมาแบบนั้นก็หน้าซีดทันที ร่างกายของพวกเขาสั่นจนหยุดนิ่ง มีเพียงมือที่ขยับไปกดปุ่มเปิดประตูให้
ไอแซคเดินผ่านไปพร้อมกับส่ายหัว “พอแล้ว ไมเคิล”
ไมเคิลพยักหน้าและเก็บปืนเข้าซองพร้อมกับหันหน้าไปมองยามทั้งสอง “หัวหน้าของพวกคุณจะทราบเรื่องนี้!”
“เอ่อ... พวกเราแค่ทำหน้าที่ของเราหน่ะ” ยามตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก
“คิดว่าผมโง่งั้นหรอ?” ไมเคิลสวนกลับ “พวกคุณยังโชคดีที่ผมอารมณ์ดีในวันนี้!”
จากนั้นไมเคิลก็หันหลังเดินตามไอแซคไป
ส่วนริชาร์ดเองก็ส่ายหัวให้ยามทั้งสองและพูด “มันไม่ใช่ความผิดของไอแซคหรอกที่เมียทิ้งนายไปหน่ะ”
ยามอีกคนทำหน้าบูดบึ้ง “เพราะไอเด็กนั่น!”
ริชาร์ดหัวเราะคิกคัก “เอาเรื่องทั้งหมดมาโทษเด็กนักเรียนที่อยู่ในวัยเรียน นายนี่มันเป็นคนยังไงกัน?”
หลังจากนั้นริชาร์ดก็หันหน้ากลับและเดินตามไอแซคไป
“โง่เขลาจริงๆ” ริชาร์ดพึมพำขณะที่เดินตามไอแซคไป “นอกใจเมียตัวเองแล้วมาโทษเด็กที่ใสซื่อเนี่ยนะ?”
ยามทั้งสองกำหมัดด้วยความโกรธ แต่ทำได้เพียงจ้องมองทั้งสามคนเดินจากไป