บทที่ 7 ลดน้ำหนัก
บทที่ 7 ลดน้ำหนัก
คืนฤดูร้อนที่อากาศเย็นสบาย มีแสงจันทร์และแสงดาว
ห้องส่วนตัวภายในร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เด็กสาวผมยาวสวมชุดเดรสสีขาวพลิ้ว กำลังใช้ช้อนกระเบื้องสีขาวเล็กๆคนกาแฟในถ้วยอย่างเบื่อหน่าย
เด็กสาวผมสั้นที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม กำลังใช้ปากพ่นออกมาเหมือนปืนกล ‘ตู๊ดตู๊ดตู๊ด” ไม่หยุด ทั้งสองพูดคุยกันมาตั้งแต่กลางวันจนถึงค่ำ
จะพูดให้ถูกก็คือ สาวผมสั้นเอาแต่พูดมาจนถึงค่ำ โดยหานเจียงเสวี่ยตอบกลับเป็นครั้งคราวอย่างเหม่อลอย
แต่สาวผมสั้นไม่สนใจ เพราะเธอรู้จักนิสัยของหานเจียงเสวี่ยดี ทั้งสองโตมาด้วยกันจนเรียกได้ว่าเป็น ‘คู่รักวัยเยาว์’ ทั้งคู่จึงรู้จักนิสัยของกันและกันเป็นอย่างดี
อันที่จริง เด็กสาวผมสั้นพอใจมากที่หานเจียงเสวี่ยยอมนั่งฟังเธอบ่นความคับข้องใจอยู่ที่นี่มาตั้งแต่บ่าย
“กุ๊กกู้!”
เสียงนกดังขึ้น ในที่สุดหานเจียงเสวี่ยที่นั่งเท้าคางคนกาแฟอย่างเบื่อหน่ายก็มีท่าทางเปลี่ยนไป
หานเจียงเสวี่ยหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมาดู แล้วสีหน้าของเธอก็ดูแปลกไปเล็กน้อย
“มีอะไร? มีอะไร? มีใครมาสารภาพรักกับเธออีกแล้วเหรอ?” เด็กสาวผมสั้นเริ่มสนใจทันที ดวงตาของเธอเป็นประกายและรีบเปลี่ยนที่นั่งมาอยู่ข้างๆหานเจียงเสวี่ย
หลังจากหานเจียงเสวี่ยดูข้อความในโทรศัพท์ เธอก็รีบวาง และพูดว่า “เซี่ยหยาน ฉันต้องกลับบ้านแล้ว”
“ทำไมต้องรีบ…” เด็กสาวผมสั้นที่ชื่อเซี่ยหยานหยุดพูดกลางคันและรู้สึกอายเล็กน้อย เพราะนี่มันเกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว หานเจียงเสวี่ยนั่งฟังเธอบ่นเรื่องความคับข้องใจมานานแล้ว “อืม ฉันจะไปส่ง แต่เธอต้องบอกมาก่อนว่าใครส่งข้อความมาหา แล้วเขาบอกว่าอะไร?”
“ไม่ใช่สารภาพรักหรอกน่า” หานเจียงเสวี่ยลุกขึ้นยืนและเดินไปเปิดประตูออกจากห้องส่วนตัว
“เอ๋ อย่าโกรธสิ…” เซี่ยหยานมองร่างที่กำลังเดินจากไป และรีบลุกขึ้นตามไปอย่างรวดเร็ว
……
ย้อนเวลากลับไปเมื่อสามนาทีก่อน
……
เมืองเจียงปิน เขตตงเฉิง ชุมชนฮวาหยวน ห้อง 701 อาคาร 1 ชั้น G7
เจียงเสี่ยวมองออกไปยังความมืดนอกหน้าต่างด้วยความกังวลเล็กน้อย
ตามความทรงจำของเจียงเสี่ยวผี ดูเหมือนว่าหานเจียงเสวี่ยจะไม่เคยกลับบ้านดึกขนาดนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเด็กบ้าคนนี้ไปที่ไหน
เขาโทรไปหา 2 ครั้ง หานเจียงเสวี่ยก็ตอบว่า ‘อืม’ และวางสายทั้งสองครั้ง เมื่อโทรไปหาครั้งที่สาม หานเจียงเสวี่ยก็บอกเจียงเสี่ยวว่าให้ลงไปข้างล่างซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาทำกินเอง
เจียงเสี่ยว : ? ? ?
ถ้าไม่ใช่เพราะผสานความทรงจำและอารมณ์กับเจียงเสี่ยวผี เจียงเสี่ยวก็คร้านเกินกว่าที่จะไปสนใจกับเด็กสาวคนนี้ เฮ้อ เด็กผู้หญิง
หานเจียงเสวี่ยก็เป็นผู้ตื่นเหมือนกัน ดังนั้นก็ไม่น่าจะมีอะไรให้น่าเป็นห่วงใช่ไหม?
แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ เพราะระดับอันตรายของโลกนี้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ถ้าเธอไปพบกับอาชญากรที่เป็นผู้ตื่นเหมือนกันล่ะ?
อันตรายเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าหานเจียงเสวี่ยออกไปดื่มกินดูหนังฟังเพลง แล้วถูกคนเอาเปรียบขึ้นมาล่ะจะทำยังไง?
อืม ดูเหมือนหานเจียงเสวี่ยจะไม่ใช่คนประเภทไปเต้นรำตามคลับตามบาร์นะ
เฮ้อ เกิดเป็นน้องชาย แต่ดันมีจิตใจของพ่อนี่น้า
เจียงเสี่ยวส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขาอยู่บ้านค้นหาข้อมูลตลอดช่วงบ่าย ทำให้เข้าใจโลกนี้มากขึ้น และยังเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าพลังดาว จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งนึกได้ว่ามีบางสิ่งที่ต้องทำ
นั่นคือการลบประวัติอันดำมืดของตัวเอง
แน่นอนว่าสิ่งที่เรียกว่าประวัติอันดำมืดก็คือ เว่ยป๋อของเจียงเสี่ยวผี
เจียงเสี่ยวค้นรหัสจากความทรงจำป้อนผ่านบัญชี และเปิดเว่ยป๋อที่มีชื่อว่า ‘เจียงเสี่ยวผี ผีปู้ผี’
(ผู้แปล – ผี ในที่นี้หมายถึงผิวหนังของสัตว์ หรือขนสัตว์ ดังนั้น ผีปู้ผี ก็คือ ผีที่ไม่ใช่ขนสัตว์)
โชคดีที่บัญชีเว่ยป๋อนี้เพิ่งถูกเจียงเสี่ยวผีเปิดในวันนี้ ดังนั้นจึงไม่มีข่าวอะไรเลย และวิดีโอแนะนำตัวตอนเที่ยงก็ยังไม่ได้ถูกนำมาเผยแพร่
แต่ก็ยังมีข้อความก่อนหน้าอยู่
ฉันอยากเป็นพ่อ!
เจียงเสี่ยวมองไปที่เว่ยป๋อบนหน้าจอ แล้วพยักหน้าเงียบๆ หยิ่งพอควร ง่ายต่อการเข้าใจ
เอ๋? มีคนตอบกลับด้วยเหรอเนี่ย?
เจียงเสี่ยวรีบคลิกดูคำตอบ และพบว่าคนชื่อ ‘เรือโดดเดี่ยวกลางสายน้ำเย็น’ เป็นคนตอบ
คนๆนี้ตอบกลับหลังจากเจียงเสี่ยวผีโพสต์ข้อความดังกล่าวไปเพียง 20 นาทีว่า “ลบเว่ยป๋อเดี๋ยวนี้”
เรือโดดเดี่ยวกลางสายน้ำเย็น?
เจียงเสี่ยวกระพริบตา และรู้ได้ทันทีว่า เรือโดดเดี่ยวกลางสายน้ำเย็น ก็คือหานเจียงเสวี่ยคนเดียวเท่านั้น
สายน้ำเย็น?
หิมะกลางสายน้ำ?
หานเจียงเสวี่ย?
โอ๊ะโอ๋ ราวกับบทกวี
ดูเหมือนว่าหานเจียงเสวี่ยยังคงเป็นห่วงอย่างมาก ว่าเจียงเสี่ยวผีจะตายอย่างไร
แล้วทำไมถึงได้มีผู้ติดตามถึง 34 คนทั้งๆที่เพิ่งเปิดเว่ยป๋อวันนี้?
เจียงเสี่ยวคลิกดูผู้ติดตามทีละคน ปรากฏว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นพวกขายสินค้ากับพวกที่มาจากซอฟต์แวร์จับคู่ของเว่ยป๋อ
ในบรรดาผู้ติดตาม 34 คนนี้ เกรงว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีตัวตน นั่นคือ หานเจียงเสวี่ย
ดูเหมือนว่าที่นี่สามารถทำอะไรบางอย่างได้?
เจียงเสี่ยวคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วลบข้อความเดียวในเว่ยป๋อ จากนั้นก็แตะนิ้วลงบนแป้นพิมพ์
หนึ่งนาทีต่อมาข้อความที่เจียงเสี่ยวไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก็ถูกเผยแพร่ออกไป
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หานเจียงเสวี่ยในร้านกาแฟได้ยินเสียง ‘กุ๊กกู้’ จากโทรศัพท์มือถือ
หานเจียงเสวี่ยเลือกที่จะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเว่ยป๋อของเจียงเสี่ยวผี เธอไม่จำเป็นต้องปลดล็อคโทรศัพท์ก็เห็นข้อความที่เพิ่งโพสต์ลงเว่ยป๋อบนหน้าจอ
เจียงเสี่ยวผี ผีปู้ผี จากเว่ยป๋อ:
ค่ำคืนที่น่าเบื่อ ช่างเหงาเหลือเกิน อยากออกไปสร้างคลื่นลม จะรออีกสิบนาที ถ้ายังไม่มา ผมจะไม่ทน…
PS: วันแรก ผมชอบหิมะน้อยกลางสายน้ำนะ
ในร้านกาแฟ หานเจียงเสวี่ยวางโทรศัพท์ และผลักเซี่ยหยานให้ห่างจากเธอ แล้วพูดว่า “ฉันต้องกลับบ้าน”
……
กลับมาสู่เวลาปัจจุบัน
……
รถจี๊ปสีดำคำรามกลับมาที่ประตูชุมชนฮวาหยวน และเบรกกะทันหัน จนยามรักษาความปลอดภัยที่ประตูตกใจ
หานเจียงเสวี่ยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอเปิดประตูและวิ่งเข้าไปในชุมชน
“เฮ้! เสี่ยวเสวี่ย เรามีนัดกันนะ อีกสามวันฉันจะมารับเธอไปผจญภัยด้วยกัน!” เซี่ยหยานเปิดหน้าต่างฝั่งผู้โดยสาร แล้วเอนตัวมาตะโกนไล่หลังร่างสวยงามที่กำลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หานเจียงเสวี่ยไม่ได้หันไปมอง เธอแค่โบกมือตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“เฮ้! ยายบ้า แค่หันมามองฉันมันจะตายหรือไง?” เซี่ยหยานโมโห และกระทืบคันเร่งลงบึ่งรถออกไป
หานเจียงเสวี่ยไม่สามารถสงบใจได้อีกต่อไป น้องชายของเธอทำตัวดีขึ้นแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงได้มีแนวโน้มว่าจะป่วยอีก?
ไม่ ต้องรีบไปหยุดให้ทัน!
ถ้าไม่ได้จริงๆ คงต้องตบกะโหลกอีกหน!
หานเจียงเสวี่ย กลับเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว พอเปิดประตู เธอก็เหลือบมองนาฬิกาในห้องนั่งเล่น โชคดียังไม่ถึง 10 นาที
บ้าน…
สะอาดและเป็นระเบียบมาก เด็กคนนี้ทำความสะอาดบ้านเหรอเนี่ย?
หานเจียงเสวี่ยมองไปรอบๆห้องนั่งเล่น แล้วเดินไปที่ประตูห้องเจียงเสี่ยวผี และผลักเข้าไปอย่างไม่ลังเล
เขายังคงอยู่ที่บ้าน ร่างผอมบางที่มีความสูงเกือบ 1.8 เมตร ของเจียงเสี่ยวยืนอยู่ที่หน้าต่าง
ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างมืด มีแสงดาวระยิบระยับอยู่รอบๆตัวของเขา พลังดาวบางๆ หมุนเวียนอยู่รอบตัวของเขา
กำลังดูดซับพลังดาวอยู่งั้นเหรอ?
ไหนบอกว่าจะออกไปสร้างคลื่นลม?
จู่ๆ เจียงเสี่ยวก็พูดขึ้นอย่างกะทันหัน “ยังรู้จักกลับบ้านนะ?”
หานเจียงเสวี่ย: ? ? ?
เจียงเสี่ยว “เชื่อไหมว่าผมทำหมูหยองรสปลากับซุปปลาเปรี้ยวหวานใส่มันฝรั่งไว้ให้พี่?”
หานเจียงเสวี่ย เลิกคิ้วและพูดดูถูกว่า “อย่างนายน่ะเหรอ?”
เจียงเสี่ยวหัวเราะ และหันหน้ามาพูดว่า “ไม่เชื่อ เมื่อไม่เชื่อแล้วทำไมยังไม่ไปทำอาหารอีก”
หานเจียงเสวี่ย “…”
เจียงเสี่ยวหันกลับมาพูดว่า “ต่อไป พี่เป็นคนทำอาหาร ผมจะเป็นคนล้างจาน กวาดบ้าน เช็ดบ้าน ตกลงไหม แต่พี่ต้องกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน”
หานเจียงเสวี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อรู้สึกถึงเส้นเลือดบนขมับเต้นตุ๊บๆ แล้วพูดว่า “พลังดาวเต็มแล้วใช่ไหม?”
“เอ๋?”
หานเจียงเสวี่ยเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดกีฬาออกมา แล้วพูดว่า “ใส่ซะ”
เจียงเสี่ยวมองหานเจียงเสวี่ยด้วยท่าทางระวังตัว “พี่จะทำอะไร?”
หานเจียงเสวี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ร่างกายของนายเปราะบางเกินไป สามารถดูดซับพลังดาวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้นายต้องไปฝึกความแข็งแกร่งทางกายภาพ”
“ตอนนี้อ่ะนะ?”
“ใช่ ไปวิ่งกับฉันคืนนี้” หานเจียงเสวี่ยหันหลังเดินออกไปจากห้อง พร้อมกับพูดว่า “รอห้านาที ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ผมหิวอยู่นะ” เจียงเสี่ยวพูดอย่างหดหู่
“ลดน้ำหนัก นายไม่จำเป็นต้องกินข้าวเย็น” เสียงของหานเจียงเสวี่ยลอยมาจากระยะไกล
ลดน้ำหนัก?
หุ่นเป็นกระบอกไม้ไผ่แบบนี้เนี่ยนะ? ลดน้ำหนัก?
เธอเป็นปีศาจใช่ไหม?