ตอนที่ 74 หมู่บ้านดอกท้อ
มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับแดนเซียนต้องห้ามในอาณาจักรเบื้องบน บ้างเรียกมันว่าแดนที่ถูกทอดทิ้ง บ้างเรียกว่าแดนต้องสาป บ้างเรียกว่าแดนร้าง แต่ไม่ว่ายังไง มันก็คือสถานที่ที่ไม่ค่อยจะมีคนเต็มใจเหยียบย่างเข้ามา
แม้แสงศักดิ์สิทธิ์จะหลุดเข้าแดนต้องห้ามบ้าง และคนก็มีโอกาสเห็นสมบัติถือกำเนิด แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ก็ยังเต็มไปด้วยอันตรายมากกว่าสมบัติ พวกที่ต่ำกว่าอาณาจักรเทพสวรรค์จะไม่กล้าคิดก้าวเข้ามา
เทียบกับพื้นที่อื่นที่ปกคลุมด้วยกลิ่นอายดุร้าย หมู่บ้านขนาดเล็กีท่มีต้นท้อสูงกลับดูสงบ เหมือนสวรรค์ท่ามกลางนรก
แน่นอน หมู่บ้านนี้ชื่อหมู่บ้านท้อ และก็มีคนนอกรีตจำนวนมากอาศัย
ตอนนี้ กู่เซียนเอ๋อร์ยืนใต้ต้นท้อ นางสวมชุดสีฟ้า และดูงดงามมาก
ต้นท้อคือวิญญาณพิทักษ์หมู่บ้านท้อ และแม้กระทั่งเหล่าอาจารย์นอกรีตของนางก็ยังเคารพต้นท้อ อย่างไรก็ตาม กู่เซียนเอ๋อร์กลับมีความสัมพันธ์กับต้นท้อ ตอนนางเด็ก นางคยป่วย บอบบาง แต่แก่นแท้ของต้นท้อก็รักษานาง
สำหรับนาง ต้นท้อเหมือนอาจารย์กับพี่สาว
“เจ้าแน่ใจนะว่าอยากไป?เจ้าอยู่แค่อาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ และระดับบ่มเพาะนั่นก็ไม่นับเป็นอะไรในอาณาจักรเบื้องบน ลูกหลานของตระกูลใดก็แข็งแกร่งกว่าเจ้าทั้งนั้น”
ใบไม้และกิ่งไม้ของต้นท้อขยับ และเสียงผู้หญิงอ่อนโยนฟังสบายหูก็ดังขึ้น“พี่สาวเถาเหยา ข้าต้องไป!ข้าต้องหาปู่ พ่อแม่และคนอื่นๆ..”
“ข้าถูกแยกจากพวกเขามาหลายปี และไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร?ย้อนกลับไป ท่านลุงได้ผนึกพลังพวกเขาไว้หมดและขับไล่พวกเขาออกจากตระกูล ข้าเป็นห่วงพวกเขา”
ความโกรธปะทุในดวงตาของกู่เซียนเอ๋อร์ แน่นอน นางเข้าใจดีว่าแม้เชื้อสายนางจะโดนขับไล่ พวกเขาก็ยังดีกว่าตระกูลกับเผ่าธรรมดาเนื่องจากพวกเขามาจากตระกูลกู่ มันแค่ว่าชีวิตคงไม่รุ่งโรจน์เท่าเดิม เนื่องจากพวกเขาโดนแยกจากใจกลางอำนาจของอาณาจักเบื้องบน พวกเขาจึงไม่มีพลังของตระกูลกู่ และไม่สามารถยืนบนจุดสูงสุดของโลกได้เหมือนเดิม
นอกจากนี้ การล้างแค้นไม่ใช่จุดประสงค์เดียวของนาง
นางยังต้องหาตัวปู่กับพ่อแม่นาง และจากนั้นก็พยายามนำความรุ่งโรจน์กลับมา นางต้องให้ลุงของนางเห็นและลิ้มรสชาติความสำเร็จของนาง!
‘แน่นอน...เหตุผสำคัญสุดคือพี่ชายแสนดีของข้า’
กู่เซียนเอ๋อร์รู้สึกเจ็บปวดใจพอคิดถึงเรื่องนี้ ในเวลาเดียวกัน ฉากที่กู่ฉางเกอขุดเอากระดูกเต๋านางออกไปก็ปรากฏ
เขาโหดร้ายเกินไป!
ตอนนางเด็ก นางมักติดตามเขา และเล่นกับเขาตลอด แต่เขากลับขุดเอากระดูกเต๋าของนางไปอย่างอำมหิต!ทุกครั้งที่กู่เซียนเอ๋อร์นึกถึงความทรงจำส่วนนี้ นางจะรู้สึกเจ็บปวดใจมาก
นางต้องล้างแค้นให้ตัวเอง
“นั่นคือความเกลียดระหว่างเจ้ากับเขา เจ้าต้องล้างแค้นด้วยตัวเอง’
ต้นท้อพูดอีก
กู่เซียนเอ๋อร์พยักหน้า“พี่สาวเถาเหยา ข้าเข้าใจว่านี่คือเรื่องภายในของตระกูลกู่ ไม่ว่าท่านหรืออาจารย์ก็ไม่ควรเกี่ยว”
“มันดีที่เจ้าเข้าใจ แต่เจ้าก็ไม่ต้องห่วงนัก แม้จะมีผู้แข็งแกร่งมากมายในอาณาจักรเบื้องบน แต่คนที่ยืนบนจุดสูงสุดจะไม่กล้าโจมตีเจ้าง่ายๆ แม้อาจารย์ของเจ้าจะเป็นคนนอกรีตกัน แต่ก็มีคนไม่มากในอาณาจักรเบื้องบนที่กล้ายั่วโมโหพวกเขา”
เสียงอ่อนโยนของต้นท้อดังขึ้นอีก แน่นอน นางไม่ได้พูดถึงตัวนางเพราะต้นกำเนิดของนางเก่าแก่กว่า
“ข้าเข้าใจ พี่สาวเถาเหยา!ท่านกับท่านอาจารย์คนอื่นดูแลข้าเป็นอย่างดี ไม่เพียงจะสั่งสอนข้าหลายอย่าง แต่ยังช่วยข้าให้เข้าใจสัจธรรมของโลก ข้าไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนบุญคุณนี้ยังไง”
กู่เซียนเอ๋อร์พูด ในเวลาเดียวกัน นางก็อดรู้สึกอบอุ่นใจไม่ได้
ต่างจากพี่ชายไร้หัวใจของนาง เหล่าอาจารย์ในหมู่บ้านทำให้นางตระหนักถึงความหมายของคำว่าบ้านแสนอบอุ่น
“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้เพราะนี่เป็นเรื่องในครอบครัวเจ้า และก็เหมือนกันกับอาจารย์ของเจ้า มากสุด พวกเขาก็ได้แค่ช่วยเจ้าขู่พวกยอดฝีมือไม่ให้ลงมือ”
ต้นท้อพูดมากวันนี้เนื่องจากกู่เซียนเอ๋อร์กำลังจะไป ในเวลาเดียวกัน ดอกท้อก็ตกลงมา
“รับนี้ไป มันจะช่วยเจ้าได้ในวินาทีวิกฤต ถ้ายังมีคนจำมันได้ในโลกภายนอก พวกเขาจะไว้หน้าข้า”
ต้นท้อพูดอีกครั้ง
“ขอบคุณ พี่สาวเถาเหยา”
หัวใจของกู่เซียนเอ๋อร์สั่นไหวขณะรับดอกท้อ ดอกไม้ในมือนางมีเจ็ดกลีบ และแต่ละกลีบก็ดูเหมือนสลักจากหยกอมตะ พวกมันปล่อยแสงนิรันดร์
กู่เซียนเอ๋อร์ไม่กังขาความสามารถมันเลยพอพี่สาวเถาเหยาบอกว่ามันช่วยชีวิตนางได้
ไม่ช้า นางก็อำลาทุกคนจากหมู่บ้านและมองไปทางส่วนที่ห่างไกลแต่รุ่งเรืองของอาณาจักรเบื้องบน ดวงตานางเต็มไปด้วยความโหยหา
‘ก่อนข้าไป อาจารย์หนึ่งได้มอบมีดให้ข้า..เขาบอกว่าข้าควรใช้มันเพื่อจัดการกับพี่ชายข้าถ้าข้าสู้กับเขาอย่างยุติธรรมไม่ได้..’
‘อาจารย์สองมอบเชือกที่สามารถรัดทุกอย่างได้ ถ้าข้าเอาชนะพี่ชายไม่ได้ ข้าก็จะใช้มันมัดเขา.’
‘อาจารย์สาม.’
...
ก่อนไป กู่เซียนเอ๋อร์คุกเข่าและคำนับที่ทางเข้าหมู่บ้าน และกระแทกหัวกับพื้นเสียงดัง
“ทุกคน ข้าจะกลับมาเจอทุกคนอีกหลังข้าสะสางเรื่องของข้าเสร็จ”
พอพูดจบ กู่เซียนเอ๋อร์ก็พาทาสชราของนางที่ติดตามนางมาด้วยกลับไปหันไปทางโลกภายนอก ในเวลาเดียวกัน สัตว์อสูรดุร้ายที่มีกลิ่นอายน่ากลัวก็ระเบิดออกมา
เมื่อนางไป กลุ่มอาจารย์ลึกลับก็ปรากฏตัวที่ทางเข้าหมู่บ้านและมองนาง ทั้งหมดมีรูปลักษณ์ประหลาด บ้างตาบอด บ้างหูหนวก บ้างขาขาด บ้างแขนขาด ด้วยระดับบ่มเพาะเช่นพวกเขา คนอย่างพวกเขาย่อมงอกแขนขาใหม่ได้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขากลับไม่ทำ
หรือพวกเขาทำไม่ได้
แต่ ก็ไม่มีใครปฏิเสธความจริงที่ว่าทั้งหมดล้วนมีภูมิหลังน่าตกใจ พวกเขาสามารถสร้างพายุในอาณาจักรเบื้องบนได้ง่ายๆ
ถ้ากู่ฉางเกอมาที่นี่ เขาจะต้องก่นด่าคนแต่งและตระหนักว่าการคาดเดาของเขาถูก!หมู่บ้านท้อน่ากลัวจริงๆ
ตอนนี้ คนทั้งหมดกำลังคุยกัน
“ลูกสาวที่เราเลี้ยงดูมากว่าสิบปีหนีไปทั้งอย่างนั้น!อีกนานแค่ไหนเราถึงจะได้เจอหน้านางอีก..”
“ความขุ่นเคืองนี้ระหว่างนางกับเจ้าหนูนั่น เราไม่อาจยุ่งได้ มันแค่ว่าข้าเป็นห่วงว่าเซียนเอ๋อร์จะทนทุกข์ในโลกภายนอกเพราะนางเป็นเด็กไร้เดียงสา ข้าไม่สามารถเข้าใจได้ว่าพวกเราเลี้ยงศิษย์ที่มีนิสัยอ่อนแอแบบนั้นได้ไง.”
“นิสัยของเซียนเอ๋อร์ดีจะตาย!”
หญิงชราที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นสวนและจ้องคนอื่นตาเขม็ง
“เห้อ!นางถูกลิขิตให้เป็นลูกรักของเต๋าที่ได้รับพร แต่พร(กระดูกเต๋า)ของนางกลับผลักนางลงสู่เหวแห่งความเกลียดชัง ข้าไม่สามารถเข้าใจได้ว่าพี่ชายนางโหดร้ายขนาดนั้นได้ยังไง และถึงกับทำเรื่องเลวทรามแบบนี้กับคนไร้เดียงสาอย่างนาง?”
“ตระกูลเซียนกู่เคยเต็มไปด้วยความตรงไปตรงมา แต่แล้วมารร้ายเช่นนี้กลับปรากฏ...ตระกูลกู่ในรุ่นนี้จะเป็นอย่างไรกัน?”
คนที่ยืนด้านนอกหมู่บ้านคุยกัน พวกเขาอดกังวลไม่ได้ การจากไปของนางทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนลูกสาวที่พวกเขาเลี้ยงดูมากว่าสิบปีตัดสินใจย้ายบ้านโดยไม่บอกพวกเขาว่าจะกลับมาตจอนไหน
พวกเขาเหมือนพ่อแม่ที่ได้แต่เป็นห่วง
“ข้ากลัวว่านางจะพาผู้ชายมาด้วยครั้งหน้าที่เราเจอนาง...แค่คิดข้าก็อยากจะหั่นมันเป็นชิ้นๆแล้ว!”
“เจ้าพูดจามีเหตุผล..”
ชายตาบอดตรงกลางพลันรู้สึกเจ็บระหว่างขา
...
อาณาจักรเบื้องบนกว้างใหญ่ และก็แบ่งเป็นสามเขต ‘เขตชั้นนอก เขตชั้นกลางและชั้นใน’
การแบ่งแยกของอาณาจักรเบื้องบนทำให้มันดูเหมือนพิรามิด
เขตชั้นในรุ่งเรืองสุด มีดินแดนนับไม่ถ้วนและตระกูลกับเผ่าโบราณมากมาย รวมถึงตระกูลเซียนสูงสุด นิกาย และสำนัก
เขตชั้นกลางไม่มีทรัพยากรมากเหมือนชั้นใน แต่ก็ถือว่ารุ่งเรือง
เขตชั้นนอก แม้จะไม่รุ่งเรืองและมีทรัพยากรเท่าเขตชั้นในและกลาง แต่ก็ยังอยู่ในอาณาจักรเบื้องบน มีหลายตระกูลกับสำนักอาศัยอยู่ และความสัมพันธ์ระหว่างขุมอำนาจเหล่านั้นก็ซับซ้อนมาก
ขอบของเขตชั้นนางคือที่กันดารมากที่ทำเหมือนรอยต่อระหว่างอาณาจักรเบื้องล่างกับเบื้องบน พวกที่ทะยานจากาอณาจักรเบื้องล่างย่อมมาถึงส่วนนี้ก่อน
นี่คือที่ที่ขุมอำนาจใหญ่ของอาณาจักรเบื้องบนรัก เพราะทั้งหมดสามารถจับแรงงานฟรีมาใช้ขุดเหมืองหรืออะไรได้ หรือได้เมล็ดพันธุ์ชั้นดี เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าผู้บ่มเพาะที่ทะยานขึ้นจากอาณาจักรเบื้องล่างมีพรสวรรค์ดี พวกเขาจะถูกฝึกโดยขุมอำนาจเหล่านี้
ยกเว้นเขตต้องห้ามบางแห่งที่ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปและพื้นที่ไร้พลังปราณ ทุกส่วนของอาณาจักรเบื้องบนเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะ
[แคว้นซือหลิง เขตชั้นนอก]
มิติสั่นและเฒ่าหมิงก็ปรากฏบนฟ้า
‘ตามบัญชาของนายน้อย สมาชิกตระกูลกู่ที่โดนขับไล่ตอนนั้นควรมายังแคว้นซือหลิง’
เฒ่าหมิงรีบค้นหา
เขตชั้นนอกแบ่งเป็นแคว้นต่างๆเพื่อประกาศพรมแดน และแต่ละแคว้นก็ทอดยาวหลายล้านลี้ เทพสวรรค์สามารถปกครองได้แทบทุกที่ในเขตชั้นนอก และไม่มีตัวตนที่เทียบได้กับพวกเขาในแคว้นนี้ สำหรับราชาเทพ?พวกเขาแทบไม่ปรากฏที่เขตชั้นนอก
เฒ่าหมิงไม่ปกปิดกลิ่นอายเขาเลย
[บูม!]
กลิ่นอายน่ากลัวของราชาเทพกดทับ และพลันเตือนผู้บ่มเพาะทุกคนเกี่ยวกับการมาถึงของราชาเทพ!
“ทำไมราชาเทพถึงมายังสถานที่แบบนี้?กลิ่นอายนี้น่ากลัวเกินไป..”
“ผู้อาวุโสคนนี้มาจากไหน?”
การปรากกตัวอย่างฉับพลันของเขาทำให้หลายคนตกใจกลัว เทพสวรรค์สามารถดูถูกได้ทุกสิ่งในสถานที่นี้แล้ว นับประสาอะไรกับราชาเทพ
ความคิดเดียวจากเฒ่าหมิงมากพอจะลบล้างทั้งเมืองใหญ่!
ไม่ช้า กลุ่มเทพสวรรค์ก็ทะยานขึ้นฟ้าด้วยใบหน้าเคารพยำเกรง เนื่องจากราชาเทพปรากฏตัวในเขตชั้นนอกของพวกเขา เขาย่อมไม่ได้มาเฉยๆ
“เราขอบังอาจถามว่าท่านมีอะไรให้เรารับใช้หรือไม่?”
พวกเขาถาม
“ตามคำสั่งของนายน้อยตระกูลข้า ข้ามาเพื่อค้นหาคนสกุลกู่ พวกเจ้ารู้ไหมว่าคนสกุลกู่อยู่ที่ไหนแคว้นซือหลิง?”
เฒ่าหมิงถาม
“คนสกุลกู่..”
กู่เซียนเอ๋อร์ที่ออกดินแดนเซียนต้องห้ามและกำลังอยู่ในเมืองใหญ่อดตัวสั่นไม่ได้พอได้ยิน นางเพิ่งมาถึงแคว้นซือหลิงเพื่อค้นหาสมาชิกที่โดนขับไล่ ไม่คิดว่าจะมาเจอสถานการณ์นี้เข้า
นายน้อย?
สกุลกู่?
มันต้องเป็นพี่ชายของนาง!
กู่เซียนเอ๋อร์กัดฟัน
“คุณหนู..”
ข้ารับใช้ข้างหลังนางเปลี่ยนสีหน้า
“ทำไมถึงมีคนมาเคาะประตูเราทันทีที่ข้าออกแดนต้องห้าม?”
คิ้วของนางขมวด
นางเหลือบมองนกสีแดงที่หลับบนไหล่นาง มันคือสัตว์?อสูรที่นางเอามาจากแดนต้องห้าม และใช้มันเพื่อเร่งมาที่นี่ แม้มันจะแข็งแกร่ง นางก็รู้ว่ามันสู้ราชาเทพไม่ได้
แย่ไปกว่านั้น ทาสชราของนางก็เป็นแค่เทพเสมือน
หรือนางจะต้องใช้ไพ่ตายที่อาจารย์มอบให้แล้ว?
กู่เซียนเอ๋อร์ตัดสินใจอยู่เฉยและดูเรื่องราวก่อน