652 - มังกรประจัญบาน
652 - มังกรประจัญบาน
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งแสนแปดหมื่นเล่มนั้นคมและน่าสะพรึงกลัว แต่เย่ฟ่านยังคงหยุดมันได้ และผู้ชมจำนวนมากบนท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะพวกเขาคาดคำนวณว่าเย่ฟ่านจะเป็นคนที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้
“มีอะไรอีก ลองแสดงให้ข้าดู” เย่ฟ่านตะโกน
ราชาเผิงน้อยปีกทองยืนอยู่ในความว่างเปล่า และคลื่นสีทองที่ล้อมรอบตัวเขาก็พลุ่งพล่าน ง้าวรกร้างผู้ยิ่งใหญ่ที่มีน้ำหนักมากกว่าดวงดาวถูกฟาดออกไปอย่างรุนแรง
ทันทีที่ง้าวรกร้างสีดำทำการโจมตี เสียงกรีดร้องที่โหยหวนของภูติปีศาจก็ดังก้องไปทั่วสนามรบ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าอาวุธชิ้นนี้สังหารผู้คนไปมากมายเท่าไหร่ ง้าวสีดำนี้เต็มไปด้วยแรงกดดันที่ไร้ขอบเขต ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความกลัว
“ไปลงนรกซะ”
ง้าวสีดำของราชาเผิงน้อยปีกทองฟาดลงมา และความบ้าคลั่งสีดำก็โหมกระหน่ำสู่ท้องฟ้า มันเป็นพลังทำลายล้าง ราวกับเทพผู้โหดเหี้ยมที่หลับใหลอยู่ในนรกได้ตื่นขึ้น
สวรรค์และปฐพีแตกสลายในทันที ราวกับม้วนภาพขาดรุ่งริ่งดังก้องกังวานในสายลม ง้าวรกร้างผู้ยิ่งใหญ่นั้นแข็งแกร่งและเป็นอมตะ
เย่ฟ่านรีบเผชิญหน้ากับการต่อสู้ด้วยกระบี่มังกรดำ กระบี่ยาวเหวี่ยงขึ้นไปบนท้องฟ้า ปิดกั้นการบุกรุกของไอสังหารที่ดุร้าย
ราชาเผิงน้อยปีกทองเยาะเย้ย เขายืนสูงบนท้องฟ้า และกดง้าวสีดำให้พุ่งลงมาอย่างต่อเนื่อง นี่ไม่ใช่การโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่เป็นกระบวนท่าสังหารที่โจมตีออกมานับครั้งไม่ถ้วน
“บูม”
ง้าวรกร้างเปลี่ยนเป็นมังกรดำที่ใหญ่โตเท่าภูเขา และอ้าปากกว้างพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
นี่คืออสูรที่โหดเหี้ยมซึ่งผสมผสานกฎแห่งสวรรค์และปฐพีเข้าด้วยกัน เมื่อถือมันไว้ในมือผู้ครอบครองจะมีความบ้าคลั่งอย่างไม่รู้จบ พวกเขาจะแสดงความโหดเหี้ยมและไร้สติจนกว่าคู่ต่อสู้จะถูกสังหาร
“ชิ้ง”
เย่ฟ่านหมุนกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ ฟันมังกรปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างต่อเนื่อง ประกายไฟสาดกระจายออกไปในทุกทิศทาง และท้องฟ้ากลายเป็นสถานที่แห่งความโกลาหล
"กระบวนท่าสังหารของราชาเผิงน้อยปีกทองแข็งแกร่งเกินไป การโจมตีนี้มีจิตวิญญาณของเผิงสวรรค์และกฎแห่งสวรรค์และโลกที่เชื่อมโยงกัน ดังนั้นจึงยากที่จะต้านทาน" หลี่เหอซุยถอนหายใจ
ง้าวรกร้างรักษาเจตจำนงที่จะฆ่าและต่อสู้เหมือนมังกรดำที่แท้จริง ภายใต้การควบคุมของราชาเผิงน้อยปีกทองมันทะลวงท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านอีกครั้ง
รัศมีแห่งการสังหารของง้าวรกร้างได้ทำลายภูเขาเบื้องล่าง และมันก็น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ หากคนธรรมดารับการโจมตีครั้งนี้พวกเขาคงตายตั้งแต่แรก
“เจ้านกน้อยตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” สุนัขสีดำตัวใหญ่ยังแสดงท่าทางเคร่งขรึม
หลายคนได้เห็นแล้วว่าราชาเผิงน้อยปีกทองต้องการเผาผลาญพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านให้หมดไปก่อน เมื่อถึงเวลานั้นเขาถึงจะฆ่าเย่ฟ่านอย่างสมใจ
“บูม”
ทะเลแห่งความทุกข์สีทองของเย่ฟ่านระเบิดขึ้นอีกครั้ง มันทำให้ทุกการโจมตีของเขาเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่บ้าคลั่ง
"ชิ้ง ชิ้ง ... "
ทั้งสองต่อสู้และโจมตีเข้าหากันจากคนละฟากฟ้า ภูเขาหลายแห่งถูกตัดขาดจนมาถึงข้างล่างและทำลายภูเขาแม่น้ำไปมากมาย จากนั้นพวกเขาก็กลับไปต่อสู้กันบนท้องฟ้าอีกครั้ง
"ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณมีพลังมากถึงขนาดนี้ พวกเขาต่อสู้กันมาเกือบ 500 กระบวนท่าแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถมองเห็นได้ว่าใครเป็นฝ่ายได้เปรียบเสียเปรียบ"
หลายคนประหลาดใจ การต่อสู้ระหว่างทั้งคู่นั้นดุเดือดมาก ตอนนี้ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามแล้วและยังไม่มีทีท่าว่าจะมีผู้ใดอ่อนกำลังลง
“ราชาเผิงน้อยปีกทองก็น่ากลัวเช่นกัน เขาไม่มีวี่แววว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากการใช้พลังงานควบคุมอาวุธเต๋าครึ่งก้าว”
ผู้คนต่างประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของการต่อสู้ของทั้งคู่ และหลายคนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่เคยเป็นศัตรูกับเย่ฟ่าน
กระบี่มังกรดำของเย่ฟ่านแข็งแกร่งเพียงพอ แต่กฎที่ผูกพันกันนั้นไม่สมบูรณ์และทำให้มันกลายเป็นอาวุธที่ต่ำชั้นกว่าง้าวรกร้างของราชาเผิงน้อยปีกทองอยู่หนึ่งขั้น
แต่พลังทางร่างกายของเย่ฟ่านดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าราชาเผิงน้อยปีกทองอยู่เล็กน้อย เมื่อเป็นเช่นนี้การต่อสู้ของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความคู่คี่ก้ำกึ่งอยากจะหาผู้ชนะได้
“พอแล้ว ข้าทนมาพอแล้ว!” ราชาเผิงน้อยปีกทองตะโกน และทันใดนั้นง้าวของเขาก็ระเบิดออกไปด้วยพลังสูงสุด
"บูม"
คมมีดสีดำเข้มฟาดฟันเข้าหาเย่ฟ่าน พลังที่ปรากฏออกมาบดขยี้ยอดเขามากมายให้แหลกเป็นผุยผง
วิชามังกรประจัญบานนี่คือไพ่ตายอันทรงพลังของเขา ในอดีตเขาไม่สามารถแสดงทักษะนี้ได้อย่างเต็มที่เพราะก่อนหน้านี้เขาปิดผนึกตัวเองไม่ให้มีพลังถึงระดับสี่สุดขั้ว
ตอนนี้เขาเป็นยอดฝีมืออาณาจักรแปลงมังกรแล้ว พลังที่ทักษะนี้สามารถใช้ได้จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
ราชาเผิงน้อยปีกทองรู้ดีว่าร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณมีอนุภาพในการยับยั้งอวตารทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงไม่แสดงภาพธรรมของมังกร แต่เลือกที่จะใช้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเผิงสวรรค์ต่อสู้กับเย่ฟ่านเพียงอย่างเดียว
เผิงสวรรค์ขนาดมหึมาโผล่ออกมาจากด้านหลัง และแสงสีทองพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า มันใหญ่โตเท่าภูเขา เมื่อดวงตาที่เย็นเยียบของมันเปิดขึ้นผู้คนมากมายก็หนาวสั่นด้วยความกลัว
ทันทีที่ศิลปะศักดิ์สิทธิ์เผิงสวรรค์สูงสุดออกมา สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ท้องฟ้าและดวงอาทิตย์หม่นแสงลง และแรงกดดันที่ไม่รู้จบก็พุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
ในเวลานี้มันเผยให้เห็นม่านลึกลับ นี่คือศิลปะศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ เซียนแห่งเผ่าเผิงสวรรค์โบราณคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
"ฆ่า"
ราชาเผิงน้อยปีกทองขยับ กรงเล็บสีทองขนาดใหญ่ก็คว้าไปที่เย่ฟ่านโดยตรง
"เคร้ง"
เย่ฟ่านโบกมือสีทองอย่างดุเดือด เขาปะทะกับกรงเล็บยักษ์ของมังกรเผิงและภูเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ผู้ชมจำนวนมากถอยห่างออกไปด้วยความเจ็บปวด คลื่นเสียงเกือบจะทะลุแก้วหูของพวกเขา
“ปัง”
เย่ฟ่านเขย่าเผิงสวรรค์ทำให้กรงเล็บของมันคลาดเคลื่อน จากนั้นกำปั้นของเขาก็กระแทกลำตัวของนกยักษ์หลายสิบครั้งโดยไม่พลาดเป้า
"เขาต่อสู้กับศิลปะศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยมือเปล่า"
"ศิลปะศักดิ์สิทธิ์แบบนี้สังหารผู้อมตะเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปมากมายเท่าใด เด็กน้อยคนนี้กลับกล้าที่จะใช้มือเปล่าต่อสู้... "
ผู้คนต่างประหลาดใจ เย่ฟ่านรับการโจมตีด้วยมือเปล่าของเขา ศิลปะศักดิ์สิทธิ์ประเภทนี้เกิดขึ้นจากการวิวัฒนาการขั้นสูงสุดของเต๋าแห่งเผิงสวรรค์ มันเป็นวิชาที่ทรงพลังอย่างยิ่ง การที่ใช้มือเปล่าต่อสู้กับทักษะนี้นับเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง
“มาดูกันว่าร่างกายของเจ้าจะทนได้สักแค่ไหน” ราชาเผิงน้อยปีกทองกล่าว
ศิลปะศักดิ์สิทธิ์มังกรประจัญบานน่ากลัวอย่างยิ่ง ภายใต้กรงเล็บสีทองนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของมังกรและความชั่วร้ายของเผิงสวรรค์
เย่ฟ่านรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างหนัก ทักษะศักดิ์สิทธิ์นี้ช่างน่ากลัวจริงๆ และเขาจะสูญเสียครั้งใหญ่หากเขาต่อสู้กับมันด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียว
“ในเมื่อเจ้ารนหาที่ก็อย่าโทษว่าข้าโหดร้าย”
เย่ฟ่านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้เก้าญาณวิเศษลึกลับแห่งการสังหารโดยคิดจะฆ่านกน้อยตัวนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่สถานการณ์จะบานปลาย
“เคร้ง”
มือทั้งสองข้างของเขาประสานอินอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นโลงศพทองแดงที่ถูกลากมาโดยมังกรขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
เมื่อฝาโลงศพเปิดขึ้น เผิงสวรรค์ก็ถูกดึงดูดเข้าไปข้างในแม้ว่ามันจะต่อต้านมากแค่ไหนแต่สุดท้ายการต่อต้านของมันก็เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์
“อ๊า!!!”
นกสีทองขนาดใหญ่กรีดร้องด้วยความกลัว และมันถูกดูดเข้าหาโลงศพทองแดงอย่างรวดเร็วก่อนที่ฝาโลงจะปิดเข้าหากันอย่างแนบสนิท
“นี่มัน...” หลายคนตกตะลึงและคิดว่ามันเหลือเชื่อ
“ชั่วร้ายเกินไป นี่มันชั่วร้ายเกินไปแล้ว” แม้แต่หลี่เหอซุยก็พึมพำ
ทุกคนหวาดกลัวต่อการกระทำของเย่ฟ่าน โลงศพทองแดงที่มีมังกรเก้าตัวทำหน้าที่ลากจูงเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดซึ่งคนทั้งโลกไม่เคยเห็น