ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 26
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 28

เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 27


เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 27

ข่าวเรื่องอ้วนสุดนำทัพใหญ่ไล่ตามลิโป้ไปแล้วพ่ายแพ้เสียหายอย่างหนัก เมื่อเผยแพร่ออกมาก็ทำให้เหล่าเจ้าเมืองต่างตื่นตะลึง แม้อ้วนสุดจะเย่อหยิ่งจองหอง แต่ไพร่พลของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ ตอนที่ออกปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือง กองทัพของเขาก็สร้างชื่อไว้ไม่ใช่น้อย

ทัพปิงโจวของลิโป้ก็มีชื่อเสียงในด้านทหารม้าอันไร้เทียมทาน แม้แต่ทหารม้าเสเหลียงของตั๋งโต๊ะยังพ่ายแพ้มาแล้ว

"นำตัวกิเหลงมา" ระหว่างที่หยุดพัก ลิโป้ก็นึกได้ว่ายังมีคนผู้นี้อยู่

หลังจากเห็นลิโป้ กิเหลงที่ถูกมัดไว้ก็ไม่ได้พูดอะไร เขากลอกตามองท้องฟ้า ไม่คิดจะพูดจากับลิโป้

"เป็นแค่แม่ทัพพ่ายศึกแท้ๆ กลับกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าท่านแม่ทัพ" โจเส็งก้าวออกมาเตะใส่กิเหลงไปหนึ่งเท้า เขาเกลียดชังอ้วนสุดเข้าใส้ แน่นอนว่าย่อมต้องเกลียดกิเหลงเป็นธรรมดา

"เหอะ ใช้อุบายต่ำช้า ย่อมต้องเป็นคนต่ำช้า" กิเหลงถอยหลังตามแรงเตะไปห้าหกก้าวก่อนจะแค่นเสียงดูถูก

"กิเหลง ขอบอกกล่าวโดยไม่ปิดบังก็แล้วกัน เวลานี้อ้วนสุดยกทัพกลับไปแล้ว ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจความเป็นความตายของเจ้าสักเท่าใด" ลิโป้หัวเราะ

มุมปากของกิเหลงกระตุกเบาๆ หากแต่ในใจกลับรู้สึกอ้างว้างอยู่บ้าง เขาติดตามอ้วนสุดลุยทำศึกตะวันออกจรดตะวันตก ทั้งยังเป็นคนแรกที่ติดตามรับใช้อ้วนสุดด้วยใจภักดิ์ คิดไม่ถึงว่าผลสุดท้ายจะลงเอยเช่นนี้ "เจ้านายข้าทรงปัญญา มิเช่นนั้นคงถูกพวกเจ้าเหล่าตัวชั่วร้ายเอาเปรียบอีก"

โจเส็งเดินออกมาเตะใส่อีกหนึ่งเท้า "เด็กน้อย เจ้าอยากตายนักใช่ไหม?"

เตะครั้งนี้ออกแรงเพิ่มขึ้น กิเหลงที่ถูกมัดอยู่ต้องใช้เวลาสักพักพยายามฝืนลุกยืนแต่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงนอนอยู่บนพื้นทั้งอย่างนั้น "จะฆ่าก็ฆ่า ไม่ต้องพูดมาก"

ลิโป้เดินออกไปพยุงร่างเขาขึ้นมา "แม่ทัพกิ เจ้าเต็มใจจะเข้าร่วมทัพปิงโจวหรือไม่?"

กิเหลงสูดหายใจเข้าลึก คิดไม่ถึงว่าจู่ๆลิโป้จะพลันหยิบยกหัวข้อนี้ขึ้นมาพูดทันที ในความเห็นของเขา ลิโป้นับเป็นผู้ที่ผ่าเผยผู้หนึ่ง "ลิโป้ อย่าได้หยามเกียรติข้า จะฆ่าก็ฆ่า ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก"

"แม่ทัพกิ ความเย่อหยิ่งที่อ้วนสุดมีนั้นทำให้ยากที่จะทำการใหญ่ได้สำเร็จ แต่ด้วยความสามารถของเจ้า ทัพปิงโจวจะต้องมีที่ให้เจ้าได้แสดงฝีมือแน่นอน"

แววตาและท่าทีที่จริงใจของลิโป้ทำให้กิเหลงเริ่มหวั่นไหว ไม่ว่าใครหากเลือกได้ก็คงไม่อยากตายด้วยกันทั้งนั้น แต่ในฐานะทหารเอกของอ้วนสุดแล้ว กิเหลงก็มีศักดิ์ศรีอยู่ โดยเฉพาะหลังจากพ่ายแพ้และถูกจับเช่นนี้ หากแปรพักต์ย้ายฝ่ายทันที ผู้คนในใต้หล้าจะมองเขาอย่างไร?

"ขอบคุณความเมตตาของแม่ทัพลิ แต่โปรดมอบความตายให้ข้าเถอะ" เพียงชั่วไม่กี่อึดใจ กิเหลงใช้ความคิดอย่างหนัก คิดถึงบิดามารดาชรา คิดถึงภรรยาและลูกๆที่อยู่ในหยางโจว หากว่าเขาปฏิเสธไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อลิโป้จนถูกฆ่าตาย อ้วนสุดแน่นอนว่าจะต้องซาบซึ้งและให้การดูแลครอบครัวของเขาเป็นอย่างดี

ลิโป้ส่ายหน้า จากนั้นจึงให้คนนำตัวกิเหลงไป ในใจครุ่นคิดว่าต้องทำอย่างไรจึงจะได้แม่ทัพที่มีชื่อเสียงผู้นี้มาช่วยงาน

"นายท่าน เห็นได้ชัดว่ากิเหลงหวั่นไหวใจแล้ว แต่เกรงว่าเขาคงจะยังมีเรื่องกังวลอยู่ในใจ ข้าน้อยจะค่อยๆหลอกถามจากเขาเอง จะต้องได้ความคืบหน้าอย่างแน่นอน" ลิซกเดินออกมาก่อนจะลดเสียงลงกล่าว

"โอ้ เช่นนั้นคงต้องฝากเว่ยกงแล้ว" สีหน้าของลิโป้ทอแววยินดี ลิซกผู้นี้สมแล้วที่เป็นนักเจรจาอันดับหนึ่งของตั๋งโต๊ะ ในประวัติศาสตร์นั้น เขาสามารถเกลี้ยกล่อมลิโป้จนได้รับกองทัพชั้นยอดมาเข้าร่วมโดยที่ไม่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อเลยแม้แต่น้อย

"ให้เป็นหน้าที่ของข้าน้อยเองขอรับ" ลิซกรับคำอย่างนอบน้อม

ฝีมือของกิเหลงนั้นไม่ธรรมดา ผู้ที่ได้รับการใช้สอยจากอ้วนสุดได้นั้น แน่นอนว่าย่อมต้องมีความสามารถอันโดดเด่น ดั่งคำกล่าวที่ว่า ไพร่พลนั้นหาง่าย แต่แม่ทัพดีนั้นยากจะเสาะหา การได้ตัวกิเหลงนั้นไม่เพียงลดทอนความเข้มแข็งของกองทัพอ้วนสุด แต่ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพของเขาด้วย มีแต่ได้เช่นนี้ แล้วมีหรือที่เขาจะไม่คว้าโอกาสไว้

"นายท่าน เจ้าเมืองปิวโจวคนปัจจุบันเตียนเอี๋ยงนั้นเย่อหยิ่งมาก พวกเราต้องระวังไว้" หลังจากได้รับชัยชนะสองศึกติดต่อกัน ลิซกก็ได้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของเขาภายในทัพปิงโจวแล้ว เขารู้สึกได้เลยว่าเหล่าแม่ทัพต่างก็มองดูเขาด้วยแววตาเลื่อมใส ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

"เตียนเอี๋ยงนั้นไม่ใช่คนกล้าคิดกล้าตัดสินใจ ไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไป" ลิโป้พอจะรู้จักนิสัยของคนผู้นี้อยู่บ้าง

"เตียนเอี๋ยงเพิ่งมารับตำแหน่งเจ้าเมืองปิงโจว แต่อิทธิพลของนายท่านเหนือกว่าเขามาก นี่จะทำให้เขารู้สึกหวาดระแวงนายท่าน หากคนผู้หนึ่งได้กุมอำนาจ นิสัยใจคอก็จะเปลี่ยนไป ขอนายท่านโปรดระมัดระวัง" ลิซกกระตุ้นเตือน

"ขอบคุณเว่ยกงที่เอ่ยเตือน" ลิโป้คิดตามก่อนจะพยักหน้า

"รายงานท่านแม่ทัพ ที่ข้างหน้ามีคนผู้หนึ่งออกมาขวางทางไว้ เขาต้องการที่จะ....ท้าประลองท่านแม่ทัพ เขายังจัดการพี่น้องของเราไปหลายคนแล้วด้วยขอรับ"

เมื่อได้รับรายงานจากพลสอดแนม ลิโป้ก็กระตุ้นม้าไปข้างหน้า

"ผู้ใดคือลิโป้? ข้าได้ยินมาว่าเขามีฝีมือเก่งกล้าสามารถนัก มา มาประมือกับข้าหน่อยเป็นอย่างไร หากลิโป้ไม่กล้าออกมา ก็มอบเงินให้ท่านปู่ผู้นี้ไปซื้อสุราเสีย"

ส่วนสูงที่สูงถึงเก้าฉื่อ นับว่าสูงอย่างยิ่งในยุคสมัยนี้ ชุดผ้าบางที่สวมใส่ยังไม่อาจปกปิดมัดกล้ามอันแข็งแกร่งของคนผู้นี้ รูปร่างลักษณะที่เหี้ยมหาญแบบนี้ ฝีมือคงต้องร้ายกาจไม่เบา ทหารปิงโจวหลายนายที่ออกไปรับมือล้วนแต่ได้รับบาดเจ็บหนักกลับมา

"คนที่กำลังท้าทายแม่ทัพผู้นี้อยู่เป็นใคร?" ลิโป้แค่นเสียงเย็นทันทีเมื่อเห็นว่าโจเส็งก็บาดเจ็บด้วย

"เจ้าก็คือลิโป้? เหอะ ก็ไม่เห็นจะดูดีที่ตรงไหน" บุรุษผู้นั้นชี้มาที่ลิโป้พลางเอ่ยวาจาเหยียดหยาม

"หาที่ตาย!" โกซุ่นที่เยือกเย็นอยู่เสมอพลันชักกระบี่ออกมา ลิโป้มีฐานะประดุจเทพเจ้าของทัพปิงโจว ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจลบหลู่ดูหมิ่นได้

"ไม่ต้อง คนผู้นี้ข้าจัดการเอง" ลิโป้ลงจากหลังม้า เอ่ยถึงเรื่องการสู้รบบนหลังม้า ตัวเขาอาจไม่ช่ำชองเท่ากวนอูหรือแม่ทัพเลื่องชื่อคนอื่นๆ แต่หากเป็นการสู้กันบนพื้น หากเขากล่าวว่าตนเองเป็นที่สอง เกรงว่าในแผ่นดินนี้คงไม่มีผู้ใดกล้าบอกว่าตนเองเป็นที่หนึ่ง ในฐานะที่เคยเป็นหน่วยรบพิเศษมาก่อน ทักษะในการต่อสู้ระยะประชิดย่อมต้องผ่านการเคี่ยวกรำมาอย่างหนัก

"อย่างไรก็เถอะ ก่อนประลอง ข้าว่าพวกเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่?" ลิโป้กล่าว

"เดิมพันงั้นรึ?"

"ใช่ หากว่าเจ้าชนะ เจ้าจะร้องขออะไรก็ได้ ขอเพียงอยู่ในขอบเขตที่แม่ทัพผู้นี้สามารถกระทำ แต่หากว่าแม่ทัพผู้นี้โชคดีชนะขึ้นมา เจ้าจะต้องขอโทษเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บและเข้าร่วมกับข้า" หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลิโป้ก็รู้สึกว่าคนผู้นี้มีลักษณะแข็งแกร่ง ดูมีกำลังวังชามหาศาล หากได้ตัวมาเข้าร่วมจะมีส่วนช่วยต่อกองทัพปิงโจวอย่างมาก

"ได้ ข้าตกลง"

"ขอเรียนถามนามของผู้เข้มแข็ง"

"เตียนอุย"

'อะไรนะ? เขาก็คือเตียนอุย? นี่เตียนอุยไร้ศักดิ์ศรีจนต้องมาดักปล้นผู้คนเลยงั้นรึ? อีกทั้งยังมาท้าข้าสู้อีก?' ลิโป้ประหลาดใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจู่ๆจะได้พบกับยอดองค์รักษ์คู่ใจของโจโฉที่นี่

"อะไร?" เมื่อเห็นว่าสีหน้าของลิโป้เปลี่ยนกลับไปกลับมา เตียนอุยก็งุนงง แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงในพื้นที่แถบนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เท่ากับลิโป้ที่มีชื่อเลื่องลือทั่วแผ่นดิน

"ไม่มีใด เชิญ เชิญ" ลิโป้พลันเพิ่มความระมัดระวัง

เตียนอุยเมื่อเห็นลิโป้ตั้งท่าต่อสู้ เขาก็ไม่กล้าประมาท ไม่มีท่าทางโอหังเหมือนก่อนหน้าอีก เขาจ้องมองลิโป้ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

พวกเขาทั้งสองต่างก็มีกำลังวังชามหาศาล หมัดและเท้าพุ่งเข้าปะทะกัน เสียงอากาศถูกฉีกกระชากทุกคราที่พวกเขาลงมือ ด้วยเพราะมีพื้นฐานจากการเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ ลิโป้จึงเป็นฝ่ายได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากปะทะกันสองครั้ง เตียนอุยก็พลาดท่าถูกลิโป้จับทุ่มลงพื้น ทำให้เตียนอุยโมโหจนควันออกหู

"ไม่สู้แล้ว ไม่สู้แล้ว" เตียนอุยรีบถอยหลังพลางโบกไม้โบกมือ "รูปแบบการต่อสู้ของเจ้าช่างประหลาดนัก ข้าไม่เล่นด้วยแล้ว"

เหล่าทหารที่เฝ้าดูอยู่ต่างก็ชูอาวุธส่งเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น ในความคิดของพวกเขา ลิโป้นั้นไร้เทียมทาน ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจเอาชนะได้

"ผู้กล้าเตียน อย่าได้ลืมคำมั่นสัญญาของพวกเรา" ลิโป้รีบกล่าวทวงเดิมพัน การประมือกับเตียนอุยทำให้เขารู้สึกดีอย่างมาก

"เมื่อครู่ผู้แซ่เตียนกล่าวล่วงเกินท่านหลายครั้ง โปรดยกโทษให้ด้วย" เพราะเตียนอุยมีส่วนสูงเหนือคนทั่วไป ยามที่ก้มหัวปรกๆจึงมีท่าทางน่าขบขัน เรียกเสียงหัวเราะจากผู้คนได้เป็นอย่างดี