ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 19 ความแข็งแกร่งของเขตแดนผู้ฝึกยุทธ
อย่างที่รู้ๆ กัน
ว่ายิ่งเขตแดนสูงเท่าไร การบ่มเพาะเพื่อทะลวงผ่านแต่ละขั้นนั้นก็ยากลำบากขึ้นหลายเท่าตัว
แม้ว่าจะแค่ขั้นเดียวจากขั้นแรกไปขั้นกลาง ก็ยังต้องใช้ความอดทนและความอุตสาหะมากมายในการฝึกฝน และสิ้นเปลืองทรัพยากรณ์ไปมากมาย กว่าจะทะลวงขั้นได้
ทำให้ซู่เสี่ยวไป่นั้น รู้สึกดีใจเมื่อทะลวงเขตแดนจากกึ่งผู้ฝึกยุทธขั้นสูงมาเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นแรก
ถึงแม้ว่าพึ่งจะทะลวงผ่านเขตแดนมาหมาดๆ แต่ซู่เสี่ยวไป่กลับมีความแข็งแกร่งเท่ากับผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง เสริมด้วยวิชาระดับละเอียดอ่อนที่เขามี ทำให้ตอนนี้เขาจัดการกับผู้ฝึกยุทธขั้นกลางได้สบายๆ
การเติบโตแบบข้ามขั้นเช่นนี้ มีหรือที่ซู่เสี่ยวไป่จะไม่ยินดี?
“แค่โบกมือไปมา ก็ยังรู้สึกถึงกำลังที่มากขึ้นได้เลย!!”
ทำให้ซู่เสี่ยวไป่คิดเล่นๆ ว่า หากตอนนี้เขาเตะใส่จางเฟยอันอีกครั้ง คงไม่ใช่แค่กระเด็นไปติดกำแพง แต่กระดูกแขนทั้งสองข้างของเขาคงแตกเป็นเสี่ยงๆ และคงสะเทือนไปถึงอวัยวะภายในบอกช้ำจนกระอักเลือด และไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
“-ตรวจพบว่าเจ้านายทะลวงเขตแดนสำเร็จ ระบบเสนอเปลี่ยนที่ออกล่าใหม่ เจ้านายต้องการจะเปลี่ยนที่ออกล่าหรือไม่?-”
เสียงของระบบดังขึ้น
“-ต้องการเปลี่ยนที่ออกล่าหรือไม่?-”
ระบบยังคงถามซ้ำ
การทะลวงเขตแดนได้นั้นเท่ากับว่าร่างเงาสามารถออกล่าสัตว์อสูรรระดับ C ได้แล้ว แม้ว่าบางตัวอาจจะแข็งแกร่งพอๆ กับผู้ฝึกยุทธขั้นสูงก็ตาม ร่างเงาอาจจะมีกังวลที่จะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรพวกนั้น เพราะหากพลาดท่าจะทำให้การล่าช้าลง แต่ชิ้นส่วนของสัตว์อสูรระดับ C จะไปถูกกว่าระดับ D ได้ยังไง!!
แล้วอะไรคือความเสี่ยงของซู่เสี่ยวไป่….ไม่มีเลยยังไงล่ะ
“จัดเต็มเลยเจ้าระบบ!!”
ซู่เสี่ยวไป่ตอบอย่างไม่ลังเลเลย
“-ร่างเงากำลังถูกย้ายไปยังพื้นที่ออกล่าใหม่-”
เมื่อสิ้นเสียงของระบบ ร่างเงาที่กำลังออกล่าสัตว์อสูรอยู่ก็จางหายไปจากป่าทันที ก่อนที่จะไปปรากฏตัวขึ้นใหม่ในพื้นที่อื่น
เมื่อร่างเงาปรากฏตัวขึ้น เช่นเคยมันได้ดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรระดับ C ทันที หากว่าร่างเงานั้นเป็นมนุษย์คงเป็นสถานการณ์ที่น่าสยดสยองน่าดู แต่เงานั้นไม่มีความรู้สึก และร่างเงาก็เริ่มปะทะกับสัตว์อสูรทันที
“-ติ๊ง ได้รับ:หนังงูปราดเปรียวx1 ,เนื้องูปราดเปรียวx7 ,โครงกระดูกงูปราดเปรียวx4”
“-ติ๊ง ได้รับ:อุ้งตีนหมีเนตรขาวx4 ,เนื้อหมีเนตรขาวx20 ,หนังหมีเนตรขาวx1 กระดูกหมีเนตรขาวx67-”
“...”
เกือบทุกๆ สองถึงสามนาทีระบบจะแจ้งเตือนตลอด
หากดูจากชื่อของชิ้นส่วนสัตว์อสูรพวกนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นสัตว์อสูรระดับ C ทั้งหมด เพียงไม่นานห้องใต้ดินก็เริ่มเต็มไปด้วยชิ้นส่วนสัตว์อสูรมากมาย รอแค่เวลาที่คนจากสมาคมจะมารับซื้อของพวกนี้ก็ไปเท่านั้น
จะได้รู้ว่าชิ้นส่วนระดับ C นั้นจะขายได้แพงขนาดไหน
และต่อไปห้องใต้ดินแห่งนี้ ก็จะเก็บชิ้นส่วนระดับ B หรือไปถึงระดับ A เผลอๆ อาจจะเป็นระดับ S ก็ได้หากเป็นชิ้นส่วนของสัตว์อสูรระดับสูงไม่ต้องแยกชิ้นส่วนก็ยังขายได้ราคาสูงลิบ
…
สองวันผ่านไป
“-ติ๊ง *กายาเพชร* สำเร็จขั้นพื้นฐานแล้ว-”
ซู่เสี่ยวไป่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น ระหว่างที่เขากำลังนั่งเลือกซื้อชุดใหม่ให้กับซู่หลิงเกอ
วิชาระดับละเอียดอ่อนสำเร็จขั้นพื้นฐาน
บ่งบอกว่าซู่เสี่ยวไป่เวลานี้แข็งแกร่งขึ้นแบบก้าวกระโดดจากการสำเร็จวิชา
มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่
เขตแดน : ผู้ฝึกยุทธขั้นแรก
ระดับพละกำลัง: ผู้ฝึกยุทธขั้นสูง
ระดับความคงทน: ผู้ฝึกยุทธขั้นสูง
ระดับความว่องไว: ผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง
พรสวรรค์บ่มเพาะ: ขั้นต่ำ
วิชา: กายาเพชร(พื้นฐาน) เหยี่ยมย่ำข้ามนภา (ฝึกหัด) หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ (ฝึกหัด)
ความสามารถของระบบที่เปิดใช้งาน: พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว[ระดับ 3] พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว[ระดับ 3] ออกล่าสัตว์อสูรในคลิกเดียว[ระดับ 2]
กำลังและความคงทนอยู่ในขั้นสูง!!
“เข้าใจแล้วว่า ทำไมใครๆ ก็อยากที่จะสำเร็จวิชาระดับละเอียดอ่อนกัน แค่สำเร็จขั้นฝึกหัดก็ยังทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเราเป็นขั้นกลางได้ ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเราเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธขั้นสูงแล้ว!!”
ซู่เสี่ยวไป่ถึงกับถอนหายใจ
ปกติแล้วผู้ฝึกตนทั่วๆ ไป พยายามฝึกฝนวิชาระดับฝึกหัดด้วยความยากลำบากหรือหามาฝึกไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้แต่เหล่าอัจฉริยะของบางตระกูลหรือลูกหลานของเชื้อพระวงษ์ ที่จะได้รับการฝึกวิชาระดับละเอียดอ่อน ก็ฝึกกันอย่างยากลำบาก แต่พอมองมายังซู่เสี่ยวไป่ที่วันๆ เอาแต่กินนอนเล่นไปวันๆ มีระบบช่วยฝึกให้ ไม่กี่วันเขาก็สามารถสำเร็จวิชาเป็นขั้นพื้นฐานได้สบายๆ
สองวันผ่านไป
“กริ่งก่อง!”
เสียงกดกริ่งดังขึ้นที่บ้านของซู่เสี่ยวไป่
ซู่เสี่ยวไป่มองออกไปเห็นเป็นคนจากสมาคมชุดเดิมที่เคยมารับของ
พวกเขามาตรงตามนัดและตรงเวลามาก
ซู่เสี่ยวไป่พาพวกเขาเข้ามาและพาไปยังห้องใต้ดินเช่นเคย
“หือ!?”
เมื่อคนจากสมาคมเห็นซู่เสี่ยวไป่ พวกเขารับรู้ได้จากระแสพลังที่แผ่ออกมาจากตัวซู่เสี่ยวไป่ได้ในทันทีว่า คนผู้นี้อยู่ในเขตแดนผู้ฝึกยุทธแล้ว แม้ว่าภายในใจทุกคนจะตกใจ แต่ก็เก็บอาการไม่พูดสิ่งใดออกมา
จนกระทั้งได้มาเห็นกองชิ้นส่วนสัตว์อสูรที่ห้องใต้ดิน มันทำให้วพวกเขาถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก
เมื่ออาทิตย์ก่อนของทั้งหมดยังเป็นแค่ระดับ D
แต่ผ่านไป 1 อาทิตย์ มีของระดับ D แค่สองสามอย่างนอกนั้นเป็นระดับ C ทั้งหมด
ทำให้คนจากสมาคมต่างมองหน้ากัน และมองไปยังซู่เสี่ยวไป่ด้วยความหวาดกลัว
สิ่งที่พวกเขารู้คือซู่เสี่ยวไป่นั้นเป็นแค่คนกลางเท่านั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ที่แปลกก็คือ
หากของเป็นแค่ระดับ D ยังพอคาดเดาได้ว่ากลุ่มที่ทำงานให้เขาคงเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่แข็งแกร่งมาก
แต่ถ้าเป็นชิ้นส่วนระดับ C นั่นแปลว่ากลุ่มที่ทำงานให้อยู่เบื้องหลังเขาแข็งแกร่งมาก และอาจมีผู้ฝึกยุทธขั้นสูงอยู่ในนั้นด้วย
หากไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคิดไม่มีทางที่จะหาชิ้นส่วนระดับ C มาได้มากมายขนาดนี้เป็นแน่
แล้วที่สำคัญพวกเขาเห็นชิ้นส่วนของ *ตะขาบใบไม้ผลิ* อยู่ในนั้นด้วย
พวกเขารู้ดีว่าตะขาบใบไม้ผลินั้นดุร้ายมาก หากต้องเผชิญหน้าแม้แต่ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงก็ยังหืดขึ้นคอ หากไม่มั่นใจแล้วไม่มีใครที่จะกล้าล่ามัน
ทำให้คนจากสมาคมที่มารับของนั้นต่างเข้าใจว่า เบื้องหลังของซู่เสี่ยวไป่มีผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งคอยทำงานให้อยู่
“นายท่านครับ ของทั้งหมดตีเป็นเงินได้ 3,856,643 เหรียญจิต ทางเราแถมให้เป็นพิเศษแก่นายท่าน รวมเป็น 3,860,000 เหรียญจิตครับ โปรดตรวจสอบรายการ แล้วเซ็นชื่อยื่นยันด้วย”
3.86 ล้านเหรียญจิต!!
หากเฉลี่ย 7 วันแล้ว เขามีรายได้ต่อวันละเกือบครึ่งล้านทุกวัน
ชิ้นส่วนระดับ C นั้นแพงมาก
แม้แต่คนจากสมาคมสมบัติอสูรก็ยังแสดงกิริยาที่ดูนอบน้อมขึ้น
เพราะพวกเขากำลังเคารพต่อผู้ที่แข็งแกร่ง