บทที่ 80 มาที่ห้องฉัน
ในห้อง ลู่เจ๋อดูเว็บไซต์ด้วยสีหน้าซับซ้อน
เมื่อเขาตระหนักว่าการที่พลังจิตวิญญาณของเขาขี้เกียจนั้นเป็นลายเซ็นของสิ่งมีชีวิตที่มีอำนาจเหนือสภาวะวิวัฒนาการของมนุษย์ เขาก็ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ได้อีกต่อไป
เขาโง่…
นี่ก็หมายความว่า เขาสามารถแกล้งทำเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังได้ใช่ไหม
แต่จะมีคนอย่างเขาที่โดนทุบตีเพราะล้มเหลวในการบลัฟไหม?
เขากังวลนิด ๆ
ลู่เจ๋อลูบหัวตัวเองแล้วถอนหายใจ
ทุกอย่างโอเคตราบใดที่เขาไม่ไปผิดทาง
ลู่เจ๋อปิดไลท์แบรนด์และเตรียมบำเพ็ญอีกครั้ง
แต่ในเวลานี้ดวงตาของเขาเป็นประกาย เขามีความคิดบางอย่าง
เนื่องจากเป็นการบำเพ็ญเหมือนกัน เขาจึงสามารถใช้ลูกแก้วแสงได้ก่อนการบำเพ็ญ
ไม่รู้เอฟเฟคจะดีขึ้นไหม?
ลู่เจ๋อลองทดสอบตามที่คิดทันที
เขาเริ่มใช้ลูกแก้วแสงโดยตรงจากมิติจิตใจของเขา พลังงานเริ่มไหลผ่านร่างกายของลู่เจ๋อ
เขาหลับตาและเริ่มใช้วิถีโคจรปราณ
พลังงานบริสุทธิ์ระเบิดออกทันที มันเริ่มไหลภายใต้คำแนะนำของวิถีโคจรปราณ พลังงานถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งค่อย ๆ เพิ่มพลังให้ร่างกายของลู่เจ๋อในแต่ละเซลล์ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งดึงพลังจิตวิญญาณจากมิติจิตใจและดึงมันเข้าไปในร่างกายของลู่เจ๋อ
ลู่เจ๋อรู้สึกว่าเซลล์ของเขาได้รับการหล่อเลี้ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันส่องประกายเหมือนคริสตัล ในเวลาเดียวกัน เมื่อพลังจิตวิญญาณเข้าสู่ร่างกายของเขา มันก็พบเซลล์สุ่มที่จะอยู่ และเริ่มปล่อยคลื่นพลังวิญญาณภายในเซลล์
ไม่นานลูกแก้วแสงก็ถูกใช้จนหมด
แต่ลู่เจ๋อไม่สนใจ เขาเข้าไปในมิติจิตใจของเขาและกวาดลูกแก้วเล็ก ๆ อีก 5 ลูก
ปัง!
พลังงานจำนวนมากระเบิดภายในร่างกายของลู่เจ๋อ ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขาขมวดคิ้วแต่ยังคงใช้วิถีโคจรปราณต่อไป
ด้วยพลังจิตวิญญาณจากมิติจิตใจที่ไหลเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายของเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ความเร็วนี้เร็วกว่าเมื่อตอนที่เขาอยู่ในสภาวะนักรบป้องกันตัวมาก
ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ลู่เจ๋อหลงใหล
ค่อย ๆ ใช้ลูกแก้วแสงอีกครั้ง จากนั้นลู่เจ๋อก็ระงับความปรารถนาที่จะฝึกต่อและลืมตาขึ้น
สุดยอด! ความเร็วพุ่งปรี๊ด!
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ลู่เจ๋อรู้สึกว่าเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนนิด ๆ แล้ว
เขากำหมัดแน่นและร่างกายของเขาก็กลายเป็นคริสตัลและมีออร่าพลังวิญญาณ นี่คือการรวมพลังกันของร่างกายและพลังจิตวิญญาณของเขา
เขาไม่ได้ใช้พลังจิตวิญญาณเหมือนกับที่เขาใช้ศาสตร์เทพแห่งพลังแล้ว เขาจำเป็นต้องปรับปรุงมันด้วยการออกล่ามากขึ้น
เมื่อรู้สึกถึงพลังมหาศาลของตัวเอง ลู่เจ๋อก็ยกยิ้ม
ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างแข็งแกร่ง
เมื่อลู่เจ๋อหมกมุ่นอยู่กับการชมตัวเอง เสียงอ่อนโยนของลู่หลี่ก็ดังขึ้นที่ประตู “พี่ชาย พ่อกับแม่กลับมาแล้ว ลงมากินข้าวเย็น”
เมื่อลู่เจ๋อได้ยิน มุมปากของเขาก็กระตุกวูบ เขารู้สึกหวั่น ๆ เมื่อได้ยินเสียงของลู่หลี่
ใครจะรู้ว่าเธอจะทำอะไรเขาอีก
แต่ลู่เจ๋อยังคงคิดถึงช่วงเวลาที่ลู่หลี่ตััวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเขาและเป็นห่วงเขา
ไม่ค่อยดีเท่าไหร่…เขาดูมีอารมณ์นิด ๆ
เขาไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
ระวังไว้ก่อน ไม่งั้นฉันจะมีความเข้าใจผิด 1 ใน 3 อย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตว่าเธอชอบฉัน
แบบนั้นคงจะน่าอาย
"พี่ชาย?" เสียงของลู่หลี่อ่อนโยนขึ้นเรื่อย ๆ
ลู่เจ๋อตัวแข็ง เขาพูดอย่างรวดเร็วพร้อมกับไปเปิดประตู "กำลังไป พี่ก็แค่บำเพ็ญอยู่ เฮ้ออาหลี่น้องสาวฉัน เธอไม่รู้ว่าพี่ชายเธอทำงานหนักแค่ไหน”
ใบหน้าที่น่ารักของลู่หลี่มองลู่เจ๋อแล้วยิ้มว่า “ตกลง หลี่รู้ว่าพี่ชายทำงานหนัก ลงไปข้างล่างกันเถอะ พ่อกับแม่มีความสุขมาก”
ลู่เจ๋อได้ยินก็พยักหน้า เขาก็มีความสุขเหมือนกัน
ตอนนี้เขาทำให้พวกเขาภูมิใจแล้วใช่ไหม?
ทันทีที่เขาลงบันได เขาก็ถูกฟูชูหยาสวมกอด
“เด็กดี ลูกโตขึ้นแล้วจริง ๆ…”
สักพักเธอก็ปล่อยลู่เจ๋อและลูบหน้าเขา
เธอไม่ได้พูดถึงความกังวลของเธอ คำพูดของเธอมีเพียงความภาคภูมิใจ
ลู่เหวินมองลู่เจ๋ออย่างอิจฉา
นั่นภรรยาเขา!
แต่ถ้าเขาพูดไปตอนนี้เขาอาจจะถูกลงโทษ เขาทำได้เพียงตบไหล่ลู่เจ๋อด้วยสีหน้าซับซ้อนและมองเขาอย่างลึกซึ้ง
เมื่อลู่เจ๋อกำลังสับสนกับสายตาของลู่เหวิน ลู่เหวินก็ยิ้มแล้วพูดว่า “อาเจ๋อ ลุง ๆ ของแกขอให้ฉันแนะนำลูกสาวพวกเขาให้แกรู้จักสักครั้ง แกคิดยังไง? ไปพบพวกเธอไหม ฉันขอการันตีว่าน่ารักทุกคน”
ลู่เจ๋อ “???”
เขามองลู่เหวินอย่างไม่เชื่อ “พ่อ พ่อมองมาที่ฉันนานขนาดนี้เพราะอยากจะพูดเรื่องนี้เหรอ? ฉันคิดว่าพ่อจะชมฉันบ้าง ฉันไม่คิดว่าพ่อจะเป็นคนแบบนี้”
เมื่อหลู่เหวินได้ยิน เขาก็ทิ้งรอยยิ้มขี้เล่นของเขาและพูดอย่างจริงจังว่า “แกก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว แกต้องจำความรับผิดชอบที่ผู้ชายควรมีและรับผิดชอบต่อสิ่งที่แกทำ ฉันจะพูดอะไรได้อีก”
ลู่เจ๋อพยักหน้าแล้วยิ้ม “ผมรู้ พ่อ”
ฟูชูหยายิ้มให้ทั้งสองคน “โอเค ไปกินกันเถอะ เจ๋อ ลูกต้องหิวแล้วแน่ ๆ แม่ทำอาหารจานโปรดให้ลูก”
ลู่เจ๋อได้ยินก็เหลือบมองอาหารมากมายบนโต๊ะและพูดชมทันทีว่า “แม่ บารมีและความงามของแม่ไม่มีใครเทียบเทียม…”
ก่อนที่ลู่เจ๋อจะเสร็จสิ้นคำอวย ลู่เหวินก็ลากลู่เจ๋อไปที่โต๊ะด้วยใบหน้าเหม็นบูด
เขามองรอยยิ้มที่สดใสของฟูชูหยาแล้วแตะคาง ดูเหมือนเขาจำเป็นต้องเรียนรู้คำชมไว้บ้าง
ลู่หลี่นั่งถัดจากลู่เจ๋อ “พี่ชาย ยินดีด้วยที่ได้รับโควตามหาวิทยาลัยสหพันธ์”
ดวงตาของเธอแสดงความแน่วแน่บางอย่าง ด้วยความสามารถของเธอ เธออาจจะไม่ได้รับโควตาของมหาวิทยาลัยสหพันธ์ แต่เธออาจจะสามารถสอบเข้าได้
ลู่เจ๋อยิ้ม “เฮ้ พี่ชายเธออัจฉริยะมาก”
ทันใดนั้นลู่เจ๋อก็จำบางอย่างได้และส่งยิ้มลึกลับให้ลู่หลี่ “หลี่ หลังกินข้าวเสร็จมาที่ห้องฉัน ฉันจะโชว์สมบัติให้ดู”
เมื่อได้ยินคำนี้ใบหน้าของลู่เหวินดำทันที ขณะเดียวกันฟูชูหยาแสดงรอยยิ้มผู้ใหญ่และมองทั้ง 2 คนอย่างมีความสุข
ลู่หลี่งง เธอหน้าแดงและพูดเบา ๆ ว่า “พี่เอาให้ดูตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”
ลู่เจ๋อยิ้มตอบว่า “มันเป็นความลับ”
ดีที่สุดที่พ่อแม่จะไม่รู้ในตอนนี้ เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาจะดูว่าเขาสามารถทำให้พวกเขาบำเพ็ญอีกครั้งได้หรือไม่
นักรบระดับสูงมีอายุยืนยาว เขาหวังว่าครอบครัวของเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
-------------------------