ตอนที่แล้วตอนที่ 71 ความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดินี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 73 แดนต้องห้าม

ตอนที่ 72 แอปเปิ้ลเน่าลูกเดียวในตระกูล


ทันทีที่พวกเขามาอาณาจักรเบื้องบน ซูชิงเกอก็ได้เห็นความน่ากลัวของตระกูลกู่ นางอดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด นางก็เป็นแค่ผู้หญิง และถึงแม้วิญญาณอีกดวงในตัวนางจะให้ความรู้บ้าง นางก็ยังอดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้กับสถานการณ์

นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรถ้ากู่ฉางเกอไม่ต้องการนาง เหนือสิ่งอื่นใด คนแบบกู่ฉางเกอย่อมไม่ขาดสาวงามมากพรสวรรค์

ในทางกลับกัน นางเป็นแค่คนธรรมดาที่อาจเอาใจเขาไม่ได้

คนอย่างนาง ผู้เกิดในอาณาจักรเบื้องล่างไม่มีค่าอะไรในสายตาคนอาณาจักรเบื้องบน นางชัดเจนถึงเรื่องนี้ดีหลังความทรงจำจากดวงวิญญาณอีกดวงผสานกับนางเพิ่ม

ไม่ใช่แค่นั้น นางยังเข้าใจสถานะน่ากลัวที่กู่ฉางเกอมีด้วย!

ย้อนกลับไป ความกลัวคือหนึ่งในเหตุผลหลักของซูชิงเกอที่ยอมจำนนต่อกู่ฉางเกอ แต่หลังใช้เวลากับเขา นางก็เริ่มพัฒนาความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ต่อเขา แม้เขาจะคาดเดาไม่ได้ บางครั้งก็ไม่แยแส และยังดูถูกทุกคนและทุกสิ่งในโลก แต่เขาก็ยังปฏิบัติต่อนางอย่างดีและเอาใจใส่นาง

เมื่อมีคนทำให้หัวใจผู้หญิงลุ่มหลง ผู้หญิงย่อมไม่อยากแยกจากผู้ชาย

ตอนนี้ที่ซูชิงเกอได้ยินคำถามของกู่ฉางเกอ นางจึงรู้สึกว่าหัวสมองขาวโพลน และเผลอคิดว่ากู่ฉางเกอคงไม่ต้องการนางอีก

แน่นอน มันไม่ใช่ความผิดนาง ผู้หญิงใดที่เจอแบบนางคงคิดเหมือนกัน

คนเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้คือถามตัวนางถึงแผนในอนาคตของนางเอง

กู่ฉางเกอแค่คิดจะแกล้งซูชิงเกอโดยการถามเช่นนั้น เขาไม่ต้องทุ่มเทกับการบ่มเพาะเหมือนคนอื่น เขาแค่เบื่อ และมาหาความสุขโดยการแกล้งซูชิงเกอแบบนี้เฉยๆ

แต่ทว่า สิ่งที่ตอบกลับเขาเป็นดวงตาแดงก่ำของซูชิงเกอ ครั้งนี้ เขาอดหัวเราะลั่นไม่ได้

“แล้วข้าจะพาเจ้ามาอาณาจักรเบื้องบนทำไมถ้าข้าไม่ต้องการเจ้า?ข้าจะทิ้งเจ้าไว้ข้างล่างก็ได้ ปกติเจ้าก็ฉลาดจะตาย ทำไมวันนี้หัวสมองถึงตื้นเขินได้เล่า?’

กู่ฉางเกอพูดพลางหัวเราะ

ไม่ว่าเขาจะมีความรู้สึกต่อซูชิงเกอไหม แต่การแกล้งนางก็ทำให้เขามีความสุขมาก สาวงามนั้นก็เหมือนของสะสม ยิ่งมีรอบตัว มันยิ่งมองแล้วสบายตา

เขาแค่ต้องพูดคำดีๆกับนางเพื่อปลอบนาง

ซูชิงเกอตกตะลึงไปชั่วขณะหลังได้ยิน แต่ก็ยังกดริมฝีปากอย่างรู้สึกผิด“นายน้อย ท่านรำคาญ..”

“ว่าแต่ เจ้ามีอะไรจะบอกข้าไม่ใช่เหรอ?”

กู่ฉางเกอจ้องนางด้วยรอยยิ้มขี้เล่นและถาม เหนือสิ่งอื่นใด เขารู้ว่าซูชิงเกอมีเรื่องในใจ ต่อให้หลังผ่านมาหลายวัน โชคของนางก็เพิ่มไม่หยุด และมันก็เพิ่มขึ้นมาก ปรากฏการณ์ประหลาดนี้สามารถอธิบายได้อย่างเดียวคือนางซ่อนสมบัติหรืออะไรไว้

กู่ฉางเกอเดาว่าซูชิงเกอคงเป็นผู้กลับชาติมาเกิด หรือนางอาจเกี่ยวข้องกับอาณาจักรเบื้องบน หรืออะไรสักอย่าง

พอคิดแบบนี้ เขาก็ได้แต่รอคำตอบของซูชิงเกอ

“นายน้อย..ข้ารู้สึกผิดที่ปิดบังเรื่องนี้จากท่าน แต่มีเรื่องที่ข้าไม่ได้บอกท่าน”

คำพูดของกู่ฉางเกอทำให้ซูชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าของเขาทำให้นางตะลึงงัน และก็เข้าใจทันทีว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

นางมักมองหาโอกาสจะบอกกู่ฉางเกอมาตลอด แค่ว่านางไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง

“บอกข้ามาสิ ข้ารอฟังอยู่”

ในเวลาเดียวกัน เขาก็มองค่าโชคของซูชิงเกอ

มันมีถึงห้าร้อย!

ตอนเขาพบนางครั้งแรก นางมีแค่สามร้อย แต่หลังมาอาณาจักรเบื้องบน โชคนางก็พุ่ง

“เรื่องคือตั้งแต่ที่ข้าเกิด ข้าต่างจากคนปกติ ไม่เพียงข้าจะรู้อะไรมากมายตั้งแต่เกิด แต่ข้ายังรู้ว่ามีตัว’ข้า’อีกคนอาศัยอยู่ในทะเลจิตสำนึกของข้า..”

ซูชิงเกอเรียบเรียงความคิดและอธิบายให้กู่ฉางเกอฟัง

‘สองวิญญาณในร่างเดียว?น่าสนใจ มันดูเหมือนการคาดเดาของข้าจะไม่ไกลเกินไป ไม่เพียงนางจะเคยยิ่งใหญ่ในชาติก่อน แต่นางยังมีวิญญาณอีกดวง’

แน่นอน เขาไม่สามารถเดาสถานการณ์นี้ได้ หรือว่าที่โชคของซูชิงเกอเพิ่มเพราะนางเริ่มผสานกับวิญญาณอีกดวง?

คำอธิบายนี้สมเหตุสมผล

มันเพราะเหตุผลนี้ค่าโชคของกู่ฉางเกอถึงเพิ่มขึ้นด้วย เหนือสิ่งอื่นใด ซูชิงเกอเป็นของเขาแล้ว

“ความทรงจำของเจ้ากับวิญญาณอีกดวงแบ่งปันร่วมกันเหรอ?”

กู่ฉางเกอถาม

“เรามีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน ข้าดูความทรงจำนางได้เพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือดูเหมือนจะโดนหมอกผนึกไว้ซึ่งค่อยๆสลายและปลดปล่อยออกมา”

‘กู่ฉางเกอไม่ใช่คนที่เราไว้ใจได้ เจ้าไปเปิดเผยความลับของเราให้เขาฟังได้ไง?!’

ในเวลาเดียวกัน เสียงดุของวิญญาณอีกดวงก็ดังในหัวของซูชิงเกอ แต่นางเมิน

เหนือสิ่งอื่นใด นางมีสิทธิ์ควบคุมร่างกายนี้อย่างสมบูรณ์

‘ผนึก?นั่นไม่ควรใช่ มันน่าจะเป็นว่าความทรงจำนางเสียหาย มันเป็นไปได้ว่านางเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรเบื้องบนที่ไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปเกิดใหม่ในอาณาจักรเบื้องล่าง หลังจากนั้นนางก็ถูกลิขิตให้เป็นผู้หญิงของบุตรฟ้าประทาน?’

กู่ฉางเกอเดาในใจหลังได้ยินคำอธิบาย แน่นอน มีโอกาสที่การเดาของเขาจะผิด

“นายน้อย ข้ายังฝันถึงสนามรบโบราณที่ปกคลุมด้วยความมืดบ่อยครั้ง มันมีสิ่งมีชีวิตทุกประเภทต่อสู้กัน..’

“ข้าฝันว่าข้าได้เปลี่ยนเป็นปีศาจที่สิ่งมีชีวิตมากมายเคารพบูชา!”

ซูชิงเกอตัวสั่นพอพูดถึงเรื่องนี้

ในความฝัน นางคล้ายกับสัตว์ประหลาดกระหายเลือดที่ปรารถนาจะทำลายทุกสิ่ง!

นางคิดว่ามันอาจเป็นแค่ฝันร้าย แต่พอนางอยู่ในอาณาจักรเบื้องบนนานขึ้น นางก็เห็นนิมิตเหล่านี้มากขึ้น

นางไม่ได้โง่ และเดาว่ามันคงเป็นความทรงจำจากชาติก่อนนาง หรืออาจเกี่ยวกับวิญญาณอีกดวงของนาง

นางมักอยากบอกเรื่องนี้กับกู่ฉางเกอเพราะนางเชื่อว่ากู่ฉางเกอ ผู้มีประสบการณ์มากกว่านางอาจรู้มากกว่า

ตอนนี้นางไม่ดูคล้ายปีศาจในฝันเลย

“เป็นแบบนี้นี่เอง!เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แม้ข้าจะบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ข้าก็มีการคาดเดาบ้างในหัว”

กู่ฉางเกอปลอบนางด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเขาทำให้ซูชิงเกอสบายใจ

ในทางกลับกัน กู่ฉางเกอรู้สึกว่ามันอาจเป็นเรื่องดีต่อนาง ด้วยสองวิญญาณในร่างเดียว และข้อมูลมากมาย ซูชิงเกออาจพัฒนาขึ้นมากถ้านางผสานเข้ากับวิญญาณอีกดวงอย่างสมบูรณ์ ในเวลาเดียวกัน เขาก็จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ด้วย!

สำหรับความเป็นปีศาจของนาง?เขาแค่ต้องถามแม่เขาเพราะนางรู้เรื่องเหล่านี้ดีกว่า และควรมีข้อมูลบ้าง เหนือสิ่งอื่นใด สำนักเทพดั้งเดิมเคยถูกเรียกว่าสำนักปีศาจโบราณ

มันแค่ว่าความพยายามอย่างต่อเนื่องของศิษย์กับผู้อาวุโสหลายคนมันถึงเปลี่ยนชื่อจากสำนักปีศาจเป็นสำนักเทพได้ แม้การกระทำพวกเขาจะไม่เปลี่ยนไปมาก แต่ชื่อก็ฟังดูชอบธรรมขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด คำว่าปีศาจอย่างเดียวก็จะทำให้ชื่อเสียงย่ำแย่แล้ว

อะไรอีก?มรดกวิชามารของกู่ฉางเกอดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับสำนักปีศาจโบราณด้วย แม้จะไม่ได้เชื่อมโยงกันตรงๆ แต่ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกัน

...

กู่ฉางเกอทิ้งสองสาวไว้หลังอธิบายรายละเอียดให้พวกนางฟัง ต่อมา เขาก็ต้องพิจารณาถึงวิธีจัดการเรื่องของเขาในตระกูล

พ่อของเขาได้บอกเขาว่าผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลได้วิจารณ์เขาลับหลัง และเหตุผลก็เพราะการกระทำขุดกระดูกของตัวเขาคนก่อนในวันวาน

แม้หลายคนในตระกูลจะสู้กัน พวกเขาก็ยังมีเส้นแบ่งและจะไม่ล้ำเส้นกัน การฆ่าสมาชิกตระกูลถือเป็นข้อห้าม และคนที่ฝ่าฝืนจะต้องรับโทษร้ายแรง

กู่ฉางเกอในตอนนั้นยังเป็นแค่เด็ก แต่ก็ขโมยพรสวรรค์ของญาติตัวเองและขุดเอากระดูกเต๋านางมาอย่างอำมหิต แม้เรื่องนี้จะถูกปิดไว้ในตอนนั้น มันก็ไม่อาจปิดจากผู้อาวุโสตระกูล

แม้พวกเขาจะไม่พูดออก หัวใจพวกเขาก็ไม่พอใจ

พล็อตเรื่องขุดกระดูก...

กู่ฉางเกอ ในฐานะผู้ข้ามโลกย่อมคุ้นเคยกับพล็อตนี้กว่าใครอื่น และเขายังต้องแบกรับภาระมันเนื่องจากเขาข้ามมาในร่างนี้

‘กู่เซียนเอ๋อร์ ญาติของข้าที่อายุน้อยกว่าสามปี..’

‘พล็อตขุดกระดูกนั้นจัดการได้ยากกว่าบุตรฟ้าประทานไร้ประโยชน์เหล่านั้นจากอาณาจักรเบื้องล่าง แน่นอน ถ้าเหตุการณ์ต่างจากไปพล็อตที่ข้ารู้ งั้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าญาติของเขามีเทพหนุนหลังละก็ งั้น..’

‘ข้าคอยบอกพ่อให้พาตัวนางตลอดเนื่องจากข้าสัมผัสได้ว่านางยังมีชีวิตเนื่องจากกระดูกเต๋าที่ข้าแย่งนางมา...น่าเสียดาย พ่อไม่เคยพบร่องรอยนาง นั่นหมายความว่าต้องมียอดฝีมือหนุนหลังนาง!’

กู่ฉางเกอคิดทางแก้ในใจ

เหนือสิ่งอื่นใด พวกลูกรักสวรรค์ในอาณาจักรเบื้องบนต้องต่างจากขยะแบบเย่เฉินและหลินเทียน

แถม ผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลกู่ยังรู้สึกผิดต่อญาติเขา ที่โดนเขาขุดกระดูก และรู้สึกผิดที่ไม่ปกป้องนางให้ดี

เมื่อเรื่องนี้หลุดออกสู่โลก ตระกูลกู่จะเป็นที่หัวเราะเยาะ และสมาชิกตระกูลก็จะไม่เลือกข้างเขา

ขณะที่กู่ฉางเกอคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเขาก็หรี่ลงและคิดถึงบางอย่าง

‘ตามความทรงจำ ญาติของข้ามีปู่ที่ไปอาณาจักรอื่นเพื่อค้นหาบางสิ่ง และโดนขังอยู่ที่นั่น หลังจากนั้น พ่อแม่นางที่เป็นห่วงเขาก็พาคนกลุ่มหนึ่งจากเชื้อสายตัวเองไปช่วยเขา....สุดท้าย นางก็โดนทิ้งไว้ในตระกูลภายใต้การดูแลของคนที่พ่อแม่นางไว้ใจ’

‘ในเมื่อนางกับเขามีอายุพอๆกัน เขาจึงเผอิญพบนางและพบกระดูกเต๋านาง เขาจึงหมายจะครอบครองมันเพื่อปกปิดใจมารตัวเอง..’

แม้กู่ฉางเกอจะไม่ได้อ้างว่าเป็นคนดี แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองชั่วมากที่ไปขุดกระดูกของเด็กสาวที่อายุน้อยกว่า

นอกจากนี้ การเล่นกับนางให้ดีและพัฒนานางให้เป็นหนึ่งในไพ่ตายไม่ดีกว่าหรือไง?

เหนือสิ่งอื่นใด ญาติผู้นั้นดูเหมือนจะถูกตัดจากบทของจักรพรรดิสวรรค์...

เห้อ!คิดไปก็เปล่าประโยชน์

“ต้องขอบคุณ สองฝ่ายไม่ได้บ้าคลั่งและพยายามเข่นฆ่ากันเอง หลังโน้มน้าวผู้อาวุโสต่างๆ ฝ่ายพวกเขาก็ยอมก้าวถอยและพ่อของข้าก็ยังแค่ขับไล่พวกเขาออกตรูล และก็มีคนไม่มากในโลกภายนอกที่กล้าทำร้ายพวกเขาด้วย..”

“ตอนนี้ที่ข้ารู้ว่าญาติข้ายังไม่ตายและหลบซ่อนในดินแดนลึกลับ ข้าสงสัยว่าอีกนานแค่ไหนกว่านางจะออกมาแก้แค้น”

“พูดก็พูด ข้าคือแอปเปิ้ลเน่าลูกเดียวในตระกูลกู่เหรอ?ไม่น่าแปลกที่ข้าจะเกิดมาพร้อมใจมาร ช่างเป็นคำสาปที่ชั่วร้าย พ่อของข้าทำทุกอย่างเพื่อปกปิดใจมารนี่”

กู่ฉางเกอพึมพำกับตัวเอง

ไม่ช้า รอยยิ้มขี้เล่นก็ปรากฏบนหน้าเขา แม้สถานการณ์จะดูลำบาก แต่ก็มีหลายวิธีให้เขาใช้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด