ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 109 ความมุ่งมั่นที่เหมือนกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 111 เย่หยู่โจว

MDB ตอนที่ 110 ข่าวลือจากทั่วทุกสารทิศ


หลินจินมีความสุขมากที่พบว่าตัวเองได้รับส่วนที่สองของรูปแบบพลังงานอสูร แต่มันมาเร็วกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ในตอนแรก เขาคาดว่าเขาจะต้องรอจนกว่าผู้เยี่ยมชมหมายเลข 7 จะนำตัวอย่างของสัตว์หายากจำนวนยี่สิบตัวอย่างมาให้เขา ในตอนที่ห้องโถงเยี่ยมชมเปิดขึ้นอีกครั้ง เขาถึงจะสามารถบันทึกสัตว์หายากครบทั้งห้าสิบตัวได้

ถึงแม้จะได้รับเร็วกว่ากำหนด เขาก็ไม่ว่าอะไร

หลินจินอ่านผ่าน ๆ เกี่ยวกับส่วนที่สองที่ได้รับใหม่พบว่ามันดีมาก เมื่อเขาว่างจากการทำการประเมิน เขาสามารถส่งต่อเทคนิคการบ่มเพาะนี้ให้กับสัตว์เลี้ยงที่ทำสัญญาได้โดยตรงผ่านทางพันธสัญญาโลหิต

ด้วยเหตุนี้ เสี่ยวฮั่วสามารถเริ่มฝึกฝนส่วนที่สองนี้ได้

สำหรับส่วนที่สามของรูปแบบพลังงานอสูร หลินจินพบว่าเขาต้องบันทึกสัตว์หายากกว่าร้อยตัว แต่จากอัตราความก้าวหน้าในปัจจุบันของเขา เขาอาจต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะสำเร็จ

หลินจินจำได้ว่าใกล้จะถึงว่าเปิดห้องโถงเยี่ยมชมแล้ว เนื่องจากสามารถเข้าถึงได้ทุก ๆ เจ็ดวัน การเปิดครั้งต่อไปควรเป็นคืนพรุ่งนี้

พูดตามตรงหลินจินตั้งตารอคอยมัน

ในตอนบ่าย หลินจินรีบไปที่สมาพันธ์นักบวชโดยมีแผนจะศึกษาทักษะการบ่มเพาะ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร หลู่หยุนเหอก็ตรงปรี่มาหาเขา ทันทีที่เขามาถึง

“พี่หลิน ข้ากำลังรอพี่หลินอยู่พอดีเลย” หลู่หยุนเหอดึงหลินจินออกไปอย่างลับ ๆ เขามีเรื่องสำคัญจะพูดกับหลินจิน

“พี่หลิน เช้านี้พี่ทะเลาะกับหยางเจี๋ยหรือเปล่า?” หลู่หยุนเหอถามเบา ๆ

‘ฮะ?’

หลินจินตะลึงงัน

เขาจำไม่ได้ว่าเคยบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วหลู่หยุนเหอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

เมื่อเห็นใบหน้าที่ประหลาดใจของหลินจิน มันได้ยืนยันความสงสัยของหลู่หยุนเหอ

“พี่หลิน ข้าจะพูดยังไงดี… แม้ว่าข้าจะไม่ชอบหยางเจี๋ยขนาดนั้น แต่ก็ไม่ควรเป็นศัตรูกับเขาเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว” ถ้อยแถลงต่อไปของหลู่หยุนเหอทำให้หลินจินสับสนมากขึ้นเท่านั้น

“เจ้ากำลังพูดถึงผู้หญิงคนไหน?”

หลู่หยุนเหอมองตรงมาที่หลินจินและกับจะพูดว่า 'หยุดแสร้งได้แล้ว'

“ตอนนี้ข่าวลือกระจายไปทั่วแล้ว โดยลือกันว่าพี่หลินกำลังท้าทายหยางเจี๋ยเพียงเพราะเขาได้แย่งเฉินหยวนหยวนจากพี่ไปและคนที่นี่ได้รู้ด้วยว่าเฉินหยวนหยวนยกเลิกการหมั้นกับพี่เพราะหยางเจี๋ยแล้ว”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของหลินจินมืดลงทันที

“ใครเป็นคนเริ่มต้นข่าวลือนี้? มันไร้สาระที่สุด!”

ในขณะนั้นเอง ผู้ฝึกตนสองสามคนก็ผ่านไปซุบซิบกันเอง

“ได้ยินไหม? ผู้ประเมินหลินแห่งสมาคมประเมินสัตว์วิเศษผ่านการประเมินและเข้าสู่สมาพันธ์นักบวชของเราแล้ว”

“ข้าได้ยินว่ามาว่า หลินจินนั้นค่อนข้างน่าสงสารยิ่งนัก เขาถูกผู้หญิงคนหนึ่งยกเลิกงานหมั้นของเธอกับเขา ช่างน่าขายหน้าเสียนี่กระไรและผู้หญิงคนนั้นทำเพื่อศิษย์พี่หยางเจี๋ยด้วย!

นั่นอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมหลินจินถึงก้าวเท้าเข้ามาสมาพันธ์นักบวชแห่งนี้ เขาตั้งใจจะเอาชนะศิษย์พี่หยางเจี๋ยและทวงศักดิ์ศรีของเขากลับคืนมา”

"ที่เจ้าพูดมันจริงหรือ?"

“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่ได้ยินข่าวนี้ ข้าได้ยินมาว่าหลินจินพบศิษย์พี่หยางเจี๋ยเมื่อเช้านี้ที่หอคอยหินลอยและทั้งคู่ก็ได้แลกหมัดกันไปแล้ว”

“หลินจินเป็นผู้ประเมินสัตว์วิเศษ เขาจะรับมือศิษย์พี่หยางเจี๋ยได้อย่างไร?”

"ข้าเห็นด้วย หลินจินอาจจะบาดเจ็บจนพิการหลังจากนั้น”

“โอ้ ว่าแต่ผู้หญิงที่ชื่อเฉินหยวนหยวน เธองดงามขนาดนั้นเชียวหรือ? ข้าคิดว่าผู้ประเมินหลินคงหลงใหลในตัวเธอมากจนทำให้เขาเต็มใจเสี่ยงชีวิตเพื่อต่อสู้เพื่อเธอ…”

เสียงของพวกเขาไม่เบานัก ดังนั้น หลินจินจึงได้ยินพวกเขาดังและชัดเจน

'นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!'

หลินจินเกือบจะตะโกนออกไปด้วยความโมโหแล้ว

ในขณะเดียวกัน หยางเจี๋ยที่กำลังฝึกนิ้วพลังวิญญาณก็ได้ยินข่าวลือเช่นกัน

*แคร่ก!*

เป้าที่ทำจากไม้ที่มีความหนาเท่าฝ่ามือมนุษย์ มันอยู่ห่างออกไป 3 เมตร มันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยการยิงระยะไกล

สาวกที่มาแจ้งเรื่องข่าวลือนี้ เมื่อเขาเป็นภาพตรงหน้า มันทำให้ลิ้นของเขาแข็งทื่อ ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เขากลัวว่ามันจะทำให้หยางเจี๋ยไม่พอใจ หากเขาพูดอะไรออกมา

“อย่างนี้นี่เอง ตอนนั้นข้าก็สงสัยว่า ทำไมคน ๆ นั้นจึงจงใจท้าทายข้าแบบนั้น เหตุการณ์เมื่อเช้านี้ต้องได้รับการวางแผนล่วงหน้าอย่างแน่นอน แต่สิ่งเดียวที่ข้าสงสัย เฉินหยวนหยวนเป็นใคร ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย”

หยางเจี๋ยรู้สึกรำคาญ

ก่อนหน้านี้เขาเคยสงสัยเกี่ยวกับแรงจูงใจของหลินจิน แต่ตอนนี้ คำตอบอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

จนถึงตอนนี้ ครึ่งหนึ่งของร่างกายของเขายังคงรู้สึกชาเล็กน้อย แต่เขาไม่สามารถบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เพราะมันน่าละอายเกินไป ดังนั้นความเกลียดชังที่เขารู้สึกต่อหลินจินจึงเพิ่มขึ้นในหัวใจของเขา

นอกจากความขุ่นเคืองแล้ว ยังมีความกลัวอีกด้วย

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอย่างชัดแจ้ง แต่หยางเจี๋ยก็คิดว่าหลินจินเป็นศัตรูตัวฉกาจ

เนื่องจากมีความนับถือตนเองสูง หลังจากการปะทะกัน หยางเจี๋ยได้ให้คนไปตรวจสอบภูมิหลังของหลินจินและพบว่าคนหลังเป็นผู้ประเมินระดับสองแต่ผู้ประเมินต่างจากผู้ฝึกตน หยางเจี๋ยยังคงคิดว่าที่เขาได้รับบาดเจ็บเมื่อเช้านี้เพราะความประมาทของเขา ถ้าเขาจริงจังกว่านี้อีกหน่อย เขาคงไม่ได้รับบาดเจ็บ

“ไปตรวจสอบดูว่าใครคือเฉินหยวนหยวน” หยางเจี๋ยสั่งลูกน้องของเขา

ในไม่ช้า เขาได้รับคำตอบเกี่ยวกับตัวตนของเฉินหยวนหยวน

นอกจากนี้ยังมีข่าวเกี่ยวกับการปะทะคารมกันของหลินจินและเฉินหยวนหยวนที่หน้าประตูสมาคมในช่วงเทศกาลบุปผาเมเปิ้ล ตอนนั้นมีผู้ชมจำนวนมากในตอนนั้น

นอกจากนี้ หยางเจี๋ยยังพบว่าเฉินหยวนหยวนเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฉินเฉิง

“ไปเรียกเฉินเฉิงมา” หยางเจี๋ยสั่งการด้วยสีหน้ามืดมน

เฉินเฉิงมาถึงอย่างรีบร้อน

“ศิษย์พี่หยาง ข้ามาแล้วขอรับ”

เฉินเฉิงทักทายด้วยความเคารพ พวกเขาอยู่ภายใต้การฝึกอบรมของที่ปรึกษาคนเดียวกันในสมาพันธ์นักบวช

หยางเจี๋ยไม่ได้พูดอะไรแต่จ้องมองไปที่เฉินเฉิง คนหลังเงยหน้าขึ้นมองด้วยท่าทางสับสน

“ศิษย์พี่หยาง มีอะไรหรือขอรับ?”

หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเห็นว่าชายอีกไม่แสดงท่าทีผิดปกติใด ๆ หยางเจี๋ยจึงกล่าวว่า “เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วหรือไม่?”

เขาไม่ได้ระบุว่าข่าวลืออะไรเพราะเป็นการทดสอบ

เฉินเฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ศิษย์พี่หยางเรียกข้ามาที่นี่เพื่อสอบถามข่าวลือระหว่างลูกพี่ลูกน้องของข้ากับหลินจินหรือขอรับ?

เท่าที่ข้าจำได้ ลูกพี่ลูกน้องของข้าได้หมั้นกับหลินจินไปแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอชื่นชมศิษย์พี่ เธอจึงตัดสินใจยกเลิกการหมั้น เธอจึงมีข้อพิพาทเล็กน้อยกับหลินจินที่ทางเข้าเทศกาลบุปผาเมเปิ้ลเมื่อไม่นานมานี้ แต่หลู่หยุนเหอเข้ามาแทรกแซงและดึงหลินจินออกจากความยุ่งเหยิง หลายคนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น มันจึงไม่เป็นความลับแต่อย่างใดขอรับ”

หยางเจี๋ยยังคงนิ่งเงียบ

เฉินเฉิงตื่นตระหนกอยู่ข้างในแต่เขายังคงแสดงความนิ่งสงบอยู่ภายนอก

“เข้าใจแล้ว เจ้าออกไปได้แล้ว”

หยางเจี๋ยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก

เฉินเฉิงทำความเคารพและจากไป เมื่อเขาออกไปข้างนอกและมองไปรอบ ๆ ให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ เฉินเฉิงก็ถอนหายใจออกมา จากนั้น รอยยิ้มอำมหิตปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและเขาพึมพำกับตัวเองว่า

“ขอบคุณพระเจ้าที่ข้าเตรียมตัวมาอย่างดี ไม่อย่างนั้นเขาคงพบว่าข้ากำลังโกหกเขา”

ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเกี่ยวกับหลินจิน, เฉินหยวนหยวนและหยางเจี๋ย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นโดยเฉินเฉิงที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

เขาโชคดีที่ได้อยู่ในห้องของชั้นสองแห่งหนึ่งในหอคอยหินลอยเมื่อเช้านี้ ทำให้เขาได้เห็นการปะทะกันของหลินจินและหยางเจี๋ย ในตอนนั้น เขาคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี

เขาจะใช้ข่าวลือที่สะดวกสบายนี้เพื่อสร้างความเกลียดชังระหว่างหลินจินและหยางเจี๋ยและที่สำคัญ เขาจะต้องดึงหลู่หยุนเหอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหลู่หยุนเหอและหยางเจี๋ยเปิดฉากต่อสู้กัน มันจะทำให้เฉินเฉิงสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้

นอกจากนี้ ด้วยการแพร่กระจายข่าวลือเหล่านี้ เฉินเฉิงสามารถหลอกลูกพี่ลูกน้องที่โง่เขลาของเขาได้ เขาจ้องมองลูกพี่ลูกน้องที่สวยงามของเขามานานแล้ว ตลอดชีวิตของเขา เขาคิดว่าเธอคือผู้ที่ถูกลิขิตให้เป็นผู้หญิงของเขา

ย้อนกลับไปเมื่อเฉินหยวนหยวนหมั้นกับหลินจิน เฉินเฉิงได้ยุแยงให้เธอยุติการหมั้น

เมื่อทุกอย่างสำเร็จ เฉินเฉิงคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นดั่งที่เขาต้องการ กลับกลายเป็นว่าเฉินหยวนหยวนได้หลงใหลในตัวของหยางเจี๋ยอย่างหัวปักหัวปำ

สำหรับหยางเจี๋ย เขาเป็นคนหยิ่งทนง เขาจะไม่มีวันชายตามองผู้หญิงอย่างเฉินหยวนหยวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ หลังจากข่าวลือที่มุ่งร้ายออกมา โอกาสที่พวกเขาจะได้พบกันนั้นแทบจะเป็นศูนย์และนั่นเป็นสิ่งที่เฉินเฉิงต้องการ

ปัจจัยเสี่ยงเพียงอย่างเดียวในแผนการนี้คือความฉลาดที่เหลือเชื่อของหยางเจี๋ย แค่การเรียกเฉินเฉิงมาพบ มันบ่งบอกโดยนัยว่าหยางเจี๋ยยังคงสงสัยในตัวเขา

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด