Ep.52 - พ่อค้าโลกวิญญาณ
2/3
Ep.52 - พ่อค้าโลกวิญญาณ
ฟ้ายังไม่มืดสนิท แต่ผู้คนนับร้อยเข้ามารวมตัวกันในค่ายก็อบลินแล้ว
เหล่าเซี่ยงย่อมไม่อยากพลาดโอกาสทำธุรกิจ จึงรีบกลับมาแต่เนิ่นๆ
เซี่ยงว่านจุนผู้นี้เป็นชาวชนบท ไม่เคยได้เรียนหนังสือ เมื่อเป็นวัยรุ่นได้ย้ายมาทำงานในเมืองใหญ่
เริ่มจากเก็บขวดขาย รับจ้างปั่นสามล้อ ขนอิฐโบกปูน
และในช่วงเวลาที่อดอยากที่สุด ในช่วงเวลาที่ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวกิน เขาตัดสินใจขายเลือดตัวเอง และใช้ช่องว่างใต้สะพานเป็นที่ซุกหัวนอน
เคยถูกโกงมานับครั้งไม่ถ้วน ชีวิตขึ้นๆลงหลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็สามารถกลายเป็นเจ้าของบ้านสามหลังในเมืองโม่ตู่ได้ นอกจากนี้ยังมีโรงงานขนาดเล็กอีกสองแห่งเป็นของตัวเอง
สำหรับชายที่ออกมาจากหุบเขาชนบท
สำหรับคนที่ไม่มีภูมิหลังและวัฒนธรรม
ความสำเร็จขนาดนี้นับว่ายิ่งใหญ่มากแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เหล่าเซี่ยงยังไม่พอใจ เขายังไม่อยากที่จะเกษียณตัวเองทั้งๆแบบนี้
คุณเคยติดอยู่ในสภาวะคอขวดมาเป็นเวลานานและไม่สามารถหลุดพ้นจากมันได้ไหม? (ในที่นี้หมายถึงชีวิตหยุดอยู่กับที่เป็นเวลานาน)
เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงคอขวดที่ไม่อาจทะลวงได้อีกต่อไป คุณจะรู้สึกว่าอายุขัยที่เหลือหมดไปเร็วขึ้นกว่าเดิม
มองเห็นบั้นปลายชีวิตแบบนี้อยู่รำไร สำหรับเขาแล้วมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อเสียจริง!
เหล่าเซี่ยงเคยยากจนถึงขั้นขายเลือดเพื่อเลี้ยงชีพ เคยโดนหลอกจนเสียเงินหมดตัว เคยประสบกับความพ่ายแพ้มานับไม่ถ้วน
แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหน ล้มมาแล้วซักกี่ครั้ง แต่เขาก็ยังลุกขึ้นมาได้เสมอ
และทุกครั้งที่ลุกขึ้น เขาจะกลั้นหายใจและคิดในใจ ว่าอนาคตเต็มไปด้วยโอกาสและความไม่แน่นอน สักวันหนึ่งเขาต้องสามารถแหวกซี่กรงตรงหน้า และก้าวต่อไปได้!
ส่วนไหนที่มีเสน่ห์และน่าดึงดูดที่สุดในชีวิต? นั่นไม่ใช่การได้เผชิญหน้ากับอุปสรรค ตัวแปร และความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนหรอกหรือ?
หากถึงทางตันแล้วยอมพ่ายแพ้ แล้วจะได้รู้ซึ้งถึงรสชาติของความสำเร็จได้อย่างไร?
เขาชอบทำธุรกิจ ชอบทำเงินก้อนโต แต่ผลลัพธ์ไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ ที่น่าสนใจคือความสนุกระหว่างกระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นต่างหาก
ดังนั้น หลังจากที่เกมมือถือบ้าๆนี่ปรากฏขึ้น เขารีบขายบ้านและหุ้นโรงงานทั้งหมดของตัวเองในราคาที่ต่ำมากทันที
ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกลับมาเป็นคนเดิมในอดีตอีกครั้ง อนาคตเต็มไปด้วยโอกาสและสิ่งที่ไม่รู้จัก ทุกสิ่งสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยตัวเอง
ชีวิตคือนวนิยาย และตนเป็นผู้เขียนเรื่องราว
บางคนอาจอยากบอกเล่าเรื่องราวความรัก
บางคนอาจอยากบอกเล่าเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจ
บางคนอาจอยากบอกเล่าเรื่องสยองขวัญ
บางคนอาจอยากบอกเล่าเรื่องตลก แต่สุดท้ายดันกลายเป็นโศกนาฏกรรม
ทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง แต่จะพลิกผันมัน หรือปล่อยให้จืดชืด นั่นเป็นสิ่งที่คุณกำหนดเอง
ส่วนเหล่าเซี่ยง เขาต้องการบอกเล่าช่วงชีวิตอันน่าตื่นเต้นจากการตัดสินใจครั้งนี้
และนับจากนี้ไป นี่คือเรื่องราวของพ่อค้าโลกวิญญาณชั้นแนวหน้า!
...
ตอนนี้ในค่ายวุ่นวายมาก เริ่มมีการจัดตั้งร้านแผงลอยขายกางเกงเลียนแบบเขา
จนถึงตอนนี้ก็ยังมีบางคนตายแล้วทำอุปกรณ์หลุดจากตัว หลายคนต่างร้องตะโกนแย่งกันซื้อมัน
แต่แน่นอน นั่นไม่ใช่แผงลอยเดียวที่ตั้งอยู่ในค่าย
“รองเท้าสีเทาขายถูกๆจ้า ใส่รองเท้าแล้วจะมีพลังสู้กับมอนสเตอร์ได้ พี่ชายไม่สนใจเข้ามาดูหน่อยหรอ?”
“ขวานรบสีเทาอ่อน ดรอปจากมอนสเตอร์หมูป่า เดินผ่านไปผ่านมาไม่ควรพลาด!”
“ทีมเรากำลังรับสมัครคน ต้องการผู้เล่นที่มีสกิลโจมตีรุนแรงหนึ่งท่าน ร่วมมือกันฆ่ามอนสเตอร์”
“หาแฟนจ้า หาแฟน น้องสาวตัวน้อยเป็น 3D ของแท้ พี่ชายคนไหนใจดียกอุปกรณ์สีเทาให้ น้องสาวยินดีคบเป็นแฟนนานหนึ่งเดือน”
“...”
ผู้คนเริ่มปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของโลกวิญญาณ
โลกวิญญาณปราศจากข้อจำกัด มันเปิดกว้าง ไม่สนใจว่าใครจะทำอะไร
เหล่าเซี่ยงใช้สายตาที่เฉียบคมดั่งเหยี่ยววิเคราะห์บรรดาร้านแผงลอยที่ตั้งอยู่ได้ทันที
เจ้าหนูที่ขายรองเท้านั่นต้องการเงินเป็นล้านหยวน จ่ายตั้งหนึ่งล้านเพื่อแลกกับรองเท้าคุณภาพสีเทาขุ่น? ไม่มีทางซะล่ะ!
เหล่าเซี่ยงค้นพบว่า แม้อุปกรณ์จะมีคุณภาพเดียวกัน แต่ราคากลับแตกต่างกัน เช่นหากเป็นอาวุธ เสื้อ หรือกางเกง สามสิ่งนี้จะขายได้ราคาดีมาก เพราะเป็นสิ่งขาดแคลนในโลกวิญญาณ
จริงอยู่ที่เจ้าเด็กขายรองเท้านี่อาจบังเอิญเจอคนหลอกง่ายอย่างนายน้อยหวังฉง ถ้าเป็นแบบนั้นต่อให้ขายราคาเป็นล้านก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่หากไม่วิกฤตจริงๆ สินค้าอย่างเช่น รองเท้า หมวก สายรัดข้อมือ อย่างรองเท้าสีเทาขุ่นเลเวล 1 ชิ้นนี้ ขาย 1 ล้านมันราคาสูงเกินไป ยากนักที่จะขายออก!
อีกแผงลอยหนึ่งขายขวาน นี่เป็นอาวุธที่มีความต้องการสูงก็จริง แต่คนขายยืนกรานว่าต้องการแลกเปลี่ยนมันกับอพาร์ตเมนต์สามห้องนอนในเมืองหงเฉิงเท่านั้น
ให้ตายเถอะ แล้วมันจะโคตรบังเอิญเจอคนที่มีอพาร์ตเมนต์เมืองหงเฉิงอยู่ในค่ายไหม? เจ้าหมอนี่มีโชคได้ของดีแต่ดันไม่ฉลาดเอาซะเลย!
อย่างไรก็ตาม ไอเท็มและอุปกรณ์ที่ขายกันในค่ายเป็นสินค้าธรรมดาเกินไป จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเหล่าเซี่ยงหากคิดจะทำกำไรจากมัน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เขากำลังรู้สึกท้อเล็กน้อย ก็ได้รับข้อความจากฮังอวี่
เหล่าเซี่ยงเคยซื้อกางเกงสองตัวจากฮังอวี่ ฉะนั้นย่อมจำอีกฝ่ายได้เป็นธรรมดา แล้วอีกอย่าง ต่อให้ไม่ใช่เรื่องนี้ เขาก็ยังจำฮังอวี่ได้อยู่ดี เพราะสุดท้ายแล้ว มีคนไม่มากนักหรอกที่สวมใส่อุปกรณ์เต็มชุดในค่าย ซึ่งคนเหล่านี้ควรค่าแก่การใส่ใจเป็นพิเศษ
ฮังอวี่พิมพ์ข้อความมาสั้นๆแต่ชัดเจนว่า “คุณรับซื้ออุปกรณ์ไหม”
เหล่าเซี่ยงแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด “ซื้อสิ! ฉันรับซื้อ ต้องรับอยู่แล้ว!”
ฮังอวี่ส่งข้อความมาอีกว่า “มาเจอผมตรงตะวันออกเฉียงใต้ของค่าย”
ฮังอวี่ตอนนี้ซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของค่าย แต่ก็ไม่วายมีสาวๆแวะเข้ามาทักทายเขา
ฮังอวี่พบว่าตัวเองกลายเป็นที่นิยมขึ้นมาซะงั้น
ตัวเขาในสภาพเครื่องแต่งกายครบชุด มันให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการขับรถเฟอร์รารีบนท้องถนนในโลกมนุษย์
ตอนนี้เขาต้องการโล๊ะอุปกรณ์บางส่วนที่ไม่ได้ใช้
ส่วนจะโล๊ะมันกับใครน่ะหรือ? มีสามเป้าหมายที่น่าสนใจในค่ายนี้
เป้าหมายแรกคือจ้าวหมิง
ฮังอวี่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าจ้าวมากที่สุด และอีกฝ่ายก็ร่ำรวยมาก
เป้าหมายที่สองคือหวังฉง เจ้าหมอนี่มีเงินเยอะแต่ค่อนข้างโง่ แค่หยิบยื่นของดีให้ ก็ใจกว้าง ยอมรับซื้อในราคาสูง ขายง่ายที่สุดแล้ว
เป้าหมายสุดท้ายคือเซี่ยงว่านจุน
เหล่าเซี่ยงเป็นนักธุรกิจ มีความสัมพันธ์กลางๆกับฮังอวี่ แม้ไม่ใจกว้างเหมือนหวังฉง แต่ก็มีเอกลักษณ์ของพ่อค้า
ตราบใดที่อุปกรณ์ที่นำไปเสนอเป็นของดี เขายินดีรับทุกอย่าง
ปัจจุบันเหล่าจ้าวกับหวังฉงไม่ได้อยู่ในค่าย ดังนั้นฮังอวี่ตัดสินใจขายอุปกรณ์บางส่วนของเขาให้กับเหล่าเซี่ยงก่อน
แม้ฮังอวี่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าจ้าว แต่หากยอมมอบทรัพยากรทั้งหมดแก่อีกฝ่าย นั่นเป็นไปไม่ได้
เขาจำเป็นต้องสร้างเส้นทางการค้าอีกสายหนึ่งให้ตัวเอง มีแต่ต้องทำแบบนี้จึงจะได้เป็นผู้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ
“เป็นนายจริงๆ!” ร่างใหญ่กำยำของเหล่าเซี่ยงปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา “วันก่อนไม่เห็นนายกลับมา ฉันหลงนึกว่ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้นซะแล้ว แต่พอได้เห็นว่านายยังสบายดี ฉันก็โล่งใจ”
ท่าทีของเหล่าเซี่ยงยังคงเป็นกันเองและซื่อตรง เขาไม่พล่ามไร้สาระ ถามทันทีว่า “เหอ เหอ ว่าแต่ครั้งนี้นายได้อะไรมา? ถ้าราคาเหมาะสม ฉันยินดีเหมามันทั้งหมด!”
เหล่าเซี่ยงรู้ดี ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ชอบทำอะไรยุ่งยากซับซ้อน ที่เขาทักมาแสดงว่าต้องมีอุปกรณ์ดีๆมาเสนอขายแน่ๆ
ฮังอวี่คิดไตร่ตรอง คนตรงหน้าเขาช่างปากใหญ่จริงๆ เอ่ยว่าจะเหมาทั้งหมดงั้นหรอ? นั่นต้องมาดูกันก่อนว่าคุณมีความสามารถพอที่จะกลืนพวกมันได้ไหม!
เกรงว่าแค่ได้เห็นอุปกรณ์ชุดเซ็ทของต้นไม้ผู้พิทักษ์ คงทำให้คุณสำลักตายแล้ว!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาขายชุดเซ็ท สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากเกินไป ต้องระมัดระวังตัวเอาไว้
หากจะให้ฮังอวี่ขายชุดเซ็ท เขาย่อมขายมันให้แก่เหล่าจ้าว
ขณะที่ผู้คนค่อยๆอัพเลเวลและดรอปอุปกรณ์สีเทามากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอุปกรณ์สีเทาจะเสื่อมราคา
ตรงกันข้ามกับอุปกรณ์สีขาว ที่สามารถคงคุณค่าหรือเพิ่มราคาได้อีกยาวนาน
ดังนั้นเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือการโล๊ะอุปกรณ์สีเทา
การเข้ามาโลกวิญญาณในช่วงสองครั้งที่ผ่านมา ฮังอวี่เก็บเกี่ยวได้เป็นจำนวนมาก!
ถึงครั้งแรกจะเก็บเกี่ยวได้ค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังดรอปอาวุธสีเทาที่ไม่ได้ใช้ถึงสามชิ้น ได้แก่ หอก ไม้เท้า และเกราะอก
ในจำนวนพวกนี้ ไม้เท้ากับเกราะอก อาจารย์ซูจองไว้แล้ว ดังนั้นไม่สามารถขายได้ จึงเหลือแค่หอก
แต่การเก็บเกี่ยวในครั้งถัดมา เขากอบโกยได้มากเป็นพิเศษ
ฮังอวี่ได้รับอุปกรณ์คุณภาพสีเทาใสถึงแปดชิ้น!
สำหรับหน้าไม้แบล็ควูด ฮังอวี่เก็บไว้ใช้งานเอง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นอกจากอุปกรณ์สีเทาที่มีประโยชน์ และอุปกรณ์สีขาวที่ยังไม่ตั้งใจขายในตอนนี้แล้ว ปัจจุบันฮังอวี่มีอุปกรณ์ที่สามารถขายได้บนตัวเขาถึงแปดชิ้น!
และฮังอวี่วางแผนจะขายพวกมันทั้งหมด!
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดระบายพวกมันออกในคราเดียว
ดังคำกล่าวที่ว่า ของยิ่งหายากยิ่งล้ำค่า หากคุณนำมันออกมาทั้งหมดในครั้งเดียว แม้จะส่งกระทบรุนแรง แต่พอถึงเวลาเจรจาต่อรอง กลับไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตกลงราคา
ดังนั้นวิธีที่เหมาะสมที่สุดก็คือ นำออกมาชิ้นเดียวก่อนเพื่อประเมินราคา จากนั้นค่อยดึงส่วนที่เหลือตาม
ฮังอวี่หยิบหอกออกมาจากพื้นที่เก็บของ
[หอกแบล็คฟอเรสต์สภาพดีเยี่ยม] : อุปกรณ์เลเวล 3 สีเทาคุณภาพสูง การโจมตีทางกายภาพ +5 ค่าความทนทาน)15 (ต้องใช้หินคริสตัลเทาหกก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)
อุปกรณ์สีเทาใสชิ้นนี้มีพลังโจมตีที่ดี มันสูงกว่าดาบสั้นของฮังอวี่ถึง 1 หน่วย ยังไงก็ตาม คุณภาพของมันด้อยกว่า
เนื่องจากอุปกรณ์สีขาวขึ้นไปมักจะบวกคุณสมบัติเพิ่มเติม
อย่างดาบสั้นของฮังอวี่ มันช่วยเพิ่มความว่องไว +1
อาศัยแค่ความว่องไว +1 เพียงอย่างเดียว มูลค่าของมันก็สูงกว่าหอกชิ้นนี้แล้ว
หอกชิ้นนี้คือหนึ่งในอุปกรณ์ที่แย่ที่สุดในบรรดาแปดชิ้น
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ไม่ดีในสายตาของฮังอวี่ มันกลับทำให้ดวงตาของเหล่าเซี่ยงเป็นประกาย ทั้งคนทั้งร่างดีใจจนเนื้อเต้น “อาวุธสีเทาใสเลเวล 3! ไม่เลว! ไม่เลวเลย! เป็นของดี!”
ตอนนี้มีหลายคนขายอุปกรณ์อยู่ในค่าย แต่เกือบทั้งหมดล้วนเป็นสีเทาขุ่นเลเวล 1
น้อยนักที่จะมีสีเทาอ่อนเลเวล 1 ปรากฏขึ้นสักครั้ง สำหรับอุปกรณ์สีเทาใสเป็นอะไรที่หายากมาก ไม่ต้องกล่าวถึงอาวุธชิ้นนี้ที่เป็นสีเทาใสเลเวล 3
เจ้าหนุ่มนี่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ!
หัวใจของเหล่าเซี่ยงตื่นเต้นมาก เขารู้ดีว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้มีความหมายต่อเขาอย่างไร
สำหรับตนแล้ว เจ้าสิ่งนี้สามารถทำประโยชน์ได้มากกว่าเงิน!