ตอนที่ 71 ความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดินี
สองพ่อลูกคุยกันสักพัก ตัดสินใจแผนในอนาคต ในเวลาเดียวกัน กู่หลินเทียนยังถามกู่ฉางเกอว่าเจอปัญหาอะไรไหมกับการบ่มเพาะ และต้องการความช่วยเหลือไหม เขาเป็นพ่อที่เอาใจใส่มาก
กู่ฉางเกอไม่อาจบอกพ่อเขาได้ว่าการบ่มเพาะของเขาตอนนี้ขึ้นอยู่กับการใช้แต้ม ขณะที่เขามองใบหน้าอ่อนโยนของพ่อเขา เขาก็ตัดสินใจว่าเขาต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อเพิ่มพลังเขา แม้ตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งพอแล้ว แต่ก็มีหลายคนในโลกที่มีเจตนาร้าย
แถม ความรู้สึกของการมีอำนาจ และเล่นทุกอย่างในมือได้ก็ช่างสุดยอด
มันน่าเหลือเชื่อ!
ก่อนเขาจะออกตำหนักพ่อเขา กู่หลินเทียนก็พูดอีก“แม่ของเจ้าเองก็คิดถึงเจ้ามาก เจ้าควรแวะไปสำนักเทพดั้งเดิมบ้างถ้ามีเวลา”
กู่ฉางเกอพยักหน้า“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านพ่อ!”
ความทรงจำแวบผ่านหัวของกู่ฉางเกอพอพูดถึงแม่ ย้อนกลับไป แม่ของเขาคือเทพธิดาแห่งสำนักเทพด้ังเดิม ส่วนพ่อเขาคือผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่สุดของสำนักเทพดั้งเดิม
สำนักเทพดั้งเดิมมักเป็นมิตรกับตระกูลกู่ มันเป็นสำนักโบราณที่ยืนหยัดมาหลายยุคสมัย และยังเป็นดินแดนเซียน สถานะมันไม่ด้อยกว่าดินแดนสูงสุดใดเลย
กู่ฉางเกออดปลื้มปลิ่มใจไม่ได้
เขาคือทายาทที่มีภูมิหลังน่ากลัวมาก ต่อให้เขาเกิดเป็นขยะ ก็จะไม่มีใครกล้ายั่วยุเขา เหนือสิ่งอื่นใด แม่ของเขามีชื่อเสียงมากในการปกป้องลูกตัวเอง
มันเป็นธรรมชาติที่เขาจะโตมาเป็นคนที่ชอบกลั่นแกล้งคนอื่น
แน่นอน ใครก็ตามที่คุ้มเคยกับเนื้อเรื่องจะรู้ว่าเขาคือวายร้ายที่สามารถพบได้ทั่วและมีจุดจบไม่สวย
“ไม่ช้า เด็กสาวนั่น หมิงคงจะมาที่นี่พร้อมพ่อนางเพื่อคุยเรื่องงานหมั้นระหว่างพวกเจ้า ทำให้มั่นใจว่าเจ้าจะไม่มองนางเหมือนเดิม เหนือสิ่งอื่นใด นางคือว่าที่ภรรยาเจ้า”
กู่หลินเทียนดูเหมือนจะจำอะไรได้และพูด“เจ้าเคยไม่ชอบนิสัยอ่อนแอของนาง แต่การกระทำของนางครึ่งปีก่อนต้องทำให้เจ้าแปลกใจ นางแสดงความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดินีแล้ว!หมิงคง เด็กสาวคนนั้นเหมาะกับเจ้ามาก แม่ของเจ้ากับข้าชอบพอนางมาก ถ้าเจ้าสามารถได้นางมาช่วยในอนาคต เจ้าจะปกครองได้ทั้งโลก ไม่ว่ามันจะใหญ่แค่ไหน”
“ท่าานพ่อ ท่านวางใจได้”
กู่ฉางเกออดตัวแข็งไม่ได้หลังได้ยิน แต่ไม่ช้าก็ได้สติและพยักหน้า ในเวลาเดียวกัน ภาพของเทพธิดาก็แวบผ่านหัวเขา
คู่หมั้นเขา เจ้าหญิงสี่ของราชวงศ์เซียนสูงสุด เจ้าหญิงเยวี่ยหมิงคง
ความสนใจปกคลุมหน้าเขาพอนึกถึงนาง ในเวลาเดียวกัน เขาก็สงสัยว่าถ้าคู่หมั้นคนนี้ของเขาคือธิดาแห่งสวรรค์ละ?
เขานึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับคู่หมั้นในหัวเขา เจ้าหญิงสี่ของราชวงศ์เซียนสูงสุดคือสาวงามที่มีภูมิหลังน่ากลัว และนางก็มีอำนาจสูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา พรสวรรค์ ภูมิหลัง หรืออะไรอื่น มีผู้หญิงไม่มากที่เทียบนางได้
จากความทรงจำเขา เขาตระหนักว่าตัวเขาคนก่อนไม่มีความรู้สึกอะไรต่อนางเลย เขามักมองนางอย่างไม่แยแสและทิ้งระยะ และท่าทีของเขาต่อนางก็ไม่คล้ายกับที่ผู้ชายควรมีต่อคู่หมั้น เขามักรู้สึกว่าในฐานะเจ้าหญิงของราชวงศ์เซียน เยวี่ยหมิงคงไม่เหมาะสมเลยหากเป็นด้านนิสัยและความเจ้าเล่ห์
นอกจากนั้น เขาไม่เคยทำอะไรกับนาง เขาไม่เคยยั่วโมโหนาง และดูเหมือนจะไร้ความแค้นระหว่างพวกเขา และในเมื่อพวกเขามาที่นี่เพื่อคุยงานหมั้น เขาสงสัยว่ามันจะเป็นตามเรื่อง’งานหมั้นนองเลือด’หรือเปล่า?
กู่ฉางเกออดมึนงงไม่ได้ตอนเขาคิดถึงเรื่องนี้ ในความคิดเขา ธิดาสวรรค์ในอาณาจักรเบื้องบนต้องไม่ง่าย ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังหรือแผนการ มันต้องเหนือกว่าบุตรฟ้าประทานในอาณาจักรเบื้องล่างแน่
การปฏิบัติแบบนี้…นี่คือภรรยาที่สงวนไว้ให้บุตรฟ้าประทานเท่านั้นเหรอ?
ด้วยความรู้ของเขาจากนิยายทั้งหมดที่เคยอ่านมา ความเป็นไปได้นั้นยังไม่ถูกตัดออกตัวเลือก
ระบบไม่ได้บอกเขาว่าใครคือธิดาสวรรค์ เขาจึงทำได้แค่พึ่งพาความรู้จากชาติก่อนเพื่อเดา แน่นอน เมื่อเขาพบเจอนางเอง เขาจะสามารถเดาได้หมด สำหรับตอนนี้ มันไม่สำคัญต่อให้การเดาของเขาจะไม่ผิด
หลังอกจากสถานที่ของพ่อเขา กู่ฉางเกอก็ตรงกลับไปเกาะบุตรพเทพที่เขาพำนัก ระหว่างทาง เขารู้สึกถึงกลิ่นอายน่ากลัวนับไม่ถ้วนที่พวยพุ่งรอบ เหล่านั้นคือกลิ่นอายที่คนอื่นในตระกูลเผลอปลดปล่อยท่ามกลางการบ่มเพาะ
เกาะศักดิ์สิทธิ์แต่ละแห่งในเขตชั้นในมค่ายกลปกปิดของมันที่ป้องกันคนจากการสอดแนม แต่ค่ายกลเหล่านั้นจะสะกดกลิ่นอายของผุ้ยิ่งใหญ่ตอนบ่มเพาะได้ไง?
ถ้ามองจากระยะไกล พวกเขาจะเห็นวิสัยทัศน์ของยักษ์ที่สามา่รถกลืนดาวและเด็ดจันทร์
ถ้าเข้าไปลึกขึ้นอีกนิด พวกเขาจะเจอกับวังลอยฟ้า ปกคลุมด้วยหมอกโกลาหลและพลังวิญญาณที่มีทั่ว ถ้าเข้าไปลึกกว่านั้นอีก พวกเขาจะถึงดินแดนบรรพชนของตระกูลเซียนกู่
ตระกูลเซียนกู๋สามารถอยู่รอดมาได้หลายยุคสมัยในอาณาจักรเบื้องบนเพราะพวกที่หลบในดินแดนบรรพชน ตอนศัตรูมาเคาะประตู ลูกหลานจะกรูกันไปดินแดนบรรพชน และขุดพวกสัตว์ประหลาดเฒ่าที่จำศีลมาหลายยุคสมัยให้ตื่นขึ้น
ตลอดมา ตระกูลเซียนกู่ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในขุมอำนาจที่ลี้ลับสุดของอาณาจักรเบื้องบน แม้แต่ลูกหลานก็ยังไม่แน่ใจถึงพลังแท้จริง นั่นทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะรู้ แน่นอน ไม่มีใครกล้าขุดหลุมบรรพชนเพื่อดูอยู่แล้ว
…
การกลับมาของกู่ฉางเกอทำให้เกิดความวุ่นวาย สมาชิกตระกูลหลายคนรู้ว่าเขาลงไปอาณาจักรเบื้องล่าง แต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหนกันแน่ หรือว่าพิกัดมิติใด หรือทำไมเขาถึงลงไป
ในความเป็นจริง มีหลายคนในตระกูลคอยจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของเขา แม้ตระกูลกู่จะดูมั่นคงจากภายนอก แต่ภายใน พวกเขากำลังทำสงครามกัน
แม้กู่ฉางเกอจะเป็นนายน้อยตระกูล เขาก็ยังไม่ใช่ว่าที่ผู้นำ ผู้อาวุโสจะเป็นคนตัดสินว่าเขาจะได้ดำรงตำแหน่งไหม
ในฐานะตระกูลใหญ่ พวกเขามีเชื้อสายนับไม่ถ้วนภายในตระกูล และความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อสายต่างๆก็ไม่ได้ดี นอกจากเชื้อสายหลักของกู่ฉางเกอ ยังมีเชื้อสายหลักอีกสี่ในตระกูลกู่ ไม่นับรวมเชื้อสายที่เสื่อมถอยไปแล้วหนึ่ง
ทุกเชื้อสายต่างอยากดำรงตำแหน่งผู้นำเพราะจะสามารถสั่งการบ้านอื่นได้หมด และปกครองดินแดนกว้างขวาง
แน่นอน แม้ตระกูลจะอนุญาตให้แข่งขัน พวกเขาก็กำหนดว่าห้ามไม่ให้คนตระกูลเดียวกัน่ากันเองหรือทำให้พิการ ผู้อาวุโสชอบดูความขัดแย้งระหว่างผู้เยาว์
เรื่องของเชื้อสายกู่หลินเทียนที่ข่มเหงอีกเชื้อสายหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นเหตุให้เชื้อสายพวกเขาเสื่อมถอยยังทำให้เกิดคลื่นหลายลูกท่ามกลางเหล่าผู้อาวุโสของตระกูล
..
[ตอนนี้ บนยอดเขาหลักของเชื้อสายหนึ่งของตระกูลกู่]
ต้นไม้โบราณสูงเสียดฟ้า และวังโอ่อ่าก็สามารถเห็นได้รอบๆ เปล่งแสงสว่างเจิดจ้า มีคนชรากลิ่นอายยิ่งใหญ่กำลังคุยกัน
“เจ้าเด็กนั่น ฉางเกอดูจะแข็งแกร่งกว่าเดิมหลังเขากลับจากอาณาจักรเบื้องล่าง เขาได้ไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรราชาแล้ว!ไม่มีอัจฉริยะจากเชื้อสายอื่นที่สู้กับเขาได้อีก!”
หญิงชราที่ปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์พูด นางคือหนึ่งในผู้อาวุโสตระกูลกู่ที่มีกลิ่นอายและฐานบ่มเพาะน่ากลัว
“ไม่ว่าเราจะมีปัญหาอะไรกับเขา เราก็ต้องยอมรับพรสวรรค์ของกุ่ฉางเกอในด้านบ่มเพาะว่าเขาเหนือกว่าใครในโลก!ฉายาบุตรพระเจ้าของเขาไม่ได้มาเสียเปล่า ข้ากลัวว่ามันคงไม่นานก่อนเขาจะทะลวงไปอาณาจักรเทพแท้จริง!”
ชายชราที่นั่งข้างนางพูดเสริม แม้เขาจะไม่ได้มาจากเชื้อสายเดียวกับกู่ฉางเกอ เขาก็ยังอดชมไม่ได้ มันเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่มีอัจฉริยะเช่นนี้ในตระกูล
“ดูเหมือนตำแหน่งผู้นำจะตกอยู่ในมือของเชื้อสายนั้นอีก นั่นจะทำให้พวกเขาปกครองเชื้อสายไปอีกสามรุ่น..”
ชายชราอีกคนส่ายหัว
“น่าเสียดายเชื้อสายของตาแก่13นั่นที่ต้องเสื่อมถอย ข้ากลัวว่าเว้นแต่บรรพชนของเชื้อสายพวกเขาจะออกมา คงไม่มีใครในตระกูลที่จะช่วยพวกเขาให้กลับมาผงาดอีกครั้งได้..”
จากนั้นอีกคนก็พูด และคำพูดของเขาก็ทำให้สีหน้าของทุกคนรอบเขาเปลี่ยนไป สีหน้าพวกเขาแสดงความกลัวและไม่เต็มใจ พวกเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้มาก สิ่งที่เกิดไปสิบกว่าปีก่อนถือเป็นตราบาปในตระกูลกู่ มันเป็นความขัดแย้งภายในที่โหดเหี้ยมที่มีแค่พวกระดับสูงถึงรู้
เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าเรื่องหลุดไป มันจะสั่นคลอนอำนาจบารมีพวกเขาและพวกเขาจะเสียหน้า ผู้บ่มเพาะหลายคนกับขุมอำนาจใหญ่จะหัวเราะเยาะพวกเขา
“ต่อให้บรรพชนของเชื้อสายเฒ่า13ตื่นขึ้นและรู้ ข้าก็เดาว่าพวกเขาคงไม่ทำอะไร ตัดสินจากพรสวรรค์ของกู่ฉางเกอ เขาจะต้องเป็นคนที่โดดเด่นในอนาคต และมีโอกาสที่เขาอาจแซงผู้นำคนปัจจุบัน!”
“พูดก็พูด ข้าต้องบอกว่าเชื้อสายของเฒ่า13ช่างน่าสงสาร ไม่เพียงจะโดนขับไล่ออกตระกูล แต่ฐานบ่มเพาะก็ยังโดนผนึก แต่ข้าได้ยินข่าวลือที่ไม่ดีต่อตระกูลเรามา พวกมันดูเหมือนจะเกี่ยวกับฉางเกอด้วย..”
“โอ้!เกิดอะไรขึ้น?”
“เด็กสาวคนนั้นจากเชื้อสายของเฒ่า13ยังไม่ตาย มันแค่ว่าเราเสียร่องรอยนางไปเพราะเราไม่ได้จับตาดูนางให้ดี คิดว่านางจะไม่มีวันกลับมาได้”
“อนิจจา!นางเป็นเด็กน่าสงสาร ถ้าเราปกป้องนางให้ดีกว่านี้ เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิด กู่ฉางเกอในตอนนั้นยังเด็ก แต่เขาก็อำมหิตแล้ว!ใครจะไปคิดว่าเขาจะโจมตีญาติตัวเองแบบนั้น..ตระกูลกู่เราจะเป็นยังไงถ้ามันตกอยู่ในมือเขา?”
ผู้อาวุโสอีกคนถอนหายใจ เขามักหวนนึกถึงตอนนั้น และลืมไม่ลง แน่นอน มันต้องขอบคุณกฏของตระกูลที่สมาชิกของตระกูลไม่อาจเข่นฆ่ากันได้ ไม่งั้นเชื้อสายนั้นอาจไม่ได้แค่โดนขับไล่..
“ดินแดนเซียนต้องห้าม..,ดูเหมือนข้าจะได้ยินข่าวเด็กนั่นมาเหมือนกัน..เราได้ปล่อยนางไปครั้งหนึ่ง อย่าปล่อยให้ผู้นำพบร่องรอยใดของนางละ”
…
ซูชิงเกอกับหลินชิวหานยืนอยู่ภายในวังใหญ่โตเงียบๆ พวกนางได้รู้กฏของตระกูลมาแล้วและรู้ว่าอะไรทำได้ ที่ไหนไปได้
กู่ฉางเกออดพยักหน้าไม่ได้หลังรู้เรื่องนี้
ไม่มีอะไรที่ต้องบอกพวกนางอีก
โดยธรรมชาติ เขาไม่ได้พาพวกนางมาอาณาจักรเบื้องบนเพื่อเป็นแจกันไว้ชม
หลินชิวหานมีพรสวรรค์น่ากลัว เขาจึงจะส่งนางไปสำนักหลอมในไม่ช้า สำหรับซูชิงเกอ?อืม ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาถ้าเขาเก็บนางไว้ข้างตัวในฐานะสาวใช้
ในฐานะสาวงามอันดับหนึ่งของแดนบูรพา นางมีเสน่ห์ล้นเหลือแม้แต่ในอาณาจักรเบื้องบน
แถม ค่าโชคของนางยังสูงกว่าอัจฉริยะหลายคนของตระกูลกู่ และนางก็ไม่ธรรมดาอย่างตาเห็น
หยานจีก็ต้องอยู่ข้างเขา
“ชิงเกอ เจ้ามีแผนยังไงในอนาคต?ในอาณาจักรเบื้องล่าง เจ้ามักพูดถึงอาณาจักรเบื้องบน แต่ตอนนี้ที่เรามาถึง เจ้ากลับไม่เปิดปากเลย?”
กู่ฉางเกอมองนางและพูดแซว
ซูชิเกอจ้องเขา“ชิงเกอรู้ว่าไม่สามารถเทียบเคียงคุณชายได้..คุณชายคงไม่ต้องการชิงเกอแล้วใช่ไหม?”
แม้ซูชิงเกอจะภูมิใจในสติปัญญานาง นางก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงกับปัจจุบัน ไม่เหมือนหลินชิวหาน ผู้ยังมีบรรพชนตัวเองในนี้ นางตัวคนเดียว ไม่มีใคร
แม้กระทั่งคนยิ่งใหญ่อย่างเฒ่าหมิงก็ยังลงเอยในเหมืองแร่ แล้วคนที่หน้าตากับหุ่นดีอย่างนางละ?นางเดาว่าชะตากรรมของนางคงน่าสังเวชมาก!