ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 9 สำเร็จมันวันละวิชา
ซู่เสี่ยวไป่ยืนมองเลือกวิชาระดับละเอียดอ่อนอย่างระมัดระวังในศาลาศาสตร์แห่งการต่อสู้
ตอนนี้เขาสามารถเรียนรู้วิชาโดยใช้ความสามารถของระบบได้ครั้งละวิชาเท่านั้น ทำให้ซู่เสี่ยวไป่จึงต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน
หลังจากที่เห็นค่าธรรมเนียมในการเรียนรู้วิชาพวกนี้แล้ว ทำให้มุมปากของเขาถึงกับกระตุก
วิชาพวกนี้ไม่มีทางเลยที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าถึง
วิชาระดับละเอียดอ่อนนั้นอย่างราคาถูกสุดก็เริ่มต้นที่ 10,000 เหรียญ จนไปถึง 100,000 เหรียญจิต
วิชาเหล่านี้เป็นสิ่งล้ำค่ามากสำหรับผู้ฝึกตน
แค่วิชาพื้นๆ ก็มีราคาสูงถึง 100,000 เหรียญจิตต่อการฝึก 1 ชั่วโมงแล้ว
“ไม่แปลกใจเลยทำไมคนรวยๆ ถึงรวยเอารวยเอา ก็ดูเล่นค่าฝึกวิชาพวกนี้สิ ถึงจะอยู่ในระดับเดียวกันแค่ราคาก็ไม่เท่ากัน”
ซู่เสี่ยวไป่ได้แต่บ่นอยู่คนเดียว
แม้ว่ามันจะแพงแต่เขาก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
แต่ด้วยราคาพวกนี้ทำให้ซู่เสี่ยวไป่พอจะแยกได้ว่าวิชาไหนดีวิชาไหนแค่พื้นๆ
ราคาถูกแปลว่าคนที่เคยฝึกฝนไปและรู้ว่าวิชานี้ห่วยมีการบอกต่อๆ กันทำให้ไม่มีคนสนใจฝึก
ราคาแพงแปลว่าเป็นวิชาที่ดีมีแต่คนอยากจะฝึก
ซู่เสี่ยวไป่ไม่ได้มองข้ามในจุดนี้
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้สามารถทำให้รับรู้ได้
ซู่เสี่ยวไปเลือกดูอย่างหลายครั้ง
“วิชาฝึกฝนร่างกายต้องเอาที่เพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายและเสริมสร้างกำลัง”
“ศาสตร์แห่งอาวุธ ตอนนี้ฉันยังไม่มีอาวุธเลยด้วยซ้ำ งั้นข้ามไปก่อน”
“วิชาควบคุมธาตุ สามารถใช้การโจมตีแบบธาตุมีทั้ง ลม สายฟ้า ไฟ และอื่นๆ…”
หลังจากซู่เสี่ยวไปครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็ตัดสินใจ
“เอาสามวิชานี้แหละ”
และเขาได้เลือกที่จะเรียนรู้วิชาตามลำดับดังนี้
สองในสามของวิชาที่เลือกมาเป็นวิชาฝึกฝนร่างกายระดับละเอียดอ่อน *วิชากายาเพชร* และ *้เหยียบย่ำข้ามนภา*
และอีกวิชาคือการควบคุมธาตุระดับฝึกหัด *หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้*
วิชากายาเพชรนั้นตรงตัวของมันเลยคือวิชาที่เพิ่มความคงทนให้กับร่างกายและความแข็งแกร่งราคาในการฝึกวิชานี้อยู่ที่ 30,000 เหรียญจิตต่อชั่วโมง
เหยียบย่ำข้ามนภา เป็นวิชาย่างก้าวที่สามารถเพิ่มความเร็วให้สองเท่าเมื่อบรรลุขั้นฝึกหัด และเมื่ออยู่ในขั้นสูงสุดผู้ใช้จะมีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ราคาในการฝึกวิชาอยู่ที่ 20,000 เหรียญจิตต่อชั่วโมง
หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ วิชาควบคุมธาตุไฟพื้นฐาน แต่อนุภาพของมันร้ายกาจ เมื่อถึงขั้นพื้นฐานแล้วเปลวเพลิงที่สร้างขึ้นมานั้นสามารถละลายได้กระทั้งหิน ลองคิดภาพถ้าไฟนี้ไปโดนตัวคนเข้าหล่ะ แค่คิดก็สยองแล้ว
ทำให้ราคาในการฝึกวิชานี้แพงที่สุดอยู่ที่ 140,000 เหรียญจิตต่อชั่วโมง
“ถึงเวลาเรียนรู้!!”
ซู่เสี่ยวไป่ผลาญเงิน 190,000 เหรียญไปในพริบตา เพื่อเปิดห้องฝึกระดับ A ในหอฝึกยุทธ เพื่อเรียนรู้วิชาทั้งสามในเวลา 3 ชั่วโมง
แต่มันไม่จำเป็นสำหรับซู่เสี่ยวไป่เลย
เพราะเขาไม่ได้ที่ต้องการจะมาฝึกในห้องระดับ A
สิ่งที่เขาต้องการคือโต๊ะและเก้าอี้โง่ๆ 1 ชุด แล้วเขาจะค่อยๆ อ่านตำราวิชาพวกนี้อย่างตั้งใจที่ละหน้า
ตำราพวกนี้ไม่เหมือนตำราเรียน
ไม่ได้มีแค่ตัวหนังสือแต่มีภาพประกอบด้วย
ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ต้องจดและจำทุกอย่างที่อยู่ในตำราให้ได้แม่นย่ำที่สุด ไม่งั้นเขาจะไม่สามารถนำมาใส่เข้าไปในระบบฝึกวิชาของเขาได้ ทำให้ซู่เสี่ยวไป่นั้นตั้งใจเรียนรู้และดูตำราทั้งสามเล่มอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเขาลงทุนไปมากกับครั้งนี้
….
หนึ่งวันผ่านไป
“-ติ๊ง *กายาเพชร* สำเร็จถึงขั้นฝึกหัดแล้ว-”
เมื่อได้ยินมีเสียงของระบบแจ้งเตือนขึ้น ซู่เสี่ยวไป่ก็รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ผิวหนังดูเปล่งปลั่งกว่าเดิมหากมองดูดีๆ จะเห็นเหมือนเป็นชั้นใสๆ เหมือนแก้วเป็นชั้นนอกของผิวหนัง
เขารู้สึกถึงความแน่นของกล้ามเนื้อทั้งตัว และเห็นถึงกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจนขึ้น
“เป็นอย่างที่คิดวิชาขั้นละเอียดอ่อนนั้น เป็นอะไรที่เรียบง่าย”
ซู่เสี่ยวไป่รู้สึกดีไม่น้อย
เขาลองนำส้อมมาแล้วแทงเข้าที่ผิวหนังเขาอย่างแรง
เกร็ง!!
ส้อมนั้นแทงไม่เข้าแถมยังงอจนม้วน บนผิวของซู่เสี่ยวไป่แทบไม่มีรอยขีดข่วน
เป็นวิชาที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในขั้นฝึกหัดเหมือนกับวิชาฝึกฝนร่างกายพื้นฐาน แต่กลับมีประสิทธิภาพสูงกว่า
(แก้ไขครับครั้งก่อนผมแปลผิดไป วิชาฝึกฝนร่างกายพื้นฐานในขั้นพื้นฐาน ต้องสำเร็จเป็นขั้นฝึกหัด)
วิชาฝึกฝนร่างกายนั้นแตกต่างจากศาสตร์แห่งอาวุธ และวิชาควบคุมธาตุ
เมื่อสำเร็จแล้วผลของมันจะติดอยู่กับร่างกายตลอดไป
การฝึกศาสตร์แห่งอาวุธจำเป็นต้องใช้พลังภายในเพื่อออกวิชา เช่นเดียวกับการฝึกควบคุมธาตุ เพราะหากไม่มีการใช้กำลังภายในแล้วก็จะไม่สามารถใช้วิชาเหล่านี้ได้
แต่ร่างกายหากแข็งแกร่งแล้ว ก็ยังคงแข็งแกร่งตลอดไป
“พละกำลังมากขึ้นจริงๆ จะหยิบจะจับอะไรก็ได้ดั่งใจไปหมด”
ซู่เสี่ยวไป่นำส้อมเมื่อครู่มาม้วนปั้นเป็นลูกบอลเหล็ก
ก่อนที่จะโยนมันทิ้งพร้อมกับหยิบหินที่วางรองขาโต๊ะออกมาแล้วปาใส่เท้าตัวเอง
ตุบ!!
แต่ก็ไร้ซึ้งรอยขีดขวดเช่นเดิม
“สุดยอดเลยเว้ย”
ซู่เสี่ยวไป่รู้สึกสนุกกับการทดสองความแข็งแกร่งของร่างกายเขา
อีกวันผ่านไป
“-ติ๊ง *เหยียบย่ำข้านภา* สำเร็จขั้นฝึกหัดแล้ว-”
ในคืนนี้ ซู่เสี่ยวไป่ได้เปลี่ยนวิชาที่ฝึก เพราะการสำเร็จขั้นฝึกหัดนั้นง่ายกว่า การสำเร็จขั้นพื้นฐาน
ฟิ้ว!!
ซู่เสี่ยวไป่ไปลองวิชาในที่โล่ง เพียงแค่ออกตัวร่างของซู่เสี่ยวไป่พุ่งราวกับลูกศรถูงยิงออกจากคันธนู
เขาวิ่งเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาไม่ถึง 20 วินาที
ตอนนี้ความเร็วของเขาเหนือกว่าเขตแดนจอมยุทธเสียอีก
ตอนนี้เขาอยู่ในเขตแดนกึ่งผู้ฝึกยุทธขั้นสูง อีกก้าวเดียวก็จะเข้าสู่เขตแดนผู้ฝึกยุทธ
นอกจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นจากวิชาเหยียบย่ำข้ามนภา อย่างอื่นก็ถูกคัดเกลาให้รวดเร็วขึ้นด้วยทั้งประสาทสัมผัสการตอบสนอง ทุกอย่างทุกคัดเกลาให้เร็วขึ้น
“โครตดี”
“ความแข็งแกร่งนี้มันรู้สึกดีจริงๆ เว้ย”
แววตาของซู่เสี่ยวไป่เต็มไปด้วยความสุขอย่างเต็มเปี่ยม
เขาบรรลุแล้วว่าถึงเส้นทางของผู้ฝึกตนถึงยากเย็นแสนเข็ญ แต่ก็มีผู้คนอีกมากมายอย่าจะเดินในเส้นทางนี้ เพราะเมื่อใดที่ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคและบททดสอบที่ยากเย็นแสนเข็ญมาได้แล้ว เขาผู้นั้นจะได้ลิ้มรสชาติของผู้อยู่เหนือสรรพสิ่งและธรรมชาติ
ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเสพติดรสชาติของพลังมากขึ้นเท่านั้น
5 วันผ่านไป
“-ติ๊ง *หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้* สำเร็จขั้นฝึกหัด-”
เสียงแจ้งเตือนนี้ทำให้ซู่เสี่ยวไปถึงกับตัวสั่นไปทั้งตัว
ในที่สุด!!!
กายาเพชรใช้เวลาวันเดียว
และเหยีบมย่ำข้ามนภาก็ใช้เวลาแค่วันเดียว
แต่หัตถ์อัคนีเที่ยงแท้ใช้เวลาต้อง 5 วัน
เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นวิชาที่ฝึกฝนได้ยากกว่าวิชาอื่น
แม้ว่าจะมีพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวซึ่งในมิตินั้นเวลาจะเร็วกว่าโลกภายนอกถึง 2 เท่าก็ตาม แต่การฝึกวิชาก็ยังใช้เวลา 5 วันเต็มๆ ถ้าหากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นจำเป็นต้องฝึกพร้อมกับการใช้กระแสพลังภายในเพื่อฝึกฝน และต้องมีความเข้าใจวิชานี้อย่างแท้จริง และต่อให้ฝึกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งปี ก็เกรงว่าจะไม่สำเร็จถึงขั้นฝึกหัดด้วยซ้ำ
“พี่จะไปไหนคะ”
“พี่รู้สึกว่ากินอิ่มเกินไปหน่อย ว่าจะออกไปเดินเล่นให้อาหารย่อย”
เมื่อซู่เสี่ยวไป่ออกมาด้านนอกเขาก็ไปหาพื้นที่โล่งทันที
ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวาตรวจสอบว่าไม่มีใครแถวนี้ และมองหาก้อนหินที่อยู่แถวๆ นั้น และนำฝ่ามือไปวางอยู่เหนือหินก้อน
กระแสพลังมากมายมารวมกันที่ฝ่ามือของซู่เสี่ยวไป่ ก่อนที่จะมีไฟลุกโชนขึ้นบนฝ่ามือ
ฝ่ามือของซู่เสี่ยวไป่นั้นแดงฉานราวกับไฟลาวา
“ร้อนสุดๆไปเลย”
บึ้ม!!
ซู่เสี่ยวไป่กดฝ่ามือลงบนหินก้อน ทำให้หินก้อนนั้นระเบิดออกในทันที