ตอนที่ 70 พ่อของตัวร้าย
ตำหนักหรูหราด้านหน้าเขาสูงเสียดฟ้าเหมือนหอคอยโบราณ และมีอักขระนับไม่ถ้วนเปล่งแสงรอบมัน กลิ่นอายของฟ้าดินโอบล้อมมัน ทำให้มันดูเหมือนวิหารศักดิ์สิทธิ์
ภายในตำหนัก ชายวัยกลางคนที่หน้าตาคล้ายกู่ฉางเกอกำลังนั่งบ่มเพาะ พลังปราณโกลาหลหมุนรอบตัวเขา และเสียงของสวรรค์และทำนองเต๋าก็ดังรอบเขา
กลิ่นอายของเขาพุ่งขึ้นสวรรค์และกดทับโลกรอบเขา เขาเหมือนเทพโบราณที่สามารถแยกฟ้าได้ง่ายๆ และไม่มีใครสามารถคาดเดาพลังแท้จริงของเขาได้
ทันทีที่เขาเห็นกู่ฉางเกอเข้ามา เขาก็แสดงสีหน้าอ่อนโยนซึ่งจะแสดงแค่ต่อหน้ากู่ฉางเกอ ต่อหน้าคนอื่น เขาจะมักแสดงความยิ่งใหญ่ ราวกบเขาคือเทพที่ก้มมองทุกสิ่งมีชีวิต แม้กระทั่งตอนเขาออกคำสั่ง เขาก็จะใช้แค่สัมผัสวิญญาณ เขาแทบจะไม่เปิดปากพูดเอง
เขาคือพ่อของกู่ฉางเกอ ผู้นำของตระกูลกู่คนปัจจุบัน!
ในเวลาเดียวกัน เขายังเป็นหนึ่งในคนที่น่ากลัวสุดบนอาณาจักรเบื้องบน และยืนอยู่บนจุดสูงสุด คำสั่งจากปากเขาสามารถสั่นคลอนได้ทั้งอาณาจักรเบื้องบน ชี้เป็นชี้ตายคนนับไม่ถ้วน
มันไม่ใช่การพูดเกินจริงที่จะบอกว่าผู้นำตระกูลกู่คือยักษ์ที่ก้มมองโลก
“ท่านพ่อ ลูกกลับมาแล้ว”
กู่ฉางเกอหยุดตรงหน้าพ่อเขา
“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีไหม?การเดินทางของเจ้าไปยังอาณาจักรเบื้องล่างครั้งนี้ทำให้ผู้อาวุโสหลายคนไ่พอใจ พวกเขาถามถึงที่อยู่เจ้ากันไม่หยุดปาก และก็ไม่หยุดสร้างปัญหา”
กู่หลินเทียนพูดด้วยรอยยิ้มอ่อน
ความจริงที่กู่ฉางเกอมีใจมารไม่เป็นที่รู้กันเท่าไรในตระกูลกู่ มีแค่พ่อแม่เขา กับบรรพชนบาส่วนและคนใกล้ชิดถึงรู้เรื่องนี้
เรื่องที่เขามีใจมารเป็นเรื่องอ่อนไหว ตั้งแต่มันปรากฏครั้งแรก กู่ฉางเกอก็คือคนที่เก้าที่ครอบครองใจมาร และเป็นคนเดียวที่ยังมีชีวิต
ผู้ครองใจมารคนที่แปด ไม่ว่าภูมิหลังจะเป็นไงหรือยิ่งใหญ่จากไหน ก็จะเปลี่ยนเป็นมารร้ายที่นำหายนะมาสู่โลก
คนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจะมีจุดจบไม่สวย!
การปรากฏของใจมารคล้ายกับสัญญาณร้าย ในอาณาจักรเบื้องบน ผู้ครองใจมารจะไม่ได้แค่ถูกมองเป็นศัตรูของโลก แต่พวกเขายังโดนโลกอื่นเลี่ยงเหมือนโรคระบาด
การกำเนิดของกู่ฉางเกอที่มาพร้อมใจมารทำให้กู่หลินเทียนตกตะลึง โชคดี เขาตอบสนองเร็วพอและรีบปิดข้อมูลนี้ไว้ในตระกูล ตอนนี้ มีแค่คนสนิทน้อยคนที่รู้เรื่องนี้
โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่น แค่ความจริงที่กู่ฉางเกอมีใจมารก็มากพอจะส่งผลต่อตำแหน่งผู้นำตระกูลของเขาแล้ว พรสวรรค์ของเขาไม่มีค่าต่อความจริงนั้น และความเป็นศัตรูที่เขาจะได้รับในตระกูลก็จะไม่ต่างจากที่เขาได้รับจากโลกภายนอ
สมาชิกที่เหลือของตระกูลกู่จะไม่มีวันยอมให้เขาเป็นผู้สืบทอด!
โชคดี ช่วงแรก กู่ฉางเกอพบเด็กสาวในตระกูลที่มีกระดูกเต๋า เพื่ออนาคตของกู่ฉางเกอ กุ่หลินเทียนตัดสินใจขุดเอากระดูกเต๋าของนางออกมาให้กู่ฉางเกออย่างเด็ดขาดเพื่อปกปิดใจมารของเขา
พวกเขาใช้มันปกปิดมาได้กว่าสิบปีโดยไม่มีใครพบความจริง
ผู้อาวุโสตระกูลกับคนอื่นที่รู้เรื่องเหตุการณ์[ขุดกระดูกเต๋า]ต่างโดนขับไล่ออกจากตระกูลกู่ และแม้แต่ฐานบ่มเพาะก็ยังโดนผนึก
เชื้อสายที่เคยรุ่งโรจน์ของพวกเขาค่อยๆเสื่อมโทรม และเรื่องก็โดนกลบฝังไปตามเวลา
มันแค่ว่าตอนเขาพยายามหาตัวเด็กสาว เขาก็ตระหนักว่านางดูเหมือนจะหายไปอย่างไร้ร่อยรอย ตอนนั้น พวกเขายังจัดการนางไม่เสร็จ และปล่อยให้ผู้อาวุโสสายเลือดนางพานางไป ตอนพวกเขาสอบถามถึงที่อยู่นาง พวกเขาก็ตระหนักว่านางหายไปไม่ช้าหลังออกไปกับผู้อาวุโสคนนั้น
ต่อให้เขาจะสืบที่อยู่ของนางหลายครั้ง เขาก็ไม่เจออะไร เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นการกระทำที่น่าละอาย แม้บรรพชนของตระกูลหลายคนจะทำเป็นหลับหูหลับตา และคนครอบครัวนางก็ค่อยๆน้อยลงในตระกูลกู่ แต่ใครจะไปบอกได้ว่าไม่มีสัตว์ประหลาดเฒ่าหนึ่งหรือสองตัวจากเชื้อสายนั้นที่ซ่อนอยู่ในดินแดนบรรพชนของตระกุล?
เหนือสิ่งอื่นใด สัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งหมดของตระกูลกู่ถูกฝังอยู่ในดินแดนบรรพชน เว้นแต่จะขุดออกมา ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายตายหรือแค่บ่มเพาะ
“ข้าทำสำเร็จ”
กู่ฉางเกอตอบด้วยรอยยิ้มพอนึกได้ว่าพ่อของเขารักเขาแค่ไหน
ในฐานะตัวร้าย พ่อแม่ของพวกเขามักเอาใจใส่เด็กจนเสียคนและแสดงความรักซะจนออกหน้า ต่างกับพวกบุตรฟ้าประทานที่พ่อแม่ไม่ใยบดี
“ไหนเอาออกมาให้พ่อดูหน่อย ตอนนี้ เจ้าคงยังควบคุมอาวุธของผู้ครอบครองใจมารคนก่อนไม่ได้”
กู่หลินเทียนพูด
“ครับ’
กู่ฉางเกอตอบ และจากนั้นก็สั่งการ ทันใดนั้น ง้าวมารก็หายไปจากคลังอาวุธของระบบ
[ฮึ่ม!]
มิติสั่นสะเทือน และไอสังหารน่ากลัวที่ดูเหมือนปรารถนาจะทำลายฟ้าดินก็ปรากฏ ง้าวมารปรากฏตรงหน้ากู่ฉางเกอ
แต่ทว่า ตอนนี้ พลังน่ากลัวแต่เดิมมันโดนสะกดและเปลี่ยนเป็นเปลวไฟขนาดเล็กราวกับมีบางคนสะกดมันไว้ กู่ฉางเกอสามารถเห็นได้ว่ามันไหววูบเหมือนเทียนที่พร้อมจะดับ ง้าวมารถ่ายทอดความกลัวของมันให้เขาขณะที่มันสั่นในมือเขา
“ท่านพ่อ ท่านทำมันกลัว”
กู่ฉางเกอพูด
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ปล่อยสัมผัสวิญญาณเพื่อปลอบง้าวน้อยขี้กลัว น่าเสียดาย มันไม่ง่ายที่จะกำจัดความกลัวของง้าวต่อหน้าผุ้ยิ่งใหญ่อย่างกู่หลินเทียน ตอนจิตสำนึกมันเกิด ง้าวก็คิดว่ามันยิ่งใหญ่สุดในโลก แต่หลังมันเจอกู่หลินเทียน มันก็ตระหนักว่ามันเหมือนมดน้อย
“มันดูเหมือนว่าเจ้าจะได้โชคลาภก้อนโตมา ข้าไม่รู้สึกอะไรเลยตอนเจ้านำมันออกมา ดี!แม่ของเจ้ากับข้าจะได้วางใจ และไม่ต้องฟังนางบ่นข้าอีก”
“ดีที่สิ่งนี้ไม่มีเจตนาร้ายต่อเจ้า ไม่งั้นก็คงไม่จำเป็นต้องเก็บจิตสำนึกมันไว้ สมบัติไร้วิญญาณดีกว่ามาก...”
กู่หลินเทียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และจากนั้นก็ถอนสัมผัสวิญญาณหลังตรวจสอบมันจนพอ
แม้ง้าวมารจะมีต้นกำเนิดพิเศษและเป็นอาวุธของผู้ครองใจมารคนก่อน มันก็ไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าคนอย่างเขา ต่อให้มันกลับสู่จุดสูงสุด แค่ความคิดเดียวจากเขาก็มากพอจะสะกดมัน
แต่เนื่องจากมันเป็นอาวุธของฉางเกอแล้ว เขาจึงไม่สนใจ กู่ฉางเกอมีความลับอื่นอีกมากเช่นกัน แต่เขาไม่เคยถามถึง เขาไม่สนใจที่กู่ฉางเกอเก็บความลับต่อเขา
แต่ถ้าเกิดมีอะไรมาคุกคามลูกชายเขา งั้นเขาก็จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อป้องกัน และจะไม่ยอมให้ใครหรืออะไรก็ตามมาทำร้ายเขา
กู่ฉางเกอตอบด้วยการพยักหน้า เขาไม่ใช่คนไร้หัวใจและเข้าใจดีว่าพ่อของเขาห่วงใยเขาแคต่ไหน แม้เขาจะเป็นตัวร้าย มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไร้ความรู้สึก เขาแค่ถูกกำหนดมาให้เป็นศัตรูกับบุตรฟ้าประทาน
“ฐานบ่มเพาะเจ้าก้าวกระโดดขึ้นด้วย ข้าไม่คิดว่าจะมีอัจฉริยะคนใดจากขุมอำนาจอื่นที่สู้เจ้าได้แล้ว”
กู่หลินเทียนอดชมไม่ได้ ย้อนกลับไปตอนเขาอายุพอๆกับกู่ฉางเกอ เขาเพิ่งถึงอาณาจักรราชาเซียน แต่กู่ฉางเกอกลับเป็นจุดสูงสุดของอาณาจักรนั้นแล้ว ..ไม่สิ เขาห่างจากจักรพรรดิเซียนแค่ครึ่งก้าว
มีอัจฉริยะมากมายในอาณาจักรเบื้องบน แต่คนเหล่านั้นเทียบกู่ฉางเกอไม่ติด
“ท่านพ่อ ท่านก็ชมข้าเกินไป!’
กู่ฉางเกอตอบด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่ปฏิเสธคำพ่อเขา เหนือสิ่งอื่นใด เขาใช้ค่าโชคชะตาไปห้าพันแต้มเพื่อเพิ่มฐานบ่มเพาะเขา ด้วยพลังของเขา เขาสามารถตบเทพเสมือนได้ง่ายๆด้วยฝ่ามือเดียว
แน่นอน กู่ฉางเกอยังรู้ว่าเขามีไพ่ตายอีกมากที่พ่อของเขาไม่รู้ อย่างวิชาเซียนปีศาจกลืนกิน มันไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจพ่อเขา แต่มันคือสิ่งที่ควรปกปิดไว้ ยิ่งคนรู้น้อย มันยิ่งดี
“ง้าวมารแปดทิศคืออาวุธของผู้ครองใจมารคนก่อน แม้มันจะไม่พอเปิดเผยความจริงที่เจ้ามีใจมาร แต่ก็อย่าพยายามใช้มันเว้นแต่จะจำเป็นก่อนเจ้าจะขึ้นปกครองตระกูลกู่..”
กู่หลินเทียนแนะนำกู่ฉางเกอ เขาไม่กังวลว่าจะมีคนชิงอาวุธไปจากกู่ฉางเกอ เหนือสิ่งอื่นใด คนที่กล้าขโมยของของตระกูลกู่ยอมมีจุดจบไม่สวย แต่เขากังวลเรื่องที่คนจะรู้ว่ากู่ฉางเกอจะมีใจมารซะมากกว่า แม้กู่ฉางเกอจะเป็นนายน้อยของตระกูลกู่ แต่ตำแหน่งของเขาในฐานะผู้นำคนต่อไปก็ยังไม่มั่นคง
อาวุธนั้นดี แต่ตัวตนของว่าที่ผู้นำตระกูลกู่สำคัญกว่า
เมื่อมั่นคง พวกเฒ่าเหล่านั้นจะทำอะไรไม่ได้อีก ต่อให้ความจริงที่กู่ฉางเกอเป็นผู้ครองใจมารจะหลุด พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับเขาเป็นผู้นำ
ในความเป็นจริง กู่หลินเทียนได้วางแผนสำหรับอนาคตของกู่ฉางเกอไว้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังค่อยๆสละตำแหน่งให้
“ตรงข้ามกับความคิดข้า มันดูเหมือนว่าเจ้าจะเริ่มเห็นอะไรได้ชัดแล้ว..”
ทันใดนั้น กู่หลินเทียนก็สังเกตเห็นหยกหล่อเลี้ยงวิญญาณ และรู้สึกถึงลมหายใจของหยานจี แม้ใบหน้าของเขาจะไม่แยแสตามปกติ แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจ
“ท่านพ่อ ท่านเข้าใจผิด..”
กู่ฉางเกอตกตะลึงในตอนแรก แต่จากนั้นก็หัวเราะลั่นและอธิบายให้พ่อเขาฟัง
แน่นอน เขาไม่พูดอะไรเกี่ยวกับความบาดหมางระหว่างเย่เฉินกับหยานจี ถ้าเขาไม่พบเรื่องน่าสนใจและอยากบีบโชคของเย่เฉินจนแห้ง เขาคงไม่สนใจนาง เหนือสิ่งอื่นใด การขโมยอาจารย์ของบุตรฟ้าประทานต่อหน้าต่อตาถือเป็นอะไรที่เจ็บปวดใจมาก
ตอนนี้ที่เขากลับอาณาจักรเบื้องบน เขาจึงไม่รีบตัดสินว่าจะทำอะไรกับหยานจี แต่ทว่า ยังมีความจริงที่ว่านางมาจากอาณาจักรเบื้องบน เขาจึงสงสัยว่านางอาจรู้ความลับบางอย่าง
“นางมาจากเผ่าที่กำเนิดจากไฟแห่งฟ้าดิน ข้าคิดว่าเผ่าของนางโดนกำจัดไปแล้วซะอีก แต่ในเมื่อเจ้าชอบนาง งั้นก็เก็บนางไว้ข้างตัวเถอะ”
กู่หลินเทียนพูด เขาระบุต้นกำเนิดของหยานจีได้ทันที
เผ่าของนางเกิดจากไฟแห่งฟ้าดิน และนางก็เคยเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งสุดท่ามกลางเผ่าเทพมากมาย และเด็กๆของเผ่านี้ก็ยังเกิดมาพร้อมฐานบ่มเพาะสูงส่ง
น่าเสียดาย ทั้งหมดหายจากโลกไปนานแล้ว
ตัดสินจากหน้าตานาง นางดูเหมือนจะอยู่ในวัยยี่สิบ ส่วนกู่ฉางเกอยังหนุ่ม เขาไม่ค้านเรื่องนี้
“นางควรอยู่ในอาณาจักรจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ตอนจุดสูงสุด พรสวรรค์นางไม่เลว..”
กู่หลินเทียนพูด
‘ไม่น่าแปลกที่โชคนางจะสูง..นางเป็นอาณาจักรจอมเทพศักดิ์สิทธิ์นี่เอง”
สุดท้ายกู่ฉางเกอก็เข้าใจสถานการณ์นาง
ตอนหยานจีอยู่ในจุดสูงสุด นางคืออาณาจักรจอมเทพศักดิ์สิทธิ์!นางเคยเป็นคนที่ไปได้ทุกที่ในอาณาจักรเบื้องบน บดขยี้ดาวในฝ่ามือ และท่องผ่านจักรวาล
ในตระกูลกู่ ราชาเทพสามารถพบเห็นได้มาก ส่วนผู้บ่มเพาะอาณาจักรเทพศักดิ์สิทธิ์จึงถือเป็นยอดฝีมือตัวจริงในเชื้อสายต่างๆ สำหรับอาณาจักรจอมเทพศักดิ์สิทธิ์?พวกเขาสามารถเป็นระดับอาวุโสได้(ตระกูลกู่ก็มีหลายเชื้อสาย หลายสายเลือด)
นี่ถือได้ว่าเขาได้กำไรก้อนโตมาอีกก้อน
“ไปวังเต๋าอมตะสวรรค์ทันทีที่เจ้าว่าง จำนวนคนที่วิจารณ์เจ้าที่หายตัวไปครึ่งปีไม่น้อยเลย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังต้องจัดการเรื่องของการเป็นผู้สืบทอด..’
พอกู่หลินเทียนพูด ดวงตาของเขาก็มืดมน และฉากน่ากลัวก็แวบผ่านตา มันราวกับจักรวาลกำลังถล่ม
ตอนนี้ เขาคล้ายกับเทพสูงสุดที่สามารถระเบิดได้ทั้งจักรวาล
“โปรดวางใจ ท่านพ่อ!ลูกถูกลิขิตมาให้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในการต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งผู้สืบทอดวังเต๋าอมตะสวรรค์อยู่แล้ว”
กู่ฉางเกอพูด
พ่อของเขาคือชายที่ทะเยอทะยาน และเขาก็เช่นกัน ไม่ช้าก็เร็ว วังเต๋าอมตะสวรรค์จะต้องเป็นของพวกเขา สองพ่อลูก