ตอนที่ 69 เจ้าหญิงสี่
“ฉางเกอ เจ้ามันโหดร้าย..”
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนที่ฆ่าข้า!เจ้าคือคนที่ข้ารักมากสุด แต่ตอนนี้ เจ้าเองก็เป็นคนที่ข้าเกลียดสุด...”
เยวี่ยหมิงคงมองรอบตัวนางและหลับตา น้ำตาสามารถเห็นไดเที่หางตานาง แต่ไม่ช้า น้ำตาก็หายไปและนางก็ลืมตาอีกครั้ง เสียงของนางสงบตอนพูด และความปั่นป่วนในหัวใจก็หายไป นางชินกับหัวใจที่เจ็บปวดแล้ว
เยวี่ยหมิงคงไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อสามพันปีก่อนนางถึงดับสิ้น แต่ตอนนี้ ครึ่งปีได้ผ่านไปนับตั้งแต่นางหวนกลับมา แต่ฉากของวันที่นางแต่งงานกับกู่ฉางเกอยังสดใหม่ในหัวนาง
โลกสั่นสะเทือนกับงานแต่งของทั้งคู่ มีแต่คำอวยพรจากสวรรค์ ดอกบัวทองเบ่งบานทุกที่ และน้ำพุใสก็ไหลจากโลก นางสวมชุดแต่งงานสีแดง และสวมมงกุฏฟีนิกส์กับชุดคลุมจักรพรรดิ นางยืนอยู่ข้างข้างชายหนุ่มที่หล่อเหลาสุดในโลก
ในคืนแต่งงาน ทั้งคู่กอดกันและจิบสุราด้วยกัน
นางคิดว่าการรอและการเสียสละทั้งหมดของนางคุ้มค่า และสุดทายนางก็ได้รับความรักจากเขา!นางช่วยเขาก่อตั้งราชวงศ์เซียนที่แข็งแกร่งสุดของโลก แตกหักกับพ่อตัวเองเพื่อเขาและยังช่วยเขาล้างชื่อจากคนที่เป็นผู้สืบทอดวิชามาร...
ทว่า!หลังรอถึงสามพันปีเพื่อคืนแต่งงานกับเขา สิ่งที่นางได้รับกลับเป็นความไม่แยแสจากเขา หลังจากนั้น ความมืดไร้ขอบเขตก็กระจายรอบนาง และหัวใจนางก็เจ็บปวด สุดท้ายนางก็ตระหนักว่าคนที่นางรักมากกว่าอะไรในโลกไม่เคยรู้สึกอะไรกับนาง ทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อตัวเองทั้งนั้น
สุดท้าย เขาก็ฆ่านางอย่างเลือดเย็น!เขาแค่หลอกนางเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากข้อกังขาว่าเป็นผู้สืบทอดวิชามาร หลังเขาบีบเค้นประโยชน์จากนาง เขาก็ทิ้งขว้างนาง
ในทางกลับกัน นางเชื่อใจเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ และไม่เคยคิดว่าเขาอาจเป็นผู้สืบทอดวิชามารจริง
เยวี่ยหมิงคงอยากเรียกตัวนางในอดีตว่า’โง่’ ไม่สามารถเข้าจว่านางปล่อยให้ตัวเองโดนกู่ฉางเกอหลอกได้ไง คนอย่างเขาไม่มีหัวใจ
“ข้าควรเรียกเจ้าว่ากู่ฉางเกอ หรือเรียกว่ากู่อู่ซินดี(ไร้หัวใจ)?เจ้ามันสัตว์ประหลาดไร้หัวใจที่รักใครไม่เป็น!ข้าทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้าเป็นเวลาสามพันปี แต่เจ้าไม่เคยตอบแทนข้าคืนเลย ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสข้าอีกครั้ง ข้าก็จะไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย..’”
สีหน้าของเยวี่ยหมิงคงเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางโตแล้ว และไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาเหมือนอดีต
ในฐานะเจ้าหญิงสี่ของราชวงศ์เซียนสูงสุด นางคือคนที่ทำให้พ่อผิดหวังมากสุดในอดีต แต่ตอนนี้ แค่ครึ่งปี นางเหยียบย่ำคู่แข่งทั้งหมดของนางในตระกูล และยังไล่พี่ชายคนโตออกจากตำแหน่งรัชทายาท
วิธีการของนางได้ถูกบันทึกไว้ในราชวงศ์ แม้กระทั่งพ่อนาง ที่มักมองนางอย่างผิดหวังก็ยังชมนาง
ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณที่นางย้อนเวลากลับมาอดีต นางรู้อะไรมากมายเพราะความจริงที่นางใช้ชีวิตมาแล้วสามพันปี นางจึงสามารถก้าวเดินได้อย่างไร้ที่ติและควบคุมทุกคนได้อย่างง่ายดาย(เป็นบทนางเอกที่ย้อนเวลากลับมาหลังตาย)
“สุดท้าย ข้าก็ไม่ต่างอะไรจากเครื่องืมอในสายตาเจ้า สำหรับเจ้า ข้าไม่ต่างอะไรกับของเล่นที่เจ้าใช้เพื่อลบล้างชื่อเสียง..”
“กู่ฉางเกอ ในเมื่อเจ้าไม่เคยสนใจข้า งั้นก็อย่าตำหนิข้าที่จะพรากทุกอย่างไปจากเจ้าในชีวิตนี้!ข้าจะทำให้เจ้าประสบกับความเจ็บปวดของข้า..”
“เจ้ามันปีศาจไร้หัวใจ คนอย่างเจ้าจะมาเข้าใจความเจ็บปวดของข้าและทุกอย่างที่ข้าเคยผ่านมาได้ไง?น่าเสียดาย หรือข้าจะทำให้เจ้าตกหลุมรักข้า และจากนั้นก็ฆ่าเจ้าเหมือนที่เจ้าฆ่าข้าดี!”
“มันดูเหมือนข้าจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำลายชีวิตเจ้าจนเจ้าไม่มีทางเลือกนอกจากมาอยู่ข้างข้า!เหนือสิ่งอื่นใด แทนที่จะตาย ชีวิตแบบนั้นจะเป็นการลงโทษที่เลวร้ายสุดสำหรับคนอย่างเจ้า..ฮี่ๆ..”
ชุดคลุมของเยวี่ยหมิงคงพลิ้วสะบัดและนางก็ยืนเอามือไพล่หลัง นางดูสงบมาก
ในเวลาเดียวกัน นางก็หันหน้าไปทางตะวันออก ที่ที่ตระกูลกู่ตั้งอยู๋
นางรู้ว่ากู่ฉางเกอได้กลับจากอาณาจักรเบื้องล่างแล้ว และเขาก็ได้รับสิ่งที่ลงไปหา นางรู้ว่าไม่ช้า พ่อของนางจะพานางไปตระกูลเซียนกู่เพื่อหารือเรื่องการแต่งงานระหว่างนางกับกู่ฉางเกอ
การแต่งงานระหว่างราชวงศ์เซียนสูงสุดกับตระกูลเซียนโบราณกู่จะเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากและจะดึงดูดความสนใจนับไม่ถ้วน เหนือสิ่งอื่นใด มันเกี่ยวกับเจ้าหญิงสี่ผู้เลอโฉม และบุตรชายเพียงหนึ่งเดียวของผู้นำตระกูลกู่
สิ่งสำคัญสุดคือพ่อของนางปรารถนาจะใช้อำนาจของตระกูลกู่เพื่อผนวกราชวงศ์อื่น น่าเสียดาย ทุกคนในอาณาจักรเบื้องบนต่างรู้ถึงวิธีการของตระกูลกู่ และมันก็เป็นเรื่องที่รู้กันว่าไม่มีใครเคยเอาเปรียบพวกเขาได้ ถึงแม้ราชวงศ์เซียนสูงสุดจะถือเป็นราชวงศ์เซียนอันดับหนึ่งก็ตาม
ในชีวิตก่อนของนาง นางไม่เคยเข้าใจเรื่องซับซ้อนพวกนี้มาก่อน แม้นางจะมีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด และเป็นเจ้าหญิงสี่ของราชวงศ์ นางก็ไม่มีสติปัญญาและแผนการมากมายเหมือนพี่น้องนาง และความจริงนี้ก็ทำให้พ่อนางผิดหวังมาก
นางไม่ต่างอะไรกับสามัญชนในหมู่คนของราชวงศ์
สำหรับว่าทำไมตระกูลกู่ถึงเห็นด้วยกับการหมั้นหมาย?เยวี่ยหมิงคงไม่เข้าใจในชีวิตที่แล้ว แต่ตอนนี้นางเข้าใจแล้ว มันเพราะพ่อของนางรับปากว่าจะมอบผลประโยชน์มากมายให้ตระกูลกู่เป็นการตอบแทน!นางเป็นแค่เครื่องมือที่จะแต่งงานกับนายน้อยของตระกูลกู่
นางคือเด็กสาวตัวน้อยตอนพบกับกู่ฉางเกอครั้งแรก ตอนนั้น เขากำลังบ่มเพาะอยู่บนหินวิญญาณ เปล่งแสงเหมือนเทพ อักขระเต๋ารอบตัวเขาเปลี่ยนเป็นดอกไม้และเบ่งบาน และแสงนั่นก็ทำให้ทุกคนต้องตาพร่ามัว
รูปลักษณ์เทพบุตรของเขาทำให้นางตาลาย และจากนั้นนางก็รู้ว่าเขาคือสามีในอนาคตของนาง แค่การมองแวบเดียวก็มากพอที่เขาจะคว้าหัวใจนาง และนางก็ส่งตัวเองไปให้เขาทำลาย
“โชคดี มันยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดของข้า!ไม่ช้า เราจะได้เจอกันอีก กู่ฉางเกอ..”
เยวี่ยหมิงคงกลับจากห้วงความทรงจำ และค่อยๆหลับตา ตอนนี้นางถือความลับที่ยิ่งใหญ่สุดของกู่ฉางเกอไว้ในมือ เมื่อมันเปิดเผยว่าเขาคือผู้สืบทอดวิชาเซียนปีศาจกลืนกิน ทั้งโลกจะล่าเขา
อนิจจา นางรู้ว่านางไม่อาจเปิดเผยความจริงนี้ได้หากไร้หลักฐาน ไม่งั้นคงไม่มีใครเชื่อนาง กู่ฉางเกอในเวลานี้ก้าวทุกก้าวด้วยความระมัดระวัง และแทบจะไม่ใช้วิชานี้
ที่แย่ไปกว่านั้น ยังมีส่วนหนึ่งของหัวใจนางที่ไม่ปรารถนาจะเปิดเผยเขาเช่นนั้น นางไม่อยากเห็นวันที่ทั้งโลกต่อต้านเขา
นางอดถอนหายใจไม่ได้
แม้นางจะย้อนเวลามา หัวใจนางก็ยังไม่โหดเหี้ยมและมุ่งมั่นพอ
“ไม่!ข้าจะยังรักเขาได้ไง?มันก็แค่ว่าข้าไม่อยากเอาชนะเขาโดยการเปิดเผยตัวตนที่น่ารังเกียจของเขา!ข้าอยากเอาชนะเขาอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมา ข้าต้องการพรากทุกอย่างไปจากเขา...”
ไม่ช้า เยวี่ยหมิงคงก็ส่ายหัวและพึมพำกับตัวเอง
.
“น้อมพบนายน้อย!’
“ยินดีต้อนรับกลับขอรับ นายน้อย!”
ศาลเจ้าโบราณเดินทางผ่านขอบของอาณาจักรเบื้องบนและจากนั้นก็ผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายมากมาย หลังเดินทางยาวไกล สุดท้ายก็ปรากฏที่ประตูของดินแดนตระกูลกู่ สาวกทั้งหมดที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูตระกูลกู่แดงความเคารพทันที และมันก็ราวกับพวกเขามายืนเพื่อรอเขา
กู่ฉางเกอตอบรับด้วยการพยักหน้า
ด้านหน้าเขา มีภูเขาและเกาะลอยฟ้านับไม่ถ้วน ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นฟ้า หมอกวิญญาณลอยอยู่ทั่วและทั้งดินแดนของตระกูลเซียนกู่ก็ปกคลุมด้วยค่ายกลน่ากลัวซึ่งส่องแสงเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์
ตอนนี้ มันปลดปล่อยพลังแท้จริงออกมาเพียงเสี้ยวเดียว ถ้ามันกระตุ้นเต็มที่ แม้กระทั่งราชาเทพก็ไม่อาจผ่านมันไปได้
“นี่คือรากฐานของตะรกูลเซียนกู่?”
ซูชิงเกอกับหลินชิวหานรู้สึกสับสนในหัว แม้ว่าการเดินทางมาที่นี่จะทำให้พวกนางตกใจมากพอแล้ว แต่ฉากตรงหน้าก็ยังรบกวนจิตใจพวกนาง พวกนางไม่สามารถสงบสติได้ ด้วยระดับของดินแดนและความยิ่งใหญ่ นี่ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นบ้าน’ตระกูล’แล้ว มันเหมือนโลก!
“ไปกัน”
กู่ฉางเกอพูด ในเวลาเดียวกันเขาก็สงสัยว่าควรแสดงส่วนที่เหลือของโลกให้พวกนางยังไง?โดยเฉพาะหลินชิวหาน ผู้ที่เขากำลังจะส่งนางไปสำนักหลอมโอสถ แม้จะไม่มีใครควรมีกล้ากล้ารังแกพวกนาง แต่ก็มักมีคนที่คิดกินเนื้อห่าน เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งสอมาจากอาณาจักรเบื้องล่าง พวกคนด้านบนคงรังแกพวกนางได้ง่าย
“เฒ่าหมิง เจ้าควรจัดเตรียมที่พักให้พวกนาง”
กู่ฉางเกอสั่งชายชราข้างเขา ตระกูลมีกฏเข้มงวดและแบ่งดินแดนของตระกูลเป็นชั้นในกับนอก ตอนนี้ พวกเขาอยู่ชั้นนอก สำหรับชั้นใน?มีแค่ทายาทสายตรงของตระกูลกู่ถึงเข้าไปได้
ซูชิงเกอกับหลินชิวหานไม่สามารถเข้าไปชั้นในได้จนกว่าพวกนางจะมีตัวตนในตระกูล
หลังจากนั้น กู่ฉางเกอก็เปลี่ยนเป็นำลแสง และมุ่งตรงไปชั้นใน ในเมื่อเขากลับมาแล้ว สิ่งสำคัญสุดตอนนี้ก็คือไปพบพ่อเขา เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ใช่คนที่วางแผนการซะทุกอย่าง มันมีพ่อเขาเกี่ยวด้วย
“นายน้อยไปเขตชั้นในแล้ว เราควรไปจัดการเรื่องของพวกเจ้าก่อน ข้าจะสอนพวกเจ้าถึงกฏของตระกูล จำไว้ว่าอย่าทำให้นายน้อยต้องขายหน้าตอนอยู่ข้างเขาในอนาคต’
“พูดก็พูด อย่าแสดงความแปลกใจออกมาซะหมด ต่อให้จะเจอกับคนจากตระกูลกู่ก็ตาม”
เมื่อกู่ฉางเกอไป เฒ่าหมิงก็พาพวกเขาไปและคอยแนะนำขณะเดินทางผ่านภูเขาและเกาะลอยฟ้าต่างๆ ซูชิงเกอปรับตัวได้ดีกว่าหลินชิวหานมาก ส่วนหลินชิวหานเอาแต่พยักหน้าเหมือนไก่จิก“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านบรรพชน!”
ทันทีที่เฒ่าหมิงได้ยินคำพูดนาง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขารีบพูด“อย่าเรียกข้าว่าบรรพชนหรืออะไรแบบนั้นอีกในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในตระกูลกู่หรือด้านนอก แค่เก็บมันไว้ในใจก็พอ”
เหนือสิ่งอื่นใด หลินชิวหานดูเหมือนจะถูกนายน้อยของเขาตีค่าไว้สูง และมีโอกาสที่ความสัมพันธ์อาจพัฒนาจนลึกซึ้ง และความสัมพันธ์ของเขากับหลินชิวหานละ?ตระกูลกู่เข้มงวดมากกับลำดับชั้น และถ้าความจริงนี้หลุดไป เขาอาจตาย
แม้หลินชิวหานจะไม่เข้าใจ นางก็ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ นางมองดูความยิ่งใหญ่ของตระกูลเซียนกู่ และในใจก็อดถอนหายใจไม่ได้’ตระกูลของคุณชายกู่น่ากลัวมาก!’
นางไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเกาะกับภูเขาที่งดงามขนาดนี้ มันมากจนนางไม่อาจระงับความตกใจได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน หมอกเซียนลอยอยู่ทั่วและมีน้ำตกดังอยู่ทุกหนแห่ง สัตว์อสูรต่างๆเดินเตร่ทั่วภูเขาและเกาะ และกลิน่อายน่ากลัวก็พุ่งขึ้นฟ้าเหมือนคลื่น
พลังปราณในสภาพแวดล้อมหนาแน่นจนนางคิดว่ามันสามารถจับตัวเป็นของเหลวได้
ปฏิกิริยาของนางไม่ได้ทำให้เฒ่าหมิงแปลกใจ ย้อนกลับไปตอนเขามาเห็นฉากนี้ครั้งแรกเมื่อพันปีก่อน เขาก็ทึ่งไม่แพ้กัน
เทียบกับตระกูลโบราณของอาณาจักรเบื้องล่าง มันไม่ต่างอะไรกับการเทียบหมู่บ้านที่สร้างจากกองโคลนกับเกาะสวรรค์
ความคิดมากมายแวบผ่านหัวของเฒ่าหมิงและอดพูดไม่ได้”นี่แค่ชั้นนอก เทียบไม่ได้เลยกับชั้นใน สำหรับเกาะบุตรสวรรค์ที่นายน้อยพำนัก?มันคือดินแดนเซียนแท้จริงที่ออกมาจากเทพนิยาย!ข้าไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าใกล้มัน แน่นอน เจ้า..:
พอพูดแบบนี้ เฒ่าหมิงก็อิจฉาทั้งคู่
ในเวลาเดียวกัน กู่ฉางเกอก็มาถึงชั้นในหลังใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายของตระกูลที่เชื่อมต่อเขตในกับนอก
เขายืนด้านหน้าโถงที่งดงามโอ่อ่า ทันใดนั้น ประตูด้านหน้าเขาก็เปิด และเสียงอบอุ่นของชายวัยกลางคนก็ดังขึ้น
“ฉางเกอ เจ้ากลับมาแล้ว?”