บทที่ 76 ชีวิตสูญเสียความหมาย
ทันทีที่เขาพูด ลู่เจ๋อก็รู้สึกว่าบรรยากาศดูแปลกไปเล็กน้อย
เขากระพริบตามองไปทางหลินหลิงแล้วถามว่า “ทำไมเธอไปยืนไกลจัง?”
ใบหน้าของหลินหลิงตึงเครียด เธอหันหน้าหนีโดยไม่พูดอะไร
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? เธอไม่รู้จัก
ขณะนี้ความคิดเห็นทุกประเภทบินออกมา
“เขาพูดไปแล้ว…น้องชายสุดหล่อลู่เจ๋อ…พูดสิ่งที่ไม่สมควรจะพูดออกไปแล้ว…”
"คนที่พูดชื่อนี้ครั้งสุดท้าย ตอนนี้มีอาการขาสั่นและอาเจียนเมื่อเขาเห็นเหล็ก…ว่ากันว่าเขาถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมโดยหนานกงจิง…”
“จุดธูปไว้อาลัย…”
“+1 จุดธูปไว้อาลัย…”
“ฉันคิดว่าน้องชายควรหนี…”
“จบแล้ว ตายแน่ ให้ตายสิ! นั่นคือดยุกหนุ่มหนานกงจิง!”
ในห้องเรียนของลู่หลี่ ลู่หลี่เอามือปิดหน้า
ความรู้ความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับความสามารถในการแสวงหาความตายของลู่เจ๋อได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
อลิซปิดปากหัวเราะอย่างมีความสุข จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมา เธอคิดจะส่งข้อความหาพี่สาวจิงให้เบามือกับลู่เจ๋อ
ลู่เจ๋อมองไปรอบ ๆ เขามองนักเรียนบนอัฒจันทร์ที่ต่างเงียบกริบ จากนั้นก็มองอาจารย์ที่พากันมองเขาด้วยดวงตาเมตตา ร่องรอยความสับสนก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา
ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกเหมือนกำลังจะก้าวลงหลุมอะไรสักอย่าง?
เขาทำอะไรไป?
เขาไม่รู้อะไรเลย!
ใครช่วยอธิบายสถานการณ์นี้ให้ฟังหน่อยได้ไหม??
ตอนนั้นเสียงต่ำของหนานกงจิงก็ดังขึ้น “นักเรียน นายชื่ออะไร? นายดูแปลกใจมากที่เห็นฉัน?”
ลู่เจ๋อได้ยินก็หันไปมองหนานกงจิง เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอนิ่งสนิท เขาก็พยักหน้าและตอบอย่างสุภาพว่า “ครับลูกพี่! ผมถูกลูกพี่วัยเด็กทำร้ายในโลกเสมือนจริง! ลูกพี่แข็งแกร่งมากตั้งแต่ยังเด็ก!”
แม้เขาจะไม่รู้ว่าเขาเหยียบข้อห้ามอะไรไป แต่ก็…ชมเชยไว้ก่อนไม่เสียหาย
หนานกงจิงได้ยินก็นิ่งไปพักหนึ่ง “โลกเสมือน?”
จากนั้น เธอก็จำได้ว่าคอมพิวเตอร์สร้างร่างโคลนของเธอไว้ในนั้นตอนที่เธอยังเด็ก
เมื่อได้ยินว่าลู่เจ๋อต่อสู้กับหนานกงจิงวัยเด็ก แม้แต่ชิงเย่วเหอชาก็มองเขา
ผู้ที่สามารถต่อสู้กับโคลนของอัจฉริยะในโลกเสมือนจริงได้ มักจะมีความสามารถดี
ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีพรสวรรค์อยู่บ้าง?
เมื่อเห็นทั้ง 2 สนใจ หลี่กวงและแฮร์รี่ก็ชำเลืองมองกัน
ตอนนี้แหล่ะ!
ได้เวลาทำให้บรรพบุรุษทั้ง 2 หันมาสนใจ!
บางทีพวกเขาอาจช่วยให้ลู่เจ๋อพ้นโทษได้!
หลี่กวงพูดว่า “คุณหนานกง คุณชิวเยว่ มาดูวิดีโอการต่อสู้ของลู่เจ๋อกันดีกว่า”
วิดีโอการต่อสู้ของลู่เจ๋อปรากฏบนหน้าจอ ตั้งแต่วานรดินไปจนถึงสัตว์คริสตัลหินเหลืองและเซิร์ก
หนานกงจิงและชิงเยว่เหอชาเฝ้าดูด้วยความสนใจ
เมื่อเห็นลู่เจ๋อเก็บสมุนไพรวิญญาณและเนื้ออสูรอย่างมีความสุข มุมปากของพวกเธอก็กระตุก พวกเธอคิดว่ามันตลกนิดหน่อย
แต่อัจฉริยะมักแตกต่างจากคนทั่วไป และแม้แต่พวกเธอเองก็ยังแตกต่าง
ผู้ที่ทำตามกฎไม่พิเศษ
จากนั้นเมื่อเห็นร่างคริสตัลของลู่เจ๋อ พวกเธอก็หรี่ตาลง
ศาสตร์เทพประเภทเสริมพลังร่างกาย?
เมื่อเห็นลู่เจ๋อใช้ศาสตร์เทพแห่งลมเพื่อบินขึ้นไปและพานักรบระดับซวนหวู่ 2 คนขึ้นไปด้วย ดวงตาของพวกเธอก็กระพริบแสง พวกเธอยังมีศาสตร์เทพแห่งลมแต่ไม่ถึงขั้นเชี่ยวชาญ
จากนั้นเมื่อเขาชกออกไปปะทะกับบอลพลังงานของเซิร์กบินได้ระดับ 3 ชิงเยว่เหอชาก็หันไปมองหนานกงจิงด้วยใบหน้าแปลก ๆ
พลังกายที่เหนือกว่าพลังธาตุ
ร่างคริสตัล ศาสตร์เทพแห่งพลัง ศาสตร์เทพแห่งลม และสัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว
เด็กคนนี้…เป็นอัจฉริยะ!
ดวงตาของทั้ง 2 สั่นไหวเมื่อเห็นใบมีดลมหลายร้อยใบฆ่าเซิร์ก พวกเธออุทานในใจอย่างมีความสุข :บางที จากนี้ไปอาจมีดยุคหนุ่มเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
สำหรับพวกเธอ นี่นับเป็นเรื่องดี
มีอัจฉริยะน้อยเกินไปในเผ่าพันธุ์มนุษย์
มันไม่เป็นไรเมื่อต้องเผชิญกับเผ่าพันธุ์ที่มีระดับอารยธรรมใกล้เคียงกัน แต่เมื่อต้องเผชิญกับอารยธรรมที่สูงกว่า พวกเธอมีแรงกดดันอย่างมาก
เผ่าพันธุ์แต่ละเผ่าพันธุ์นั้นไม่เท่าเทียมกันโดยเนื้อแท้
จุดหมายปลายทางสุดท้ายที่คุณทำงานหนักทั้งชีวิต อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของผู้อื่นหรือต่ำกว่า ความจริงนั้นโหดร้าย
ยิ่งมีอัจฉริยะมากเท่าไร พวกเธอก็ยิ่งกดดันน้อยลงเท่านั้น
หลังจากวิดีโอจบลง ชิวเยว่เหอชาก็ยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “น้องชาย นายต้องการมาสถาบันหลวงไหม? พี่สาวสามารถพานายไปฝึกบ่อย ๆ ได้นะ”
จากการชำเลืองมองของชิงเยว่เหอชา หัวใจของลู่เจ๋อก็เต้นผิดจังหวะ
ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมาก เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ใช้ศาสตร์เทพ แต่ก็ยังยากต่อการจัดการ
แต่ในฐานะที่เขาเป็นคนป่าที่เย็นชา เท่ และโหดเหี้ยม ลู่เจ๋อแค่ต้องสวดมนต์เพื่อชำระล้างหัวใจ
ความงามล้วนเป็นเมฆหมอกที่ลอยผ่านไป!
เปิดใช้งานบทสวด: แกะที่สวยงาม, แกะที่เปล่งประกาย, หมาป่าเทา, หมาป่าแดง...
หนานกงจิงหัวเราะ เธอพูดว่า “เจ้าหนู เมื่อเห็นว่านายก็ใช้หมัดเหมือนกัน มากับฉัน!”
ตราบใดที่เด็กคนนี้มาหาเธอ เธอจะทำให้เขารู้ว่าคำพูดบางคำที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ฮิฮิ~!
จากนั้นเธอก็มองไปที่ชิงเยว่เหอชาและยิ้มอย่างดูถูก “จิ้งจอกขนชมพู รูปแบบการต่อสู้ของเด็กคนนี้คล้ายฉันมาก เธอพยายามจะแข่งกับฉันด้วยหมัดเหรอ?
ชิงเยว่เหอชาที่เห็นว่าหนานกงจิงเริ่มต้นสงครามอีกครั้งก็ไม่ยอมแพ้ เธอเสยผมแล้วยิ้ม “แน่นอนว่าไม่ ท้ายที่สุดเธอคือดยุกหนุ่มหมัดเหล็ก ฉัน ดยุกหนุ่มผู้งามล่มเมืองจะเปรียบเทียบได้ยังไง?”
หนานกงจิงได้ยินก็โกรธจัด เธอจ้องไปที่ชิงเยว่เหอชาอย่างเย็นชาและพูดว่า “จิ้งจอกขนชมพู! เธอท้าฉันเหรอ!!”
ชิงเยว่เหอชายิ้มเบา ๆ “แล้วไง?”
หนานกงจิงรู้สึกหงุดหงิด “รอฉันก่อน! ฉันจะไปหาเธอและทำให้เธอได้ลิ้มรสกำปั้นเหล็กพิพากษา!”
ชิงเยว่เหอชายิ้มนิด ๆ “ฉันกลัวว่าเธอจะหลงเสน่ห์ฉันมากกว่า”
จากนั้น ทั้งสองก็วางสาย
จากยั่วยุสู่ความโกรธ จนถึงกับนัดต่อยกัน กระบวนการทั้งหมดดำเนินไปอย่างราบรื่นมาก
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอทำแบบนี้
ลู่เจ๋อมองภาพฉายโฮโลแกรมที่หายไปและอึ้งไปพักหนึ่ง “???”
เดี๋ยว! คุณ 2 คนจะไม่ชักชวนฉันเหรอ
ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะเลือกที่ไหน
ทำไมถึงออกไปต่อยกันแล้วล่ะ??
นี่มันเรื่องอะไรกัน เขางงไปหมดแล้ว??
ไม่ใช่แค่ลู่เจ๋อ คนอื่น ๆ ก็พูดไม่ออกเช่นกัน
นี่คือดยุคหนุ่มเหรอ?
สมองของพวกเขาสั่น!
พวกเขาตามไม่ทัน!
แฮร์รี่และหลี่กวงที่เรียกดยุกหนุ่มมามองหน้ากันเงียบ ๆ พวกเขากลัวว่าสถาบันจะสูญเสียหน้าไปมากมาย...
แต่ มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขา พวกเขาแค่พยายามรับอัจฉริยะ ไม่ได้ตั้งใจจะให้ 2 คนนี้มาพบกัน
หลังจากยืนยันสายตาของกันและกันแล้ว พวกเขาก็นึกได้ว่าพวกเขายังเป็นศัตรูกัน พวกเขาก็มองไปทางอื่นทันที
หลี่กวงยิ้มแล้วพูดว่า “ลู่เจ๋อ คุณจะเลือกที่ไหน? ไม่ว่าเป็นที่ไหน คุณจะยังคงเป็นอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และเราจะอวยพรคุณ”
แฮร์รี่ยิ้มอย่างสง่างาม “แน่นอนคุณอาจไม่ได้พบเธออีก…แต่เมื่อตอนนั้นมาถึง…ฉันเชื่อว่า…คุณเข้าใจใช่ไหม”
ลู่เจ๋อ “!!!”
เขาแอบกุมหน้าอกอย่างเงียบ ๆ มองไปที่หลี่กวงและแฮร์รี่ด้วยรอยยิ้มใสซื่อ
ไอ้เวรสองคนนี้ขู่เขาอย่างไร้ยางอาย…
ไม่ว่าเขาจะเลือกที่ไหน เขาคงโดนดยุคหนุ่มอีกคนกระทืบ
ชีวิตสูญเสียความหมาย…
---------------------