ตอนที่แล้วEp.44 - เรียกฉันว่าพี่รองฮัสกี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.46 - ทำข้อตกลงกับอาจารย์ซู

Ep.45 - สามคนสามเส้นทาง


2/2

Ep.45 - สามคนสามเส้นทาง

ครั้งนี้ฮังอวี่ไม่ได้มีเวลามาสนใจดุฮัสกี้ตัวป่วน เขาไล่อ่านข้อมูลในมือ พยายามทำความเข้าใจผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง

เดิมเขาต้องการหาคนที่มีสกิลกลั่นยาดีๆมาฝึกฝน แต่จากรายชื่อที่ได้มาในปัจจุบัน ยังไม่มีคนไหนเหมาะสมให้เขาทำแบบนั้นเลย

การทำโพชั่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับฮังอวี่ เขาไม่สามารถให้คนที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมมารับผิดชอบภารกิจสำคัญนี้ได้

อืม ...

ในเมื่อหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ งั้นทำไมเขาไม่เรียนรู้ทักษะการกลั่นยาด้วยตัวเองซะเลยเล่า?

ตอนนี้ในโลกวิญญาณ ค่ายที่ถูกมนุษย์ยึดครองได้น่าจะมีหลายแห่งแล้ว ซึ่งแต่ละคนจะมีหินสกิลการผลิตระดับต่ำวางขาย

หลังจากนี้เขาควรลองเสี่ยงโชคดู โพสต์รับซื้อหินสกิลผลิตทางเน็ต ซึ่งเอาจริงๆมันก็แค่สกิลกลั่นยาขั้นต่ำ ดังนั้นไม่น่าจะหายากอะไร

แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ขั้นแรกที่ต้องพิจารณาคือจัดเตรียมหน้าที่ให้โล้นซ่า

ตอนนี้กองกำลังอย่างสมาคมโลกวิญญาณและสกายเน็ตเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ฮังอวี่ไม่ได้มีเป้าหมายใหญ่โตอย่างการเป็นผู้ครอบครองประเทศ ทว่าภายภาคหน้า เขาย่อมได้รับความเคารพจากเหล่าผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน

ในฐานะที่เป็นชายผู้มีความทะเยอทะยานกลางๆ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เขาหวังว่าตนจะมีกองกำลังเล็กๆที่สามารถควบคุมได้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ต้องแข่งขันในอนาคต

และเอาจริงๆสกิลของโล้นซ่านนับว่าไม่เลว มันมีศักยภาพที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้

แต่สำหรับตอนนี้ ยังถือว่าขาดการอบรมฝึกฝน เป็นเรื่องยากหากคิดใช้ประโยชน์จากเขา

แต่หากโล้นซ่าทำได้แค่คอยอยู่เบื้องหลัง ได้แต่คอยให้การสนับสนุน เรื่องแบบนี้เรียกใช้เจ้าฮัสกี้ก็ได้

งั้นแสดงว่าฮังอวี่กำลังคาดหวังให้เขากลายเป็นบุคคลที่สามารถแข่งขันกับเหล่าวีรบุรุษคนอื่นๆในเจียงเฉิงได้ใช่ไหม? นั่นไม่ใช่แน่นอน!

เพราะคนที่มีจิตใจแข็งแกร่งและแน่วแน่มากเกินไป บุคลิกเช่นนี้แม้ประสบความสำเร็จสูง แต่ควบคุมได้ยากเกินไป ยากที่จะรั้งตัวไว้ได้

ตรงกันข้าม คนประเภทโล้นซ่าควบคุมได้ง่ายกว่า ขอแค่ค่อยๆสนับสนุน สุดท้ายจะช่วยสร้างประโยชน์ให้เอง

“ครั้งนี้พวกนายทำได้ดีมาก” ฮังอวี่กระแอมเบาๆ เริ่มแสร้งทำเป็นขรึม “ตอนนี้ฉันจะอธิบายเส้นทางและหน้าที่ที่ชัดเจนแก่พวกนาย ตราบใดที่พวกนายทำตามคำแนะนำได้ ถึงฉันจะไม่กล้าพูดว่าสามารถติดปีกโผบิน แต่อย่างน้อยเรื่องร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีไม่น่าใช่ปัญหา”

สามพี่น้องพอได้ยิน ใบหน้าสว่างไสวขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าทุกคนเชื่อในคำพูดของฮังอวี่

ฮังอวี่เริ่มแนะแนวทางแก่โล้นซ่าเป็นคนแรก

ขั้นแรกเขาเปิดพื้นที่จัดเก็บของโลกวิญญาณ จ่ายหินคริสตัลเทาสองสามก้อน แลกเปลี่ยนอุปกรณ์ระดับต่ำสองชิ้น

พวกมันคือหน้าไม้ก็อบลินกับดาบสั้นก็อบลิน

“อุปกรณ์สองชิ้นนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับฉันอีกแล้ว นายเอาไปใช้ได้”

“นี่พี่ใหญ่ให้ฉัน?” โล้นซ่ารับดาบสั้นและหน้าไม้มา สีหน้าแสดงถึงความปลาบปลื้มใจ เกือบคุกเข่าให้ ฮังอวี่ “ขอบคุณพี่ใหญ่! ขอบคุณพี่ใหญ่!”

อุปกรณ์สองชิ้นนี้แม้เป็นของเลเวลต่ำ แต่โล้นซ่ารู้ดี ว่าอุปกรณ์จากโลกวิญญาณ หากคิดนำมันออกมา จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นหินคริสตัล!

และจากการประเมินคร่าวๆในอินเตอร์เน็ต ว่ากันว่าหินคริสตัลเทาก้อนนึง ราคาจะอยู่ที่ราวๆ 300,000 หยวน

ส่วนหินคริสตัลขาวคาดว่าอาจสูงถึง  4 - 5 ล้านหยวน

นี่ยังไม่ได้พูดถึงมูลค่าของอุปกรณ์สองชิ้นนี้นะ แค่ค่าแลกเปลี่ยนมันมายังโลกนี้ก็สูงมากจนทำให้ผู้คนกลัวจนหัวโกร๋นแล้ว

แต่พี่ใหญ่กลับหยิบมันออกมาโดยไม่กระพริบตา หากเขาไม่ใช่มหาเศรษฐี ... หากเขาไม่ใช่มหาเทพ แล้วจะเป็นอะไรไปได้อีก?

“อุปกรณ์สองชิ้นนี้ไม่ได้มอบให้นายเปล่าๆ แต่ฉันต้องการให้นายไปโลกวิญญาณในครั้งหน้า แล้วอัพเลเวล 2 ให้เร็วที่สุด”

ฮังอวี่หยุดเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อว่า “นอกจากนี้ ในเมื่อนายรวบรวมกลุ่มคนแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องสร้างหน่วยค้นหาซักที”

โล้นซ่าไม่เข้าใจ “หน่วยค้นหา? มันมีไว้เพื่ออะไร?”

“ตอนนี้นายยังอ่อนแออยู่ อ่อนแอเกินกว่าที่จะออกหน้าสู้ได้ ดังนั้นการรวบรวมกลุ่มคนเพื่อยึดครองอาณาเขตยังเป็นเรื่องอันตรายเกินไป”

“ยังไงก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่านายไม่มีโอกาสเลย เพราะว่ากันตามจริงแล้ว ตั้งแต่วินาทีที่โลกวิญญาณเข้ารุกรานโลกมนุษย์ วินาทีนั้นโอกาสก็กระจายอยู่รอบตัวพวกเราแล้ว ขึ้นอยู่กับว่านายมีความสามารถคว้ามันได้หรือไม่”

“หน่วยค้นหานี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจหรือยึดครองอาณาเขต แต่เป็นทีมที่สร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายในการค้นหาสมบัติธรรมชาติต่างๆ นายคงรู้ใช่ไหมว่าไม่ได้มีแค่มอนสเตอร์ที่มาบุกโลก แต่ในเมืองเจียงเฉิง ยังปรากฏยาวิญญาณ ผลไม้ล้ำค้า แร่ธาตุ และทรัพยากรต่างๆขึ้นใหม่เช่นกัน และใครก็สามารถเจอมันและเป็นเจ้าของได้ ซึ่งสมบัติส่วนใหญ่ที่พูดมา ไม่จำเป็นต้องใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบเลย”

“ถ้านายโชคดีพอ เรื่องรวยในชั่วข้ามคืนก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!”

ฮังอวี่อธิบายชัดเจนมาก โล้นซ่าย่อมสามารถเข้าใจได้อย่างแน่นอน

ทำไมเขาดันนึกไม่ถึงกันนะ? ที่แท้โอกาสที่จะร่ำรวยก็อยู่รอบตัวตลอดเวลา!

เอาจริงๆเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฮังอวี่คิดได้เพราะตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ของเจ้าฮัสกี้

นี่คือเหตุผลที่เขามอบอาวุธให้แก่โล้นซ่า

หากโล้นซ่าแข็งแกร่ง โล้นซ่าก็จะดูแลลูกสมุนที่ตัวเองชักชวนมาได้ และเริ่มออกค้นหาทรัพยากรในเมืองเจียงเฉิง

ซึ่งหากบังเอิญเจอของดีอย่างผลไม้ห้าสีแห่งปัญญาเข้า นั่นจะไม่ได้แค่เรียกว่าร่ำรวยในชั่วข้ามคืน แต่สามารถเรียกได้เลยว่าปีนป่ายสู่สวรรค์ได้ในชั่วข้ามคืน!

หรือแม้จะไม่ถึงกับพบสมบัติล้ำค่าเช่นนั้น แต่การเก็บเกี่ยวทรัพยากรทั่วๆไปได้เป็นจำนวนมาก มันก็สามารถทำกำไรได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงในช่วงเวลาที่คนอื่นยังไม่รู้เรื่องนี้

หากฮังอวี่มีหน่วยค้นหาที่คล่องแคล่ว สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนกองโจร เขาจะไม่ได้ประโยชน์แค่จากการรวบรวมสมบัติในเจียงเฉิงเท่านั้น แต่ยังสามารถรวบรวมข่าวสารได้อีกด้วย

ส่วนโล้นซ่าจะคว้าโอกาสที่ได้รับนี้ ขึ้นเป็นผู้แข็งแกร่งได้หรือไม่ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้ว!

ต่อมาก็เป็นเสืออ้วน

ฮังอวี่เริ่มให้คำแนะนำอีกฝ่าย

“นายมีสกิลช่างตีเหล็กที่ดี เหมาะแก่เส้นทางแห่งการหลอมอาวุธ เมื่อไหร่ที่สร้างชื่อให้ตัวเองจนเฉิดฉาย ในอนาคตย่อมมีผู้แข็งแกร่งมากมายมาก้มหัวให้”

“แต่อย่าพึ่งดีใจไป หนทางนี้จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในช่วงแรกๆ มันยากที่จะฟันฝ่าไปได้ถ้าไม่มีผู้หนุนหลัง”

“การหลอมอาวุธของช่างตีเหล็กจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ หนึ่งคือสร้างด้วยตัวเอง อีกหนึ่งคือสร้างตามแบบแปลน”

“อุปกรณ์ที่สร้างด้วยตัวเอง มันไม่จำเป็นต้องใช้แบบแปลน สามารถหยิบจับวัสดุที่มีมารังสรรค์ผลงานได้เลย วิธีผลิตแบบนี้แม้ทำให้สูญเสียทรัพยากรมหาศาล แต่ข้อดีคือสามารถผลิตได้อย่างอิสระ”

“ต่อมาคือสร้างตามแบบแปลน เงื่อนไขก็ตามชื่อ ต้องมีแบบแปลนที่จะใช้สร้าง หลอมอุปกรณ์ตามสูตรที่เขียนไว้ วิธีนี้จะช่วยประหยัดทรัพยากรได้มาก แต่ต้องรวบรวมวัสดุที่ตายตัว ต้องตรงตามแบบแปลนเป๊ะๆ ค่อนข้างเป็นปัญหาในการรวบรวมวัสดุ”

ช่างตีเหล็กคือนักหลอมอาวุธ หน้าที่หลักคือการสร้างอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าช่างฝีมือด้านนี้ผลาญเงินและทรัพยากรมหาศาล ซึ่งนั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ฮังอวี่ขอให้โล้นซ่าตั้งทีมค้นหาเพื่อรวบรวมวัตถุดิบ จะได้ช่วยสนับสนุนเสืออ้วนในด้านนี้ มีวัสดุในการฝึกหลอมอาวุธมากขึ้น

“ฉันพอมีทรัพยากรบางส่วนอยู่ในมือ ขอมอบให้นายก่อน ถือซะว่าเป็นการลงทุนล่วงหน้า นายก็ลองทดสอบดูว่าสามารถใช้วัสดุพวกนี้สร้างอุปกรณ์ที่สมบูรณ์ได้ไหม”

ฮังอวี่มอบหนังแกะ ขนแกะ เขาแกะ และแร่ที่รวบรวมมาจากสถานีรถไฟใต้ดินให้กับเสืออ้วน

เสืออ้วน เจ้าผู้ชายตัวอ้วนป้อมคนนี้ นับเป็นคนที่สมองช้าที่สุดในบรรสามพี่น้อง

แต่ฟังจากคำพูดของฮังอวี่ เขาก็ยังตระหนักได้ว่าการเป็นช่างตีเหล็กนั้นมันยากเพียงใด มันเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่ได้รับการสนับสนุน รีบพูดอย่างรวดเร็ว “รับทราบ! พี่ใหญ่ ฉันจะตั้งใจทำงาน!”

สุดท้ายก็ลิงจ๋อ

ลิงจ๋อรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย

ทั้งโล้นซ่ากับเสืออ้วนต่างได้ของสนับสนุนจากพี่ใหญ่ แต่สกิลของเขาคือการปลูกพืชวิญญาณ นอกจากสามารถทำให้พืชโตขึ้นไวแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรอีกเลย เพราะงั้นหน้าที่เขาคงหนีไม่พ้นทำฟาร์มอีกกระมัง!

“ลิงจ๋อก็เหมือนเสืออ้วน เป็นสายผลิต”

“ซึ่งสกิลสายผลิต ตราบใดที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี จะมีประโยชน์มาก”

“เกษตรกรวิญญาณไม่เพียงแต่สามารถใช้สกิลในการเร่งระยะเวลาเติบโตของพืชวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการเสริมคุณภาพและเกรดของผลผลิตที่ออกดอกออกผลได้อีกด้วย”

เกษตรกรวิญญาณแตกต่างจากอาชีพสายการผลิตอื่นๆ สิ่งที่สายนี้ทำไม่ใช่การสร้างผลงานออกมาเป็นรูปเป็นร่างในทันที แต่เป็นฝ่ายช่วยดูแลอยู่เบื้องหลัง

พืชวิญญาณที่ปลูกโดยเกษตรกรวิญญาณ ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มอัตราเร็วในการเติบโต แต่กระทั่งเกรดและคุณภาพก็ยังสูงกว่าปกติ

ดังนั้น หากลิงจ๋อสามารถก้าวขึ้นเป็นเกษตรกรวิญญาณชั้นนำได้ เขาจะเป็นผู้ที่สามารถสร้างทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับกองกำลังใหญ่

ฮังอวี่ส่งข้อมูลที่เสืออ้วนรวบรวมมาให้ลิงจ๋อ

“ตรอกมังกรฟ้าคือดินแดนแห่งขุมทรัพย์ พวกเราต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ นายไปติดต่อเจ้าของบ้านที่ปล่อยทิ้งร้างไว้พวกนี้ โน้มน้าวขอซื้อมันจากพวกเขา ถ้าไม่สำเร็จก็ขอเช่า นอกจากนี้อย่าลืมมอบของขวัญให้กับพวกเพื่อนบ้านในตรอก สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา มันจะเป็นประโยชน์ในอนาคต”

“ฉันยังไม่มีอะไรที่พอเป็นประโยชน์กับเกษตรกรวิญญาณในตอนนี้ แต่ฉันสามารถจัดหาเงินทุนที่มากพอ ให้นายกว้านซื้อที่ดินและจัดตั้งทีมเกษตรกรวิญญาณ”

“พืชวิญญาณทั้งหมดที่หน่วยค้นหาของโล้นซ่าค้นพบ นายสามารถนำไปปลูกได้ แล้วใช้มันหล่อเลี้ยงทีมงานของนาย ส่วนพืชบางอย่างพอโตเต็มที่แล้ว และสามารถนำไปเป็นวัสดุหลอมได้ ก็ส่งมอบมันแก่เสืออ้วนไปใช้ผลิตอุปกรณ์”

ทั้งสามยิ่งฟังก็ยิ่งเลื่อมใสฮังอวี่มากขึ้นเรื่อยๆ

เส้นทางทั้งสามสายที่ฮังอวี่ปูไว้ให้นั้นแตกต่างกัน ทว่าดันเหมาะกับทั้งสามอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะเดียวกันก็สามารถเกื้อหนุนกันและกันได้

แค่คิดก็อดใจไม่ไหวแล้วที่จะเห็นวันนั้น!

ลิงจ๋อรีบขอบคุณ “ขอบคุณพี่ใหญ่!”

“ตอนนี้ฉันชี้ทางสว่างให้แล้ว แถมยังมอบเงินลงทุนบางส่วนให้ แต่ปลาเค็ม (คนขี้เกียจ ขาดความทะเยอทะยาน)อย่างพวกนายจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้หรือไม่ และจะไปได้ไกลแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกนายแล้ว”

“อนาคตสุดท้ายต้องสร้างมันด้วยตัวเอง พยายามให้หนักเข้าไว้”

ฮังอวี่โบกมือ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็กลับไปเตรียมตัวกันได้”

ทั้งสามไม่กล้ารบกวน กล่าวอำลาอย่างนอบน้อม

“รับทราบ ขอตัวลาพี่ใหญ่ ขอตัวลาพี่รองฮัสกี้”