Ep.44 - เรียกฉันว่าพี่รองฮัสกี้
1/2
Ep.44 - เรียกฉันว่าพี่รองฮัสกี้
คฤหาสน์ของเขาจำเป็นต้องมีสุนัขเฝ้าบ้าน
เดิมฮังอวี่ต้องการเลี้ยงหมาป่าไม่ก็หมาตัวใหญ่ๆอย่างพันธ์ทิเบตัน หรืออะไรทำนองนั้น แต่ไม่นึกเลย ว่าสุดท้ายที่เขามาได้จะเป็นหมาฮัสกี้
โชคดีที่ฮัสกี้ตัวนี้ไม่ใช่หมาธรรมดา มันไม่เพียงมี IQ ไม่ด้อยไปกว่ามนุษย์ แต่ยังสามารถรับกลิ่นคนหรือสัตว์ทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีร้อยเมตรได้อย่างสบายๆ
นอกจากนี้ยังสามารถตัดสินพลังรบจากกลิ่นอายของอีกฝ่ายได้ด้วยว่าแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ
เมื่อมีเรดาห์สุนัขคอยสอดส่อง หากเกิดอันตรายขึ้นในบริเวณใกล้เคียง จะสามารถตรวจพบได้ทันที
นี่ทำให้ฮังอวี่ผ่อนคลายลงมาก ช่วยให้เขาหลับสบายขึ้นกว่าทุกวันที่ผ่านมา
เมื่อตื่นขึ้นอีกทีก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว
“ฮ้าว ... ตื่นมาก็หิวเลยแฮะ”
“ดูจากเวลา ผลไม้ก็อบลินน่าจะออกผลแล้ว”
“ฉันไม่เคยกินอะไรที่ตัวเองเป็นคนปลูกมาก่อนเลย วันนี้ต้องประเดิมซักหน่อย”
ฮังอวี่ลุกขึ้น และเดินไปตรวจสอบดู ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้ดวงตาเขาพร่ามัว
ปรากฏว่าต้นไม้เล็กๆสองต้น ... โล่งเตียน!
ใช่
ผลไม้บนต้นทั้งสองหายไป มันเกิดการเปลี่ยนแปลงให้ความรู้สึกเหมือนกับสาวสวยแรกแย้มกลายเป็นคุณป้าในชั่วข้ามคืนเดียว
กระถางต้นไม้ขนาดใหญ่สองใบยังคงตั้งอยู่ที่เดิม กิ่งก้านยังคงแตกแขนงไปทุกหนแห่ง ทว่าผลไม้เล็กๆที่ควรจะแขวนอยู่ตามกิ่ง ตอนนี้คล้ายติดปีกโผบินหนีหายไป
ฮังอวี่ตะลึงงัน
“ให้ตายเหอะ มันเกิดอะไรขึ้น? ใครบอกฉันได้บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมเจ้าผลไม้น้อยของฉันถึงหายไป!”
ในตอนนั้นเอง คล้ายมีแสงวาบเข้ามาในดวงตาเขา ฮังอวี่ผลักประตู ออกตามหาผู้ต้องสงสัยทันที
หวังเอ๋อกำลังนอนอยู่ในลานบ้าน งีบหลับอย่างสบายอารมณ์ เศษเปลือกผลไม้ติดอยู่ตรงมุมปากมัน ปากขยุบขยิบคล้ายกำลังนึกถึงความอร่อยของผลไม้ ในใจของมันคงกำลังคิดว่า
‘เจ้านายช่างสุดยอดจริงๆ ขนาดกระถางต้นไม้ที่วางทิ้งๆขว้างๆ ยังมีผลไม้แสนอร่อยไว้กินได้’
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆหมาฮัสกี้พลันสั่นสะท้าน
‘หือ?’
‘ทำไมจู่ๆถึงรู้สึกเย็นสันหลัง? นี่มันจิตสังหาร!?’
ฮัสกี้ดีดตัวขึ้นตั้งท่าขู่ทันที
ทว่าเมื่อมองไปตามทิศทางของจิตมุ่งร้ายที่แผ่เข้ามา มันกลับพบว่าเป็นเจ้านายตัวเองที่กำลังทำหน้าตาบึ้งตึง มันอดขลาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ รีบยกเท้าขึ้นวางเหนือตา กล่าวทักทายทันที
“อ่า .. อรุณสวัสดิ์เจ้านาย ...”
“ไอ้หมาตะกละ! แกตาย!”
“ฮ่ง! เจ้านายค่อยๆพูดค่อยจา! ฮ่ง ฮ่ง! ช่วยด้วย! อย่าฆ่าหมา!”
หนึ่งคนหนึ่งหมา ฝ่ายหนึ่งวิ่งหนี ฝ่ายหนึ่งไล่ เกิดความวุ่นวายขึ้น
“ฮ่ง! เปิ่นหวังเป็นฮัสกี้ บางครั้งเลยต้านทานสัญชาตญาณของตัวเองไม่ได้” ฮัสกี้ถูกฮังอวี่ทุบตี นอนหมอบกับพื้น อุ้งเท้าทั้งสองของมันยกขึ้นคลุมหัว เริ่มขอความเมตตา
“แต่เจ้านายเป็นมนุษย์ที่ฉลาดและทรงพลัง น่าจะรู้ว่านี่เป็นเรื่องปกติของฮัสกี้ .. เอ๋ง! เจ็บนะเจ้านาย เอ๋ง เอ๋ง! ไม่กล้าแล้ว! ไม่กล้าแอบกินผลไม้ของเจ้านายอีกแล้ว!”
ฮังอวี่รีบตรวจสอบพืชวิญญาณต้นอื่นๆอย่างรวดเร็ว ถ้ามันแอบกินสมุนไพรพลังจิตกับสมุนไพรพลังชีวิตไปด้วยล่ะก็ คืนนี้คงได้กินซุปเนื้อหมา!
แต่โชคยังดี ที่สมุนไพรทั้งสองพึ่งแตกหน่อ เพราะงั้นเลยรอดจากปากสุนัขไปได้ ถือว่าหมาฮัสกี้รอดตัวไป
อย่างไรก็ตาม ผลไม้สองต้นถูกไอ้หมาบ้านี่กินไปหมดแล้ว!
นั่นมันพืชวิญยาณต้นแรกที่เขาปลูกเชียวนะเว้ย อ๊าาาา! แต่สุดท้ายกลับต้องไปตกอยู่ในท้องหมา!
ฮังอวี่ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น “หวังเอ๋อ แกมานี่ซิ”
ฮัสกี้วิ่งเหยาะๆมาหาเจ้านาย สะบัดฝุ่นออกจากขนสุนัข ก้มหัวเตรียมรับโทษ
“ฟังให้ดี นับจากนี้ไป ในคฤหาสน์ใหญ่หลังนี้ ถ้ามีพืชวิญญาณหายไปอีกแม้แต่ต้นเดียว ฉันจะมาคิดบัญชีกับแก!”
“ฮ่ง! แต่ถ้ามันถูกคนอื่นขโมยไปล่ะ?”
“ถามอะไรไร้สาระ แกเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน นั่นมันสิ่งที่สุนัขเฝ้าบ้านต้องรับผิดชอบไม่ใช่รึไง?”
ฮัสกี้พอได้ยินก็เงยหน้าประท้วง “ฮ่ง! เจ้านายใจร้าย ทั่วลานบ้านเต็มไปด้วยสมบัติ แล้วเปิ่นหวังตัวเดียวจะหยุดพวกหัวขโมยได้ยังไง? ฮ่ง! หมาสิ้นหวังแล้ว!”
“วางใจได้ ฉันมีผู้ช่วยให้ แกเห็นต้นไม้สองคนตรงสนามหญ้านั่นไหม?”
แน่นอน ฮัสกี้สังเกตเห็นต้นอ่อนสองต้นที่อยู่ตรงกลางลานเล็กๆตั้งแต่แรกแล้ว
ตอนฮังอวี่นำมาปลูกแรกๆ ต้นกล้าของมันมีขนาดไม่ถึงหนึ่งฟุต ทว่าปัจจุบัน ภายใต้การหล่อเลี้ยงของอาณาเขตวิญญาณ และสกิลปลูกพืชของเจ้าลิงจ๋อ ส่งผลให้มันเติบใหญ่ขึ้นจนมีความสูงเท่าตัวมนุษย์
แม้ต้นไม้ทั้งสองจะเดินเหินไม่ได้ แต่บนต้นพวกมันมีกิ่งไม้ที่เสมือนแขนคู่หนึ่ง ซึ่งกิ่งไม้นี้ ไม่เพียงสามารถโจมตีในระยะไกลได้เท่านั้น แต่ยังมีสามารถโจมตีระยะประชิดได้อย่างรุนแรงอีกด้วย
พอได้ฟังคำอธิบาย ดวงตาของฮัสกี้เปล่งประกาย “ฮ่ง! ไม่นึกเลย เจ้าต้นไม้สองต้นทำได้ถึงขนาดนี้เชียว”
“นับแต่วันนี้ไป แกคือหัวหน้าหน่วยรักษาการณ์ และมีเจ้าต้นหนึ่งและเจ้าต้นสองเป็นลูกน้อง”
“ฮ่ง! ฮ่ง!”
ฮัสกี้เห่าสองครั้งด้วยความตื่นเต้น จิตวิญญาณของมันลุกโชนขึ้นมาทันที หูตั้งตรง หางกระดิกเหมือนพัดลม
เจ้านายผู้อาจหาญไม่ใช่แค่เลื่อนตำแหน่งให้ตัวมัน แต่ยังมอบลูกน้องให้มันถึงสองตน
เป็นอะไรที่เจ๋งสุดๆไปเลย!
“ฮ่ง! ฮ่ง! พวกนายได้ยินไหม? ตั้งแต่วันนี้ไปเปิ่นหวังคือลูกพี่ของพวกนาย! จงก้มหัวให้เปิ่นหวังซะ!”
ฮัสกี้เดินสี่ขาเข้าไป เชิดหน้ายืดอก ทำตัวเหมือนหมาผู้ยิ่งใหญ่
“มาเร็ว ก้มหัวให้ฉัน!”
ฮัสกี้แสยะยิ้ม
พริบตานั้นมนุษย์ต้นไม้ผู้สงบเสงี่ยมตลอดมาฟาดกิ่งไม้ลงแทนคำตอบ
ฮัสกี้กรีดร้องลั่น ดีดตัวหมุน 360 องศา สะดุดขาตัวเองเสียหลักล้มลงกับพื้น
“ฮ่ง! ช่างกำเริบเสิบสาน! ลูกน้องไม่รู้จักภักดี!” ฮัสกี้รู้สึกเหมือนฟันของมันจะหัก รีบวิ่งกลับมาหาฮังอวี่ ทำหน้าตาน่าสงสาร “เจ้านาย เห็นเมื่อกี้ไหม เจ้าสองต้นนี้ไม่เข้าฉลาดเลย ไม่มีวินัยสักนิด เปิ่นหวังขอเปลี่ยนลูกน้อง!”
ฮังอวี่ “...”
เมนูมากมายผุดขึ้นในหัวของฮังอวี่
เนื้อสุนัขตุ๋น , หม้อไฟเนื้อสุนัข , เนื้อสุนัขทอด , หม่าล่าเนื้อสุนัข ....
ฮังอวี่กำลังจะเดินไปหยิบมีดทำครัว แต่สามพี่น้องโล้นซ่ามาเคาะประตูเสียก่อน นี่ทำให้ฮังอวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ทำไมพวกนายมาเร็วจัง? เรื่องที่ขอให้ทำเรียบร้อยแล้วหรอ?”
โล้นซ่าพยักหน้าซ้ำๆ ระหว่างนั้นเหลือบมองไปยังต้นไม้สองต้นในลานบ้าน เผยสีหน้ายำเกรง
ได้ยินจากเจ้าลิงจ๋อเล่าให้ฟัง ว่าต้นไม้สองต้นนี้ไม่ใช่แค่มีไว้ขู่เฉยๆ แต่มันเติบโตเร็วมากและสามารถทุบตีคนได้เช่นกัน ทั้งยังมีพละกำลังอย่างน่าเหลือเชื่อ
แม้ยังไม่โตเต็มที่ แต่ก็มีพลังรบมากพอที่จะฆ่าคนธรรมดาคนหนึ่งได้ภายในไม่กี่วินาที ถ้ามันเติบใหญ่ยิ่งกว่านี้ ไม่รู้จะทรงพลังขึ้นอีกเท่าไหร่!
“พี่ใหญ่ เรื่องที่พี่ขอ พวกเราไม่กล้าละเลย” เสืออ้วนก้าวออกมาหน้าโล้นซ่า เผยสีหน้าประจบสอพลอ ยื่นกระดาษ A4 หลายแผ่นด้วยสองมือ
สิ่งที่เขียนอยู่ใน A4 คือข้อมูลครัวเรือนในชุมชนตรอกมังกรฟ้า
“พี่ใหญ่โปรดดูนี่”
เอาจริงๆแล้ว น้องคนสุดท้องในบรรดาสมาชิกทั้งสาม มีอายุอยู่ที่ราวๆ 25 -26 ปี ทว่าพวกเขากลับยกฮังอวี่ให้เป็นพี่ใหญ่
อย่างไรก็ตาม นับแต่อดีตกาล ผู้แข็งแกร่งมักเป็นนาย ดังนั้นการเรียกแบบนี้ไม่นับว่ามีอะไรผิดปกติ!
ฮังอวี่โบกมือให้ทั้งสามนั่งลง ส่วนตัวเองหย่อนตัวบนเก้าอี้หวาย และเริ่มตรวจสอบข้อมูล
สมแล้วที่ทั้งสามเป็นงูเจ้าถิ่นของชุมชนเก่าแห่งนี้ ข้อมูลที่รวบรวมมาค่อนข้างละเอียดทีเดียว จำนวนครัวเรือนใกล้เคียงกับที่เขาเคยประมาณการไว้
ยังไม่พอ ทั้งสามยังรวบรวมได้กระทั่งอาชีพและสกิลติดตัวของหลายๆคน
โล้นซ่าเห็นฮังอวี่นั่งลงบนเก้าอี้หวาย เริ่มพลิกอ่านข้อมูลอย่างจริงจัง ก็อดรู้สึกประหม่าไม่ได้
เขาไม่มั่นใจว่าข้อมูลที่รวบรวมมาจะทำให้ฮังอวี่พอใจได้หรือไม่
แต่ในตอนนั้นเอง เขาสังเกตเห็นว่ามีฮัสกี้กำลังนั่งยองๆอยู่ข้างๆ ฮังอวี่
เอ๊ะ? คราวก่อนที่มาไม่มีนี่? หรือว่าพี่ใหญ่จะเริ่มเลี้ยงหมาแล้ว?
โล้นซ่าพบว่าหมาตัวนี้ดูต่างออกไปจากตัวอื่นๆ แม้มันจะเป็นฮัสกี้ขนขาวดำที่พบเจอได้ทั่วไป ทว่าลวดลายมีสีจัดชัดเจน ขนเรียบเนียนเหมือนผ้าซาติน ปากยาว ตาสีฟ้าม่านตาสีดำ เวลานั่งนิ่งๆ ดูน่ายำเกรงมาก
เป็นฮัสกี้ที่หล่อเหลาทีเดียว อาจเรียกได้เลยว่าเป็นจ่าฝูงในหมู่สุนัข
และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ดวงตาของมันสะท้อนให้เห็นถึงไหวพริบอันชาญฉลาด นี่คือสิ่งที่สัตว์ตัวอื่นๆไม่มี
‘จุ๊ จุ๊ พี่ใหญ่ก็ยังเป็นพี่ใหญ่ สุนัขที่เลี้ยงย่อมโดดเด่นไม่ต่างจากเขา!’
ประสาทสัมผัสของฮัสกี้ดีมาก มันสังเกตเห็นได้ถึงสายตาสอดรู้สอดเห็นของโล้นซ่า หันขวับไปมองทันที ฉีกยิ้มกว้าง แลบลิ้นออกมา
ท่าทีองอาจของจ่าฝูงหายไป กลายเป็นตัวตลกในพริบตา มันเอ่ยปากพูดว่า “ฮ่ง! มนุษย์หัวล้าน นายก็เป็นลูกน้องของเจ้านายใช่ไหม?”
“อ๊าาาา!”
โล้นซ่า , เสืออ้วน , ลิงจ๋อต่างกรีดร้องแตกตื่น
ฮะ ... ฮัสกี้พูดได้!
นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
เตรียมใจไม่ทัน!
หวังเอ๋อไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้รับผลกระทบจากคำพูดของตัวเองมากแค่ไหน มันชำเลืองมองชายหัวล้าน คนอ้วน และชายร่างผอม ก่อนพูดอย่างร่าเริงว่า “ฮ่ง ฮ่ง! ตั้งใจฟังให้ดี เจ้านายพึ่งแต่งตั้งฉันเป็นหัวหน้าหน่วยที่นี่ ดังนั้นเปิ่นหวังถือเป็นอันดับสอง ต่อไปต้องเรียกฉันว่าพี่รองฮัสกี้เข้าใจไหม?”
สามพี่น้องหวาดกลัวเกินกว่าจะพูดตอบกลับไป พวกเขาพยายามตั้งสติพักหนึ่ง
ที่แท้หมาของพี่ใหญ่ก็เป็นหมาอัจฉริยะ!
“รับทราบ! คารวะพี่รองฮัสกี้!” ทั้งสามโค้งหัวลงพร้อมกัน กล่าวด้วยความเคารพว่า “โปรดดูแลพวกเราน้องเล็กด้วย!”
ทั้งสามไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลย ว่าวันหนึ่งพวกเขาต้องก้มหัวให้สุนัข
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่ใช่สุนัขธรรมดา แต่เป็น เอ่อ ... เป็น .... เป็นฮัสกี้อัจฉริยะ!
ต้นไม้ที่พี่ใหญ่นำมาปลูกสามารถทุบตีคนได้
สุนัขที่พี่ใหญ่พากลับมาสามารถพูดภาษามนุษย์
ทุกอย่างที่เขาทำมีแต่เรื่องน่าเหลือเชื่อทั้งนั้น
หากจู่ๆพี่ใหญ่สารภาพว่าแท้จริงแล้วเขาคือชาวคริปโตเนียน(เผ่าพันธุ์ของซุปเปอร์แมน) สามพี่น้องคงเชื่อจริงๆ