ตอนที่แล้วบทที่ 2 การรักษาที่ทำให้ถึงตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 ขอผมให้พรพี่ต่อนะ!

บทที่ 3 ต้องการทั้งหมด


บทที่ 3  ต้องการทั้งหมด

ทั้งสองกินอาหารกันอย่างเงียบๆ แล้วในที่สุดบรรยากาศที่น่าอึดอัดก็ถูกทำลายโดยหานเจียงเสวี่ย

หานเจียงเสวี่ยตักผัก แกล้งทำเป็นถามอย่างสบายๆว่า “ยังเจ็บอยู่ไหม?”

“เอ่อ…” เจียงเสี่ยวที่กำลังกินหมูตุ๋นอย่างมีความสุข และชื่นชมกับฝีมือทำอาหารของพี่สาวตัวน้อย พอได้ยินคำถามของหานเจียงเสวี่ย เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนตอบว่า “นิดหน่อย”

ใบหน้าไร้อารมณ์ของหานเจียงเสวี่ยเปลี่ยนไปในที่สุด ดูเหมือนเธอจะลำบากใจเล็กน้อย แต่ไม่ต้องการแสดงออก เธอพยายามอ้าปากอยู่นาน ในที่สุดก็พยายามพูดออกมาอย่างสบายๆว่า “ต่อไปอย่าทำวิดีโอแบบนั้นอีก”

“โอเค” เจียงเสี่ยวกินหมูตุ๋นต่ออีกชิ้นและข้าวอีกคำโต มีความสุขจนเกือบร้องไห้

เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวคนนี้จะมีฝีมือทำอาหารที่น่าทึ่งขนาดนี้ หรือว่านี่เป็นทักษะดาวของเธอ?

มันอร่อยมาก หมูตุ๋นนี้มีไขมันมากจริงๆ แต่ก็ไม่มันเยิ้ม

ดูเหมือนเจียงเสี่ยวจะฝังหัวอยู่กับการกิน ซึ่งทำให้หานเจียงเสวี่ยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย น้องชายคงกลัวถูกเธอตบกะโหลกอีกแน่ๆ ตอนนั้นเธอโมโหมากจริงๆ ฝ่ามือนั้นจึงไม่เบาเลย

พอคิดถึงเรื่องนี้ หานเจียงเสวี่ยก็วางชามกับตะเกียบลง และลุกขึ้นจากโต๊ะเดินออกจากห้องครัว

เจียงเสี่ยวชะงักการกินไปชั่วขณะ มองดูพี่สาวตัวน้อยสะบัดชายเสื้อขาวเดินออกไป อิ่มแล้วเหรอ?

ทำไมกินน้อยจัง?

เสียของอะไรอย่างนี้?

ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็คิดถึงลานบินบ้างสิ!

ไม่คิดจะสร้างอาคารC หรืออะไรบนลานบินบ้างเลยเหรอ?

พอเจียงเสี่ยวกินข้าวในชามของตัวเองหมด เขาก็มองไปยังชามข้าวที่หานเจียงเสวี่ยทิ้งไว้บนโต๊ะ หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ เขาก็นำมันมาตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป

เวลาผ่านไป ความทรงจำในใจของเขาก็ค่อยๆ ผสานเข้าด้วยกัน และเขาก็รู้สึกสบายขึ้นเรื่อยๆ

ในทางความคิด เขารู้ว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวนี้

แต่ในทางอารมณ์ ครอบครัวนี้ค่อยๆเข้ามามีบทบาทกับเจียงเสี่ยว

ผลของการเข้ามามีบทบาทนี้ก็คือ … พอกินเสร็จก็สะบัดตูดจากไป

สำหรับการเอาจานไปล้างน่ะเหรอ?

เหอ เหอ มันไม่มีอยู่จริง

อย่างไรก็ตามเจียงเสี่ยวก็ล้มเลิกความคิดที่พอกินเสร็จแล้วสะบัดตูดจากไปโดยทิ้งจานชามไว้บนโต๊ะ เพราะเขาไม่ใช่เจียงเสี่ยวผี และหลังจากนี้ความแตกต่างด้าน บุคลิกภาพ พฤติกรรม และภาษาจะถูกค้นพบในที่สุด

ในกรณีนี้ ทำไมไม่ทำการเปลี่ยนแปลงในสิ่งเล็กๆน้อยๆเลยล่ะ? มันจะทำให้หานเจียงเสวี่ยยอมรับได้ดีขึ้น

เริ่มต้นจากการล้างจาน

“ข้าวของฉันอยู่ไหน?” จู่ๆก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นจากทางด้านหลัง

เสียงแบบนี้ทำให้เจียงเสี่ยวรู้สึกไม่เข้ากันอยู่เสมอ เสียงนี้ให้ความรู้สึกถึงอารมณ์ของคนที่มีโทสะคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา แม้สิ่งที่พูดออกมาจะหมายถึงแค่การกินข้าวก็ตาม

“ผมนึกว่าพี่ไม่กินแล้ว” เจียงเสี่ยวชะงักการล้างจานไปชั่วขณะ

“อืม” ดูเหมือนหานเจียงเสวี่ยจะเป็นคนแบบนี้ เธอไม่ชอบพูดและไม่ใส่ใจอะไรมาก เธอแค่กวักมือเรียกเจียงเสี่ยวแล้วพูดว่า “นั่งลง”

“โอ้” เจียงเสี่ยวนั่งลง นี่เป็นการประชุมครอบครัวใช่ไหม?

เพื่อให้สอดคล้องกับความคิดก่อนหน้า เจียงเสี่ยวจึงพยายามเข้าถึงบทบาทให้ได้มากที่สุด เขานั่งลงอย่างเชื่อฟัง

“เอาไป” หานเจียงเสวี่ยแบมือที่ขาวนุ่มนวลของเธอ ลูกปัดที่ส่องประกายด้วยแสงทองเหลืองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเจียงเสี่ยว

“นี่คือ…ลูกปัดดาว?” ดวงตาของเจียงเสี่ยวเป็นประกาย เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับลูกปัดดาว ในความทรงจำของเจียงเสี่ยวผี หานเจียงเสวียเคยให้ลูกปัดดาว 3 เม็ดแก่เขา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพลังดาวของเขาถึงสามารถไปถึงระดับวัฏจักรละอองดาว Lv.2

น่าเสียดายที่คุณสมบัติของเจียงเสี่ยวผีนั้นแย่มาก พลังงานส่วนใหญ่ที่อยู่ในลูกปัดดาวคุณภาพทองเหลือง 3 เม็ด ถูกเจียงเสี่ยวผีทำให้สูญเปล่า

แน่นอนว่าจุดประสงค์ที่หานเจียงเสวี่ยมอบลูกปัดดาวให้เจียงเสี่ยวผี ไม่ใช่แค่เพิ่มพลังดาวให้กับเจียงเสี่ยวผี แต่เธอยังต้องการให้เจียงเสี่ยวผีได้รับทักษะดาวด้วย

ลูกปัดดาวเกิดจากสิ่งมีชีวิตต่างมิติ แต่ไม่ใช่สัตว์ต่างมิติทุกตัวจะสามารถสร้างลูกปัดดาว

การดูดซับลูกปัดดาวของสิ่งมีชีวิตต่างมิติ ก็เพื่อรับความสามารถของพวกมัน และเป็นวิธีเดียวที่จะได้รับทักษะดาว

น่าเสียดายที่แม้ว่าจะได้รับลูกปัดดาวมา และรู้ว่าภายในลูกปัดดาวมีความสามารถของสิ่งมีชีวิตต่างมิติอยู่ แต่ความเป็นไปได้ที่จะดูดซับทักษะดาวจากลูกปัดดาวที่ได้รับนั้นต่ำมาก

ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะได้รับทักษะดาว

จุดสำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ผู้ดูดซับต้องมีพลังดาว ดังนั้นจึงมีเพียงผู้ตื่นเท่านั้นที่สามารถดูดซับทักษะดาวได้

ระดับพลังดาวแบ่งออกเป็น วัฏจักรละอองดาว, วัฏจักรเนบิวลา, วัฏจักรกาแล็กซี, วัฏจักรทะเลดาว, วัฏจักรสตาร์รี่สกาย และเป็นไปได้ที่จะมีระดับที่สูงกว่านี้

ไม่ว่าบุคคลจะมีช่องดาวกี่ช่องก็ตาม ไม่ว่าความสามารถจะแข็งแกร่งเพียงใด เมื่อพลังดาวของพวกเขามาถึงวัฏจักรละอองดาว พวกเขาสามารถฝังลูกปัดดาวลงในแผนที่ดาวได้มากที่สุด 4 เม็ด นั่นหมายถึงสามารถมีทักษะดาวได้มากที่สุด 4 ทักษะ

เมื่อพลังดาวเพิ่มขึ้นจนถึงวัฏจักรเนบิวลา ก็จะสามารถดูดซับทักษะดาวได้อีก 4 ทักษะ

และเมื่อพลังดาวมาถึงวัฏจักรกาแล็กซี ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มทักษะดาวได้อีก 8 ทักษะเป็นต้น

แต่สิ่งเหล่านี้ยังห่างไกลเกินไปสำหรับเจียงเสี่ยว

เจียงเสี่ยวผีผู้ซึ่งได้ดูดซับลูกปัดดาวไปแล้ว 3 เม็ด จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะกลายเป็นสมาชิกของวัฏจักร แต่ลูกปัดดาวทั้ง 3 เม็ด เขาไม่สามารถดูดซับทักษะดาวใดๆได้เลย

“เมื่อวานฉันไปเจอผีขาวกลุ่มหนึ่งในทุ่งหิมะ ลูกปัดดาวนี้เป็นของแม่มดผีขาว” หานเจียงเสวี่ยพูดประโยคยาวๆที่ไม่ค่อยได้พูดบ่อยนัก

หลังจากอธิบายให้ฟังประโยคหนึ่งแล้ว เธอก็หยุดพูด แล้ววางลูกปัดดาวขนาดเท่าเล็บมือเล็กๆ ไว้บนโต๊ะตรงหน้าเจียงเสี่ยว

ผีขาว?

ลูกปัดดาวนี้ไม่ได้มาจากผีขาว? แต่ได้มาจากสายพันธุ์ที่หายากกว่า – แม่มดผีขาว?

“ดูดซับมันซะ ร่างกายของผู้คนแตกต่างกัน แม้ว่าบางคนจะเปิดแผนที่ดาวในร่างกายได้ แต่ก็อาจไม่สามารถได้รับทักษะดาวได้ตลอดชีวิต” หานเจียงเสวี่ยพูดประโยคยาวๆอีกครั้ง

นี่เธอพูดปลอบใจฉันใช่ไหมเนี่ย?

การแสดงออกของเจียงเสี่ยวดูแปลกๆเล็กน้อย หลังจากรวบรวมความทรงจำ และรู้ถึงความล้ำค่าของลูกปัดดาวที่อยู่ตรงหน้า เขาก็แอบถอนหายใจ

หานเจียงเสวี่ยเห็นเจียงเสี่ยวนิ่งไป และรู้สึกได้ถึงแรงกดดันของเขา จึงเอ่ยปากปลอบใจ “คุณสมบัติของนายไม่สูงนัก แผนที่ดาวก็มีเพียงเก้าดวงเท่านั้น และลูกปัดดาวเม็ดนี้ก็เป็นขีดสูงสุดที่นายจะรับได้แล้ว แม้ว่านายจะไม่สามารถดูดซับทักษะดาวได้ ก็อย่าเศร้าเกินไป มันไม่เป็นไรหรอก”

เจียงเสี่ยว: ? ? ?

ในที่สุดเจียงเสี่ยวก็เงยหน้าขึ้นมองหานเจียงเสวี่ยอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้ว่าเด็กสาวมีเจตนาดี แต่วิธีพูดแบบนี้มันจะเกินไปหน่อยไหม?

แผนที่ดาวของเจียงเสี่ยวคือ ‘กลุ่มดาวกระบวยใหญ่ เก้าดาว’ เก้าดาวสลัวเป็นตัวแทนของทักษะดาวทั้งเก้า ซึ่งแสดงถึงขีดจำกัดสูงสุดของการพัฒนาของเขา

พูดตรงๆ เก้าดาวนี้เป็นตัวแทนของช่องทักษะดาวเก้าช่อง แม้ว่าเขาจะเล่นตุกติกอย่างไรก็ตาม ก็สามารถรับทักษะดาวสูงสุดได้เพียงเท่านี้

โดยทั่วไปแล้ว จำนวนช่องดาวจะแสดงถึงความถนัดของแต่ละบุคคล มันไม่เพียงแต่จะสามารถแยกแยะจำนวนทักษะที่ผู้ตื่นจะได้รับเท่านั้น และยังช่วยให้มองเห็นพื้นที่สำหรับการพัฒนาของผู้ตื่นอีกด้วย

นี่เป็นมาตรฐานที่สังคมมนุษย์สร้างขึ้นหลังจากผ่านการทดสอบและทดลองมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

ผู้ตื่นที่มีช่องดาว 20 ช่องกับผู้ตื่นที่มีช่องดาว 1 ช่อง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกปัดดาวที่มีคุณภาพเท่ากัน ผู้ตื่นที่มีช่องดาว 20 ช่องย่อมสามารถรับทักษะดาวได้ง่ายกว่า

แผนที่ดาวของเจียงเสี่ยวคือ ‘กลุ่มดาวกระบวยใหญ่เก้าดาว’ ส่วนแผนที่ดาวของหานเจียงเสวี่ยคือ ดอกไม้ไฟสีขาวที่ลุกโชติช่วง

การแสดงผลที่ผ่านการเชื่อมต่อของช่องดาวและการกระจายของพลังดาว ที่นำเสนอผ่านแผนที่ดาวของหานเจียงเสวี่ย ระหว่างการต่อสู้นั้นน่ากลัวมาก

เพราะเธอมีช่องดาวถึง 30 ช่อง!

สิ่งนี้แสดงถึงจำนวนทักษะดาวที่เธอสามารถได้รับและคุณสมบัติในการพัฒนาของเธอ!

เจียงเสี่ยวหยิบลูกปัดดาวบนโต๊ะขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ดูดซับมัน จู่ๆก็มีภาพผุดขึ้นในใจ

“ลูกปัดดาวแม่มดผีขาว (คุณภาพทองเหลือง)

ทักษะดาว:

1. พร: ฟื้นฟูพลังชีวิตของเป้าหมายอย่างช้าๆ (คุณภาพทองเหลืองอัพเกรดได้)

2. เหยื่อล่อ: สร้างภาพลวงตาเพื่อทำให้ศัตรูสับสน (คุณภาพทองเหลืองอัพเกรดได้)

ต้องการควบรวมและดูดซับไหม?”

หมายความว่ายังไง? ‘ควบรวม’? แล้วดูดซับ?

สิ่งนี้แสดงถึงอะไร? แสดงถึงความสามารถในการใส่สองทักษะดาวลงไปในหนึ่งช่องดาวใช่หรือไม่?

แม้ว่าคนอื่นจะมีลูกปัดดาว แต่ก็อาจดูดซับทักษะดาวไม่ได้แม้แต่อย่างเดียวตลอดชีวิต แต่เขาสามารถดูดซับมันได้โดยตรง?

รวมกับข้อความ ‘อัพเกรดได้’ ด้านหลัง ต้องรู้ว่า เมื่อผู้คนดูดซับทักษะดาวแล้ว พวกเขาจะได้รับทักษะดาวตามคุณภาพที่ดูดซับได้ และไม่สามารถปรับปรุงได้อีก

แต่สำหรับเจียงเสี่ยวเขาสามารถปรับปรุงคุณภาพทักษะดาวต่อได้หรือนี่?

นิ้วทองอะไรเบอร์นี้! ?

เมื่อสามวันก่อน ระบบนี้คงแนะนำตัวกับเจียงเสี่ยวผี จากนั้นเขาก็เหิมเกริมขึ้นโดยสมบูรณ์ นี่มันบุตรแห่งสวรรค์โดยแท้!

“ไม่ต้องเสียดาย ดูดซับมันซะ ฉันสามารถหาใหม่ได้” หานเจียงเสี่ยวกล่าวอย่างหมดความอดทน พร้อมกับโบกมืออย่างเฉยเมย เธอรู้จักความสามารถและนิสัยของเจียงเสี่ยวผีดี

หานเจียงเสวี่ยกล่าวต่อไปว่า “แม่มดผีขาวมีสองทักษะดาว หนึ่งคือรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเพื่อนร่วมทีม อีกหนึ่งคือสร้างภาพมายา พวกมันเป็นทักษะดาวที่ดีมาก…”

ในขณะที่หานเจียงเสวี่ยพูดอย่างลังเล แต่แล้วก็เห็นดวงตาของเจียงเสี่ยวผีเป็นประกาย แล้วลูกปัดดาวในมือของเขาก็กลายเป็นแสงดาวเล็กๆ หายเข้าไปในหน้าอกของเขา

ไม่ว่าบุคลิกของหานเจียงเสวี่ยจะดูเฉยเมยขนาดไหนก็ตาม แต่ในเวลานี้เธอมีร่องรอยของความคาดหวัง เธอเอียงศีรษะและถามว่า “นายได้รับทักษะดาวไหม?”

เจียงเสี่ยวรู้สึกถึงดวงดาวเล็กๆที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกาย เขาลืมตาขึ้นและพยักหน้า

ดวงตาสวยงามของหานเจียงเสวี่ยเป็นประกาย แม้แต่ใบหน้าที่เย็นชาก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย ราวกับโลกทั้งโลกกำลังอุ่นขึ้น

เจียงเสี่ยวมองเด็กสาวที่มีดวงตาสดใสตรงหน้า แล้วอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นมาก

หานเจียงเสวี่ยพูดเบาๆว่า “นายได้ทักษะดาวอย่างไหนมา?”

ทักษะดาวอย่างไหน?

เจียงเสี่ยวผีคนก่อนต้องเลือก แต่เขา เจียงเสี่ยว ต้องการทั้งหมด!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด