ตอนที่ 777+778 กล่าวขอบคุณ
ตอนที่ 777 กล่าวขอบคุณ
หากแม้แต่อาจารย์สูงวัยท่านนี้ยังต้องการพบเธอโดยบังเอิญ คนอื่น ๆ ก็คงมีทัศนคติแบบเดียวกันกับเขา
“โอเค” อาจารย์ถอนหายใจอย่างเสียใจ “ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควรเรียนรู้เพิ่มเติมจากอาจารย์ของคุณ แต่ก็ต้องพยายามเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยให้ดีที่สุดเมื่อมีเวลาด้วยล่ะ อาจารย์ของคุณ เขายุ่งมาก เขาอาจจะไม่สามารถสอนคุณได้เสียทุกอย่าง ฉันจะจดหมายเลขโทรศัพท์ของฉันให้คุณ หากคุณมีอะไรที่ไม่เข้าใจ ก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลา”
“...”
อาจารย์เห็นคุณค่าของเจียงเหยามากขึ้น ผู้ที่เทวแพทย์ให้การยอมรับก็ต้องมีความสามารถ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจียงเหยาจะมีประสบการณ์มากเมื่อเธอต้องช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีเหตุฉุกเฉินกะทันหัน ปรากฏว่ามีผู้เชี่ยวชาญคอยชี้แนะเธออยู่เบื้องหลังนี่เอง
จากนั้นทุกอย่างก็สมเหตุสมผล ไม่น่าแปลกใจที่อธิการบดีบอกว่าเขาจะปฏิบัติต่อเจียงเหยาเป็นพิเศษ
หลังจากออกจากห้องทำงานของอาจารย์ เจียงเหยาก็ถูกอาจารย์อีกคนเรียกไว้ เขาไม่ได้พูดถึงการลาเรียนของเธอเลย เขาเดินเตร่อยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะกล่าวขอบคุณเธอ
คำขอบคุณที่เขาไม่ได้อธิบายนี้ทำให้เจียงเหยาตกใจ
“ทำไมจู่ ๆ อาจารย์ถึงมาขอบคุณหนูล่ะคะ” เจียงเหยาตกตะลึง
เมื่ออาจารย์เห็นการแสดงออกของเจียงเหยา เขารู้ว่าเธอคงลืมไปแล้ว
“ครั้งสุดท้ายที่ฉันคุยกับคุณ คุณได้บอกฉันให้สนใจหุ้นที่อยู่ในมือช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นพิเศษไม่ใช่หรือ ฉันเชื่อคุณและขายหุ้นทั้งหมดในเดือนตุลาคม เมื่อวานฉันดูข่าวหุ้นตัวนี้ก็เริ่มตก”
“วันนี้ยังตกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ตลอดเปิดตัว ราคามันตกจนดูไร้ค่าและไม่สามารถขายออกได้”
อาจารย์ชายท่านนั้นเริ่มกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ “ดีนะที่ฉันขายมันตั้งแต่เนิ่น ๆ และได้กำไรมาบ้าง หลังจากที่ฉันขาย ทั้งเพื่อนและญาติ ๆ ถึงกับหัวเราะเยาะฉันว่าโง่เขลา ตอนนั้นฉันเองก็กำลังเรื่องที่ตัวเองฟังคุณอยู่เหมือนกัน แต่พอลองคิดดู ฉันน่ะเชื่อคุณ ก็เลยขาดหุ้นพวกนั้นไปจนหมด เพื่อนฉัน เมื่อวานเขายังไม่ได้ขาย พอวันนี้ต้องการจะขาย ราคามันตกยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก เขาบอกฉันว่าที่เขาไม่ขายเพราะมีเพื่อนแนะนำว่าไม่ต้องขาย อีกไม่กี่วันราคาก็ขึ้นแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะขายและกังวลว่ามันจะขายไม่ได้น่ะสิ”
“ค่ะ ตอนที่ราคามันขึ้นก่อนหน้านี้ เขาอาจจะขายมันไม่ได้แล้วหลังจากที่เขาไม่ยอมขายในตอนนั้น ขอให้เพื่อนของอาจารย์ขายมันออกให้ได้มากที่สุดนะคะ ตราบใดที่เขายังขายได้ในตอนนี้ก็ยังถือว่ามีกำไรอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้น เขาอาจจะสูญเสียมากจนไม่สามารถร้องไห้ได้ในอนาคตเลยล่ะคะ”
เจียงเหยายุ่งมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ และลืมเรื่องตลาดหุ้นไปเลย เมื่อคิดดู ตอนนี้ก็เป็นช่วงกลางเดือนตุลาแล้ว ตลาดหุ้นก็เริ่มตกต่ำในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าอาจารย์ชายท่านนี้มีความสุข เจียงเหยาก็มีความสุขเช่นกัน เธอได้เปลี่ยนชีวิตอันน่าสังเวชของอาจารย์ท่านนี้ มันค่อนข้างดี นี่เป็นชะตากรรมของเขาเอง เขาฟังคำแนะนำจากเธอ คราวนี้เขาถึงหลีกเลี่ยงภัยพิบัตินี้ไปได้
นี่คือการเกิดใหม่ของเธอ และการเกิดใหม่ของอาจารย์ท่านนี้ด้วย
“ได้ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับเพื่อนของฉัน” อาจารย์หนุ่มจากไปอย่างมีความสุข ดังนั้นเขาจึงหยุดเจียงเหยาเพื่อขอบคุณเธอโดยเฉพาะ หลังจากได้ยินคำพูดที่น่าเหลือเชื่อของเจียงเหยา เขาก็เชื่อเสียอย่างนั้น
จริง ๆ เขาไม่ได้คิดที่จะถามเจียงเหยา ซึ่งไม่เล่นหุ้นว่าเธอรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นล่วงหน้าได้อย่างไร
__
ตอนที่ 778 ใจกว้างเสียจริง
เมื่อมองไปที่เสียงหัวเราะร่าเริงของอาจารย์ที่เพิ่งเดินจากไป เจียงเหยายืนอยู่ที่นั่นและส่ายหน้าเบา ๆ อาจเป็นไปได้ว่าอารมณ์ที่มีความสุขได้ถ่ายทอดราวกับเชื้อติดต่อ เธอยืนอยู่ตรงนั้นและยิ้มอย่างไม่มีเหตุผล
ก่อนที่เจียงเหยาจะกลับไปที่หอพัก เธอถูกเหวินเสวี่ยฮุ่ยหยุดไว้ระหว่างทาง เธออาจกลัวว่าอาจารย์สูงวัยผู้ซึ่งเคร่งขรึมจะทำให้เจียงเหยาร้องไห้ ดังนั้นเธอจึงรอเจียงเหยาอยู่ที่นั่นเป็นพิเศษ และคิดอยู่นานว่าจะปลอบใจเธออย่างไรดี
แต่เมื่อเธอเห็นเจียงเหยา เธอตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้ยังคงยิ้มอยู่ได้
“เธอนี่ใจใหญ่เสียจริง” เหวินเสวี่ยฮุ่ยถอนหายใจ
“อาจารย์ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับฉันเลย” เจียงเหยาคิดกับตัวเอง เขาไม่เพียงแค่ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเธอ แต่เขายังรู้สึกถึงความรักและความเคารพต่อเธอด้วย เพราะเทวแพทย์ ที่ชายชราให้ความเคารพ ทำให้เขายอมรับเธอที่เป็นลูกศิษย์ของเทวแพทย์ไปด้วย
“แปลกจัง” เหวินเสวี่ยฮุ่ยไม่เชื่อ เธอรู้สึกเสมอว่าเจียงเหยาคงไม่อยากให้เธอเป็นกังวล ดังนั้นเธอจึงพูดเช่นนั้น
พ่อของเธอเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยนี้ เธอจึงรู้จักอาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยนี้ด้วย ตั้งแต่วินาทีที่เธอได้พับกับอาจารย์ เธอก็กลัวอาจารย์คนนั้นเป็นพิเศษ ระดับความกลัวน้อยกว่าปู่ของเธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เจียงเหยาไม่สามารถอธิบายได้ ขณะที่เอกำลังจะหาหัวข้ออื่นเพื่อหันเหความสนใจของเหวินเสวี่ยฮุ่ย โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ลู่ชิงสีมีส่วนร่วมในการประเมิน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะโทรมา เจียงเหยาหยิบมันขึ้นมา
หลังจากรับสาย เธอได้ยินเสียงของเหล่าอู่ดังลอดมาจากปลายสาย เธอมองดูหมายเลขก็พบว่าเป็นสายมาจากเฉินซวีเหยาจริง ๆ
“พี่ห้าเหรอ” เจียงเหยารู้สึกประหลาดใจ พี่สี่มักจะโทรหาเธอและหัวเราะคิกคักกับเธอเมื่อเขาว่าง ทว่าพี่ห้าเป็นคนที่ยุ่งและไม่ค่อยโทรหาเธอ
“พี่สะใภ้ ฉันเอง” เฉินซวีเหยารับสาย เนื่องจากเธอเป็นพี่สะใภ้คนที่สามของเขา เขาจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร เขาอธิบายจุดประสงค์ของการโทรมาอย่างตรงไปตรงมา “พี่สะใภ้ขอถามอะไรหน่อยสิ เธอรักษาคอได้ไหม”
เมื่อได้ยินคำถามจากเหล่าอู่ เจียงเหยาก็ถามโดยไม่รู้ตัวว่า “กำลังพูดถึงฉู่เซิง ผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”
เฉินซวีเหยาตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าเจียงเหยาจะคิดออกได้อย่างรวดเร็ว เขาฮัมเสียงตอบรับและอธิบายอย่างจริงจังว่า “พี่สะใภ้ ฉู่เซิงมีความสำคัญกับฉันมาก ฉันตามหาเธอมาหลายปีแล้ว ตอนที่พบกับเธอ เธอยังพูดได้อยู่เลย เสียงของเธอดีมาก และมีเสน่ห์ยิ่งกว่าตอนที่เธอยิ้ม ฉันยังจำเพลงที่เธอร้องไห้ฉันได้อยู่เลย เสียงของเธอไพเราะดั่งสายลม”
นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเหยาได้ยินเฉินซวีเหยายกย่องใครบางคนด้วยเสียงเช่นนี้ คำอธิบายดังกล่าวก็ยากจะจินตนาการเสียเหลือเกิน เจียงเหยาคิดว่าเธอไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเสียงของหญิงสาวจะสวยงามเพียงใด แต่..ด้วยรอยยิ้มที่สวยงามเช่นนี้ ถ้าหญิงสาวสามารถพูดได้ เสียงของเธอก็น่าจะไพเราะด้วยเช่นกัน
เจียงเหยาไม่ทราบสาเหตุที่หญิงสาวไม่สามารถพูดได้ และเธอไม่แน่ใจว่าจะรักษาได้หรือไม่ แม้ว่าเธอจะเคยพบหญิงสาวคนนั้นมาแล้วถึงสองครั้ง แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้ป่วยของเธอ เธอจึงไม่ได้แอบสแกนดูสภาพร่างกายของคนอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้น เธอจึงไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นพูดไม่ได้เพราะเส้นเสียของเธอเสียหาย หรือเพราะสาเหตุใด
“ถ้าคุณว่าง ให้พาเธอมาที่เมืองหนานเจียงสิ ฉันขอตรวจดูก่อนถึงจะให้คำตอบที่ชัดเจนแก่คุณได้” เจียงเหยากล่าว “หรือถ้าคุณไม่รีบ ก็รอจนกว่าฉันจะไปเมืองหลวงในช่วงวันหยุดฤดูหนาว แล้วไปพบเธอ”