641 - มาถึงจนได้
641 - มาถึงจนได้
บนภูเขาสีดำหลายลูกวิหารที่ทรุดโทรมนั้นเก่ามาก ตามที่จักรพรรดิดำกล่าว นี่เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมจากเมื่อหลายพันปีที่แล้วซึ่งในโลกตอนนี้แทบจะไม่ปรากฏให้เห็น
รอบๆวิหารโบราณเหล่านั้นมีลวดลายเต๋าแกะสลักไว้มากมาย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มันดำรงอยู่ได้ยาวนานถึงขนาดนี้
พวกเขาต้องการปีนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อดูมัน เพราะหนานหนานบอกว่าที่นี่มีเพียงหมอกสีดำและไม่มีเส้นสีทองนำทางซึ่งทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเดินเข้าไปข้างใน
สุนัขสีดำตัวใหญ่ตัวสั่นแล้วพูดว่า "ไม่มีเส้นทางสีทอง นั่นคือสถานที่แห่งความตาย พวกเราไม่สามารถเข้าไปใกล้มันได้"
พวกเขาเฝ้าดูจากระยะไกลและมองเห็นอาคารโบราณเก่าแก่ที่มีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มากมาย
“กลิ่นหอมของยา เจ้าได้กลิ่นไหม นั่นเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุมากกว่าหมื่นปีอย่างไม่ต้องสงสัย”
ตู้เฟย หลี่เหอซุยและคนอื่นๆ พยายามยืดคอเพื่อให้สามารถดมกลิ่นหอมของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ได้
“อย่าขึ้นไปบนยอดเขา อย่าเข้าใกล้อาคารเหล่านั้น แค่เลือกยาหายากสองสามชนิดที่อยู่ใกล้ๆก็พอแล้ว?” ผังป๋อกล่าวเบาๆ
มีภูเขาเตี้ยสีดำสี่แห่ง แต่ละแห่งมีทุ่งสมุนไพรที่ถูกปลูกไว้อย่างเป็นระเบียบ พวกมันไม่ใหญ่มากแต่กลิ่นหอมของยาค่อนข้างรุนแรง
“หนานหนานเจ้าดูหน่อยว่ามีเส้นสีทองรอบๆ ทุ่งยาหรือไม่” เย่ฟ่านพูดเบาๆ
“มีเพียงหนึ่งหรือสองเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดที่นำไปสู่ทุ่งยา ระยะทางค่อนข้างไกล” หนานหนานอธิบายอย่างไร้เดียงสา
“เข้าไปดูใกล้ๆสักหน่อย ถ้ามันไม่ได้ผลพวกเราจะออกไปทันที” เย่ฟานตัดสินใจเช่นนั้น
พวกเขาเลือกภูเขาเตี้ยๆลูกที่สามซึ่งมีลวดลายสีทองมากกว่าภูเขาอื่น และทุ่งยาอยู่ไกลจากอาคารบนยอดเขา เมื่อมาถึงที่นี่พวกเขาประหม่ามาก
ทุ่งยาเต็มไปด้วยยาศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ หากสามารถเก็บเกี่ยวสมุนไพรได้สักสิบต้น พวกเขาจะกลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีต้นกำเนิดมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย
ยศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีอายุนับหมื่นปี เมื่อถูกสร้างเป็นยามันจะกลายเป็นยาวิเศษที่สามารถต่ออายุผู้คนซึ่งสามารถเทียบได้กับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในดินแดนมรณะของภาคใต้ได้เลย
“กระดูกคนตาย...”
ทันทีที่พวกเขามาถึงเชิงเขา พวกเขาพบกระดูกสีขาว และหญ้าที่สดใสราวกับผลึก
"ส่วนใหญ่เป็นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะตายและเข้าสู่ภูเขาอมตะโดยหวังจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา"
ในไม่ช้า พวกเขาก็ระบุตัวตนของใครบางคนได้ รวมถึงจี้หยกของราชวงศ์อมตะในจงโจว และหลายคนเป็นจักรพรรดิที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตที่นี่
“ไม่ ทำไมคนพวกนี้ถึงตายที่เชิงเขา อย่างน้อยพวกเขาก็น่าจะตายข้างบน” เย่ฟานอุ้มหนานหนานถอยห่างด้วยความกลัว
เจ้าของกระดูกเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่โดดเด่น พวกเขากำลังจะไปทุ่งยา ทำไมพวกเขาถึงตายที่นี่ พวกเขาตายโดยที่ไม่มีโอกาสได้หยิบยาออกมาแม้แต่ต้นเดียว
พวกเขาถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง พวกเขาก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย และเลือดทั่วร่างกายก็ดูเหมือนจะลุกเป็นไฟ
“เป็นพิษ ทุ่งยานั้นไม่เพียงแต่บรรจุยาศักดิ์สิทธิ์อายุหมื่นปีเท่านั้น แต่ยังมีสารพิษสูงที่สามารถฆ่าปรมาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบได้” เฮยฮวงอุทาน
ใบหน้าของคนหลายคนซีดขาว ร่างกายอ่อนแอและเกือบจะล้มลงกับพื้น
“ไม่เป็นไร เราจะไม่ตายอย่างแน่นอน ข้ามียาวิเศษหลายชนิด ยาชนิดนี้สามารถรักษาพิษได้ทั้งหมด” เย่ฟ่านกล่าวด้วยความสงบ
เย่ฟานและหนานหนานไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และอาการของพิษที่ทำผังป๋อก็ดูจะไม่รุนแรงเท่าไหร่
“ดื่มพวกมันพร้อมกับชาแห่งการรู้แจ้งจะทำให้ได้ผลดีขึ้น”
จากนั้นเย่ฟ่านหยิบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาและให้ทุกคนดื่มพวกมันอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นพวกเขาก็นำใบชาแห่งการรู้แจ้งออกมากินปิดท้าย พิษที่อยู่ในร่างกายของพวกเขาก็สลายไปทันที
“แม้แต่จักรพรรดิผู้ไร้เทียมทานก็สามารถถูกวางยาพิษตายได้ ถ้าเราไม่กินน้ำอมฤตแห่งความเป็นอมตะ พวกเราคงตายอยู่ที่นี่ไปแล้ว”
พวกเขายืนอยู่ไม่ไกลจากตีนเขาและมองดูทุ่งยาที่เต็มไปด้วยพิษร้ายด้วยความปรารถนา”
“มีศพอยู่ในทุ่งยา”
ผังป๋อพบศพของใครบางคนที่นั่งเสียชีวิตในถ้าทำสมาธิภายในทุ่งยา แม้ว่าร่างกายของเขาจะแห้งเหี่ยวแต่ก็ยังมีแสงสีทองโอบล้อมร่างกายของเขาอย่างแน่นหนา
“นั่นเป็นคนหัวโล้น ที่ศีรษะของเขาไม่มีเส้นผมแม้แต่เส้นเดียว ร่างกายของเขาเหี่ยวเฉา แต่ไม่เน่าเสีย” หลี่เหอซุยพึมพำ
เย่ฟ่านตกใจและพูดว่า "เป็นหลวงจีนจากทะเลทรายตะวันตก นี่คือร่างวัชระไร้เทียมทาน เห็นได้ชัดว่าเขาคือยอดฝีมือผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง"
"หลวงจีนคนนี้ตายไปแล้วอย่างน้อย 10,000 ปีและความแข็งแกร่งของเขาแข็งแกร่งดูเหมือนจะเทียบได้กับราชาสวรรค์เจียงไท่ซูเลยทีเดียว” จักรพรรดิดำตัดสินเช่นนั้น
“แม้แต่คนเช่นนี้ก็ตายไปแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ดุร้ายจริงๆ”
“ปรมาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้จะต้องไม่ถูกวางยาพิษตาย บางทีข้างในนี้อาจจะมีอันตรายอย่างอื่นซ่อนอยู่” สุนัขสีดำตัวใหญ่เริ่มถอยออกห่างจากทุ่งยา
“มีศีรษะคนอยู่ในทุ่งยา...” ตู้เฟยอุทานด้วยความตกใจ
เขาสวมมงกุฏสีม่วง-ทอง ผิวหนังซีดขาวราวกับหิมะ ศีรษะของเขาดูเหมือนจะถูกใครบางคนฉีกออกจากร่าง รอยแตกนั้นไม่เท่ากันอย่างมาก และแม้จะตายไปหลายปีแล้วแต่ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
“เร็วเข้า ที่แห่งนี้อยู่ได้ไม่นาน” เย่ฟ่านไม่ยอมให้หนานหนานเห็นเพราะกลัวว่าจะทำให้เด็กน้อยหวาดกลัว
พวกเขาถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว และในระหว่างนั้นพวกเขาก็ค้นพบทุ่งยาวิญญาณระดับต่ำที่มีต้นยามากกว่าหมื่นต้น
ตู้เฟยหัวเราะเสียงดัง และเดินไปข้างหน้าเพื่อเลือกมันทีละต้นด้วยความโลภ ยาวิญญาณทั้งหมดมีแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี ควบแน่นไปด้วยพลังชีวิตอันไร้เทียมทาน
แม้ว่าพวกมันจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ด้วยจำนวนมากมายมหาศาลนี้ก็เพียงพอจะมอบต้นกำเนิดให้กับพวกเขาหลายแสนจิน
“พวกเรารวยแล้ว” ปากของตู้เฟยฉีกกว้างจนถึงหู
อย่างไรก็ตาม จู่ๆก็มีเสียง "ตง" ที่ดังมาจากอาคารโบราณบนเนินเขาเตี้ยๆ ทำให้หัวใจของพวกเขาแทบแตกสลาย
“ในวิหารโบราณมีสิ่งมีชีวิต”
ทุกคนมองสบตากันเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งหนีไปตามเส้นทองสีทองที่หนานหนานชี้ด้วยความกลัว
สถานที่แห่งนี้แม้แต่ครึ่งเซียนอย่างเช่นหลวงจีนร่างวัชระคนนั้นก็ยังถูกฆ่าตาย ลำพังแค่พวกเขาผู้บ่มเพาะอาณาจักรสี่สุดขั้ว มันไม่เพียงพอจะเข้าไปอยู่ในร่องฟันของฝ่ายตรงข้ามด้วยซ้ำ
"บูม" "บูม"...
ที่ด้านหลังเสียงกลองทื่อดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมันทำให้หัวใจของทุกคนเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“ข้ารู้สึกว่ามันคือเสียงเต้นของหัวใจสิ่งมีชีวิตบางอย่าง?” เฮยฮวงมีสีหน้าประหลาดใจและกล่าวว่า “ถ้าเป็นการเต้นของหัวใจจริงๆ เจ้าของร่างนั้นต้องแข็งแกร่งไม่แพ้จักรพรรดิโบราณอย่างแน่นอน”
วิเคราะห์ก็ส่วนวิเคราะห์ แต่เท้าของพวกเขายังคงสับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว การอยู่ที่นี่ต่อแม้เพียงเล็กน้อยมันอาจจะทำให้พวกเขาเสียใจไปตลอดชีวิต
“ไม่ใช่ทางนี้ เรากำลังเข้าใกล้พื้นที่ตอนกลางของภูเขาอมตะทีละขั้น” ผังป๋อกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ไม่ไปทางนี้หรือเจ้าจะวิ่งกลับไปหาเจ้าของหัวใจนั้น” สุนัขสีดำตัวใหญ่พูดอย่างไม่แน่ใจ
หลังจากเดินทางกว่าสิบลี้ พวกเขาก็พบทะเลสาบขนาดใหญ่ซึ่งมีจระเข้หินขนาดใหญ่นอนอยู่ด้านในและตอนนี้มันกำลังจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา
“จะเอากันให้ตายหรืออย่างไร?” ผังป๋อคำรามด้วยความโกรธ
“ข้าจำได้แล้ว” จักรพรรดิดำครุ่นคิดครุ่นคิดและกล่าวว่า “ในภูเขาอมตะนี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่มากมายแค่ไหนไม่มีใครรู้ แต่หนึ่งต้องเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กับเจ้ามนุษย์หิน จระเข้หินตัวนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นทายาทของพวกมัน”
บูม!
พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงจระเข้หินจากระยะไกล แต่จระเข้หินยังคงพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมาถึงระยะสามสิบวาสายตาของมันก็เหลือบไปเห็นหนานหนาน
“กรี๊ด!!!”
จระเข้หินกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวก่อนจะรีบกระโดดลงไปในบึงอย่างรวดเร็ว
ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกตะลึง พวกเขารู้สึกโชคดีจริงๆที่มีหนานหนานมาด้วย หากนางไม่อยู่ที่นี่มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะตายตั้งแต่ตอนที่ถูกมนุษย์หินโจมตีแล้ว
“ในที่สุดพวกเราก็เข้ามาข้างในจนได้” จักรพรรดิดำอุทานด้วยความตกใจ
ที่ด้านหน้าของพวกเขามีจานบินขนาดใหญ่หลายร้อยวานอนนิ่งอยู่บนพื้น มันชนเข้ากับหน้าผาและถูกฝังไว้ใต้โขดหิน ส่องแสงระยิบระยับด้วยความเย็นชา ลึกลับและคาดเดาไม่ได้
“สิ่งประดิษฐ์อันศักดิ์สิทธิ์ของปราชญ์โบราณ นี่คือสมบัติ”
“อย่าไปที่นั่น แม้จะมีลวดลายสีทองมากมายแต่ลวดลายสีทองพวกนั้นก็เชื่อมต่อไปด้วยหมอกสีดำอย่างแน่นหนา?” เสียงของหนานหนานเบามาก
“อะไรนะ สีทองกับสีดำมันจะทนกันได้อย่างไร” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตกใจอย่างถึงที่สุด
เย่ฟ่านและผังป๋อมองหน้ากันด้วยความผิดหวัง ไม่มีใครอยากรู้เรื่องนี้มากไปกว่าพวกเขา พวกเขาต้องการดูว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปราชญ์โบราณหรืออารยธรรมนอกโลกทิ้งไว้หรือไม่