Ep.40 - สถานีรถไฟใต้ดินถูกยึด
2/3
Ep.40 - สถานีรถไฟใต้ดินถูกยึด
ตกดึก
หน้าสถานีรถไฟใต้ดินเจียงเป่ย
หนึ่งคนหนึ่งหมาทำตัวลับๆล่อๆอยู่ที่นี่
“ฮ่ง! เจ้านายจะเข้าไปจริงๆหรอ? แน่ใจนะว่าจะเข้าไป? ต้องเข้าไปจริงๆอะ?” ฮัสกี้ขดหางซุกตูด แสดงท่าทีหวาดกลัว “งั้นเปิ่นหวังจะรอข้างนอก เพราะสถานีรถไฟห้ามให้หมาเข้า”
ฮังอวี่เขกหัวหวังเอ๋อ “หยุดพูดมากซักที รีบนำทางไป!”
ฮัสกี้ไม่มีทางเลือก สองหูของมันตกลง นำทางเจ้านายลงสถานีรถไฟใต้ดิน
ไฟทุกดวงข้างล่างดับหมดแล้ว มีเพียงความมืดมิด หากยื่นแขนออกไป จะไม่สามารถมองเห็นนิ้วมือทั้งห้าได้
ฮัสกี้ดมกลิ่น หลังจากแน่ใจว่าไม่มีอันตราย ฮังอวี่ก็เปิดไฟฉาย ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นข้างล่างแห่งนี้
และเขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เพราะโถงทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินที่แสนจะปลอดภัย เวลานี้ราวกับถูกทิ้งร้างมาเป็นพันๆปี กระเบื้องปูพื้นแตกหมด ผนังถล่มลงมา บนเพดานเกิดหินงอกหินย้อยจำนวนมาก ทั้งยังมีรากพืชเหมือนหนวดแปลกๆนับไม่ถ้วนแทงทะลุพื้นขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีสิ่งแปลกประหลาดอีกมากมาย
ฮัสกี้ดมกลิ่น หางซุกตูดแรงขึ้น เหยียดอุ้งเท้าสุนัขชี้ไปข้างหน้า กระซิบเบาๆ แบบไม่กล้าเอ่ยปาก
ดูเหมือนมันจะได้กลิ่นอายของมอนสเตอร์
ในทางเดินที่ทอดลงสู่ชานชาลา มีบางสิ่งบางอย่างสีเขียวจางๆชวนให้ผู้คนเกิดความรู้สึกขนลุก
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้อยู่ลึกลงมาใต้ดิน จึงเกิดเห็ดเรืองแสงงอกเงยขึ้นเป็นจำนวนมาก
เห็ดเรืองแสงเหล่านี้ปกคลุมไปตามผนัง เล็กสุดขนาดเท่าเห็ดเข็มทอง ใหญ่สุดมีขนาดเท่าฝาหม้อ ส่วนใหญ่เปล่งแสงสีเขียว
นอกจากนี้บนพื้นดินและเพดานยังมีหินงอก เถาวัลย์ และวัชพืชกระจายตัวไปทั่ว บางสายพันธ์ก็ช่วยให้แสงสว่างรางๆ แต่โดยรวมแล้วยังมืดอยู่ แทบมองไม่เห็นในระยะสิบเมตร
ฮังอวี่เก็บไฟฉาย หันหน้าเตรียมเอ่ยคำถามกับฮัสกี้ แต่ใครจะคิด ว่าเวลานี้หมาของเขากลับขดตัวกลมเป็นลูกบอลอยู่บนพื้น โดยมีสองอุ้งเท้าหน้ากำลังกุมหัว ทำท่าทีราวกับพยายามซ่อนตัวเอง
ดวงตาสุนัขของมันจับจ้องไปยังทิศทางหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าค้นพบมอนสเตอร์อันตรายเข้าให้แล้ว
“เจ้าหมาขี้ขลาด!”
ฮังอวี่ด่ามัน แต่ขณะเดียวกันเพิ่มความระมัดระวังขึ้น เริ่มสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆอย่างถี่ถ้วน
และผลคือตรงชานชาลาสถานี สายตาเขาเหลือบไปเห็นบางอย่างที่มีขนปุกปุย
ขนของมันมีสีเทาดำแทบจะกลืนไปกับความมืดมิด หากไม่ใช่เพราะเขาเห็นท่าทีหวาดกลัวของฮัสกี้ ภายใต้แสงสลัวนี้ ฮังอวี่คงยากจะตรวจพบการมีอยู่ของอีกฝ่าย และมีโอกาสสูงที่จะถูกลอบโจมตีตอนเดินลงไป
จะเห็นได้ว่าเจ้าหมาฮัสกี้ตัวนี้แม้ขี้ขลาด แต่จมูกของมันทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
รูปร่างแบบนี้มัน ... แกะใช่รึเปล่า?
ไม่ผิดแล้ว! เป็นแกะจริงๆด้วย!
แกะปรากฏตัวขึ้นบนชานชาลาสถานนีรถไฟใต้ดิน?
และแน่นอน มันไม่ใช่แกะธรรมดา แกะตัวนี้มีขนาดประมาณลูกวัว ขนสีเทาดำฟูปกคลุมร่างกาย นอกจากนี้ยังมีเขายาวสองข้างอยู่บนหัว มันแหลมคมและดูอันตรายมาก
เป็นแกะเขาดาบ!
ฮังอวี่จำมันได้ แกะเขาดาบคือมอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 2-3 แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกมันมีเลเวล 2 น้อยนักที่จะแข็งแกร่งในเลเวล 3
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าที่เขาเจอตอนนี้จะเป็นมอนสเตอร์เลเวล 3
อย่าเห็นว่ามันเป็นแค่แกะแล้วจะฆ่าได้ง่ายๆ เพราะขนหนาของมันสามารถช่วยดูดซับการโจมตีทางกายภาพจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้เลยว่าต่อให้ใช้ปืนยิง เกรงว่าคงต้องยิงจนหมดแม็ก ถึงจะสามารถฆ่ามันได้ซักตัวหนึ่ง
แต่ประเด็นก็คือ หากยิงออกไป เสียงดังของปืนย่อมดึงดูดมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาอย่างแน่นอน
งั้นถ้าสู้กับมันในระยะประชิดเล่า?
นั่นยากเย็นไม่ต่างกัน! เพราะพละกำลังของแกะเขาดาบไม่ด้อยไปกว่าวัวป่าที่โตเต็มที่แล้ว! นอกจากนี้ ความเร็วของมันยามออกตัวยังใกล้เคียงกับระดับเสือชีตาห์!
ส่วนเขาแกะทั้งสองข้าง มันแหลมคมชนิดสามารถทะลุเสื้อเกราะกันกระสุนได้หลายชั้น ไม่ต่างอะไรกับการเอามีดเจาะกระดาษแข็ง
ฮังอวี่ตอนนี้มีเลเวล 3 ดาบสั้นในมือเขาช่วยเพิ่มความว่องไว 1 หน่วย ถ้าให้รับมือกับมัน น่าจะยังพอตอบโต้ได้
อย่างไรก็ตาม ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ฮังอวี่เลือกจ่ายหินคริสตัลเทาออกไป เพื่อเรียกอุปกรณ์สีเทาใสอย่าง ‘รองเท้าก็อบลินสภาพดีเยี่ยม’ จากโลกวิญญาณออกมาสวมใส่
เจ้าสิ่งนี้ช่วยเพิ่มความเร็วในกรเคลื่อนที่ให้เขาอีก 1 หน่วย!
ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว!
ฮังอวี่กุมดาบสั้นในมือ กระโจนเข้าหาแกะเขาดาบทันที
แกะเขาดาบหยุดเล็มหญ้าบนพื้น ดวงตาของมันแดงวาบ เปล่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ ขาอันทรงพลังดีดออกเหมือนหนังสติ๊ก ระเบิดความเร็วสูง พุ่งชนสวนออกไป
ฮังอวี่เอี้ยวตัวหลบ ขณะเดียวกันตวัดดหลังมือ ทิ่มคมมีดลงลึกเข้าไปในตัวมัน แล้วอาศัยแรงจากฝั่งตัวเองและศัตรู กรีดบาดแผลเป็นทางยาว
แกะเขาดาบตกอยู่ในความเจ็บปวด มันเบรกตัวโก่ง หันหัวกลับมา และพยายามพุ่งเข้าชนเขาอีกครั้ง
กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฮังอวี่กระโจนหลบเขาอันแหลมคมไปมาอย่างหวุดหวิด และทุกครั้งที่หลบ เขามักจะหาช่องโหว่ ฉวยโอกาสโจมตี ตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อยๆ
ดาบสั้นดาบแล้วดาบเล่าฟาดฟันลงอย่างไร้ปราณี
การต่อสู้กินเวลาเพียงสามสี่นาที ในที่สุดแกะเขาดาบก็เปล่งเสียงร้องเศร้าสลดเฮือกสุดท้าย ล้มฟุบลงกับพื้นไม่อาจขยับตัวได้อีก
วินาทีถัดมา หลังจากฮังอวี่สามารถโค่นมอนสเตอร์ลงได้ เสียงเห่าหอนดังขึ้นจากเบื้องหลังเขา
เห็นแค่เพียงสุนัขขนขาวดำวิ่งหางตั้งเข้ามา อ้าปากกัดขย้ำศพแกะที่นอนตายอยู่บนพื้นดิน ทำท่าทีเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ก็มิปาน
ระหว่างขย้ำศพศัตรู ฮัสกี้ก็คอยเปล่งเสียงร้องออกมา “ฮ่ง! โดนนี่ซะ! ไปลงนรกซะ! เปิ่นหวังอยู่นี่แล้ว อย่าแม้แต่จะคิดทำร้ายเจ้านาย!”
ฮังอวี่ “...”
อันที่จริงแล้วฮัสกี้สามารถจำแนกกลิ่นอายได้ ว่าเจ้านายของมันอยู่ในระดับเดียวกับมอนสเตอร์ตัวนี้ ซึ่งสารภาพตามตรงว่ามันไม่กล้าเข้ามาช่วยสู้ ดังนั้นเมื่อศัตรูตาย จึงรีบตรงเข้ามาเอาหน้าและพยายามแก้ตัวทันที
“ฮ่ง! รายงานเจ้านาย เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ตายแล้ว!”
หูของฮัสกี้ตั้งตรง มันยกขาหน้าขึ้นวางตรงเหนือดวงตา ทำท่าทางเหมือนผู้ใต้บังคับบัญชารายงานต่อหัวหน้า
“เจ้านาย ทำไมมองเปิ่นหวังด้วยสายตาแบบนั้น?” ฮัสกี้กระดิกหางไปมา “อันที่จริงเปิ่นหวังจะลงมืออยู่แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าแค่เจ้านายโจมตีไม่กี่ครั้งก็สามารถกำจัดมันได้ เจ้านายแข็งแกร่งจริงๆ!”
ในความเป็นจริงแล้ว ฮังอวี่ยังไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ เขาไม่แม้จะเปิดใช้งานสกิลล่องหนด้วยซ้ำ
ก็แค่สู้กับแกะเขาดาบตัวเดียว ไม่จำเป็นต้องเปลืองพลังจิตใดๆ
“เอาล่ะๆ หลีกไปอย่าขวางทาง” ฮังอวี่ผลักเจ้าหมาบ้าออกไป ร่ายสกิลรวบรวมวัตถุดิบบนศพแกะ
ขนบนตัวแกะเขาดาบหายไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายของมันแห้งเหี่ยวในชั่วพริบตา หลังจากนั้นมีบอลแสงหลายลูกเด้งออกมาจากศพมัน ลอยขึ้นมาบนมือของฮังอวี่อย่างรวดเร็ว
ข้อมูลต่างๆของวัตถุดิบแสดงผ่านผู้ช่วยโลกวิญญาณ
[เนื้อแกะเขาดาบ] : เกรด 3 , วัตถุดิบสามัญ , ปริมาณพลังงานวิญญาณ 3
[ขาแกะเขาดาบ] : เกรด 3 , วัตถุดิบสามัญ , ปริมาณพลังงานวิญญาณ 4
[ขนแกะเขาดาบ] : เกรด 3 , วัสดุสามัญ
[หนังแกะเขาดาบ] : เกรด 3 , วัสดุสามัญ
การฆ่ามอนสเตอร์ในโลกมนุษย์จะไม่ได้รับแต้มวิญญาณ ทว่าโอกาสในการรวบรวมวัตถุดิบจะสูงขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบ มันช่วยให้ได้รับของจากแกะเขาดาบเลเวล 3 ได้ดีกว่าวิธีปกติมากนัก
“ฮ่ง ฮ่ง!เจ้านาย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้านายจะมีลูกเล่นแบบนี้ด้วย!”
ฮัสกี้กระดิกหางอย่างตื่นเต้น จ้องไปยังวัตถุดิบที่รวบรวมผ่านสกิลแบบไม่วางตา ตรงปากน้ำลายไหลย้อย
ต่อมา มันยืดอกขึ้น ทำท่าทางเหมือนสุนัขซื่อสัตย์ที่พร้อมปกป้องเจ้านายด้วยชีวิตและพูดว่า “เนื้อของแกะตัวนี้เป็นสีดำ อาจมีพิษร้ายแรง เปิ่นหวังยินดีอุทิศชีวิตตัวเอง ทดลองชิมขาแกะ ทดสอบพิษให้เจ้านาย”
แน่นอน ฮังอวี่ไม่มีทางคล้อยตาม เขาเตะเจ้าหมาป่วนเบาๆ “อย่ามาเล่นลิ้น ไป! นำทางให้ฉันต่อ”
ฮัสกี้เวลานี้ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาก มันตอบรับเหมือนตอนทหารได้รับคำสั่ง “ครับเจ้านาย!”
จริงอยู่ที่หวังเอ๋อมันขี้ขลาด แต่ประสาทรับกลิ่นดีมาก เรดาห์ของมันไม่เพียงรับรู้ได้ถึงมอนสเตอร์ แต่ยังรวมไปถึงสมบัติอีกด้วย
มันไม่เพียงสามารถระบุพลังรบของมอนสเตอร์ที่อยู่ในระยะการดมกลิ่นได้ แต่ยังสามารถรับรู้กลิ่นอายของยาวิญญาณและผลไม้วิญญาณได้อีกด้วย
และนี่เองคือเหตุผลที่ ฮังอวี่ลากตัวมันมาด้วยเพื่อให้นำทาง
เป็นเพราะเขาต้องการพึ่งพาเรดาห์สุนัข!
ฮังอวี่กระโดดลงจากชานชาลา เดินไปตามอุโมงค์รถไฟใต้ดิน
สภาพในอุโมงค์บอกตามตรงว่าแย่กว่าโถงสถานีมาก รางรถไฟบนพื้นไม่มีให้เห็นอีกต่อไป มันถูกปกคลุมไปด้วยพืชรกทึบ
ระหว่างทางเขาพบแกะเขาดาบ 5-6 ตัว แต่โชคดีที่ไม่โผล่มาพร้อมกัน สุดท้ายถูก ฮังอวี่เก็บกวาดไปทีละตัว ทีละตัว
ฮังอวี่กำลังสำรวจอุโมงค์รถไฟใต้ดิน ไม่นานเขาก็ต้องพบกับเรื่องน่าประหลาดใจ
เจ้าตัวสังเกตเห็นว่าภายในอุโมงค์รถไฟใต้ดิน บางตำแหน่งมีพืชวิญญาณปรากฏขึ้น ปะปนอยู่กับพืชชนิดอื่นๆ แต่ต้องสังเกตดีๆถึงจะมองเห็น
แต่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นสมุนไพรเกรดต่ำ เช่น สมุนไพรเพิ่มพลังชีวิตขั้นต้น สมุนไพรเสริมพลังขั้นต้น ฯลฯ
และไม่ว่างจะเป็นบนพื้น เพดาน หรือผนัง บางจุดจะพบหินงอกหินย้อยยื่นออกมา ซึ่งตรงตำแหน่งที่มันงอก บางจุดจะมีโอกาสเจอแร่โลกวิญญาณ สามารถใช้เทคนิครวบรวมวัตถุดิบเก็บเกี่ยวพวกมันได้
ฮังอวี่สำรวจที่นี่ เกิดความสับสนขึ้นในใจ ว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินจริงๆน่ะหรอ?