บทที่ 1 แค่โดนตบกะโหลกเนี่ยนะ?
บทที่ 1 แค่โดนตบกะโหลกเนี่ยนะ?
ดวงอาทิตย์ส่องสว่างอยู่กลางฟ้า แผดเผาแผ่นดิน แม้จะเป็นสิ้นเดือนสิงหาคม แต่ฤดูร้อนที่ร้อนระอุยังคงเปี่ยมล้นด้วยศักดิ์ศรี
สายลมพัดผ่าน แต่ไม่สามารถนำความเย็นสบายมาสู่ผู้คนได้มากนัก มันพัดผ่านความเร่งรีบและคึกคักของเมืองเจียงปิน และพัดเข้าไปบ้านพักอาศัยในเขตตงเฉิง
“อูย…” เด็กหนุ่มที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ลูบหัวด้วยความเจ็บปวด เขาลืมตาขึ้นและมองไปรอบๆด้วยความสับสน
ในเวลานี้ คำถามคอมโบมาตรฐานสามคำถามได้เกิดขึ้นในใจของเด็กหนุ่ม:
ฉันเป็นใคร?
ฉันอยู่ที่ไหน?
ฉันกำลังทำอะไรอยู่?
โอ้ ใช่แล้ว ฉันชื่อเจียงเสี่ยว
เจียงเสี่ยวลูบหัว แล้วแยกเขี้ยวร้องโอดโอย อูย เจ็บชิบเป้ง…
มองไปรอบๆ นี่มันห้องใครฟ๊ะ?
นี่มันเล้าหมูใช่มั๊ย?
ทิ้งเสื้อผ้าระเกะระกะไปทุกที่?
ทุกที่…มี เอ่อ ก้อนทิชชู่ที่มีเมือกเหนียวๆ?
เย็นไว้ ไม่ต้องตื่นเต้น
ทุกที่ ที่สายตามองเห็น ในถังขยะข้างๆ ก้อนทิชชู่กองซ้อนกันเป็นภูเขา
ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของห้องนี้เป็นต้นแบบของฉันอย่างแท้จริง!
อย่างไรก็ตาม ความคิดขี้เล่นในหัวของเจียงเสี่ยวได้หายไปในชั่วพริบตา เพราะเขาเห็นเงาร่างที่สั่นเล็กน้อยบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
มันเป็นภาพที่สะท้อนจากพื้นจอสีดำของโปรแกรมรักษาหน้าจอ แน่นอนว่ามันเป็นภาพของเจียงเสี่ยวเอง
เจียงเสี่ยวรู้ว่าหน้าจอสีดำนี้กำลังแสดงภาพของตัวเอง แต่… ภาพที่ไม่คลุมเครือนี้ ทำไมถึงเป็นเด็กไปได้?
เจียงเสี่ยวโน้มตัวไปมองอย่างไม่เชื่อสายตา และเงาร่างบนพื้นจอสีดำก็ทำเช่นเดียวกัน
“อึก” ลูกกระเดือกของเจียวเสี่ยวขยับจากการกลืนน้ำลาย เขาสัมผัสเมาส์อย่างระมัดระวัง
โปรแกรมรักษาหน้าจอหายไป บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ปรากฏภาพเด็กหนุ่มที่มีสีหน้าราวกับเห็นผี จ้องมองหน้าจออย่างงงๆ นี่คือสีหน้าของเจียงเสี่ยวในเวลานี้
นี่มันซอฟต์แวร์วิดีโอใช่ไหม?
เจียงเสี่ยวกระพริบตา ดูเหมือนจะไม่ใช่วิดีโอแชท แต่เป็นการบันทึก?
เจียงเสี่ยวเงยหน้าขึ้น แล้วพบกล้อง สวรรค์ เมื่อกี้ร่างนี้กำลังทำอะไรอยู่?
บันทึกวิดีโอช่วยเหลือตัวเอง?
เอ่อ ทำคลิป?
เห็นได้ชัดว่าวิดีโอยังคงถูกบันทึกอยู่ สิ่งนี้ทำให้เจียงเสี่ยวขยับเล็กน้อย
ถ้าเจ้าของร่างนี้กำลังบันทึกวิดีโออยู่ ถ้างั้นขั้นตอนการข้ามมาของเขาทั้งหมดก็ต้องถูกบันทึกไว้ด้วยน่ะสิ?
จะเป็นอย่างไรนะ?
เจียงเสี่ยวรีบกดหยุดการบันทึกและเลือกเล่นไฟล์
หลังจากรอไม่กี่วินาที บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ใบหน้าไร้เดียงสาเล็กน้อยก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเจียงเสี่ยว
เสื้อลายสก๊อต หัวเกรียน อายุประมาณ 15-16 ปี หน้าตาค่อนข้างหล่อ
ลุคสะอาดตา ดูไม่เหมือนคนที่จะโยนก้อนทิชชู่ลงพื้นเลยนี่?
“สวัสดีทุกคน ผมชื่อเจียงเสี่ยวผี” ในที่สุดเด็กหนุ่มในวิดีโอก็พูดขึ้น “ขอโทษ ผมเป็นหวัด คุณเลยไม่ได้ยินเสียงเทพที่มีพลังดึงดูดของผม”
เจียงเสี่ยว : ? ? ?
ในวิดีโอเจียงเสี่ยวผีดึงกระดาษทิชชู่ออกมาสั่งน้ำมูก สร้างก้อนกระดาษทิชชู่อีกก้อน แล้วทิ้งลงพื้น
นี่คือที่มาของก้อนกระดาษทิชชู่
ที่จริงเจียงเสี่ยวก็คิดว่าเป็นแบบนี้เหมือนกันนะ
ไร้สาระ กระดาษทิชชู่จะใช้ทำอะไรได้อีก? ถ้าไม่ใช่ใช้สั่งน้ำมูก?
เจียงเสี่ยวเอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่ออกมาจากกล่องบนโต๊ะ เพราะในที่สุดเขาก็รู้ว่า ‘เขา’ เป็นหวัด
ในวิดีโอ เด็กหนุ่มที่บอกว่าชื่อ เจียงเสี่ยวผี ยังคงพูดต่อไป
“ขอย้ำอีกครั้ง ผมชื่อเจียงเสี่ยวผี! จดจำชื่อนี้ไว้ ชื่อนี้จะทำให้คุณชื่นชมตลอดกาล!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเปิดเว่ยป๋อ เพราะผมพบว่าความแข็งแกร่งของผมไม่อนุญาตให้ผมอยู่ในสถานะโลว์โปรไฟล์อีกต่อไป”
เจียงเสี่ยวรีบกดปุ่มหยุดชั่วคราว เมื่อมองไปยัง ‘ตัวเอง’ บนหน้าจอ เจียงเสี่ยวก็อยากฆ่าตัวตาย
เด็กคนนี้โตขึ้นมาอย่างไรกันเนี่ย?
เป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว?
เจียงเสี่ยวพยายามผ่อนคลายทำใจให้สงบอยู่สักพัก แล้วกดปุ่มเล่นต่อไป
บนหน้าจอ เจียงเสี่ยวผียังไม่หยุดคุยโว แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ผมขอแนะนำตัวสั้นๆ”
“อืม เด็กๆมักถามพ่อแม่ว่า พวกเขามาจากไหน คำตอบของพ่อแม่ก็มีหลากหลาย บ้างก็บอกว่าเก็บมาจากถังขยะ บ้างก็ว่าเป็นส่วนลดค่าโทรศัพท์ และบางคนก็บอกว่าเป็นของขวัญที่ได้มาในช่วงเทศกาล”
เจียงเสี่ยวผีมองกล้องอย่างจริงจังทันที และเปิดปากพูดว่า “ส่วนผมยอดเยี่ยมกว่านั้น ผมถูกเก็บจากถังขยะจริงๆ”
“แม่ของผมเป็นหญิงสาวจิตใจดี อ่อนโยนและสวยงาม เธอชื่อเจียงหงเย่ ดูชื่อนี้สิ ช่างงดงามเสียนี่กระไร! นี่ถึงจะเป็นชื่อของบุคคล! แล้วดูชื่อผม เฮ้อ…”
บนหน้าจอ เจียงเสี่ยวผีพึมพำด้วยสีหน้าไม่พอใจ “วันที่พบผม สุนัขของแม่ตาย สุนัขตัวนั้นชื่อเสี่ยวผี ดังนั้นผมจึงมีชื่อว่า… อืม”
สีหน้าของเจียงเสี่ยวผีดูไม่มีความสุข แต่จู่ๆดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น เขามองกล้องแล้วพูดต่อไปว่า “โชคดีที่สุนัขตัวนั้นน่ารักมาก มันยิ้มเก่งและมีขนสีทองอีกด้วย”
เจียงเสี่ยว “…”
ในวิดีโอ เจียงเสี่ยวผีจับคางแล้วเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ผมคิดว่า คุณคงจำชื่อของผมได้แล้ว ดังนั้นก็ถึงเวลาแสดงทัศนคติของผมแล้ว ผมกำลังเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายปินเฉิง และผมจะขอบอกกับเพื่อนร่วมชั้นปีหนึ่งทุกคน!”
เจียงเสี่ยวมองหน้าจออย่างคาดหวัง ไม่รู้ว่าเจียงเสี่ยวผีจะพูดอะไร
ในวิดีโอ เจียงเสี่ยวผีกล่าวว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นลูกพี่ใหญ่ในชั้นปีหนึ่ง ใครที่ไม่พอใจ ก็นัดไปเจอกันกลางป่าหลังเลิกเรียน! ฉันเจียงเสี่ยวผี จะบอกทุกคนว่า เด็กปีหนึ่ง ฉันใหญ่ที่สุด!”
“นอกจากนี้” เจียงเสี่ยวผีชี้ไปที่กล้อง แล้วพูดต่อไปว่า “พวกที่อยู่ปีสอง และปีสาม อย่าคิดว่าเป็นรุ่นพี่ แล้วจะทำทุกอย่างได้ตามต้องการ พวกนายแค่เรียนเร็วกว่า ฉัน ปีสองปี ฉันจองสาวงามประจำโรงเรียนแซ่เซี่ยไว้แล้ว ใครอย่ามาแย่ง ถ้าไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่นหรือในป่าหลังเลิกเรียน ก็นัดมา ฉันเจียงเสี่ยวผีไม่เคยกลัวใคร!”
เจียงเสี่ยวผีมองกล้องอย่างชั่วร้าย แล้วพูดออกมาเหมือนลูกสุนัขที่กำลังโกรธ “ฉันอยากให้พวกนายรู้ว่า สาวงามเหมาะกับผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น!”
เจียงเสี่ยว มอง ‘ตัวเอง’ ที่กำลังพล่ามบนหน้าจอ ด้วยความตกตะลึง
คลิก!
ในวิดีโอ ประตูที่อยู่ด้านหลังเจียงเสี่ยวผีเปิดออก แล้วร่างสวยงามก็ก้าวเข้ามา
เจียงเสี่ยวเลิกคิ้ว ผู้หญิงคนนี้สวยมาก
เธอสวมชุดสีขาว แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นชุดใส่อยู่บ้าน เธอควรอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย
เธอมีอายุประมาณ 17-18 ปี ร่างสูง ใบหน้างดงาม เพียงแต่ในเวลานี้ใบหน้าที่งดงามนั้นเย็นชาราวปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง เส้นผมสีดำยาวพลิ้วไสวไปตามจังหวะการเดินด้วยความโกรธจัด
บนหน้าจอ เด็กสาวใบหน้าเย็นชาเตะก้อนกระดาษทิชชู่บนพื้น แล้วเดินไปที่ด้านหลังของเจียงเสี่ยวผีอย่างรวดเร็ว โดยที่เจียงเสี่ยวผีไม่ทันสังเกตและยังคงคุยโวต่อไป
แล้วเขาก็เห็นเด็กสาวยกมือขึ้นตบลงไปที่ด้านหลังศีรษะเจียงเสี่ยวผี!
ฉาด!
หนักหน่วงได้ใจ!
เจียงเสี่ยวผีหัวกระแทกลงบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ เด็กสาวสีหน้าเย็นชายังคงโกรธจัด จ้องเขม็งไปที่เจียงเสี่ยวผีที่ ‘แกล้งทำเป็นตาย’ แล้วพูดว่า “ลุกขึ้นมา! ทำงาน! ฝึกฝนพลังดาวที่เพิ่งตื่นซะ หรือไม่ก็เก็บกวาดห้อง! อย่ามาทำวิดีโอน่าขยะแขยงแบบนี้”
เจียงเสี่ยวผียังคงฟุบนิ่งอยู่บนโต๊ะคอม ไม่ได้ขยับ
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องกินข้าว!” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วหันกลับไปจนชุดสีขาวพลิ้วไหว เธอเตะก้อนทิชชู่ที่อยู่เกลื่อนพื้นด้วยความรังเกียจ ออกจากห้องและกระแทกประตูปิดอย่างแรง
บนหน้าจอ เจียงเสี่ยวผีที่ ‘แกล้งทำเป็นตาย’ ดูเหมือนจะไม่ได้แกล้ง?
เจียงเสี่ยวนั่งอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ มองดูเจียงเสี่ยวผีที่นั่งฟุบอยู่บนหน้าจอคอม ผ่านไป 5 นาที เขาก็เห็น ‘เจียงเสี่ยวผี’ เงยหน้าขึ้นมาลูบหัวตัวเอง และมองไปรอบๆอย่างสับสน
นี่มันตอนที่เขามาสวมร่าง?
ว้าว!
เหลือเชื่อ!
ถูกตบกะโหลกจนถูกผู้ข้ามมิติมาสวมร่างจริงๆเหรอเนี่ย?
เจียงเสี่ยวลูบศีรษะ เมื่อได้รับสืบทอดร่างกายของเจียงเสี่ยวผี เขาก็พยายามควานหาความทรงจำของร่างนี้
เด็กสาวคนนั้นน่าจะเป็นพี่สาวของเจียงเสี่ยวผี?
หานเจียงเสวี่ย?
พ่อแซ่หาน แน่นอนว่าลูกสาวต้องมีแซ่เดียวกับพ่อ
เจียงเสี่ยวผีถูกแม่เก็บมาเลี้ยง จึงมีแซ่ตามแม่ของเขา เจียงหงเย่
ในความทรงจำของเจียงเสี่ยวผี พ่อแม่ของเขาดูเหมือนจะหายตัวไปในภารกิจเมื่อ 3 ปีก่อน
อืม?
สองพี่น้องพึ่งพากันเหรอเนี่ย?
พี่สาวตัวน้อยที่งดงามราวเทพเซียน?
ทั้งคู่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด?
เอาล่ะ ถึงเวลาโฟกัสแล้ว
โฟกัส…โฟกัสผายลมอะไร ในเวลานี้เจียงเสี่ยวตกตะลึงไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ยังจะมีความคิดไปโฟกัสเรื่องอะไรแบบนั้นได้อีกเหรอ?
ประเด็นคือ เจียงเสี่ยว เปลี่ยนจากอายุ 25 ปี มาเป็น 16 ปี กลายเป็นน้องใหม่ที่เข้าสู่สังคมของนักเรียนมัธยมปลาย?
และ โลกนี้…
เจียงเสี่ยวย้ายตัวชี้เมาส์ไปยังมุมล่างซ้ายของคอมพิวเตอร์ มองดูวันเดือนปี : วันที่ 20 สิงหาคม ปี 2015
อืม ไม่มีความแตกต่างด้านเวลา มันเหมือนกับโลกที่เจียงเสี่ยวจากมา
แต่ ‘การตื่น’ กับ ‘พลังดาว’ ที่พี่สาวพูด มันหมายความว่าอย่างไร?
เจียงเสี่ยวขมวดคิ้ว แล้วค้นหาความทรงจำของเจียงเสี่ยวผีอย่างระมัดระวัง แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า นี่คือโลก แต่ไม่ใช่โลกของเขา?
โลกนี้เต็มไปด้วยพลังวิเศษ ที่ตื่นขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นโลกที่เต็มไปด้วยมิติที่แตกต่างกัน
เนื่องจากการมีอยู่ของประตูมิติที่แตกต่างกัน โลกนี้จึงแตกต่างจากโลกที่เจียงเสี่ยวเคยอยู่อย่างมาก
เบื้องหลังประตูมิติ มีมิติต่างๆนับไม่ถ้วน มีโลกที่แปลกประหลาดมากมาย นอกจากนี้ยังมีสัตว์ประหลาดทุกประเภท
น่าเสียดายที่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ในมิติเหล่านั้นไม่เป็นมิตร
ในประวัติศาสตร์อันวุ่นวายของมนุษย์ มนุษยชาติไม่เพียงเผชิญกับสงครามภายใน แต่ยังต้องเผชิญกับการบุกรุกและรุกรานจากสิ่งมีชีวิตภายนอก ที่มาจากมิติต่างๆ
พลังดาวเป็นพลังวิเศษชนิดหนึ่ง มันเกิดขึ้นมาพร้อมกับการเกิดขึ้นของประตูมิติต่างๆ พลังวิเศษนี้เปลี่ยนสมรรถภาพทางร่างกายของมนุษย์ และมันยังเปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์ด้วย
ด้วยการตื่นขึ้นของผู้มีพลังดาวชุดแรก ในที่สุดมนุษย์ก็มีทางเลือกใหม่ จากเดิมที่ใช้ ‘เรือรบและปืนใหญ่’ ในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตมิติอื่น
แน่นอนว่าแม้จะมีพลังใหม่หลั่งไหลเข้าสู่โลกและเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของมนุษยชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่ามันจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของทุกคน
ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนธรรมดา ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถแบกรับพลังอัศจรรย์นี้ได้ การฝึกฝนด้วยความประมาทไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังทำให้เกิดความเสียหายทางกายภาพแทนอีกด้วย
เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังดาวของมนุษย์ก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หลังจากการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ‘อายุ 16 ปี’ กลายเป็นเวทีแห่งการตื่นที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
เกณฑ์อายุ 16 ปี ในวัยนี้ มนุษย์มีโอกาสตื่นมากที่สุด และเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการแทรกแซงมนุษย์ที่จะตื่นขึ้น การตื่นที่เร็วหรือช้าเกินไป อาจทำให้ผู้ทดลองได้รับความเสียหายทางกายภาพ
แน่นอนว่ามีวายร้ายเสมอ! พวกเขาจะทำบางสิ่งที่คนและสวรรค์แค้นเคือง เราเรียกคนเหล่านี้ว่า ‘อัจฉริยะ’
พวกเขาไม่ต้องทำอะไรเลย แค่จู่ๆวันหนึ่ง พวกเขาก็รู้สึกถึงพลังดาวที่แพร่กระจายอยู่บนโลก แล้วตื่นขึ้นตามธรรมชาติ และมีอนาคตที่ไร้ขอบเขต
พวกเขาอาจเริ่มต้นเส้นทางสู่การตื่นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ 8 ขวบ หรือ 6 ขวบ และเริ่มฝึกฝนเร็วกว่าคนที่ตื่นตามปกติมาหลายปีแล้ว
แน่นอนว่าจะมีสิ่งที่เรียกว่าความเท่าเทียมกันบนโลกนี้ได้อย่างไร?
ยกเว้นบุตรผู้เย่อหยิ่งจากสวรรค์จำนวนน้อยมากที่ตื่นตามธรรมชาติ ผู้คนจำนวนมากถูกปลุกให้ตื่นโดยการแทรกแซงจากภายนอก ซึ่งครอบคลุมคนส่วนใหญ่ที่ตื่นขึ้น และเห็นได้ชัดว่าเจียงเสี่ยวผีก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกปลุกให้ตื่นประเภทนี้
หลังจากอายุ 16 ปี ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ตื่น พลังดาวจะถูกนำเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นก็จะเป็นการเริ่มต้นของอาชีพผู้ตื่น
แต่สิ่งนี้จะสำเร็จได้ด้วยกระบวนการที่เข้มงวดและเป็นแบบแผน ความเข้าใจสัดส่วนที่ดีนั้นเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับผู้แนะนำที่มีคุณสมบัติ
มีคนมากมายที่ไม่สามารถตื่น แม้พวกเขาจะไม่ยินยอมและไม่เต็มใจที่จะยอมรับผลดังกล่าว และพยายามบรรลุเป้าหมายด้วยตัวเอง แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมาไม่ค่อยดีนัก
แม้แต่ผู้คนที่มีร่างกายแข็งแรงก็ได้รับบาดเจ็บ บ้างก็ถึงตายบนเส้นทางสายนี้ พวกเขาไม่เพียงไม่ตื่นเท่านั้น ตรงกันข้ามร่างกายของพวกเขากลับได้รับบาดเจ็บร้ายแรงจนไม่สามารถฟื้นตัวได้ และกลายเป็นคนอ่อนแอและเปราะบางในที่สุด
เมื่อสองเดือนที่แล้ว ในพิธีสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายในลานกว้าง มีผู้ตื่นนับสิบยืนอยู่บนอัฒจรรย์ พวกเขามาช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ในการประเมินสำหรับพิธีสำเร็จการศึกษาขั้นสุดท้ายให้เสร็จสิ้น
อาจารย์ใหญ่คุ้นเคยกับเสียงโห่ร้องตอนกล่าวสุนทรพจน์มานานแล้ว แน่นอนว่า แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าเสียงโห่ร้องนี้ไม่ได้เกิดเพราะคำปราศรัยอันยาวนานของอาจารย์ใหญ่ แต่เป็นเพราะการตื่นขึ้นของเด็กแต่ละคน
ในที่สุดพิธีสำเร็จการศึกษาก็เป็นจุดเริ่มต้นอาชีพของเจียงเสี่ยวผี
ร่างกายของเจียงเสี่ยวผีเหมาะสำหรับการฝึกฝนพลังดาว
เขาเปิดแผนที่ดาวสำเร็จ!