ตอนที่ 63 ไม่ได้ผล
[ฮึ่ม!]
อักขระส่องสว่างที่หน้าประตูวัง รังสีแสงต่างๆมาบรรจบกันจากทุกทิศทาง ปลดปล่อยแรงกดดันน่ากลัว
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เย่เฉินคำราม ดวงตาของเขาแดงก่ำ และเขาก็คล้ายกับสัตว์อสูรที่คุมสติไม่อยู่
กุญแจของอาณาจักรลับคือไพ่ตายของเขา มันสามารถควบคุมค่ายกลทั้งหมดภายในวังได้
เขาไม่สามารถทนเห็นกู่ฉางเกอคุยกับหยานจีได้
กู่ฉางเกอทำตัวเหมือนเป็นเจ้าโลก และทุกอย่างที่เขานำออกมาก็คือสมบัติที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน เขาเหมือนคนจนต่อหน้ากู่ฉางเกอ
เย่เฉินรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขอทานที่กำลังมองเจ้าชายอวดรวยและขโมยผู้หยิงไปต่อหน้าต่อตา!
เย่เฉินจะทนความอัปยศเช่นนี้ได้ไง?
แย่ไปกว่านั้น หยานจียังเป็นสาวงามที่ไร้ผู้ใดเทียบ และนางก็สั่งสอนเขามาหลายปี แทนที่จะมองเป็นอาจารย์ เขากลับมองนางเป็นผู้หญิงของเขา
เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือคนหนุ่มเลือดร้อน มันจึงชัดเจนว่าเขามีอารมณ์ที่’พูดไม่ได้’ต่อหยานจี อาจารย์ผู้เลอโฉมของเขา
ต่อให้หยานจีจะทรยศเขา และความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ของพวกเขาจะขาดสะบั้น เขาก็ไม่มีทางยอมโยนนางให้กู่ฉางเกอเร็วขนาดนี้
“ตาย!”
สีแดงในดวงตาของเขายิ่งเข้ม และหัวใจก็แผดเผาด้วยไฟริษยา ตอนนี้ เขาสนใจแต่การฆ่ากู่ฉางเกอ!
เขาอยากกำจัดกู่ฉางเกอที่พรากทุกอย่างไปจากเขา!
[บูม!]
กลิ่นอายน่ากลัวพวยพุ่งในวัง ราวกับสัตว์ป่าถูกปลุก และรังสีดุร้ายก็ปะทุจากพื้น รังสีแสงเหล่านี้รวมกันในท้องฟ้า รวมกันเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่พร้อมกำจัดกู่ฉางเกอ
นี่คือการโจมตีที่รุนแรงสุดของเย่เฉิน แม้กระทั่งอาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่รอด
ต้องรู้ว่าไม่มีใครในอาณาจักรลับนี้ที่สามารถใช้พลังได้เกินอาณาจักรเซียน และกู่ฉางเกอก็ต้องไม่เว้น!
“กุญแจในมือเย่เฉินสามารถควบคุมค่ายกลในวังนี้ได้ พลังเบื้องหลังพวกมันดุร้ายมาก คุณชายควรระวัง”
หยานจีเตือนกู่ฉางเกอให้ระวังหลังเห็นฉากตรงหน้า กลัวว่าเขาจะเสียท่าเพราะขาดข้อมูล
ตอนนี้ วิธีที่นางมองเย่เฉินต่างไปจากเดิม นางเดาทุกอย่างได้แล้ว เย่เฉินไม่เคยมองนางเป็นอาจารย์ของเขาตั้งแต่ต้น เขามักมองนางเป็นของๆเขา!
ตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางยุติ นางจึงมองศัตรูของกู่ฉางเกอเป็นศัตรูของนาง และเย่เฉินก็คือหนึ่งในนั้น นั่นคือธรรมชาติของเผ่านาง!เมื่อพวกนางมอบใจให้ใครหรืออะไร พวกนางจะทุ่มเทให้ทั้งใจ
ก่อนหน้านี้ นางคืออาจารย์ของเย่เฉิน นางจึงคอยช่วยเขา และช่วยเขาเพิ่มฐานบ่มเพาะสุดใจ แต่ตอนนี้ นางอยู่ข้างกู่ฉางเกอ นางจึงเลือกอะไรก็ตามที่ดีสุเพื่อกู่ฉางเกอ
“ของเล่นพวกนี้หยุดข้าไม่ได้หรอก เย่เฉินไม่สามารถทำอะไรได้ต่อหน้าข้า!’
กู่ฉางเกอตอบด้วยรอยยิ้มโดยไม่สนใจเย่เฉินเลย พอสิ้นคำพูดเขาวิญญาณยุทธ์สีดำสนิทก็ปรากฏด้านหลังเขา แม้ฐานบ่มเพาะมันจะจำกัดที่จุดสูงสุดของอาณาจักรเซียน กลิ่นอายมันก็เหมือนเทพโบราณผู้ยิ่งใหญ่!
พอกู่ฉางเกอเหวี่ยงหมัด วิญญาณยุทธ์ด้านหลังเขาก็เหวี่ยงหมัดตาม!ทันทีทันใด พลังน่ากลัวปะทุ และมิติก็สั่นสะเทือน
[พุฟ!]
พอคลื่นแสงที่เกิดจากอักขระและค่ายกลต่างๆฟาดใส่กู่ฉางเกอ หมัดของวิญญาณยุทธ์เขาก็ทำลายมัน!
หมัดแสนน่ากลัวของเขาทำให้หยานจีตกใจ นางรู้ดีว่านางประเมินพลังของกู่ฉางเกอต่ำไป คนอย่างเขา นายน้อยแห่งตระกูลเซียนกู่จะเป็นคนธรรมดาได้ไง?
“นี่..เป็นไปไม่ได้..”
พลังสะท้อนกลับซัดเย่เฉินปลิวจนเขากระอักเลือดกองโต
เขาไม่อยากเชื่อ!
พลังที่เขาอัญเชิญมาโดยใช้กุญแจของวัง ค่ายกลและกลไกทั้งหมดของอาณาจักรลับกลับโดนหมัดเดียวจากแค่วิญญาณยุทธ์ทำลาย!
อะไรอีก?กู่ฉางเกอยังไม่ได้ทุ่มสุดตัว พลังที่เขาใช้ยังอยู่ภายใต้ขีดจำกัดที่อาณาจักรลับกำหนด แต่มันกลับทำลายไพ่ตายของเขาได้ในหมัดเดียว
[แกร่ก]
สิ่งที่ทำให้เย่เฉินตกใจหนักเข้าไปใหญ่คือเข็มทิศในมือของเขาปริแตก และจากนั้นก็แตกกระจาย!
พูดได้ว่า เขาคงตายไปแล้วถ้ากุญแจของวังไม่ได้ต้านพลังส่วนใหญ่ของกู่ฉางเกอไว้!
ความหนาวเย็นวิ่งลงกระดูกสันหลังเย่เฉิน
พลังแท้จริงของกู่ฉางเกอไกลเกินจินตนาการเขา แม้เขาจะสะกดพลังตัวเอง เย่เฉินก็เดาว่ากู่ฉางเกอคงสามารถฆ่าผู้บ่มเพาะอาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้สบาย
หัวใจของเย่เฉินเต็มไปด้วยความตกใจ และอดตัวสั่นไม่ได้
“เจ้าเล่นมามากพอแล้ว มันถึงเวลาที่เจ้าจะไปเล่นในโลกนี้ กระเทียมหอมน้อย..”
กู่ฉางเกอกำหนดชะตากรรมเขา
[ฮึ่ม!]
กู่ฉางเกอตบมือออกไป และวิญญาณด้านหลังเขาก็ตบมือออกไปตาม กำจัดทุกสิ่งด้านหน้า!มิติสั่นสะเทือน และสีหน้าของเขาก็ดูไม่แยแสราวกับเขาคือพระเจ้าที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง
‘เป็นไปไม่ได้!คนอย่างข้าเนี่ยนะจะมาตายที่นี่..”
ความสิ้นหวังปกคลุมเย่เฉิน และอาการสั่นก็วิ่งลงกระดูกสันหลังเขาขณะมองฝ่ามือที่ใหญ่ขึ้น ตอนนี้ เขาไม่สามารถขยัตัวได้เลยสักนิด
เขามักเชื่อว่าเขาคือคนมีพรสวรรค์ แต่ต่อหน้าฝ่ามือของกู่ฉางเกอ เขากลับพบว่าตัวเองเล็กเหมือนมด!
เขากำลังจะตาย!
ไพ่ตายทั้งหมดของเขาไม่มีประโยชน์ต่อหน้าพลัง!
“หยุด!กู่ฉางเกอ!”
ตอนนี้เอง เสียงร้องดังขึ้นจากด้านนอก
ด้วยวิธีบางอย่าง เย่หลิวลี่บุกฝ่าคลื่นสัตว์อสูรเข้ามาในวังนี้ และพบเห็นว่ากู่ฉางเกอกำลังจะตบเย่เฉินให้ตาย
[ฉั้ว!]
ปราณกระบี่ที่อัดแน่นด้วยเจตจำนงกระบี่ฟันออกไป หมายจะทำลายทุกอย่างในเส้นทางมัน!
นางอยากช่วยเย่เฉิน!
เย่หลิวลี่อยู่ในอาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แม้จะสะกดพลังตัวเองเป็นเซียน พลังต่อสู้ของนางในอาณาจักรนี้ก็แกร่งกว่าผู้บ่มเพาะทั่วไป นางมั่นใจว่าจะหยุดกู่ฉางเกอได้
[พุฟ!]
แต่ทว่า นางก็ต้องตกใจที่เห็นว่ากระบี่นางเหมือนก้อนโคลนที่จมไปในทะเลตอนมันฟันใส่มือสีดำ!
‘เป็นไปได้ยังไง..’
‘อาณาจักรข้าก็ไม่ต่างจากกู่ฉางเกอ ทำไมข้าถึงตัดแค่มือของวิญญาณยุทธ์เขาไม่ได้..’
ความไม่อยากเชื่อปกคลุมดวงตาของเย่หลิวลี่
กระบี่ยาวสีขาวหิมะนางไม่ได้ทำจากวัสดุกากๆ มันสร้างจากทองเทพ และวิชากระบี่ของนางก็คือวิชากระบี่ที่ร้ายกาจสุดของตระกูลเซียนเย่
นางสามารถกำจัดผู้บ่มเพาะอาณาจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายๆด้วยการฟันครั้งเดียว แต่กู่ฉางเกอกลับไม่สะทกสะท้าน!
“เจ้ามาได้ทันเวลาพอดี”
กู่ฉางเกอมองนางอย่างสนุก จากนั้นก็เปลี่ยนจากท่าตบเป็นคว้า และมือของวิญญาณยุทธ์เขาก็คว้าเย่เฉินไว้ ยกเขาขึ้นอากาศ
มันราวกับเขากำลังบีบแมลง!
“หลิวลี่..”
ใบหน้าของเย่เฉินขาวซีด เขาได้แต่ร้องเรียกหาเย่หลิวลี่ขณะดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง
นี่คือพลังของ[กายปีศาจหมื่นจำแลง]ของกู่ฉางเกอ นับประสาอะไรกับเย่เฉิน ต่อให้เขาจะลดพลังเป็นอาณาจักรปรมาจารย์ เย่เฉินก็ยังไม่สามารถเป็นอิสระจากเงื้อมมือกู่ฉางเกอได้
เย่เฉินรู้ดีว่ามีแค่เย่หลิวลี่ถึงช่วยเขาได้
[แค่ก!]
น่าเสียดาย ทันทีที่เขาเปิดปาก กู่ฉางเกอก็บีบเขาไว้แน่น เย่เฉินอดพ่นเลือดอีกไม่ได้
หยานจีเฝ้ามองทุกอย่างด้วยใบหน้าสงบ ปราศจากความสงสารเย่เฉิน
เขาทำตัวเอง
นางบอกให้เขาล้มเลิกการล้างแค้นและปล่อยวาง แต่เขาไม่เคยฟังนาง เขาทำตัวเองทั้งนั้น!
“อะไร?เจ้าอยากช่วยเขา?”
กู่ฉางเกอหันไปมองเย่หลิวลี่ เขาไม่แปลกใจที่นางมาถึงเร็วขนาดนี้ เหนือสิ่งอื่นใด นางคือเจ้าหญิงน้อยของตระกูลเซียนเย่ นางต้องมีวิชากับสมบิติมากมายที่สามารถกำจัดกลุ่มสัตว์อสูรเหล่านั้นได้
แน่นอน สิ่งสำคัญสุดคือกู่ฉางเกอมั่นใจว่านางจะมาถึงที่นี่ในเวลาที่เหมาะเจาะ
ด้วยเย่เฉินในกำมือ เขาสามารถใช้นางและบีบเค้นโชคสุดท้ายได้
“กู่ฉางเกอ หยุดซะ ปล่อยพี่ชายเฉินไป!แค่บอกมาว่าเจ้าต้องการอะไร..”
เย่หลิวลี่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา สีหน้าของกู่ฉางเกอแสดงให้นางเห็นว่าเขามีแผน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะทนเห็นพี่ชายเฉินตายต่อหน้า
จากที่นางรู้ถึงนิสัยของกู่ฉางเกอ เขาน่าจะข่มขู่นางด้วยชีวิตของเย่เฉินและขออะไรบางอย่าง น่าเสียดาย กู่ฉางเกอแข็งแกร่งเกินไปสำหรับนาง นางจึงไม่สามารถจัดการเขาได้ด้วยวิธีปกติ
ตอนแรก นางมีความหวังในตัวพี่ชายเฉินและคิดว่านางควรไว้ใจเขาเนื่องจากเขามั่นใจมาก...นางไม่คิดเลยว่านางจะได้เห็นพี่ชายเฉินในสภาพนี้
เย่หลิวลี่ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง
“ขออะไรก็ได้?”
ความสนใจปรากฏบนหน้าของกู่ฉางเกอ
เย่หลิวลี่จ้องเขาเขม็ง“ข้าเต็มใจทำทุกอย่างตราบเท่าที่เจ้าไว้ชีวิตพี่ชายเฉิน!แน่นอน คำขอของเจ้าต้องไม่เกินเลย..”
“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว!ตอนนี้ เจ้าคือคนที่อ้อนวอนข้า ใครให้เจ้าเป็นคนตัดสินเงื่อนไข?’
กู่ฉางเกอเลิกคิ้วและพูดขัดนาง
“ถ้าเจ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ งั้นก็อย่าได้คิดช่วยชีวิตเย่เฉิน”
พอสิ้นคำพูด รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ขับเน้นเสน่ห์ล้นเหลือ ในเวลาเดียวกัน มือของวิญญาณยุทธ์เขาก็บีบแน่นกว่าเดิม เย่เฉินพ่นเลือดอีกสาย และใบหน้าก็แสดงความเกลียดชัง
ความหน่อ ความอ่อนโยนของกู่ฉางเกอปรากฏในสายตาของเย่หลิวลี่ แต่สำหรับนาง เขาไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้าย
“หลิวลี่ อย่าไปฟังเขา!ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอ้อนวอนเขาต่อให้ข้าต้องตาย!”
เย่เฉินตัดสินใจกู้หน้าบ้าง และจ้องกู่ฉางเกอด้วยใบหน้าอาฆาตแค้น มันราวกับเขากำลังบอกกู่ฉางเกอว่าเขาไม่กลัวตาย!
“ใครอนุญาตให้เจ้าพูด?”
กู่ฉางเกอจ้องเขา
[พุฟ!]
เย่เฉินกระอักเลือดขณะโดนบดขยี้อีกครั้ง เขารู้สึกขาดอากาศ!
“แค่บอกมาว่าเจ้าอยากได้อะไร ข้าจะทำมันตราบเท่าที่อยู่ในขอบเขตความสามารถข้า”
เย่หลิวลี่จ้องกู่ฉางเกอและพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
“มันง่ายมาก เจ้าแค่ต้องเปิดทะเลจิตสำนึกของเจ้าและปล่อยให้ข้าประทับตราทาส”
ใบหน้าของกู่ฉางเกอไม่เปลี่ยนแปลง และก็พูดราวกับมันเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่ทันทีที่เย่เฉินได้ยิน ใบหน้าของเขาก็ดำมืด เมื่อตราทาสถูกประทับในทะเลจิตสำนึก คนที่ถูกประทับจะกลายเป็นทาสไปชั่วชีวิต และจะไม่มีวันคิดต่อต้านได้เลย
ราคานั้นสูงเกินไป!
เย่หลิวลี่จะเห็นด้วยไหม?เขาหมดคำพูด
“หลิวลี่ อย่ายอมรับเงื่อนไขเขา!ข้ายอมตาย..”
เย่เฉินคำรามเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากตาย!เขาอยากแก้แค้น เขาไม่สามารถมาตายที่นี่ได้
และเพื่อความอยู่รอด เขารู้ว่าเขาต้องไม่แสดงความกลัวตายและอยากมีชีวิตรอด ไม่งั้นเย่หลิวลี่อาจลังเลที่จะช่วยชีวิตเขา เย่เฉินไม่อยากหลอมเย่หลิวลี่แบบนี้ แต่เขาต้องทำเพื่อความอยู่รอด
กู่ฉางเกอต้องฆ่าเขาแน่
เขาเจ็บปวดมาก และไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงลงเอยในสภาพนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของกู่ฉางเกอ!
“ประทับตราทาส?กู่ฉางเกอ เจ้ามันชั่วช้าจริงๆ!แต่ ได้ ข้าเต็มใจให้เจ้าทำถ้ามันสามารถช่วยชีวิตพี่ชายเฉินได้”
เย่หลิวลี่โล่งใจพอได้ยินคำพูดของกู่ฉางเกอ บนผิวเผิน นางแสดงใบหน้าไม่เต็มใจและโกรธ ใช้เวลาคิดอยู่นานก่อนตอบตกลง
นางเชื่อว่าการแสดงของนางต้องหลอกกู่ฉางเกอได้ เหนือสิ่งอื่นใด ตระกูลเซียนเย่ของนางคือตระกูลโบราณที่เก่งด้านการแก้ผนึกและค่ายกลต่างๆ ตราทาสคือความถนัดของพวกนาง และมีแค่ทายาทสายตรงของตระกูลเซียนเย่ถึงรู้ความลับนี้
ต่อให้กู่ฉางเกอจะคำนวณไว้หมด เขาก็ต้องอ่านความคิดนี้ไม่ออกว่านางมีวิธีกำจัดตราทาส!