639 - ตำราที่สร้างมาจากหนังมนุษย์
639 - ตำราที่สร้างมาจากหนังมนุษย์
ในขณะนี้มีเพียงเสี่ยวหนานหนานเท่านั้นที่เงียบงันไม่กล่าววาจา นางกระพริบตามองทุกอย่างในภูเขาอมตะอย่างสงสัย
“ไปเถอะ เสียเวลาไม่ได้แล้ว” ผังป๋อเร่งเร้า
เด็กหญิงตัวเล็กๆนั่งบนหลังของสุนัขสีดำตัวใหญ่อีกครั้ง ภายใต้การชี้ทางจากน้ำเสียงที่อ่อนโยนพวกเขาก็เริ่มเดินทางอีกครั้ง
"นี่... เห็นได้ชัดว่ากำลังมุ่งสู่ใจกลางเทือกเขาอมตะ เรากำลังหาทางเอาตัวรอด หรือกำลังมองหาความตาย?" หลายคนบ่นพึมพำ
ไม่มีใครรู้ว่าอะไรอยู่ใจกลางภูเขาอมตะ แม้แต่จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าในปีนั้นก็เข้ามาด้วยความมุ่งมั่นเพื่อที่จะทำลายภูเขาลูกนี้ให้ได้ แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง?
สองข้างทางมีทิวเขาใหญ่สีดำตระหง่าน โอบล้อมด้วยหมอก ลึกลับอย่างยิ่ง นี่คือสภาพแวดล้อมของยุคโบราณในอดีตอย่างไม่ต้องสงสัย
“บูม…”
เสียงคำรามของแม่น้ำดังขึ้น และพวกเขาต่างก็ผงะ มีแม่น้ำสีดำขนาดใหญ่ไหลอยู่ด้านหน้า สีของมันมืดมิดราวกับความตายซึ่งทำให้จิตใจของทุกคนสั่นสะเทือนไม่สามารถสงบลงได้
"แม่น้ำแห่งความตาย!" สุนัขสีดำตัวใหญ่พูดไม่ออก
ในตำนานเล่าว่านี่คือแม่น้ำสายใหญ่ในยมโลก และพวกเขาเห็นมันในความเป็นจริง ดังนั้นจะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร
“ดูสิมีน้ำพุอยู่ที่นั่น มันน่ากลัวมาก” หลี่เหอซุยชี้
ริมฝั่งแม่น้ำดำใหญ่มีบ่อน้ำพุสีเหลืองเหมือนน้ำเหลืองจากศพ นี่เป็นฉากที่น่ากลัวมาก เพียงแค่กลิ่นของมันก็ทำให้พวกเขาเวียนหัวแล้ว
“หวงฉวน(น้ำพุเหลือง)?” เย่ฟ่านตกใจ
“ใช่แล้ว นั่นคือหวงฉวนจริงๆ แถวนี้มีทางเข้ายมโลกหรือไม่?” สุนัขสีดำตัวใหญ่ทำหน้าสงสัย
ทะเลสาบที่เกิดจากหวงฉวนเป็นเหมือนลูกมังกรสีเหลือง และ สีดำก็เหมือนมังกรร้าย การรวมกันของทั้งสองทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่น่าสะพรึงกลัวมาก
"มีสิ่งที่น่าเหลือเชื่อในน้ำที่ชั่วร้ายนี้ อย่ามองเข้าไปข้างใน" เย่ฟ่านเตือนเขาว่าทักษะดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเขาอาจกระตุ้นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างใน
"นั่นมันยาเซียน!"
"ใช่ มียาเซียนอยู่จริงๆ!"
ผังป๋อ ตู้เฟย หลี่เหอซุย และคนอื่นๆ อุทาน และแม้แต่สุนัขสีดำตัวใหญ่ก็ยังน้ำลายไหล
ในน้ำพุสีเหลืองนั้น หญ้าศักดิ์สิทธิ์สีดำค่อย ๆ โผล่ออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมที่กระจัดกระจายไปทั่ว มันทำให้ทุกคนอยากกระโดดเข้าไปข้างในทันที
ยาเซียนต้นนั้นมีรูปร่างคล้ายกล้วยไม้ มีประกายเล็กน้อย คล้ายหยกดำแกะสลักไหลเป็นประกายวิบวับ
หลายคนสูดหายใจ รูขุมขนทั่วร่างกายเปิดออก และรู้สึกสดชื่น ราวกับว่าพวกเขาได้รับประทานยาศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า ราวกับว่าพวกเขากำลังจะบุกทะลวงอาณาจักรบ่มเพาะ
"สวรรค์นั่นเป็นยาเซียนจริงๆ ถ้าหยิบขึ้นมาได้ต่อให้ไม่มีชีวิตเป็นอมตะเราก็สามารถเพิ่มอายุขัยได้เป็นพันปี"
"เราต้องหาวิธีหยิบมันขึ้นมา หากเราพลาดไปแล้วในชีวิตนี้ไม่มีทางที่จะค้นพบได้อีก"
หลายคนตื่นเต้น ยาเซียนที่แท้จริงนั้นหายากกว่าใบชาแห่งความรู้แจ้งที่หยิบขึ้นมาหลายเท่า พูดกันตามตรงในอดีตมีเพียงสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะเท่านั้นที่สามารถรับประทานยาศักดิ์สิทธิ์พวกนี้
“สู้ๆ เราต้องเอามันมาให้ได้” แม้แต่ผังป๋อก็ยังมุ่งมั่น
“เดี๋ยวก่อน” ในขั้นต้นเย่ฟ่านก็ขยับตัวเช่นกัน แต่จู่ๆ เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่าง
เมื่อราชาสวรรค์ผู้เฒ่าฟื้นคืนชีพ ปีศาจเฒ่าสามตัวที่มีชีวิตอยู่นานกว่าสี่พันปีโดยไม่ตายก็ปรากฏตัวออกมา ตามปกติแล้วหากไม่ได้เป็นเผ่าพันธุ์อสูร ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปจะไม่มีผู้ใดมีอายุยืนยาวถึงสองพันปีอย่างแน่นอน
ครั้งนั้นปีศาจเฒ่าสามตนเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อสี่พันปีที่แล้ว พวกเขาถูกราชาสวรรค์ผู้เฒ่าไล่เข้ามาในภูเขาอมตะและเคยกินยาชนิดหนึ่งเข้าไป
"นี่ไม่ใช่ยาอมตะ แต่เป็นหญ้าผีที่น่าสะพรึงกลัว การกินมันจะทำให้ร่างกายกลายเป็นศพ และมีเพียงจิตวิญญาณเท่านั้นที่เป็นอมตะ" เย่ฟ่านหยุดไม่ให้สหายของเขาก้าวไปข้างหน้า
เขาจำได้ดีว่าปีศาจสามเฒ่าผู้ท้าทายสวรรค์เคยกล่าวไว้ว่าหญ้าแดนมรณะถูกเก็บในบ่อน้ำพุสีเหลืองซึ่งควรเป็นที่แห่งนี้
หลังจากเย่ฟ่านพูดอย่างละเอียด หลายคนก็อ้าปากค้าง หญ้าแดนมรณะมีความสามารถในการยืดอายุขัยจริงๆ เรื่องนี้ไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย
“น่าเสียดาย” ผังป๋อ ตู้เฟย และคนอื่นๆ รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง และสุนัขสีดำตัวใหญ่ก็สาปแช่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พวกเขาต้องเดินทางต่อไปโดยข้ามแม่น้ำแห่งความตายรวมทั้งบ่อน้ำพุเหลืองที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ไม่ควรเข้าใกล้อย่างยิ่ง
แต่หลังจากที่ข้ามไปแล้วมันก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นซึ่งทำให้พวกเขาถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ลี้ พืชพรรณก็ลดลงในบริเวณใกล้เคียงก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือก้อนหินมากมายมหาศาล
ที่นี่แห้งแล้งมาก มีโขดหินอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีร่องรอยของทำมากมายที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของมนุษย์อย่างชัดเจน
"มีคนเคยมาที่นี่"
พวกเขาพบโครงกระดูกที่ใสราวกับหยก และพวกเขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ปีแล้ว คนพวกนี้คือผู้สูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
"นี่คงเป็นโครงกระดูกของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ที่คิดจะเข้ามาหาหนทางยืดอายุของตัวเองในภูเขาอมตะ"
"เมีเหรียญตราทองคำและม้วนคัมภีร์ด้วย" พวกเขาเริ่มค้นพบของบางอย่าง
“แม้ว่าจะผ่านไปหลายปีแต่มันก็ยังไม่ถูกทำลายเห็นได้ชัดว่าของพวกนี้เป็นสมบัติแห่งสวรรค์” สุนัขสีดำตัวใหญ่วิ่งไปข้างหน้า
เสี่ยวหนานหนานชี้ทาง และหลายคนเดินเข้าไปในถ้ำโบราณขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
สุนัขสีดำตัวใหญ่คว้าสัญลักษณ์สีทองด้วยกรงเล็บ แต่ทันทีที่เท้าของมันสัมผัสกับเหรียญตรานั้นร่างกายของมันก็เย็นเฉียบและรีบโยนเหรียญตราลงพื้นทันที
"แดง"
เหรียญตราพลิกไปพลิกมาในที่สุดก็หยุดลง เมื่อพวกเย่ฟ่านเดินเข้าไปก็เห็นว่าบนเหรียญตรานั้นมีอักษรเพียงตัวเดียว
“ฆ่า”
เจตนาฆ่าที่สื่อถึงโดยคำนี้ทำให้จักรพรรดิดำ เย่ฟ่าน และคนอื่น ๆ รู้สึกเหมือนตกลงไปในน้ำแข็ง
“นี่มันอะไรกัน?” ผังป๋อตกใจ นี่ไม่ใช่อาวุธ และไม่มีตราสัญลักษณ์เต๋า เป็นเพียงสัญลักษณ์ แต่มีเจตนาฆ่าที่ข้ามยุคสมัย
“นี่คือสัญลักษณ์ประจำตัวของอสูรเฒ่าที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้”
พวกเขากลัวเหรียญตราทองคำนี้และไม่กล้าแตะต้องมันง่ายๆ อีก ดูเหมือนว่าเจ้าของเหรียญนี้คงจะสังหารผู้สูงสุดไปหลายพันคนแล้ว
สุนัขสีดำตัวใหญ่คว้าม้วนหนังสือโบราณที่อยู่ใต้โครงกระดูก แต่ทันทีที่มันหยิบขึ้นมามันก็กรีดร้องและโดนทิ้งอีกครั้ง
“เจ้าโวยวายอะไร?” ทุกคนหันหลังกลับ
“นี่คือผิวหนังมนุษย์… มันถูกลอกออกจากปราชญ์โบราณ ผิวหนังของผู้อมตะที่สามารถดำรงอยู่ได้เป็นแสนปี” สุนัขสีดำตัวใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"อะไรนะ นี่คือผิวหนังของปราชญ์โบราณ" ทุกคนตกใจ
ผิวของปราชญ์โบราณนี้ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย และไม่มีใครรู้ว่ามันผ่านมากี่ยุคกี่สมัยแล้ว แต่ก็ยังมีความแวววาวอยู่ และตัวอักษรที่อยู่ข้างในก็มีขนาดเล็กมากแต่ยังคงสดใสแวววาวมองเห็นได้ชัดเจน
“มันเขียนว่าอะไรกันแน่?”
หลายคนหายใจอ่านไม่เข้าใจแต่รู้สึกกระสับกระส่ายเป็นอย่างมาก ด้วยคำพูดมากมายที่ทิ้งไว้ในเนื้อหนังของสิ่งมีชีวิตอมตะ นี่ต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ผิวหนังของปราชญ์โบราณเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความยาวไม่กี่คืบ ไม่บุบสลาย ใสราวกับผลึก อักษรลึกลับที่อยู่ข้างในแม้จะอ่านไม่ออกแต่ก็สร้างความกดดันอย่างถึงที่สุด
ไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลังมีคำนับหมื่นและสายตาคนธรรมดาไม่สามารถอ่านได้อย่างแน่นอน
ในเวลานี้แผ่นหลังของทุกคนเปียกชุ่มเยือกแข็งถึงกระดูก ราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตอมตะที่ถูกลอกหนังออกมา เสียงคร่ำครวญในจินตนาการของพวกเขาทำให้ร่างกายของทุกคนสะท้าน
ใครกันนะที่สามารถลอกผิวหนังของผู้อมตะมาทำหนังสือได้
สุนัขสีดำตัวใหญ่ตกใจกับเจตนาฆ่าบนผิวหนัง กรงเล็บของมันสั่นเทา แม่จะถอยหลังออกมาไกลแล้วแต่ร่างกายของมันยังคงสั่นสะท้านไม่หยุด
“ผิวหนังนี้ถูกลอกออกมาจากคนที่ยังมีชีวิตเป็นเป็น” นี่เป็นคำอธิบายที่ชัดเจน หลังจากที่สัมผัสได้ถึงความไม่ยินยอมพร้อมใจของเจ้าของแผ่นหนัง เห็นได้ชัดว่าของสิ่งนี้ถูกลอกออกมาในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่
“นี่คือ... ญาณวิเศษศักดิ์สิทธิ์”
จักรพรรดิดำกรีดร้อง