ตอนที่ 765+766 เจ้านายที่ไร้เดียงสา

ตอนที่ 765 เจ้านายที่ไร้เดียงสา

ผู้หญิงคนนั้นคร่ำครวญถึงความอยุติธรรมของโชคชะตาอีกครั้ง ทำไมโชคชะตาต้องโหดร้ายกับเธอนัก?

เจียงเหยาเพิ่งกลับมายังห้องพักของเฉินเฟยไป่ เธอก็ถูกเฉินฉานเหอและภรรยาชักชวนให้กลับไปพักที่โรงแรม เฉินเฟยไป่หลับไปแล้ว แค่สองคนสามีภรรยาเฝ้าอยู่ที่นี่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เจียงเหยาต้องลำบากไปกับพวกเขาได้อีกต่อไป

เจียงเหยาคิดเกี่ยวกับมันและตอบตกลง หลังจากฝนหยุดตก เธอก็กลับไปที่โรงแรมพร้อมกับอาลู่

สิ่งแรกที่เจียงเหยาทำเมื่อเธอกลับมาที่โรงแรมคือการเข้าสู่ระบบการแพทย์เพื่อตรวจสอบผู้ป่วยจำลองที่ระบบได้สแกนเก็บไว้ จากนั้นเธอก็เรียกผู้ดูแลระบบให้ออกมา

ในห้องพักผู้ป่วย ร่างกายของเฉินเฟยไป่ถูกพันด้วยผ้าพันแผล เจียงเหยาไม่สามารถตรวจสอบสภาพของผู้ป่วยได้โดยตรง โชคดีที่ระบบสามารถจำลองสภาพของผู้ป่วยได้ เมื่อเธอขอให้ระบบสแกนร่างกายของเฉินเฟยไป่ในตอนนั้น

ในเวลานี้เธอขอให้ระบบจำลองผู้ป่วยออกมา

"นายท่าน อาการของผู้ป่วยรายนี้ร้ายแรงมาก" ผู้ดูแลระบบมองผู้ป่วยที่นอนอยู่ในห้องปฏิบัติการอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นท่าทีที่หาได้ยากมาก "แผลไฟไหม้เป็นหนึ่งในโรคที่ยากจะรักษาที่สุดในโลก"

"ฉันรู้" เจียงเหยามองดูร่างจำลองที่สมบูรณ์ที่สุดของการสแกนบนระบบอย่างระมัดระวัง คิ้วของเธอถักเป็นก้อน "ยาที่ฉันลองใช้ครั้งล่าสุดอาจไม่มีผลกับแผลไหม้ที่รุนแรงเช่นนี้"

"ใช่แล้วล่ะ เมื่อวินิจฉัยจากความรุนแรงของแผลไม้ของผู้ป่วยรายนี้ ยาที่ปรุงจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนตัวผู้ป่วย แต่ว่านะ เมตาบอลิซึม1 ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ผู้ป่วยบางรายฟื้นตัวได้ดีขึ้นหากการดูดซึมได้ดี และสุดท้ายแผลเป็นก็อาจจะจางลงก็ได้" ผู้ดูแลระบบกล่าว

"แต่ฉันจำได้ว่าในวิชาแพทย์แผนจีน เมื่อคราวที่แล้วที่ฉันได้อ่านดูคร่าว ๆ มีชุดฝังเข็มที่มีประโยชน์สำหรับเรื่องนี้อยู่ มันสามารถกระตุ้นการทำงานของข้อต่อ หากอดทนทำอย่างต่อเนื่องนาน ๆ ก็น่าจะสามารถช่วยผู้ป่วยไม่พิการได้" เจียงเหยากล่าว

แต่เมื่อมองไปที่ชุดของการฝังเข็มนั้น แม้แต่เจียงเหยาเองก็รู้สึกเจ็บปวด เมื่อมองไปที่จุดฝังเข็ม รวมถึงยาที่จำเป็นในการกระตุ้นบางส่วนของร่างกาย

เหมือนกับว่าหลังจากที่ผู้ป่วยอดทนกับความเจ็บปวดจากการซ่อมแซมผิวของเขาเอง สิ่งที่ตามมาคือความเจ็บปวดที่มากขึ้นในการถูกฝังเข็ม

เจียงเหยาไม่กล้าคิดว่าใครจะทนได้ เมื่อเธอไม่สามารถให้ยาสลบเขาก่อนฝังเข็มได้

เช่นเดียวกับในยุคแรก ๆ เวลาที่กระดูกของใครหัก และไม่ได้รับการเชื่อมต่ออย่างถูกวิธี ในเวลานั้นไม่มีการดมยาสลบ มันยากที่จะจินตนาการว่าความเจ็บปวดนั้นจะสาหัสเพียงใด

ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทันที อย่างไรก็ตาม การฝังเข็มทำได้วันละสองครั้งเป็นเวลา 40 นาที ขั้นตอนแรกของการรักษาคือหนึ่งสัปดาห์ หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผู้ป่วยได้รับการฝึกอบรมการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการก่อน ถึงจะเข้ารับการรักษาในขั้นต่อไป

มีอีกสิ่งที่ยากที่ต้องทำ ผิวของเฉินเฟยไป่นั้นไม่ได้เสียหายไปเสียทั้งหมด มีเพียงไม่กี่จุดที่ใหญ่เท่าฝ่ามือ แม้ว่าเขาจะต้องทำการปลูกถ่ายผิวหนังในอนาคต แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะทำ

เจียงเหยาถอนหายใจ "ฉันคิดว่าระบบการแพทย์จะมีอำนาจไปเสียทุกอย่าง คิดว่าไม่มีโรคไหนที่ระบบจะไม่สามารถรักษาได้"

เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของเจียงเหยา ผู้ดูแลระบบมองไปที่เจียงเหยาด้วยความตกใจ "นายท่านช่างไร้เดียงสาเสียจริง"

เจียงเหยาสามารถบอกได้ว่าความไร้เดียงสาที่ผู้ดูแลระบบพูดออกมานั้น ไม่ใช่คำชมแต่อย่างใด เธอรู้ว่าเธอไร้เดียงสาเมื่อเทียบกับโลกอนาคต เมื่อวิทยาศาสตร์ได้รับการพัฒนาและสภาวะทางการแพทย์ดีขึ้น อวัยวะเทียมก็ถูกสร้างขึ้นได้ เป็นไปได้ไหมว่าผิวหนังเทียมสามารถสร้างขึ้นได้?

มันไม่ใช่หน้ากาก ไม่ใช่หุ่นยนต์ ผิวหนังของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ

.....

1เมตาบอลิซึม (Metabolism) คือ กระบวนการทางเคมีที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติหรือสามารถรักษาภาวะต่าง ๆ ภายในร่างกายให้คงที่ (Homeostasis)

__

ตอนที่ 766 ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

"นายท่าน เป็นการดีที่สุดที่จะย้ายผู้ป่วยรายนี้เข้าสู่ระบบโดยเร็ว เพราะที่นี่สามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีแบคทีเรียเติบโต ไม่อย่างนั้น ด้วยสภาพปัจจุบันของผู้ป่วย หากเขาติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ๆ ผลที่ตามมาก็เกินจินตนาการ ผู้ป่วยตอนนี้เทียบเท่ากับคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน และเขาบอบบางยิ่งกว่าเด็กแรกเกิดเสียอีก นอกจากนี้การใช้ยาทำได้แค่ช่วยลดระยะเวลาการฟื้นตัวของเขา สิ่งนี้จะช่วยได้มากในสร้างความมั่นใจของผู้ป่วยในการรักษานะครับ"

ท้ายที่สุดเฉินเฟยไป่ไม่ใช่ลูกหลานจากตระกูลทั่วไป พวกเขาสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการ แต่เฉินเฟยไป่ที่เปรียบได้ดั่งสมบัติล้ำค่าของตระกูลเฉิน กลับมีสภาพเช่นนี้ในตอนนี้

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เฉินเฟยไป่ถูกนำส่งเข้าสู่ระบบทางการแพทย์ สมาชิกในครอบครัวของเขาจะไม่ได้เจอเขาตลอดทั้งสัปดาห์

"ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดก็แล้วกัน" เจียงเหยาพูดได้เพียงว่าเธอจะลองดู ผู้อาวุโสเชื่อในฝีมือทางการแพทย์ของเธอ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่บอกกับเธอก่อนจะจากไปแบบนั้น สำหรับผู้อาวุโสเฉินแล้ว เรื่องนี้ไม่ยากเกินไปที่จะรับมือ

ในตอนนี้ สิ่งที่ยากคือข้อแก้ตัว

เธอต้องหาข้ออ้างในการนำเฉินเฟยไป่เข้าสู่ระบบเพื่อไม่ใช้ทุกคนตามหาเฉินเฟยไป่ ไม่อย่างนั้น การที่เฉินเฟยไป่หายไปโดยไร้เหตุผล ใครก็หาเขาไม่พบ ทุกคนคงพบว่ามันแปลกประหลาด

หลังจากคิดดูแล้ว ดูเหมือนว่าการนำเอาข้ออ้างเรื่องเทวแพทย์ออกมาใช้ น่าจะได้ผล

หลังจากย้ายเฉินเฟยไป่ที่โรงพยาบาลของเทวแพทย์แล้ว เธอก็ย้ายเฉินเฟยไป่เข้าสู่ระบบเสีย ถ้าเธอไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป ก็ไม่มีใครสามารถรู้เรื่องนี้ได้

หลังจากออกจากระบบการแพทย์ เจียงเหยา โทรหาลู่ชิงสีอย่างไร สายก็ถูกตัดในวินาทีถัดมา ไม่กี่วินาทีต่อมา ข้อความจากลู่ชิงสีก็ตอบกลับเธอว่าเขาอยู่ในการประชุม และขอให้เธอส่งข้อความมาแทน

หลังจากที่เจียงเหยาอ่านแล้ว เธอก็ยิ้มออกมาทันที ผู้ชายคนนี้ไม่จริงจังในการประชุม เขายังสามารถส่งข้อความถึงโทรได้ แม้จะไม่ได้โทรกลับหาเธอก็ตาม เมื่อเธอคิดว่าเขานั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ ทว่ามือที่อยู่ใต้โต๊ะกำลังถือโทรศัพท์และส่งข้อความหาเธอ.. เขาจะต้องกำลังทำหน้าจริงจังเป็นฉากบังหน้า และซ่อนใบหน้าอันน่าพอใจอย่างอธิบายไม่ถูกไม่ภายใน

"ประชุมเสร็จ โทรหาฉันด้วยนะคะ" เจียงเหยาตอบข้อความเขา และโยนโทรศัพท์ของเธอ

เธอคิดว่าลู่ชิงสีอาจจะพอมีเวลาหลังจากประชุมเสร็จ แต่สองชั่วโมงแล้ว ลู่ชิงสีเพิ่งจะโทรหาเธอและบอกกับเธอว่าเขากำลังจะไปที่เขตการประเมินพร้อมกับผู้เข้าร่วมการประเมินในรอบที่สาม ซึ่งจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาไม่มีเวลาเลย

เจียงเหยาถือโทรศัพท์ของเธอ เธอไม่สามารถซ่อนความผิดหวังบนใบหน้าของเธอได้ แต่ลู่ชิงสีไม่สามารถรู้ได้จากน้ำเสียงของเธอ

"เอาล่ะ ถ้าคุณพอมีเวลาช่วยบอกผู้อาวุโสเฉินว่าฉันต้องการรับช่วงรักษาเฉินเฟยไป่ ต้องบอกแบบนี้ก่อน ด้วยอาการของเฉินเฟยไป่ ฉันไม่สามารถปล่อยให้เขาฟื้นคืนสภาพก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บ ถ้าเฉินเฟยไป่สามารถทนต่อความเจ็บปวดทั้งหมดได้ในระหว่างการรักษา ฉันรับประกันได้เลยว่าร่างกายของเขาจะไม่พิการ หลังจากนั้นเขาจะหายดี ส่วนรอยแผลเป็นบนร่างกายของเขาก็คงจะมีอยู่ นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่พอจะทำได้แล้วล่ะ"

เจียงเหยาหยุดนิ่งไปชั่วคราวครู่หนึ่ง เธอคิดว่าหมอคงไม่อธิบายให้สมาชิกในครอบครัวเฉินฟังมากเกินไป บางทีเมื่ออาการของเฉินเฟยไป่คงที่ โรงพยาบาลก็คงจะแนะนำให้ย้ายเฉินเฟยไป่ไปที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่กว่านี้ ดังนั้นเจียงเหยาจึงอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมว่า "ด้วยอาการของเฉินเฟยไป่ ถ้าฉันไม่รับการรักษาของเขา แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูร่างกาย ความเป็นไปได้ที่เขาจะกลายเป็นอัมพาตก็ยังสูงมาก แม้ว่าเขาจะไม่เป็นอัมพาต แต่เขาจะไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติอีก"