CD บทที่ 75 หวนนึกถึงอดีต
สถานการณ์โดยรอบของคดีไม่มีอะไรซับซ้อนมาก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีคนพบซากลอยอืดขึ้นมา จากการตรวจสอบพบว่าเหยื่อเป็นหญิงสาวและเสียชีวิตมาเกือบ 3 เดือนแล้ว เนื่องจากบนตัวพบรอยเชือกเลยทำให้คิดว่าเป็นคดีฆาตกรรมและเริ่มมีการสืบคดีเกิดขึ้น เพื่อจะไขคดีนี้ จะต้องระบุให้ได้เสียก่อนว่าเหยื่อเป็นใครเพื่อที่จะเริ่มต้นการสืบสวน
หลังจากเปรียบเทียบกับรางงานคนหายในที่สุด ทางตำรวจก็ระบุตัวเหยื่อได้ เหยื่อชื่อ เผิงอันหนี เธอเป็นบาร์เทนเดอร์ที่คอยทำงานให้กับปาร์ตี้ใหญ่ ๆ แม้ว่ารูปคดีจะดูไม่ยากในการแก้สักเท่าไหร่นัก แต่เพราะการดำเนินชีวิตประจำวันของเธอที่ต้องเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนจำนวนมากเลยเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับคดีนี้
คดีนี้ถูกส่งมาให้ทีมเอเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทีมสืบสวนของทีมเอได้รับการดูถูกอยู่เสมอหรือเนื่องจากการแต่งตั้งตัวแทนหัวหน้าทีมคนใหม่เป็นเผิงซินก็ตาม พวกเขายังคงมีอะไรที่จะต้องพิสูจน์หลายอย่าง ทุกคนหวังว่าจะสามารถยกระดับทีมตัวเองขึ้นสู้กับทีมคู่แข่งได้บ้าง
ทุกคนในทีมกำลังจดจ่ออยู่กับการไขคดีแต่จ้าวหยู่ไม่สามารถลงมือช่วยอะไรได้เลย เช้าวันรุ่งขึ้นเขาต้องไปรายงานตัวที่โรงเรียนตำรวจมณฑลฉินชานเพื่อเข้าร่วมการฝึกอบรมตำรวจประจำปี นับตั้งแต่ที่เขาสามารถไขคดีมือที่หายไปได้ เขาก็ได้รับความสนใจมาโดยตลอด เขาต้องใช้ไอเทมลับจากระบบปาฏิหาริย์เป็นตัวช่วยในการแก้ไขคดี แต่การฝึกในครั้งนี้การเท่าเทียมกันคือสิ่งสำคัญ ดังนั้นเขาจะต้องก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
จ้าวหยู่ยังคงอ่านข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้อย่างตั้งใจ ส่วนลึกในใจที่ไหนสักแห่งกำลังมอบความหวังเล็กน้อยให้กับเขา เขาส่งข้อความหาหยางฮงเพื่อสอบถามว่าเธอรู้จักกับเผิงอันหนีหรือเปล่า เขารู้สึกได้ว่างานของหยางฮงกับเผิงอันหนีมีความคล้ายคลึงกัน ถ้าเกิดพวกเขาทั้งสองรู้จักกันก็จะส่งผลดีต่อคดีนี้ได้!
หยางฮงตกเป็นเหยื่อในคดีข่มขืนปืนช็อตไฟฟ้าและในคดีมือที่หายไป เธอก็ได้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตัวคนร้ายแก่จ้าวหยู่มาและถ้าตอนนี้เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับคดีศพในอ่างเก็บน้ำนี้อีก จ้าวหยู่คงจะต้องตั้งศาลเพื่อบูชาเธอเป็นแน่! แต่สถานการณ์ของจ้าวหยู่ไม่เป็นไปตาที่เขาคิด หยางฮงตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่าเธอไม่รู้จักเหยื่อแม้แต่นิดเดียว แต่เธอสามารถถามหาให้เขาได้และขอให้จ้าวหยู่รอเธอก่อน
จ้าวหยู่ได้ยินเสียงดังก้องจากปลายสาย เขาส่งข้อความกลับไปเพื่อจะถามเธอว่า
“คุณอยู่ที่ไหน?”
แต่เขาก็ไม่ได้รับข้อความตอบกลับมาแต่อย่างใด เขารู้สึกแย่และไม่อยากจะสนใจว่าตอนนี้หยางฮงอยู่ไหนหรือกำลังทำอะไรอยู่
จ้าวหยู่มองผ่านข้อความของตัวเองไปมา จ้าวหยู่คนก่อนมีบุคลิกที่ค่อนข้างเฉพาะตัว เขาไม่ค่อยจะมีเพื่อนมากนัก ทั้งข้อความในวีแชทหรือรายชื่อเบอร์ติดต่อก็มีอยู่เพียงนิดเดียว เลยทำให้ชื่อของเหยาเจียดูโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก จ้าวหยู่ไม่สามารถหยุดดูรูปโปรไฟล์ของเธอได้เลย นับตั้งแต่ตอนไล่ล่าโจรบนอูฐ จ้าวหยู่ก็มีเหยาเจียเป็นเพื่อนในวีแชทนับตั้งแต่ตอนนั้น เขาไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มบทสนทนาอย่างไรกับเธอดี
ตอนนั้นเอง เขาก็เริ่มเปิดดูอัลบั้มรูปภาพในโปรไฟล์ของเหยาเจียไปเรื่อย ๆ ชื่นชมภาพแต่ละภาพของเธอ เหยาเจียในภาพนั้นดูสวยงามเหมือนแต่ก่อน…เหมือนเหยาเจียที่เขาเคยรู้จัก การดูรูปถ่ายของเธอทา ให้เขานึกย้อนกลับไปตอนอายุ 20 ช่วงเวลาที่ทั้งสองคนมีความสุขด้วยกัน…
*บรี้น...*
บนสะพานซินหัว จ้าวหยู่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปพร้อมกับเหยาเจียที่นั่งอยู่ด้านหลังเขา มอเตอร์ไซค์คันนั้นส่งเสียงดังไปทั่ว จนสุดท้ายก็มาหยุดยังหน้าร้านแผงลอยขายโทรศัพท์มือถือ
เหยาเจียถอดหมวกกันน็อคของเธอออกและตะโกนไปยังคนขายว่า
“นี่! ตาบอดหรือไง? ไม่รู้เหรอว่าถิ่นนี้เป็นของใคร แกยังไม่ได้รายงานตัวกับพี่เทพเลยนี่ (ชื่อเล่นในตอนนั้นของจ้าวหยู่) กล้ามากนะ อยากตายหรือไง ห๊ะ?!”
“เอ่อ…” ชายคนนั้นมีท่าแสดงออกที่ยากลำบากใจ “นี่มันสะพานสาธารณะนะครับ ไม่ได้ผิดกับกฎหมายอะไรสักหน่อยถ้าผมจะตั้งของขายที่นี่!”
“อะไรนะ? ห้องน้ำสาธารณะเหรอ?” เหยาเจียสัมผัสไปที่หูของเธอ
“พื้นที่สาธารณะครับ!” คนขายแก้ไขข้อความให้กับเธอ
“ทำไมฉันได้ยินแกพูดว่าห้องน้ำสาธารณะกันล่ะ?” เหยาเจียวางมาด “ได้กลิ่นอะไรตุ ๆ มั้ย โอ้ย เหม็น! เมื่อไหร่ที่ฉันได้ยินคา ว่าห้องน้ำมักจะได้กลิ่นตุ ๆ แบบนี้อยู่ตลอด พี่เทพ พี่ก็ได้กลิ่นเหมือนกันใช่มั้ยคะ?”
จ้าวหยู่พยักหน้ารับจากด้านหน้าของมอเตอร์ไซค์
“และเพราะมันคือห้องน้ำสาธารณะ…” เหยาเจียแสยะยิ้ม จากนั้นก็โยนถุงพาลสติกที่เตรียมมาเฉพาะออกไป เมื่อถุงพลาสติกแตกก็เผยให้เห็นของด้านในนั้นก็คือของเน่าเสียต่าง ๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็นออกไปทั่วทุกที่
“แหวะ!” คนขายตะโกนร้องเสียงหลงก่อนจะล้มพับลงไป
จ้าวหยู่ยิ้มอย่างเยือกเย็น ก่อนจะสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ เหยาเจียหันหลังมาเยาะเย้ยคนขายอีกครั้งก่อนจะขึ้นรถและจ้าวหยู่ก็ขับออกไป
เมื่อรถหยุดลงที่สวน เหยาเจียก็รีบผลักหลังจ้าวหยู่ออกในทันที พร้อมตะโกนออกไปว่า “ไม่เห็นจะสนุกเลย!”
“แต่เธอโยนอึใส่เขาแล้วยังสนุกไม่อีกหรือไง?” จ้าวหยู่จุดบุหรี่ เอ่ยถามออกไปพร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ
“แต่ฉันไม่ได้ปาไปที่หมอนั่นนี่! ไม่รู้แหละ ยังไงก็ไม่สนุกเลย!” เหยาเจียกัดปากไม่พอใจ “ฉันอยากให้มันเละ ๆ มากกว่านี้! พี่เทพ เอางี้ไหม เรากลับไปโยนใส่หมอนั่นกันอีกครั้งเถอะ!”
“เป็นไอเดียที่บรรเจิดมาก! เตรียมตัวให้พร้อมเลยก็แล้วกัน!…”
เมื่อกลับสู่โลกความเป็นจริงความทรงจำต่าง ๆ ก็เบลอออกไป เขายังคงถูกแช่อยู่ในความทรงจำเก่า ๆ ที่มีความสุขกับการได้ใช้เวลาอยู่กับเหยาเจีย
ระบบปาฏิหาริย์ได้ขึ้นแทรกขัดจังหวะการหวนรำลึกถึงความทรงจำของเขา ระบบแจ้งว่าอัตราความสำเร็จของวันนี้อยู่ที่ 63% ซึ่งต่ำกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
จ้าวหยู่กลับมาคิดอย่างรอบคอบอีกครั้ง เขารู้สึกได้ว่าอัตราการสำเร็จที่ต่ำของเขาในครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าถ้าวันนั้นเขาทำอะไรออกมาได้ไม่ดี ผลก็จะออกมาไม่ดีตาม
คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แม้ว่าจ้าวหยู่จะได้รับการผจญภัยมากมายแต่เขาก็ยังทำบางสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรมอยู่บ้าง เช่นเพื่อจะชนะใจเหยาเจีย เขาต้องร่วมมือกับพวกอันธพาลเพื่อพยายามชักจูงจิตใจที่อ่อนไหวของเธอขณะลำบาก พอมันล้มเหลว เขาก็กลั่นแกล้งหนุ่มบ้านรวยคนนั้น จนในท้ายที่สุดเขาก็ร่วมมือกับพวกอันธพาลและเอาเงินจากหมอนั่นมาแบ่งกันการกระทำทั้งหมดของเขาสามารถใช้คำว่าน่าขยะแขยงเลยก็ได้ ถ้าความสำเร็จของการผจญภัยนั้นเกี่ยวข้องกับทำดีจริง ความจริงที่ว่าเขาประสบความสำเร็จในอัตรา 63% ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งใช่มั้ย?
คำอธิบายขององค์ประกอบธาตุจากศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ระบบได้สุ่มออกมา คำว่า Gen(ภูเขา) น่าจะหมายถึงโชคแต่จ้าวหยู่ยังคงได้รับเงินเป็นจำนวนมากกลับมา ดังนั้นเขาก็ไม่ได้เขาใจผิดเกี่ยวกับคำอธิบายของระบบ แถมวิธีที่เขาเสร็จสิ้นการผจญภัยก็ยังแตกต่างกันมากอีกด้วย!
ภายในไม่กี่วัน เงินในบัญชีของจ้าวหยู่ก็มีมากถึง 200,000 หยวนเข้าไปแล้ว! ตราบเท่าที่เขาได้รับเงินมา ไม่ว่าตัวเองจะทำดีหรือทา ชั่วหรือส่งผลให้อัตราสำเร็จน้อยลงแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจ!
แม้ว่าอัตราความสำเร็จของเขาจะอยู่ที่ 63% แต่เขาก็ยังคงได้รับเครื่องมือเช่นเดิม อนึ่งอาจหมายความได้ว่าอัตราความสำเร็จเกิน 60% คือเส้นแบ่งระหว่างการได้รับรางวัล
สิ่งที่เขาได้รับมาในครั้งนี้คือเครื่องรบกวนสัญญาณล่องหน มันสามารถทำให้สัญญาณโทรศัพท์มือถือติดขัดจนไม่สามารถสื่อสารได้นานถึง 1 ชั่วโมง!
“สุดยอด! บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์ในอนาคตก็ได้!” จ้าวหยู่อดไม่ได้ที่จะคิดถึงช่วงเวลาแห่งการอบรม 5 วันต่อจากนี้ เขาจะได้รับการผจญภัยแบบไหนในระหว่างการฝึกอบรมที่นั่นกัน?