CD บทที่ 74 ศพผู้หญิงที่อ่างเก็บน้ำ
“พี่สาว!” จ้าวหยู่ถือใบประกาศฝึกอบรมไว้ในมือ เขาเอ่ยถามเผิงซินด้วยสายตาไม่พอใจว่า “บอกผมมาตรง ๆ เลยนะ ไอ้หลิวเป็นคนสั่งให้ทำใช่มั้ย?”
“นี่นายอยากตายหรือไง!?” อารมณ์ของเผิงซินพุ่งสูงกว่าจ้าวหยู่หลายเท่า เธอหันมาพูดรัวใส่จ้าวหยู่ไม่หยุดราวกับปืนกล “นี่คือการฝึกอบรมที่สำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่สอบสวน! ทุกสถานีจะมีเพียงตำรวจเพียงสามนายเท่านั้นที่ได้เข้าร่วมงานนี้และทุกคนต่างก็พยายามแย่งชิงกันแทบตาย! นายคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระหรือไงกันห๊ะ? คิดว่าเกี่ยวกับไอ้หลิวงั้นเหรอ?”
“นายรู้ไหมว่าฉันต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อให้นายได้ไป ตอนแรกคนที่ควรจะไปคือเหมาด้วยซ้ำแต่เขาไม่สามารถไปได้ ทางเบื้องบนเลยอยากให้แผนกอื่นไปแทน ฉันเกือบเป็นบ้าเพราะมัน! ฉันบอกพวกเขาไปว่าถ้าพวกเขาไม่ยอมให้ทีม A ได้ไป ฉันจะออกจากการเป็นหัวหน้าซะ แล้วตอนนี้พวกเขาก็เห็นด้วยแล้ว เข้าใจไหมห๊ะ!?”
“นายไม่รู้หรอกว่าหลิวหน้าขึ้นสีขนาดไหนตอนฉันเสนอชื่อนายไป เขาคัดค้านและบอกว่านายเพิ่งมาเป็นเจ้าหน้าที่เต็มตัวได้ไม่นาน จะปล่อยให้เด็กใหม่ไม่รู้ความไปอบรมไม่ได้!”
“ฉันได้ไปโต้แย้งกับเขา ฉันจี้จุดไปที่ว่านายสามารถไขคดีทั้งสองคดีได้ด้วยตัวเองแล้วถ้าตำแหน่งว่างนี้ถูกมอบให้คนอื่นพวกเขาจะต้องโดนคัดค้านเป็นอย่างมากแน่ นั่นคือสาเหตุที่ทำไมนายถึงได้รับการฝึกอบรมนี้มา!”
“แต่สิ่งที่นายคิดคือคนอื่นพยายามจะส่งไป? นายพูดออกมาง่าย ๆ แบบนั้นได้ยังไง? ไอ้เด็กเหลือขอนี่ ถ้าฉันรู้ว่านายจะเป็นแบบนี้ฉันไม่พยายามให้เหนื่อยแรงเปล่า ๆ หรอก!”
ไม่เพียงแค่จ้าวหยู่จะเข้าใจประเด็นที่เผิงซินจะสื่อแล้ว เขาได้ลองค้นข้อมูลจากความทรงจำที่เกี่ยวกับการฝึกอบรมนี้แล้วก็พบว่าสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว นี่คือโอกาสที่ดีมาก ผู้ที่คุณสมบัติที่จะได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมการอบรมจะต้องเป็นตัวแทนดีเด่นแห่งปี ทุก ๆ ปี ตัวแทนในหน่วยสืบสวนต่างพยายามใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับโอกาสในการฝึกนี้ บางคนก็พยายามใช้เส้นสาย ให้ของขวัญเพื่อให้ได้เข้าร่วม จ้าวหยู่ที่เพิ่งจะกลายมาเป็นเจ้าหน้าที่เต็มตัวด้วยประสบการณ์ต่าง ๆ เขายังไม่ได้รับพิจารณาให้เข้าร่วมงานนี้ แต่เผิงซินยืนยันจะส่งจ้าวหยู่ไปและก็ต่อสู้เพื่อเขาจนในที่สุดก็ได้มา
“เอ่อ” จ้าวหยู่สิ่งยิ้มแห้ง ๆ และรีบขอโทษเธออย่างรวดเร็ว “พี่สาว ผมล้อเล่นหรอกน่า อย่าโกรธไปเลยนะ เอาแบบนี้เป็นไง พี่สาวไปหา
อะไรกินกันกับสามีและลูก ๆ สักหน่อยดีไหม เดี๋ยวผมจะเป็นคนจ่ายให้เอง ตกลงนะ?”
“ไม่!” เผิงซินเหลียวมองจ้าวหยู่ “นายไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ฉันมีคดีมากแค่ไหนให้จัดการ แล้วนายจะยังให้ฉันออกไปหาอะไรกินอยู่อีกงั้นเหรอ? นายรู้ไหมว่าใครจากทีม B ที่ได้รับเสนอชื่อให้ไป? หลันโบไง! พ่อเลี้ยงของเขาคือหัวหน้าฝ่ายการเงินของสำนักงานใหญ่ ถ้าฉันไม่ต่อสู้เพื่อนาย ต่อให้นายจะไขคดีได้อีกเป็นสิบคดี นายก็ไม่มีวันได้ไปหรอก!”
“โอเค ๆ ผมเข้าใจแล้ว ผมต้องขอโทษพี่สาวด้วย” จ้าวหยู่พยักหน้าและรีบตกลงอย่างรวดเร็ว “พี่สาว พี่พยายามทำเพื่อผมมากเหลือเกิน ผมจะจดจำความเมตตาครั้งนี้ของพี่ให้ขึ้นใจเลย ถ้าพี่สาวหย่ากับสามีเมื่อไหร่ผมสัญญาเลยว่าผมจะหาผู้ชายที่ดีกว่ามาให้พี่ให้ได้!”
“ไอ้เด็กบ้านี่!” เผิงซินผลักจ้าวหยู่เบา ๆ พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ ทันทีที่ได้ยินจ้าวหยู่พูด ทุกคนในทีมเอต่างก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา
“แต่ตอนนี้ เรามาใช้หัวคิดกันเถอะ” เผิงซินถอนหายใจ “ถ้าไม่ใช่เพราะผลลัพธ์จากคดีก่อนหน้านี้ เราคงไม่ได้รับคดีศพในอ่างเก็บน้ำมา เราต้องช่วยกันแก้คดีนี้ให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม อย่าให้พวกทีมบีมาหัวเราะพวกเราได้ เข้าใจไหม!?”
“ใช่แล้ว พี่สาวพูดถูก!” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว “ถึงเวลาสู้ของพวกเราแล้ว!”
“ใช่ ๆ!!”
“มาเริ่มกันเลย!”
ตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในการทำงานกับกำลังใจที่เต็มเปี่ยม
“หยู่! นายมั่นใจได้เลยนะว่าพวกเราสามารถทำคดีนี้ได้สำเร็จแน่!” เผิงซินกล่าวก่อนออกไปว่า “การฝึกอบรมครั้งนี้มีความสำคัญมาก เจ้าหน้าที่จากแต่ละเขตแต่ละสาขาต่างก็พยายามแข่งขันกันเอง ดังนั้นนายจะต้องทำให้ดีที่สุดอย่านำความอับอายกลับมาเด็ดขาด! มิฉะนั้นฉันก็คงไม่กล้าไปสู้หน้าใครเขาอีกเข้าใจไหม?”
“ไม่ต้องห่วงครับ!” จ้าวหยู่ถือใบประกาศในมือพร้อมเอ่ยรับว่า “ผมรับประกันเลยว่าผมจะจัดการกับเจ้าหน้าที่หญิงให้วิ่งหนีกลับห้องนอนไปเลย!”
คนอื่น ๆ ทีได้ยินก็พากันหัวเราะออกมาอีกครั้งยกเว้นก็แต่หลี่เบ่ยหนีที่ทำหน้าช็อคและตกใจ
หลังพูดกับเผิงซินเสร็จ จ้าวหยู่ก็เดินไปที่โต๊ะหลี่เบ่ยหนีเพื่อรับโทรศัพท์ของเขา เขารู้สึกประหลาดใจทันที่ที่เห็นว่าโทรศัพท์นั้นดูธรรมดามาก มีแค่เพียงโลโก้ ‘หัวเว่ย’ เท่านั้น อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรพิเศษเพิ่มเติม หลี่เบ่ยหนีบอกว่าโทรศัพท์นี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่สืบสวน พวกเขาออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับของปกติเพื่อที่ว่าเวลาเจ้าหน้าที่ทำการปลอมตัวจะได้แนบเนียนมากยิ่งขึ้น
แม้จะมีลักษณะที่เรียบง่ายแต่ความสามารถของโทรศัพท์มือถือก็มีประสิทธิภาพมาก นอกเหนือจากฟังก์ชันการติดตามและการเข้ารหัสตามปกติแล้ว ยังมีซอฟต์แวร์ไฮเทคจำนวนมากซึ่งช่วยในการสืบสวนและส่งข้อมูล ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลาและมีพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นจำนวนมาก มันดีพอ ๆ กับคอมพิวเตอร์สเปกแรง ๆ เลยก็ว่าได้ จากตอนแรกที่จ้าวหยู่จะซื้อมือถือใหม่ใช้ แต่ตอนนี้เขาได้มือถือดี ๆ มาใช้ฟรี ๆ โดยไม่เสียเงินสักหยวน นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หลี่เบ่ยหนีแนะนำฟังก์ชันหลัก ๆ ให้กับจ้าวหยู่เอาไว้ได้ใช้งาน
จ้าวหยู่พึ่งตระหนักได้ว่าวันนี้หลี่เบ่ยหนีดูแตกต่างไปเล็กน้อย เธอแต่งหน้าและเลือกชุดมาทำงานได้เป็นอย่างดี ขณะที่เธอกำลังอธิบายวิธีการใช้งานแก่จ้าวหยู่ เธอก็พยายามซ่อนความตื่นเต้นและความต้องการบางอย่างเอาไว้ แต่จ้าวหยู่ก็รู้สึกได้ถึงมันได้ทันที ว่าเธอต้องการอะไร
หลังจากที่หลี่เบ่ยหนีแนะนำการใช้เสร็จ เธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้พร้อมกับตั๋วหนังเรื่องใหม่ที่กำลังฉายในโรงภาพยนต์ จ้าวหยู่รับมาและเปลี่ยนประเด็นหัวข้อการสนทนาไปว่า
“เบ่ยหนี เธอช่วยฉันเกี่ยวกับคดีที่พบศพในอ่างเก็บน้ำหน่อยจะได้ไหม?” เขาชี้ไปที่กระดานไวท์บอร์ด “ฉันไม่ได้เข้าร่วมวิเคราะห์ด้วย เลยไม่รู้ว่า…”
“รุ่นพี่” หลี่เบ่ยหนีส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ “ฉันว่าฉันกำลังจะหายใจไม่ออก รุ่นพี่ลองมองที่โทรศัพท์ของคุณดูสิคะ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคดีมีอยู่ในนั้นหมดแล้ว!”
หลี่เบ่ยหนีมองอย่างเบื่อหน่าย เธอหยิบเอกสารวางไว้บนโต๊ะก่อนจะออกจากโต๊ะทำงานไป
“เฮ้? เธอกำลังไปไหนน่ะ? เลิกงานแล้วงั้นหรอ?” จ้าวหยู่รู้สึกประหลาดใจ
“ฉันจะไปที่ห้องเอกสารเพื่อส่งข้อมูลค่ะ!” หลี่เบ่ยหนีหันมาตะโกนจนจ้าวหยู่รู้สึกตกใจ “พวกเราต่างก็เป็นนักสืบทั้งคู่ คุณแค่บอกมาตรง ๆ เลยก็ได้ว่าไม่อยากไปดูหนังด้วยกันกับฉัน ไม่จำเป็นจะต้องหาเรื่องอื่นมาพูดแบบนี้เลย!” เมื่อพูดเสร็จหลี่เบ่ยหนีรีบก้าวออกจากห้องทำงานไป
“เอ๋? หนังอะไร? ฉันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่!?” จ้าวหยู่แกล้งตอบกลับไปอย่างไร้เดียงสา
จ้าวหยู่มองไปด้านหลังของหลี่เบ่ยหนีที่กำลังเดินไป เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเด็กสาวคนนี้เลยจริง ๆ แม้ว่าเธอจะฉลาดและปฏิบัติต่อเขาอย่างดีก็ตาม เขามองว่าเธอเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งก็เท่านั้น เป็นคนที่ให้ความรู้สึกแบบครอบครัวมากกว่าจะเป็นอะไรแบบอื่น
ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับหัวใจ จ้าวหยู่เป็นคนที่ตรงไปตรงมาและมีความต่างที่ชัดเจนระหว่างคนที่เขาชอบและไม่ชอบ เขารู้สึกว่าทางนี้เป็นหนทางเดียวที่ดีต่อพวกเขาทั้งคู่ ดีกว่าการตัดสินใจที่ผิดพลาดแล้วสร้างปัญหาให้กับความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคน
จ้าวหยู่ยังคงเรียนรู้ฟังก์ชันการใช้งานมือถืออยู่ หลังการแนะนำของหลี่เบ่ยหนี เขากดไปที่ฟังก์ชันหนึ่งและก็ได้พบกับข้อมูลที่เกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำ พอเขาวาดนิ้วและกดไปมา ภาพแรกในคดีก็ปรากฏขึ้น สิ่งที่ทำให้จ้าวหยู่ประหลาดใจมากที่สุดก็คือภาพศพที่เขาคิดว่าเป็นผู้ชายกลับเป็นศพผู้หญิงต่างหาก!