CD บทที่ 69 สาวงามผู้ทุกข์ใจ
ผู้คนเริ่มพูดพึมพำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่สนเลยว่าคนที่กำลังนินทาอยู่ด้านหน้าของพวกเขาแค่นี้เอง เหล่านางพยาบาลคนอื่น ๆ ต่างก็มองมาที่เหยาเจียด้วยสายตาอิจฉา กุหลาบ 999 ดอก พร้อมกับชายหนุ่มแสนรวยที่กำลังคุกเข่าต่อหน้าเธอ ในสายตาของพวกเธอ มองมาเหมือนกับว่าเหยาเจียกำลังถูกรางวัลที่ 1 แต่สีหน้าขององเหยาเจียกลับไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลย นอกจากความสับสนและความรังเกียจเล็กน้อย
“ฮ่าวเจียจุน ได้โปรด อย่าทำแบบนี้เลย” เหยาเจียยังคงถือถาดวางยาไว้ดังเดิม “ฉันไม่รู้จักคุณและคุณก็ยังไม่รู้จักฉันดีพอ นอกจากนี้ฉัน…”
“พ่อของฉันชื่อฮ่าวเกิง ประธานบริษัทหรงเทียน ฉันมั่นใจว่าคุณจะต้องเคยได้ยินของท่านแน่ ๆ” การแนะนำพ่อของตัวเองของฮ่าวเจียจุนนทำให้คนอื่นต่างพากันช็อคไปตาม ๆ กัน บริษัทหรงเทียนเป็นบริษัทชั้นนำ ในมณฑลฉินชาน ทุกคนรู้จักบริษัทนี้ดี พวก
เขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว ลูกชายของท่านประธานเองก็นับได้ว่าเป็นเด็กหัวกะทิที่สุดในบรรดาหมู่ลูกคนรวยด้วยกันเอง ในสายตาฝูงชนที่กำลังมองและคิดว่าเหยาเจียคงจะใช้โชคทั้งหมดที่เธอมีเพื่อตอบตกลงชายหนุ่มคนนี้ไปแล้ว!
“ฉันหมายถึงนิสัยของพวกเราต่างหาก เรายังไม่เคยได้พูดคุยกันมาก่อน” เหยาเจียกัดริมฝีปากของเธอเบา ๆ เธอไม่เคยประสบเหตุการณ์นี้มาก่อน มันทำให้เธอไปไม่เป็นเลยทีเดียว
จ้าวหยู่กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าและรับรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย! ต้องขอบคุณพระเจ้าจริง ๆ ที่เรามาในวันนี้ ไม่อย่างนั้น สาวในฝันของฉันคงถูกขโมยไปจากไอ้งั่งไปแล้ว แกกล้าดียังไง…หืม? จริงสิ”
จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้พาพวกลูกน้องมาด้วย เหตุผลที่จ้าวหยู่พาพวกนั้นมาก็ต้องการให้ทั้ง 5 คน แกล้งไปทำเป็นหาเรื่องเหยาเจีย แล้วพอถึงช่วงที่สถานการณ์เริ่มแย่ลง จ้าวหยู่ก็จะกระโดดเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังถูกรบกวน แต่ทว่าในตอนนี้ กลับมีชายหนุ่มแสนรวยที่ดูแล้วคงจะเป็นคู่แข่งของเขาปรากฏขึ้น แผนการของเขาก็ต้องพังทลายลงไปทันทีแล้วอย่างนี้ เขายังต้องการความช่วยเหลือจากลูกน้องทั้ง 5 คนนั่นอยู่ไหมนะ?
จ้าวหยู่หันไปหาพวกลูกน้องพร้อมกับมองหาชายผมทองเพื่อจะบอกว่าแผนการณ์มีการเปลี่ยนแปลงให้คอยไปก่อน แต่ชายผมทองอยากทำให้มันจบ ๆ จะได้รีบหลุดพ้นจากตำรวจปิศาจตนนี้ไปสักที เลยเข้าใจผิดว่าจ้าวหยู่จะให้พวกเขาเริ่มต้นดำเนินการตามแผนทันที
จากนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มคนพวกนั้นที่วิ่งออกมำจากตรงบันได
“เฮ้ย!! ตรงนั้นน่ะ!!”
“พวกมันทำบ้าอะไรวะ” จ้าวหยู่ตะลึงหน้าผากของเขาค่อย ๆ ย่นอย่างสงสัย เขายังคงพยายามส่งสัญญาณบอกชายผมทองไปว่าให้อยู่นิ่ง ๆ แต่ชายผมทองจดจ่อกับแผนของจ้าวหยู่จนไม่ได้มองมาที่หัวหน้าผู้ออกคำสั่งว่าให้รอเลยสักนิดเดียว
เสียงตะโกนออกมาทำให้ผู้คนเริ่มพากันตกใจ เหยาเจียกับคนอื่นต่างก็มองมาด้วยความสับสน ทุกคนหยุดการกระทำของตัวเองลงไปในทันทีและหันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว
“เฮ้ย!!” ชายผมทองคือคนแรกที่วิ่งนำมาข้างหน้าไม่มีใครกล้าขวางทางพวกเขาเลยสักคน เขาเดินหน้าไปเรื่อย ๆ พร้อมกับตะโกนขึ้นมาว่า “ไหน! คนไหนชื่อเหยาเจีย? ไหนใครชื่อเหยาเจีย?!” เหล่าคุณหมอและพยาบาลมองหน้ากันไปมา ฝูงชนที่มาชุมนุมกันก็เต็มไปด้วยความสับสน แม้กระทั่งฮ่าวเจียจุนเองก็กำลังแสดงท่าทีเลิกลั่กไม่ต่างกัน
“ฉัน…ฉันเอง!” เหยาเจียตอบออกไปอย่างไม่สบายใจ เธอค่อย ๆ หันมาสบตากับชำยผมทองพร้อมกับเอ่ยเสียงเบา ๆ ไปว่า “คุณ…คุณมีอะไรให้ช่วย…หรือเปล่าคะ?”
บริเวณรอบดวงตาของชายผมทองยังคงบวมจากน้ำมือของจ้าวหยู่อยู่ เขาต้องค่อย ๆ ดันคางตัวเองขึ้นมาและค่อย ๆ ใช้มือดันเปลือกตาที่บวมเป่งขึ้นเพื่อมองรอบ ๆ ดูเหมือนการกระทำของเขายิ่งดูยิ่งน่าสงสารเสียมากกว่าน่ากลัวซะอีก เหยาเจียเลยถามออกไปเผื่อชายคนนี้อาจจะต้องการความช่วยเหลือจากเธอ
“ห๊ะ?…หุบปากไปเลย!” ชายผมทองที่กำลังจำบทพูดของตัวเองก็ค่อย ๆ ตบไปที่หน้าอกเบา ๆ พร้อมกับตะโกนออกมา “เธอ ใช่คนที่โดนขโมยกระเป๋าไปใช่ไหม? แล้วก็มีอูฐอยู่ด้วย แล้วคนขี่อูฐเอากระเป๋ามาคืนให้ใช่ไหม?”
“ชะ…ใช่แล้ว” เหยาเจียใช้เวลาคิดสักแปปหนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบรับไปเล็กน้อย “รู้หรือเปล่า ว่าเพราะกระเป๋าของเธอทำให้เราต้องทุกข์ทนขนาดไหน?!” ชายผมทองตะโกน
“พวกเราคือพวกพ่อค้าที่เป็นเจ้าของร้านเล็ก ๆ ในซอยนั้น สินค้าของพวกเราได้รับความเสียหายไปจนหมดก็เพราะเจ้าอูฐนั่น!”
“ห๊ะ...” ดวงตาก็เหยาเจียเบิกกว้าง เธอพูดขึ้นมาอย่างตกใจว่า “ตาของคุณเป็นแบบนี้ก็เพราะอูฐตัวนั้นใช่ไหมคะ? ทำไมคุณมาบอกช้าจัง มานี่สิคะ เดี๋ยวฉันจะดูแผลให้”
“หะ…หา?” ชายผมทองไม่ได้คิดมาก่อนว่าปฏิกิริยาของเธอจะแปลก ๆ แบบนี้ แม้ว่าเธอจะดูหวาดกลัวเล็กน้อยก็ตาม
จ้าวหยู่ตบหน้าตัวเองด้วยความหงุดหงิด แม้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะดูไม่มีอะไรแต่มันอึดอัดมากสำหรับเขา
“ไม่!” ในที่สุดชายผมทองก็ตั้งสติได้และตะโกนตอบกลับไป “เราไม่ได้มาเพื่อจะรักษา พวกเรามาก็เพราะต้องการเงินเพื่อชดเชยค่าเสียหายกับพวกเราต่างหาก! เหตุมันเกิดจำกกระเป๋าของเธอ เพราะฉะนั้นเธอก็ควรเป็นคนรับผิดชอบ!”
“ใช่ ๆ!”
“จ่ายเงินพวกเรามา!”
บรรดาเพื่อนของชายผมทองก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมาตาม ๆ กัน พวกเขารู้อยู่แก่ใจว่าทั้งหมดก็แค่แผนการณ์ของจ้าวหยู่ แล้วเดี๋ยวจ้าวหยู่ก็ต้องออกมาเพื่อช่วยเธอจากเหตุการณ์นี้เอง
“จ่าย? จ่ายค่าอะไร?” เหยาเจียเริ่มสับสนมากยิ่งขึ้น เธอยังไม่จบธุระกับชายหนุ่มคนรวยนี้และตอนนี้ก็ยังมีคนมารีดไถเงินจากเธออีก? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!?
“ก็คิดว่าเรื่องอะไรกัน เอ้านี่…” ทันใดนั้น ฮ่าวเจียจุนก็พูดขึ้นมาโดยไม่ลังเลพร้อมกับหยิบเงินจากกระเป๋าหนังใบใหม่ออกมา
“1 ,2 ,3 ,4 ,5” เขานับและดึงออกไปเรื่อย ๆ เพราะในมือของเขามีเงินมากจนเกินไป เลยค่อย ๆ นับและส่งเงินให้กับชายผมทองตรงหน้า “10!” ฮ่าวเจียจุนนับจนถึง 10 พร้อมกับหัวเราะออกมา “100,000 หยวน พอไหม?”
“พระเจ้า” ชายผมทองกำเงิน 100,000 ในมือตัวเองอยู่นิ่ง ๆ เนื่องจากกำลังอยู่ในอาการตกใจและหน้ามืดตามัว เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อจากนี้
“ให้ตายสิ พวกบ้าเอ๊ย!” จ้าวหยู่กำลังทึ้งหัวตัวเองพร้อมกับสาปแช่งชายผมทองและกลุ่มนั้นไปพร้อม ๆ กัน การเข้าไปช่วยหญิงสาวที่กำลังถูกรบกวนถูกทำลายไปจดหมด ไม่เพียงแค่ว่า เขาไม่สามารถออกไปช่วยเธอไว้ได้เท่านั้น แต่ยังโดนเด็กบ้านรวยทำคะแนนแซงหน้าไปด้วย
ขณะเดียวกัน ชายผมทองก็พยายามหันมามองจ้าวหยู่ในฝูงชนเพื่อจะถามว่าเขาควรทำอย่างไรต่อไปดี ต้องเล่นละครต่อไปไหม? หรือแค่รับเงินนี่แล้ววิ่งหนีไปก็พอ?
‘พระเจ้า นี่มัน 100,000 หยวน เลยนะ!’ เขาได้แต่คิดในใจ
“หืม? ไม่พองั้นเหรอ?” ฮ่าวเจียจุนที่เห็นท่าทางแปลก ๆ ของชายผมทองเลยเอ่ยถาม “ก็ได้ ๆ งั้นก็เอาไปหมดนี่เลยแล้วกัน!”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็เอากระเป๋าหนังใบนั้นคว่ำลง จนแบงก์เงินในกระเป๋าพากันร่วงตกลงมาในมือชายผมทองจนล้นตกลงไปที่พื้นเต็มไปหมด
“นี่เงินสดที่ฉันติดตัวเอาไว้น่ะ” ฮ่าวเจียจุนปรบมือ “ถ้ายังไม่พออีกก็บอกมาเลยว่าต้องการเท่าไหร่ เอาเบอร์โทรมาแล้วฉันจะจัดการโอนเงินไปให้!”
ทันใดนั้น ชายผมทองก็เข่าอ่อนพร้อมกันกับที่ร่างกายค่อย ๆ ทรุดลงไป เขารู้สึกอยากจะจางหายออกไปจากที่แห่งนี้ซะเหลือเกิน…