CD บทที่ 68 ใครบ่นถึงฉัน?
“นายแน่ใจหรอจิน? ฉันไม่ตลกด้วยนะ!” หัวหน้าเหลียวตกใจกับคำตอบที่ได้รับมา “เมื่อวันก่อนฉันก็เจอเจ้าเด็กนั่นที่งานรับรางวัลด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจ้าวหยู่จะสามารถจับคนร้ายและยังได้รางวัลมาด้วยก็เถอะ แต่ฉันได้ยินว่าเจ้าเด็กนั่นนิสัยไม่ค่อยดีไม่ใช่หรือ? คนในหน่วยต่างพากันพูดเรื่องจ้าวหยู่ว่าเหมือนอันธพาลบ้างล่ะ น่ากลัวบ้างล่ะ นายไม่ได้คาดหวังไว้สูงกับเด็กคนนั้นไว้สูงเกินไปหรือไง?”
“เหลียว…” หัวหน้าจินหันมาพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง “แม้ว่าเด็กคนนั้นอาจจะดูก้าวร้าวและสร้างปัญหาก็ตาม แต่เด็กนั่นมีทั้งแรงขับเคลื่อนและความมุ่งมั่นที่ต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับว่าฉันกำลังได้ดูตัวเองในสมัยหนุ่ม ๆ อย่างไรอย่างงั้นเลย นายยังจำได้ไหมว่าแต่ก่อนพวกเขาเรียกเราว่าอะไร?”
“เจ้าสัตว์ป่า! โธ่เอ๊ย! มาระลึกความหลังซะเป็นตาเฒ่าไปได้! ฮ่าฮ่า” หัวหน้าเหลียวหัวเราะ “ใช่แล้ว ตำรวจอย่างพวกเราก็ต้องแสดงท่าทางที่ดุร้ายราวกับสัตว์ป่าเพื่อที่จะต่อกรกับเหล่าอาชญากรกันทั้งนั้น เราต้องดุดันยิ่งกว่าคนร้ายให้ได้! แต่ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้วนะจิน อาชญากรเดี๋ยวนี้มีทั้งแรงและมันสมองมาก การจะจับคนร้ายให้ได้ ลำพังแค่อาศัยความกล้าอย่างเดียวคงไม่พอ ฉันว่าคูปิงน่าจะเหมาะสมกว่านะ นายไม่เห็นด้วยเหรอ?”
“คูปิงและคนอื่น ๆ ต่างก็มีความสามารถกันทั้งนั้นแต่พวกเขาทั้งหมดยังขาดความกล้าและความมุ่งมั่น! เดี๋ยวนายก็จะได้เห็นสิ่งนั้นจากจ้าวหยู่เอง” หัวหน้าจินกล่าวเสริมกับความคิดเห็นของเขาต่ออีกว่า “เขาจะต้องทำให้นายประหลาดใจได้แน่!”
“เรื่องนั้นไม่มีทางซะหรอก”หัวหน้าเหลียวยิ้ม “นายก็รู้ว่าตอนนี้หลิวชางฮูเป็นยังไง เขามีคนหนุนหลังดีกว่าฉันซะอีกและถ้าให้ฉันเดานะ จ้าวหยู่คงถูกไล่ออกก่อนที่นายจะปลดประจำการด้วยซ้ำ!”
“ลูกผู้ชายตัวจริงจะต้องรู้ว่าเวลาไหนควรก้มหัวและเวลาไหนควรชูคอ” หัวหน้าจินพูดอย่างมีเกียรติ “ความทุกข์ยากเล็กน้อยจะสามารถช่วยพัฒนาตัวเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้!”
“ฉันเกรงว่าคนที่นายเลือกจะเอาแต่ชูคอเนี่ยสิ!” หัวหน้าเหลียวตอกกลับ “ถ้าเด็กนั่นเผลอทำอะไรผลีผลามหรือไปทำให้ชางฮูเจ็บแค้นเข้าล่ะก็ คราวนี้เจ้าเด็กนั่นจะไม่มีโอกาสให้แก้ตัวได้เลยนะ!”
“ก็จริงอย่างที่นำยว่า” หัวหน้าจินพยักหน้าและคิดตาม “แต่นายลองคิดกันดูดี ๆ สิเหลียว ฉันได้ยินมาว่านายจะได้เลื่อนตำแหน่งไปประจำการที่สถานีหรงหยางเร็ว ๆ นี้นี่ งั้นก็ช่วยฉันดูแลเขาลูกน้องของฉันหน่อยจะได้ไหม โดยเฉพาะจ้าวหยู่ ถ้าเขาส่งสัญญาณอะไรที่กำลังเดินไปผิดทางก็ช่วยตักเตือนเขาหน่อย ให้เขากลับมาเดินทางที่ถูกต้องที!”
“ไว้ใจได้เลย!” หัวหน้าเหลียวตกลง “แม้ว่านายจะทำท่าเย็นชากับลูกน้องไปบ้างแต่ฉันก็รู้ว่าใจจริงนายเป็นห่วง พวกเขามากแค่ไหน แต่สำหรับจ้าวหยู่ ฉันขอไม่รับประกันก็แล้วกัน แต่ฉันเองก็คาดหวังว่าจะได้รับความประหลาดใจจากเจ้าเด็กนั่นอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน!”
...
“ฮัดชิ้ว!!”
เสียงจามดังอย่างดีงมาจากจ้าวหยู่ เขาอดที่จะคิดไม่ได้ว่า ‘มีใครกำลังนินทาฉันอยู่หรือไงกัน? หรือเป็นเพราะอากาศมันหนาว?’
เขาได้โยนความคิดไร้สาระนั้นไป เขายกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับตั้งกล้องไปที่ชายคนหนึ่งซึ่งใบหน้ำของเขาถูกทำร้ายซะจนดูไม่ได้
“ยืนนิ่ง ๆ มองมาที่กล้องแล้วก็ลืมตาด้วย!”
ตาของชายที่ถูกทำร้ายกำลังมองมาด้วยความไม่พอใจที่เขาต้องอยู่สภาพอย่างนี้ก็เพราะจ้าวหยู่ทั้งนั้น แล้วเขาจะสามารถลืมตาขึ้นได้อย่างไร เขาค่อย ๆ เอนหลังเข้ากับกำแพงและพยำยำมขอร้องเบา ๆ ว่า
“ลูกพี่ พวกเราผิดไปแล้ว! ปล่อยพวกเราไปเถอะครับ!”
ชายผมทองที่เคยขู่กรรโชกเงินจากจ้าวหยู่ที่สถานีในวันนั้นกำลังกล่าวขอร้อง ข้าง ๆ ชายผมทองยังมีเพื่อนที่สมรู้ร่วมคิดอยู่ด้วยอีก 4 คน แต่ตอนนี้ถูกจ้าวหยู่ทำทุบตีจนเจ็บหนักจนต้องร้องโอดครวญอยู่บนพื้นอย่างเจ็บปวด
พวกเขาทั้งหมดอยู่ในมุมมืด ๆ ในซอยหยู่ซื่อ ด้านหน้าชายผมทองมีป้ายสัญลักษณ์ติดเอาไว้ว่า ‘ตรวจพบยาอี’ พร้อมกับมีถุงขนมหวานเจลลี่บีนถูกวางเอาไว้ที่ข้างหน้าป้ายนั่น
*แชะ! แชะ! แชะ!*
หลังจากที่จ้าวหยู่ถ่ายรูปเสร็จ เขาก็โบกมือปัดไปมาพร้อมกับออกคำสั่งว่า “ดี! คนต่อไปมา ใช่แล้ว เอาป้ายให้หมอนั่นถือด้วย!”
ชายผมทองไม่กล้าขัดขืนคำสั่งใด ๆ จากจ้าวหยู่ เขาได้แต่ทำตามคำสั่งจ้าวหยู่เท่านั้น จ้าวหยู่ค่อย ๆ ถ่ายรูปพวกเขาทีละคน ๆ จนครบ
“เอาล่ะ! เสร็จงานแล้ว!” จ้าวหยู่ส่ายโทรศัพท์มือถือในมือของเขาพร้อมพูดกับคนที่เหลือว่า “เดี๋ยวพวกแกรอหมายจับกันไปนะ พอได้หมายแล้วก็อย่าลืมมาหากันที่โรงพักด้วยนะ!”
“ลูกพี่!” ชายผมทองก้มคว้ากางเกงของจ้าวหยู่เอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมา “ผมผิดไปแล้ว! นี่ไงครับ เงิน 10,000 หยวนของลูกพี่! ผมเอามาคืน!”
ชายอีกคนค่อย ๆ ลากขากะโผลกมาที่จ้าวหยู่เพื่อร่วมวงขอร้องด้วย “ใช่แล้ว ลูกพี่ นับดูได้เลย ครบถ้วน 10,000 หยวนจริง ๆ ที่จริงแล้วพวกเราไม่ได้ใช้เงินนี่กันไปเลยสักนิด! ขอร้องเถอะนะครับ ปล่อยพวกเราไปเถอะ!”
“ไอ้พวกนี้นี่!” จ้าวหยู่จ้องมองพร้อมกับยกมือขึ้นกะจะตีไปที่ชายคนนั้น จนชายคนนั้นต้องรีบถอยห่างออกไปในทันทีด้วยความกลัว พวกเขาต่างมองมาที่จ้าวหยู่อย่างหมดอาลัยตายอยาก
“อ่ะนี่ 2,000 หยวน!” จ้าวหยู่วางเงินไว้ตรงหน้าชายผมทอง “เอาเงินนี่ไปซะ แล้วถ้าไม่พอเดี๋ยวฉันจะให้อีก!”
“โอ้ ไม่…” ชายผมทองที่เคยถูกจ้าวหยู่ตบหน้าหลังจากที่ได้เงินมาก็เข็ดหลำบไปทันที เขาคุกเข่าต่อหน้าจ้าวหยู่และขอร้องอย่างเอาเป็นเอาตาย “ลูกพี่ อยากให้ผมตายหรือไงกัน?! ผมยอมแล้ว อย่าตบผมอีกเลยนะ ถึงมือลูกพี่จะไม่เป็นอะไรแต่ใบหน้าผมมันเจ็บไปหมดแล้ว!”
“หุบปาก!” จ้าวหยู่ตะโกน “หยุดร้องได้แล้ว รอบนี้ฉันไม่ตบแกหรอก นี่คือค่านายหน้าต่างหาก ฉันอยากจะให้แกช่วยอะไรสักหน่อย ถ้างานออกมาดี ฉันจะลบรูปที่ถ่ายไปออกให้หมด และรับประกันเลยว่าจะไม่ไปยุ่งกับพวกแกอีก เป็นไง สนใจไหม?”
“ผ…ผม” ชายผมทองพยายามรวบรวมความกล้ำและเงยหน้าขึ้นมามองจ้าวหยู่ “จริงเหรอครับ?…แล้วลูกพี่อยากให้พวกเราทำอะไร?”
“ฮ่าฮ่า” จ้าวหยู่หัวเราะ เขาพูดขึ้นมาว่า “ลุกขึ้นแล้วตามฉันมา พวกเราจะต้องไปโรงพยาบาลกัน!”
...
หนึ่งชั่วโมงต่อมา จ้าวหยู่มาถึงโรงพยาบาลเมืองที่แผนกศัลยกรรมกระดูกพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ โดยมาพร้อมกับกลุ่มชายฉกรรจ์เดินตามเขามาห่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการรับคำสั่งจากหัวหน้าคนใหม่ของพวกเขา
จ้าวหยู่ตรงไปที่แผนกต้อนรับของโรงพยาบาลทันทีเพื่อถามว่าเหยาเจียอยู่ที่นี่หรือไม่
ทันใดนั้นเขาก็เห็นเหล่าผู้ป่วย พยาบาลและคุณหมอต่างมาชุมนุมเบียดเสียดกันให้วุ่นไปหมด มีเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบดังไปทั่ว
หลังจากจ้าวหยู่พยายามเบียดฝูงชนเพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เห็นว่าที่พื้นทางเดินต่างได้รับการตกแต่งอย่างน่าประทับใจด้วยดอกไม้สดเต็มไปหมด มันเป็นดอกกุหลาบแดงที่ดูสวยงามเป็นอย่างมาก!
“เหยาเจียกุหลาบทั้ง 999 ดอกนี้เป็นของเธอ! หวังว่าเธอจะชอบมันนะ!”
ด้านหน้าดอกกุหลาบมีชายหนุ่มหล่อเหลาสวมชุดสูทดูดีที่กำลังสารภาพรักเหยาเจียอยู่ ถัดไปก็คือ เหยาเจียที่กำลังอยู่ในชุดนางพยาบาลและกำลังถือถาดยาเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเธอดูเหมือนกับกำลังโกรธและเครียดกับเหตุการณ์ตรงหน้ามากกว่าที่จะมีความสุขเสียอีก!
“ฮ่าวเจียจุน! คุณจะมาทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เหยาเจียรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น “ที่นี่คือแผนกผู้ป่วย คุณกำลังทำสิ่งที่ส่งผลต่องานของพวกเราอยู่นะ! ยังมีผู้ป่วยตั้งมากมายรอเราอยู่ แล้วอีกอย่าง เรายังไม่รู้จักกันดีพอเลยด้วยซ้ำ!”
“แต่เจียเจีย!” ชายที่ชื่อฮ่าวเจียจุนเป็นชายที่กำลังตกอยู่ในความรัก เขาไม่ยอมแพ้ให้กับคำพูดแค่นี้หรอก! “นั่นมันไม่สำคัญเลยสักนิด! ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้เจอกัน คุณคือเทพธิดาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในใจของผม! เชื่อใจผมนะ ผมสาบานแลยว่าจะใช้ชีวิตนี้ต่อนี้ไปก็เพื่อดูแลคุณ! เหยาเจีย ช่วยเป็นแฟนกับผมจะได้ไหมครับ?”