บทที่ 66 ใครบอกให้ไล่ตามมาตาย
ในอากาศ เซิร์กหนึ่งตัวและมนุษย์หนึ่งคนเผชิญหน้ากัน
โฮเวอร์คาร์พร้อมแล้วบนพื้น นักเรียนอยู่บนรถครบแล้วแต่ไม่กล้าบินขึ้น
ถ้าบินขึ้นไปตอนนี้และถูกยิง แม้แต่ลู่เจ๋อก็ไม่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้
ยานอวกาศยังคงยิงต่อไปและยังคงปลอดภัย แต่ถ้าพลังงานของปืนใหญ่หมดลง เซิร์กที่ขอบนอกจะบุกเข้ามาอีกครั้ง แล้วจะไม่มีอะไรหยุดยั้งคลื่นเซิร์กได้
ผู้ชมทั้งหมดกลั้นหายใจ พวกเขากลัวว่าการหายใจจะส่งผลต่อสถานการณ์ที่ดาวเคราะห์หนานเฟิง
แน่นอนว่าลู่เจ๋อรู้ดีว่าสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นอย่างไร โฮเวอร์คาร์เทียบไม่ได้กับยานอวกาศ ด้วยความคล่องตัวและพลังของเซิร์กตัวนี้ หากมันตั้งใจจะโจมตีโฮเวอร์คาร์ เขาก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อมองเซิร์กที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 100 เมตร ดวงตาของลู่เจ๋อก็เย็นชา
แสงคริสตัลบนร่างของเขาค่อย ๆ หดตัวลงและควบแน่น
เซิร์กสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของลู่เจ๋อ ลำแสงพุ่งออกมาจากดวงตาสีแดงเลือดของมันขณะที่ออร่าพลังวิญญาณสีดำปรากฏขึ้นรอบตัวมัน
อันตราย!
ลู่เจ๋อมองไปที่เซิร์กและฉีกยิ้ม มีประกายความดุร้ายแวบเข้ามาในดวงตาของเขา ร่างเขาหายไปในชั่วพริบตาก่อนจะปรากฏตัวถัดจากเซิร์กที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร
แสงสีเขียวที่หนาแน่นและลมแรงที่พัดกระหน่ำที่ขาของเขา ตัดตรงไปยังแมลงเหมือนเคียว
“ออกไปไกล ๆ เลยไป๊!!”
เขาแค่ต้องการเตะมันออกไป มันจะได้ไม่มาขวางเส้นทางบินของโฮเวอร์คาร์
มันไม่ดีที่จะสู้ต่อไป ถ้ารถเข้าไปในยานอวกาศได้ พวกเขาก็หนีได้
พลังกาย ศาสตร์เทพแห่งพลัง และศาสตร์เทพแห่งลม สามพลังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว สภาพของลู่เจ๋อตอนนี้คือขีดจำกัดสูงสุดของเขาแล้ว พลังเตะนี้แม้แต่เซิร์กระดับ 3 ก็ยังอยากหนี
ด้วยบัฟจากลมการโจมตีของลู่เจ๋อนั้นเร็วมาก เซิร์กขู่ฟ่อแสงสีดำกะพริบอยู่รอบ ๆ ตัวมัน มันโบกขาหน้าอันแหลมคมเข้าโจมตีขาของลู่เจ๋อ
ตูม!!
การระเบิดที่น่ากลัวยิ่งกว่าที่เคยดังก้อง ภายใต้การจ้องมองอย่างหวาดหวั่นของนักเรียนและผู้ชม ขาและกรงเล็บปะทะกัน
พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวกวาดเป็นคลื่นอากาศ เซิร์กด้านล่างถูกคลื่นลมกดลงกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้ชั่วขณะ
จากนั้นเซิร์กและมนุษย์ต่างก็กระเด็นถอยหลังไปนับร้อยเมตร
ขาขวาของลู่เจ๋อสั่นเล็กน้อย เขาอยากจะร้องไห้
พระเจ้า เกราะของแมลงตัวนี้แข็งมาก
เซิร์กระดับ 3 เทียบเท่ากับนักรบระดับซวนหวู่นั้นไม่ง่ายที่จะรับมือ
ในที่สุดลู่เจ๋อก็ตระหนักได้ว่าพลังทั้งหมดของเขาเทียบเท่ากับซวนหวู่ระดับ 1 หรือ 2 เท่านั้น
เซิร์กตัวนี้แข็งแกร่งกว่าเขาอย่างชัดเจน
แต่ลู่เจ๋อคิดว่าเขายังสามารถหยุดมันได้
ดวงตาของเขาเป็นประกายและพุ่งเข้าหามันอีกครั้ง
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
ทุกครั้งที่มีการปะทะกัน ลู่เจ๋อก็พยายามลากเซิร์กออกไปให้ไกลจากยานอวกาศ
ไม่ช้าทั้งสองก็ห่างออกไปไกล
ดวงตาของฟางหลางเป็นประกาย “เร็วเข้า อย่าปล่อยความพยายามของลู่เจ๋อสูญเปล่า!”
ทุกคนในรถและผู้ชม “…”
ทำไมผู้ชายคนนี้ทำเหมือนว่าลู่เจ๋อจะไม่กลับมาอีกแล้ว?
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้
คนขับโฮเวอร์คาร์บังคับรถบินขึ้นไปในอากาศ
เซิร์กที่ลู่เจ๋อลากออกไปเห็นโฮเวอร์คาร์บินเข้าไปในยานอวกาศก็ส่งเสียงร้อง ดวงตาของมันเรืองแสง
ลู่เจ๋อยิ้ม
ตูม!!
ด้วยการปะทะกันอีกครั้ง ลู่เจ๋อดึงระยะห่างออกมามากกว่า 200 เมตรจากเซิร์ก ร่างกายของเขาเรืองแสงสีเขียว
ทันใดนั้นเขาก็บินไปที่ยานอวกาศ
เขาเอาชนะมันไม่ได้ ได้เวลาวิ่งแล้ว~
เซิร์กเห็นไอ้เวรนี่กล้าหนี มันก็กระพือปีกไล่ตาม
แต่ตอนนี้ปืนใหญ่ที่ใช้ปราบเซิร์กระยะไกลว่างงานเนื่องจากนักเรียนกลับเข้ายานแล้ว
ในห้องอาวุธ ทีมกู้ภัยตะโกน "เร็ว เร็ว เร็ว สนับสนุนลู่เจ๋อ ยิงเซิร์กตัวนั้น!!”
ปืนใหญ่คำรามและลำแสงพลังงานที่แผดเผาก็ยิงไปยังเซิร์กระดับ 3 ตัวนั้น
เห็นได้ชัดว่าเซิร์กตัวนี้ไม่ต้องการปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ มันเปล่งออร่าสีดำ หลบกระสุนปืนใหญ่ขณะบินเข้าชาร์จลู่เจ๋อ
นี่เป็นยานขนส่ง ไม่ใช่ยานรบ ดังนั้นพลังของปืนใหญ่จึงจำกัด และพวกเขายังต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลู่เจ๋อทำให้โอกาสยิงโดนมีน้อยลง
ลู่เจ๋อเห็นปากของเขาก็กระตุก
พี่ใหญ่ พี่อยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ พี่จะปล่อยฉันไปไม่ได้เหรอ?
ขณะนี้ลู่เจ๋ออยู่ห่างจากประตูยานอวกาศเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ประตูเปิดกว้าง ถ้าเขาเข้าไป เซิร์กตัวนี้ก็จะตามเข้าไปด้วย
นั่นไม่ดี
ดวงตาของลู่เจ๋อเปล่งแสง เขาควรจะลากมันไปมาในอากาศสัก 2-3 รอบแล้วปล่อยให้ปืนใหญ่ยิงอีก 2-3 นัดดีไหม?
ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังออกมาจากเครื่องมือสื่อสารของเขา “ลู่เจ๋อ เซิร์กตัวนี้มีจุดอ่อนที่เกราะส่วนที่ 3 ตรงท้องของมัน หากนายโจมตีตรงนั้นมันจะตายอย่างแน่นอน”
ลู่เจ๋อตะลึง "เธอคือ…?"
“ฉันชื่อหลินหลิง ฉันก็ปลุกศาสตร์เทพด้วย ตาของฉันมองเห็นจุดอ่อนของศัตรู”
ลู่เจ๋อได้ยินก็หรี่ตาลง
มองเห็นจุดอ่อนของศัตรู? มีศาสตร์เทพแบบนั้นด้วยเหรอ?
เว่อร์ไปไหม??
จากนั้นเสียงของฟางหลางก็เสริมว่า “ลู่เจ๋อ ฉันสามารถยืนยันคำพูดของหลินหลิงได้ เธอปลุกศาสตร์เทพจริง ๆ”
ลู่เจ๋อตาเป็นประกาย จุดอ่อน?
เขารู้จักพลังป้องกันของเซิร์กตัวนี้ดี มือของเขาเจ็บจากการต่อยมัน และทิ้งเพียงรอยขีดข่วนไว้บนเกราะของมันเท่านั้น
ถ้ามันมีจุดอ่อน บางทีเขาอาจจะฆ่ามันได้?
“เราจะยิงสนับสนุนเธอ ด้วยความเร็วของเธอ หากมันหยุดนิ่งเพียงชั่วขณะ เธอคงคว้าโอกาสนั้นได้ใช่ไหม”
ลู่เจ๋อยิ้มและพูดว่า “ใช่”
หากเขาไม่ได้วิ่งเข้าไปในมิติล่าสัตว์บ่อย ๆ และมีประสบการณ์การหลบหนีมากมาย เขาอาจจะถูกจับได้ไปนานแล้วและคงไม่มีโอกาศเช่นนี้
เขาโกรธมาก
ดังนั้นลู่เจ๋อจึงไม่บินไปทางยานอวกาศและหันไปปะทะกับเซิร์กตัวนั้นเป็นครั้งคราว ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยในห้องอาวุธก็เฝ้ามองอย่างใกล้ชิด
ทุกคนลุ้นมาก
พวกเขาได้ยินคำพูดของลู่เจ๋อและหลินหลิงด้วย แต่นี่เป็นเซิร์กระดับ 3 ที่เทียบเท่ากับนักรบระดับซวนหวู่
ถ้าลู่เจ๋อฆ่ามันได้จริง ๆ ไม่ได้หมายความว่าลู่เจ๋อมีพลังเทียบเท่ากับนักรบซวนหวู่หรอกเหรอ?
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มีเสียงดังมาจากเครื่องมือสื่อสารของลู่เจ๋อ “ลู่เจ๋อถอยออกไป!”
ลู่เจ๋อปะทะกับเซิร์กและใช้แรงสะท้อนของการปะทะหลบออกไปด้านข้าง
ปืนใหญ่ยิงออกมา และลำแสงพลังงานหลายสิบลำก็ตรงที่เซิร์ก
เซิร์กตัวนั้นกรีดร้อง มันหลบด้วยความว่องไว ลำแสงพลังงานนั้นแรง แต่ยังไม่เร็วพอ
แม้ว่ามันจะหลบลำแสงพลังงานได้ แต่ไม่หมด ข้างลำตัวของมันไหม้ และคลื่นอัดอากาศที่น่าสะพรึงก็ทำให้มันไม่สามารถรักษาสมดุลได้
ดวงตาของลู่เจ๋อหรี่ลง เขาหายตัวไปจากจุดนั้นและปรากฏใต้ร่างเซิร์ก
กำปั้นขวาของเขากลายเป็นคริสตัลและปกคลุมไปด้วยลมพายุ กระแทกเข้าที่เกราะส่วนที่ 3 ใต้ท้องของมัน
ตูม!!
แม้ว่าเซิร์กจะสังเกตเห็น แต่มันก็ตอบสนองช้าเกินไป และเกราะของมันถูกระเบิดด้วยแรงหมัดของลู่เจ๋อ
ของเหลวสีเขียวทะลักออกมาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อหมัดพุ่งเข้าใส่ร่างกายของมัน พลังอันน่าสะพรึงกลัวของลมพายุที่พัดกระหน่ำทำให้อวัยวะภายในของมันถูกปั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที
มันเปิดปากกรีดร้อง ปีกของมันหยุดกระพือและตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว เมื่อมันตกลงไปในฝูงแมลง มันก็ถูกกินจนไม่เหลือซาก
ลู่เจ๋อมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นและถอนหายใจอย่างโล่งอก
ใครบอกให้ไล่ตามมาตาย?
-----------------------