ตอนที่ 59 อะไรๆก็กู่ฉางเกอ
[ฮึ่ม!]
รังสีแสงสาดไปทั่วขณะที่ความผันผวนมิติรุนแรงทำลายโดยรอบ ไม่ช้า รอยแยกก็ปรากฏในอากาศและคนหลายคนก็โผล่ออกมา
มันคือกลุ่มของกู่ฉางเกอ
สีหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปอย่างมาก แม้พวกเขาจะไม่รู้จักตัวตนของกู่ฉางเกอ พวกเขาก็ฉลาดพอจะรู้ว่าคนที่สามารถนำผู้ติดตามอาณาจักรเซียนมากขนาดนี้เข้ามาได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา
กู่ฉางเกอหัวเราะกับปฏิกิริยาของพวกเขา มันเป็นตามที่เขาคาดไว้ มีแค่คนโง่ถึงกล้ามายุ่งกับเขาตอนนี้ เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ใช่พระเอกที่ถูกลิขิตให้เจอปัญหาไร้สาระไม่ว่าจะไปไหน
[ภายในอาณาจักรลับสวรรค์โบราณ]
ภูเขาสูงเสียดฟ้า แม่น้ำที่ขดรอบพื้น ท้องฟ้าด้านบนปรากฏว่ายากจะไปถึง และพื้นดินก็คล้ายทะเลสีเขียว ปราณหนาแน่นอัดมีอยู่ทุกมุมของอาณาจักรลับ
สำหรับกู่ฉางเกอ คนที่โตมาในอาณาจักรเบื้องบนที่มีปราณหนาแน่นมากอยู่ทุกที่ ระดับปราณในอาณาจักรนี้ไม่ต่างจากที่เขาเห็นด้านนอกประตูตระกูลกู่นัก มันไม่ควรให้พูดถึง
แต่สำหรับผู้บ่มเพาะอาณาจักรเบื้องล่าง สถานที่แบบนี้เหมือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบ่มเพาะ หนึ่งวันแห่งการบ่มเพาะที่นี่จะเหมือนหลายวันด้านนอก
“อาณาจักรลับเช่นนี้คือสมบัติ!ไม่น่าแปลกที่คนจำนวนมากจะเร่งมาทันทีที่มันเปิด..”
“มันสามารถเป็นสถานที่ชั้นเลิศสำหรับการบ่มเพาะได้เลย!น่าเสียดาย มันจะปิดตัวลงไม่ช้าก็เร็ว”
คนของตระกูลหลินอดถอนหายใจด้วยความเสียใจไม่ได้ พวกเขามาที่นี่เพราะกู่ฉางเกอ วกเขาจึงไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่ถ้าพวกเขาได้รับคำชมของคุณชายกู่ พวกเขาอาจได้รับโอกาสที่มากยิ่งกว่าอาณาจักรลับนี้ในอนาคต
“นี่เป็นเรื่องสำคัญของคุณชาย อย่าแม้แต่จะคิดกลับตระกูลถ้าเกิดสร้างปัญหา!”
เฒ่าหมิงได้เตือนลูกหลานเขา เขาเองก็สะกดฐานบ่มเพาะตัวเองเพื่อเข้าอาณาจักรลับเพราะเขาไม่สบายใจที่จะปล่อยกู่ฉางเกอเข้ามาลำพัง
“ท่านบรรพชน วางใจได้!ต่อให้เราต้องตายที่นี่ เราก็จะทำให้คุณชายสมปรารถนา”
ผู้อาวุโสทั้งหมดของตระกูลต่างคุกเข่าและพูดขึ้น
เฒ่าหมิงพยักหน้าพอใจ
‘อาณาจักรลับเพิ่งเปิดได้ไม่กี่วันก่อน เย่เฉินควรไปถึงแค่ขอบของเขตใจกลางอาณาจักรลับ ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน..’
‘ถ้าข้าเดาไม่ผิด งั้นเขาควรมีแผนที่ของที่นี่ เขาสมกับเป็นเครื่องมือล่าสมบัติ ข้าจะปล่อยให้เขากวาดเส้นทางให้ข้า
กู่ฉางเกอไม่สนใจคนด้านหลังเขา รอยยิ้มที่คาดเดาไม่ได้ปรากฏบนหน้าเขาและเขาก็คิดเรื่องของเย่เฉินในใจ เขาสามารถสัมผัสตำแหน่งของเย่เฉินได้ และคำนวณว่าเย่เฉินคงอยู่ไม่ไกล มากสุดก็แค่ไม่กี่พันลี้
แม้กู่ฉางเกอจะไม่อาจเห็นทุกการเคลื่อนไหวของเย่เฉินได้ เขาก็สามารถเดาได้บ้าง เย่เฉินอาจดูเหมือนสุนัขขี้แพ้ในตอนแรก แต่ตอนนี้ กู่ฉางเกอคิดว่าหน้าตาของเขาดูหล่อเหลากว่าใครทั้งนั้น’
กู่ฉางเกออดหัวเราะไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด เย่เฉินยุ่งกับการเตรียมโอกาสให้เขา
“ไปกัน”
พอคิดเสร็จ เขาก็สั่งคนด้านหลังและจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเส้นแสงพุ่งตรงไปเขตใจกลางของอาณาจักรลับ
…
[ในบริเวณที่ถูกหมอกปกคลุม]
ภูเขาสูงทะลุเมฆ ต้นไม้โบราณสูงสุดลูกตาและก็สามารถเห็นซากปรักหักมากมายของวัง ศาลาและเสาที่กระจัดกระจายรอบใบไม้แห้ง
[ซวบ!]
เลือดกระฉูดขณะที่เย่เฉินฟันอสูรหน้าตาประหลาดตรงหน้าเขาเป็นสองส่วน และจากนั้นก็มองพืชที่ทางเข้าของถ้ำใกล้ๆด้วยรอยยิ้มบนหน้า
พืชสว่างเหมือนไฟและปลดปล่อยความร้อนแผดเผา
“[ดอกไม้เทพไฟ] และยังมีอายุถึงสามหมื่นปี..ไม่เพียงจะช่วยข้าหลอมไฟแท้จริงได้ แต่จะช่วยเพิ่มความเข้าใจเต๋าแห่งไฟของข้าด้วย..”
เย่เฉินพึมพำขณะเก็บพืชไฟ
ความพึงพอใจอัดแน่นหัวใจเขา เขาได้รับของดีมากมายในอาณาจักรับ และฐานบ่มเพาะก็เลื่อนไปอีกระดับ นี่ทำให้เขามีความสุขและมีความมั่นใจ แถมยังมีแผนจัดการกับกู่ฉางเกอเพิ่มไปอีก
แน่นอน เย่หลิวลี่คือเหตุผลเบื้องหลังที่ช่วยเพิ่มพลังเขา
หลังเย่หลิวลี่ชนแผ่นเหล็กในเมืองโบราณท้าจันทร์ เขาก็ทำสุดความสามารถเพื่อส่งข้อความเขาให้นางเพื่อให้นางไม่ต้องเป็นห่วงเขา
แม้จะมีผู้บ่มเพาะหลายคนในโลกที่รู้ว่าเขาไปยั่วยุกู่ฉางเกอ และเลี่ยงเขาเหมือนตัวเชื้อโรค แต่ก็ยังมีผู้บ่มเพาะที่เต็มใจให้เขายืมมือ อย่างบุตรศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนเจียโหลว และก็มีหลายคนในโลกที่มีความยุติธรรมในหัวใจซึ่งโดนเสน่ห์ของเย่เฉินพิชิต พวกเขาเต็มใจมากที่จะช่วยเขาถ่ายทอดข้อความให้เย่หลิวลี่
ทั้งอย่างนั้น เย่หลิวลี่จึงพบตัวเย่เฉินได้ในไม่กี่วัน
เย่หลิวลี่มาพร้อมกลุ่มบริวารของนางที่มาจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และทุกคนก็คืออาณาจักรเซียนหรือสูงกว่า นี่ทำให้เย่เฉินรู้สึกปลอดภัย
เมื่อกู่ฉางเกอเข้าอาณาจักรลับ เขาจะไม่มีทางออกไปได้ ด้วยการเตรียมการของเขา ความตายของกู่ฉางเกอจะเป็นที่แน่นอน วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของกู่ฉางเกอ!
มันแค่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่ทำให้เย่เฉินสับสนเล็กน้อย เย่หลิวลี่ไม่ได้หลงใหลเขาเหมือนเดิม และก็พูดกับเขาไม่เยอะเหมือนเดิม นางยังทิ้งระยะห่างจากเขาสามก้าวเสมอ
แต่เย่เฉินก็ไม่คิดมาก เหนือสิ่งอื่นใด เย่หลิวลี่โตแล้ว นางไม่ใช่เด็กสาวตัวน้อยที่เขาเคยรู้จักอีก ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิหลังพวกเขายังต่างกัน มันเป็นปกติ
หลังเก็บดอกไม้เทพไฟเข้าแหวนไป เย่เฉินก็หันไปมองเด็กสาวชุดม่วงที่อยู่ไม่ไกล รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏบนหน้าเขาขณะที่เขามองผิวคล้ายหยกขาว และดวงตาคล้ายผลึก
เย่หลิวลี่โตแล้วจริงๆและยังงามจนโดดเด่น นางเหมือนมีรัศมีปกคลุมตัว ทำให้นางเหมือนเทพธิดา
“เอาสายตาสุนัขของเจ้าออกไปให้พ้นคุณหนูของข้า!กล้าดียังไงถึงมองคุณหนูข้าด้วยสายตาแบบนั้น?เป็นแค่คางคกแต่คิดฝันจะกินเนื้อห่านหรือไง?”
ตอนนั้นเอง เสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูกก็เข้าหูเย่เฉิน ทำให้เขาขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขากลายเป็นน่าเกลียด
มันเป็นหญิงบัดซบนั่นอีกแล้ว!
ทุกครั้งที่นางเปิดปากหมาๆ นางจะเรียกเขาว่ามดหรือคางคก นางไม่อาจปิดปากตัวเองได้เลย!
แม้จะมีคนถากถางเย่เฉินมามากในชีวิต เขาก็มักพลิกสถานการณ์ได้ด้วยการตบปากพวกนั้น แต่คนที่ดูถูกเขาครั้งนี้คือผู้ติดตามของเย่หลิวลี่ นี่ทำให้เขาทำอะไรไม่ได้ และก็ได้แค่กลืนความโกรธของตัวเองลงไปโดยไม่ได้ระบาย
คนที่พูดนั้นไม่ใช่ใครนอกจากป้าเสวี่ย
แม้เย่หลิวลี่จะต่อว่านางหลังกลับออกตระกูลหลิน นางก็ไม่อาจทำอะไรได้มากเกินไป เหนือสิ่งอื่นใด ป้าเสวี่ยดดูแลนางมาหลายปี นางไม่สามารถทำหยาบคายเกินไปได้
และตอนเย่หลิวลี่มาพบเย่เฉิน ป้าเสวี่ยก็ยังสะกดพลังตัวเองเพื่อตามนางเข้าอาณาจักรลับ
นางไม่ชอบเย่เฉินเลย ในความคิดนาง เขาคือตัวสารเลวที่ไม่อาจเก็บมือเท้าตัวเองได้ ตอนคุณหนูนางยังเด็ก เจ้าเด็กนี่ก็มักอยู่ข้างคุณหนูและพยายามใช้วิธีการต่างๆเพื่อเอาเปรียบนาง ถ้านางไม่หยุดไว้ นางไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรล่วงเกินคุณหนูหรือเปล่า
ป้าเสวี่ยเคยคิดจะฆ่าเย่เฉิน แต่คุณหนูก็หยุดนางไว้
แต่ตอนนี้ ป้าเสวี่ยปรารถนาที่จะลบเย่เฉินออกไปจากโลก แค่เย่เฉิน คุณหนูของนางถึงกับไปทำให้คุณชายกู่ไม่พอใจ
นี่เป็นเรื่องโง่อย่างมาก!
น่าเสียดาย นางคือคนของคุณหนูและฐานบ่มเพาะตอนนี้ก็แค่เซียน นางไม่สามารถกำจัดเขาโดยไม่ให้คุณหนูรู้ได้
“อย่าดูถูกผู้อื่นให้มากนัก!ข้าเหยียบย่ำคนที่ดูถูกข้ามานักต่อนักแล้ว”
เย่เฉินขมวดคิ้วและพูด
ป้าเสวี่ยแค่นเสียง“แค่เจ้า?เจ้า ผู้ไม่เคยเห็นมังกรแท้จริงจากสวรรค์ชั้นเก้ากลับอยากได้รับความเคารพจากเรา?ทำไมเจ้าไม่มองกะลาหัวตัวเองในกระจกก่อน!คนน่าสมเพชอย่างเจ้าจะมาเทียบกับคุณชายกู่ได้ไง?”
“มีแค่คนอย่างคุณชายกู่ถึงเหมาะสมกับคุณหนูข้า!เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะตายแทบเท้าของคุณชายกู่ด้วยซ้ำ”
โดยธรรมชาติ ป้าเสวี่ยพูดความในใจออกมา แน่นอน นางไม่รู้ว่าคำพูดตรงๆของนางได้เพิ่มความเกลียดชังของเย่เฉินที่มีต่อกู่ฉางเกอ
“หุบปากซะ..”
เส้นเลือดปูดบนขมับของเย่เฉินและเขาก็กำหมัดแน่น เขาแทบจะคำรามใส่ป้าเสวี่ย เขาไม่สามารถอดทนได้อีก
นางกล้าดียังไงถึงมาบอกว่าเด็กสาวที่เขาชอบเหมาะสมกับศัตรู?นั่นหมายความว่าไง?
กู่ฉางเกอ!ทำไมถึงเป็นกู่ฉางเกออีกแล้ว?!
ทุกครั้งที่นางเปิดปาก นางจะพูดถึงกู่ฉางเกอ และทุกครั้งที่นางปิดปาก นางจะชื่นชมกู่ฉางเกอก่อน!
ดวงตาของเย่เฉินแดงก่ำและเขาก็กัดฟันแน่น
เขาอยากฆ่ากู่ฉางเกอซะตอนนี้เลย!
“พี่ชายเฉิน อย่าไปฟังนาง!”
“ป้าเสวี่ย ท่านพูดจาไร้สาระอะไร?!”
เย่หลิวลี่ขมวดคิ้วและพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ
แม้เย่เฉินจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เขาก็ยังเป็นพี่ชายเฉินของนาง นางสามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงในตัวเขาได้
แต่ป้าเสวี่ยพูดมากเกินไป!
“คุณหนู ข้าแค่พูดความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คุณชายกู่คงไม่ปฏิบัติต่อท่านอย่างนั้น!ระหว่างเขากับ…”
ป้าเสวี่ยพูดเพื่ออธิบายตัวเอง แต่เย่หลิวลี่ก็ขัดนางก็จะพูดจบ
นางพูดอย่างไม่พอใจ“ป้าเสวี่ย อย่าพูดเรื่องคุณชายกู่อะไรนั่นต่อหน้าข้า ข้าไม่อยากได้ยินชื่อบัดซบของเขาอีก”
“หลิวลี่ จะไม่มีการแต่งงานระหว่างพวกเจ้าสองคนใช่ไหม?”
เย่เฉินที่เพิ่งสงบลงพลันคิดถึงบางสิ่งและถาม ความประหม่าและไม่สบายใจเกาะกุมหัวใจเขา
เหนือสิ่งอื่นใด ทำไมป้าเสวี่ยถึงจงใจพูดถึงกู่ฉางเกอต่อหน้าเขาไม่หยุด?ทั้งคู่มาจากอาณาจักรเบื้องบน และทั้งคู่ก็มีภูมิหลังน่ากลัว มีโอกาสสูงที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นระหว่างสองตระกูล
เย่เฉินรู้สึกไม่สบายใจมาก
“ท่านพูดจาไร้สาระไร?ข้าจะไปแต่งงานกับคนน่ารังเกียจแบบเขาได้ไง?ต่อให้มีงานหมั้นระหว่างข้ากับเขา ข้าจะบังคับพ่อของข้าให้ยกเลิกมัน..”
คำพูดของเขาทำให้เย่หลิวลี่พูดไม่ออก และนางก็อธิบายด้วยความรู้สึกไม่พอใจ พี่ชายเฉินคิดเรื่องแบบนั้นได้ไง?กู่ฉางเกอคือคนชั่วที่ทำให้นางอับอายและนางก็เกลียดเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ
“งั้นทำไมเจ้าถึงเกลียดเขา?เกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลหลิน?”
เย่เฉินถอนหายใจโล่งอก แต่ก็ยังถาม คนที่อ่อนโยนอย่างเย่หลิวลี่จะเกลียดชังใครบางคนแบบไร้เหตุผลได้ไง?ในเวลาเดียวกัน จิตสังหารที่เขามีต่อกู่ฉางเกอก็ยิ่งลึกล้ำ
“กู่ฉางเกอคือคนจากตระกูลเซียนกู่..ไม่ใช่แค่นั้น เขายังเป็นนายน้อยของตระกูลกู่ ตำแหน่งกับภูมิหลังเขาเหนือกว่าข้า ถ้าท่านอยากจัดการเขา ท่านต้องระวังให้ดี พี่ชายเฉิน..”
“ข้าไม่สามารถช่วยท่านได้”
เย่หลิวลี่อธิบาย
เย่เฉินกำหมัดแน่นยิ่งกว่าเดิมพอได้ยิน แต่ก็ยังพึมพำในใจ’อาณาจักรลับนี้จะเป็นหลุมฝังศพของกู่ฉางเกอ!’
หยานจีที่อยู่ภายในแหวนพันแสดงความสนใจ นางอยากรู้เกี่ยวกับกู่ฉางเกอมาสักพักแล้ว
‘งั้นเขาก็คือนายน้อยของตระกูลเซียนกู่?ไม่น่าแปลก..’
‘เขาต้องมีของช่วยชีวิตติดตัวมากมาย ข้าไม่ต้องกังวลแล้ว’
นางถอนหายใจโล่งอกในใจ นางเฝ้าถามตัวเองตลอดว่านางจะช่วยเย่เฉินหรือกู่ฉางเกอดี
‘ข้าหวังว่าสถานการณ์จะไม่บีบบังคับข้า เพราะข้าไม่รู้ว่าต้องช่วยใคร..’
หยานจีอดถอนหายใจไม่ได้
ครั้งนั้น วิญญาณของนางแทบสลาย สำหรับนาง คุณค่าของเม็ดยารวมวิญญาณตอนนั้นหาที่เปรียบไม่ได้ และนางก็ไม่ลืมบุญคุณนี้ของกู่ฉางเกอ
แต่ก็ยังมีอีกสิ่งที่นางไม่เข้าใจ’ทำไมคุณชายกู่ถึงปล่อยให้เย่เฉินยั่วยุเขาโดยไม่โต้ตอบ?’
หรือเย่เฉินแค่โชคดี หรือคุณชายกู่ละเว้นชีวิตเขาเพื่อนาง ในเมื่อเขาอยากได้นางไปข้างตัว?