เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 24
เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 24
ในยุคสงครามที่ห้ำหั่นกันด้วยอาวุธเย็นนี้ ที่แข่งขันกันคือเรื่องของประชากรซะมากกว่า ยิ่งมีประชากรในดินแดนมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถเกณฑ์ไพร่พลได้มากขึ้นเท่านั้น แผ่นดินกำลังจะเข้าสู่กลียุค ลิโป้จึงต้องเตรียมตัว
"เว่ยกง เหวินเหอเซียนเซิงได้ส่งข่าวมาบ้างหรือไม่?" หลังจากตรวจตราดูแล้วไม่มีอันตราย เมื่อกลับมาถึงทัพกลางลิโป้ก็ถามขึ้นด้วยความร้อนใจ
"นายท่าน เหวินเหอเซียนเซิงบอกว่า หากมีเวลา เขาจะต้องไปที่ปิงโจวแน่นอนขอรับ" ลิซกกุมมือตอบ
"อืม เหวินเหอนับเป็นผู้มีพรสวรรค์อันหาได้ยาก" ลิโป้กล่าว "บทบาทกุนซือถือเป็นมันสมองของกองทัพ"
"นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว" ลิซกกล่าว "หากว่าเหวินเหอเซียนเซิงอยู่ที่นี่ด้วย กองทัพของเราแน่นอนว่าจะต้องได้รับสิ่งของมากกว่านี้"
ลิโป้พยักหน้า เขาค่อนข้างพอใจที่สามารถฉกชิงสมบัติที่ตั๋งโต๊ะรวบรวมมาได้ถึงครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังเสียทหารไปไม่มาก
ในบรรดาเจ้าเมือง โจโฉนับว่าไม่อ่อนแอ แต่หลังจากถูกอุบายของลิยูเล่นงาน ขุมกำลังของเขายังเทียบห้าอันดับท้ายของกลุ่มพันธมิตรไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เวลานี้เขาคล้ายสุนัขสูญเสียเจ้าของ จะเห็นได้ว่าหากใช้กลอุบายได้อย่างเหมาะสม การจะเปลี่ยนสถานการณ์ของสงครามก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
"กาเซียนเซิงจะต้องไปที่ปิงโจวแน่นอนขอรับ โดยเฉพาะเวลานี้ นายท่านได้ปล้นชิงสมบัติและทรัพยากรของตั๋งโต๊ะไปกว่าครึ่ง ปิงโจวในภายหน้าจะต้องยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใคร" แม้ในใจจะรู้สึกอึดอัดอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ทราบดีว่าความสามารถของเขายังสู้กาเซี่ยงไม่ได้
"เมื่อมีเว่ยกงคอยช่วยเหลือ ข้าก็มั่นใจว่าจะสามารถกุมอำนาจในปิงโจว" ลิโป้หัวเราะ
ลิซกรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ การเห็นความสามารถของที่ปรึกษาอาจสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการได้รับความเชื่อใจ มิเช่นนั้นต่อให้มีความสามารถมากมายเพียงใดก็กลับกลายเป็นไร้ประโยชน์
..........
"อะไรนะ?! ที่เจ้ากล่าวเป็นความจริง?" อ้วนสุดเดินเข้ามาคว้าตัวพลสอดแนมไว้
"นายท่านกับลิโป้มักจะเกิดข้อขัดแย้งต่อกันอยู่บ่อยครั้ง และในภายหน้า เขาจะต้องกลายเป็นศัตรูกับท่านไม่ผิดแน่ ยิ่งตอนนี้เขาได้รับทรัพยากรของตั๋งโต๊ะไปกว่าครึ่ง สถานการณ์ก็ยิ่งน่าเป็นห่วง" หยางหงกล่าวขึ้นเบาๆ
"เด็กน้อยลิโป้ลบหลู่ข้าครั้งแล้วครั้งเล่า แถมตอนนี้ยังได้ทรัพย์สมบัติกว่าครึ่งของตั๋งโต๊ะไปอีก ฮึ่ม สั่งทหารให้เตรียมพร้อม ข้าจะเคลื่อนทัพ ยกพลไปไล่ล่าทัพปิงโจว!" อ้วนสุดกล่าวอย่างเย็นชา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนต้องอิจฉา นั่นเป็นสมบัติที่ตั๋งโต๊ะสะสมมากว่าครึ่ง แม้แต่โจโฉที่มักยกอ้างคุณธรรมก็ยังต้องตาร้อนกับทรัพยากรที่ตั๋งโต๊ะครอบครอง
"นายท่านช่างปราดเปรื่อง เพียงแต่ว่า ทัพปิงโจวมีทหารม้าอยู่เกือบสองพัน ทั้งยังมีหน่วยทะลวงค่าย เกรงว่าจัดการพวกเขาคงไม่ง่าย" หยางหงกล่าวด้วยความกังวล
"ฮึ่ม ไพร่พลหวยหนานของข้าล้วนแต่เป็นทหารชั้นยอด ผ่านศึกสงครามมาแล้วเป็นร้อยๆสนาม จัดการเด็กน้อยลิโป้ย่อมไม่มีปัญหา ยิ่งกว่านั้นอีกไม่นานกองทัพปิงโจวจะต้องทำศึกกับตั๋งโต๊ะ พอต่อสู้จนเหนื่อยล้าหมดกำลัง พวกมันย่อมสู้ทหารของข้าไม่ได้" อ้วนสุดหัวเราะเฮอะฮะให้กับความหลักแหลมของตนเอง
"นายท่าน...." หยางหงยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ถึงอย่างไรทหารม้าใต้สังกัดของลิโป้ก็ล้วนแต่เป็นทหารม้าชั้นยอด
"พอแล้ว กิเหลง นำทหารม้าทั้งหมดและทหารราบอีกสามพันเป็นทัพหน้าไล่ตามทัพปิงโจวไป ข้าจะยกทัพตามไปทีหลัง" อ้วนสุดออกคำสั่ง ในช่วงที่เขาได้เป็นแม่ทัพคุมเสบียงให้กองทัพพันธมิตร เขาได้ยักยอกเสบียงอาหารไว้ไม่น้อย สามารถฝึกฝนทหารม้าขึ้นมาได้ห้าร้อยนาย
"ขอรับ" กิเหลงกุมหมัดรับคำด้วยตาเป็นประกาย
เขามีเหตุผลมากมายนับไม่ถ้วนที่จะฆ่าลิโป้ ในกระโจมประชุมของค่ายพันธมิตรคราวนั้น ลิโป้ดูหมิ่นเจ้านายของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อได้รับข่าวก็ทำให้เขาโกรธอย่างมาก เพียงแต่ในเวลานั้น ทั้งหมดต่างก็เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่กล้าลงมือทำอะไร แต่ตอนนี้มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว
หลังจากโจโฉได้ทราบข่าว ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม "คิดไม่ถึงว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจะกลายเป็นลิโป้ไปได้ ข้าประมาทผู้กล้าในแผ่นดินเกินไปเสียแล้ว"
"นายท่าน ข้าน้อยเกรงว่าวันนั้น กองทัพของลิโป้คงจะติดตามอยู่ทางด้านหลังของพวกเราอยู่ก่อนแล้ว เพียงรอจนกระทั่งกองทัพของเราพ่ายแพ้ จึงค่อยปรากฏตัวออกมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์" แฮหัวตุ้นกล่าวด้วยความขุ่นเคือง
"เจ้าไม่อาจกล่าวเช่นนั้น อย่างไรเสียทัพปิงโจวก็ช่วยชีวิตพวกเราไว้ อีกทั้งทัพม้าเสเหลียงเองก็ไม่ใช่ย่อย เกรงว่าลิโป้คงต้องผ่านศึกหนักทีเดียว" โจโฉกล่าว
ในขณะที่บรรดาเจ้าเมืองเอาแต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมออกศึก มีเพียงลิโป้ที่นำทัพไล่ตามตั๋งโต๊ะมา ในความเห็นของเขาแล้ว ลิโป้นับเป็นวีรบุรุษผู้กล้าที่มีใจรักชาติ
"อ้วนสุดเคลื่อนกำลังไล่ตามทัพปิงโจวไปแล้ว พวกเราควรที่จะ....."
"ไม่ ต่อสู้กับโจรตั๋ง พวกเราก็เสียหายมากพอแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือรีบกลับไปยังกุนจิ๋ว ตระเตรียมไพร่พลและม้า รอโอกาสที่จะต่อสู้กับตั๋งโต๊ะอีกครั้ง" โจโฉเอ่ยขัดคำพูดของโจหยินเอาไว้
ข่าวเรื่องที่ลิโป้ไล่ตามตั๋งโต๊ะไปและสามารถยึดหญ้าเสบียงและทรัพยากรได้เป็นจำนวนมากได้แพร่กระจายไปทั่วกองทัพพันธมิตร สร้างความอิจฉาแก่คนทั้งหมด ตั๋งโต๊ะได้กวาดเอาความมั่งคั่งที่สะสมมาอย่างยาวนานของลั่วหยาง รวมทั้งสมบัติจากสุสานจักรพรรดิไปด้วยทั้งหมด ความมั่งคั่งที่มี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า
อย่างไรก็ดีเหล่าเจ้าเมืองเวลานี้ไม่มีกะจิตกะใจจะไล่ตามลิโป้แต่อย่างใด
ทางด้านกองทัพปิงโจว จู่ๆโจเส็งก็ควบม้ามาที่ทัพกลางด้วยความรีบเร่ง "ท่านแม่ทัพขอรับ มีกำลังทหารประมาณสี่พันอยู่ห่างจากท้ายขบวนของพวกเราออกไปราวสามสิบลี้ ในบรรดาทหารเหล่านั้น มีทหารม้าราวห้าร้อย พวกเขาชูธงคำว่า 'อ้วน' เอาไว้ ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู"
"อ้อ อาจจะเป็นอ้วนเปิ่นชู[1]รึเปล่า? ทหารม้าห้าร้อยงั้นรึ?" ลิโป้ถาม เมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งได้รับจดหมายจากอ้วนเสี้ยว
[1 เปิ่นชู ชื่อรองของอ้วนเสี้ยว]
แน่นอนว่าเนื้อความของจดหมายย่อมเป็นการเอ่ยถึงทรัพยากรที่ลิโป้ได้มาจากตั๋งโต๊ะ บอกว่าควรส่งมอบให้กับเขาที่เป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตร ลิโป้แค่นเสียงคำหนึ่งก็เผาจดหมายทิ้งไป ไม่เก็บเอามาใส่ใจแต่อย่างใด
"นายท่าน อ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตร เมื่อส่งคำสั่งออกมาแล้ว เขาย่อมไม่เคลื่อนกำลังมา ถ้าให้เดา ผู้มาคงจะเป็นอ้วนสุดที่มีข้อบาดหมางกับนายท่าน ดูเหมือนคนผู้นี้จะหมายตาทรัพยากรที่เราได้มา" ลิซกกล่าววิเคราะห์
"ถ่ายทอดคำสั่งลงไป รวบรวมทหารม้า ส่งคนไปจับตาดูศัตรูไว้ หากมีความเคลื่อนไหว ให้รายงานทันที" ลิโป้ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด ต่อให้ศัตรูมีทหารม้า หากแต่ฝีมือการสู้รบของทัพม้าสองฝั่งก็ยังห่างกันช่วงชั้นใหญ่
"โกซุ่น เจ้านำหน่วยทะลวงค่ายเตรียมรับมือศัตรู เซ้งเหลียมนำทหารสามพันเตรียมสู้ศึก เฮาเสงนำคนที่เหลือเดินทางต่อ ระหว่างทางอย่าลืมส่งพลสอดแนมออกไปตรวจสอบเส้นทางอย่างละเอียด"
"ขอรับ" เหล่าแม่ทัพกุมหมัดขานรับ
ทหารม้าปิงโจวมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว หลังจากตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ลิซกที่ติดตามอยู่ด้านหลังลิโป้ก็เสนอให้ลิโป้จัดวางกำลังไว้บนที่สูง ซึ่งจะช่วยให้ทหารม้าพุ่งโถมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
"นายท่าน ท่านสามารถให้แม่ทัพโจเส็งนำทหารม้าห้าร้อยไปวางกำลังดักซุ่มอยู่หลังภูเขา รอจนสองฝ่ายปะทะกันแล้ว ก็ให้เผยตัวลงมือ ฉวยจังหวะชุลมุนทำการกวาดล้างศัตรู" ลิซกเสนอแนะ
ลิโป้พยักหน้า ในใจคิดว่าลิซกก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
แม้ว่ากิเหลงจะเย่อหยิ่ง แต่เขาก็เข้าใจความแข็งแกร่งของทัพปิงโจว หน่วยสอดแนมที่ส่งออกไป ส่วนใหญ่ล้วนถูกกำจัดทิ้ง อีกทั้งคนที่เหลือรอดกลับมายังไม่ทันพบเห็นทัพศัตรูด้วยซ้ำ ทำให้เขาโกรธอย่างมาก
"เรียนท่านแม่ทัพ ทางด้านหน้ามีทหารปิงโจวตั้งทัพอยู่บนที่สูง เป็นทหารม้าราวหนึ่งพัน ทหารราบราวสามพันขอรับ"
กิเหลงแค่นเสียง "ลิโป้ เจ้าคนไร้ยางอาย ใช้ประโยชน์จากชัยภูมิที่สูงแล้ว คิดว่าจะสามารถรังแกทัพหวยหนานได้ง่ายๆงั้นหรือ พวกเรา ติดตามแม่ทัพผู้นี้ไปฆ่าศัตรู อีกไม่นานกองทัพของนายท่านจะตามมาสมทบแล้ว"
"บุก! บุก!" ทหารหลายพันตะโกนโห่ร้อง บังเกิดเป็นสภาวะที่น่าเกรงขามมิใช่น้อย
"อ้วนกงลู่ผู้นี้ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง" ลิโป้หัวเราะ
"เหอะๆ หากแม่ทัพผู้นั้นรอจนทัพใหญ่ของอ้วนสุดตามมาสมทบ เขาก็ยังพอจะมีโอกาสชนะอยู่บ้าง แต่ผลีผลามลงมือแบบนี้ ก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องล้มเหลว" ลิซกส่ายหน้า