ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 97 ซูเทียนหงมาถึงแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 99 พลังเกินขีดจำกัด

MDB ตอนที่ 98 เชื่อโดยไร้ข้อกังขา


ในขณะที่น้ำเสียงของซูเทียนหงฟังดูเหมือนเป็นการตำหนิ เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามบรรเทาความตึงเครียดระหว่างลูกชายและน้องชายของเขา

ซูเทียนหงรู้สึกหงุดหงิดแต่เขาก็ไม่ทำให้เสียเรื่อง ตอนนี้เขาสามารถยึดอำนาจเหนือพี่ชายของเขาได้ เขาจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร เขาพูดพลางหัวเราะอย่างดุร้ายว่า

“ใช่แล้ว อย่างไรซูคานก็เป็นลูกชายของเจ้า ข้าเข้าใจว่าทำไมท่านถึงพยายามปกป้องเขาด้วยการแก้ตัวจากความผิดพลาดของเขา แต่ในฐานะผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลซู ท่านไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ ความเห็นแก่ตัวไม่ใช่คุณสมบัติที่เหมาะสมกับผู้นำ เพื่อประโยชน์ในการรักษาศักดิ์ศรีของลูกชายของท่าน ท่านมอบหมายงานที่สำคัญดังกล่าวให้กับซูคานแต่งานนี้ไม่ได้เป็นเรื่องล้อเล่น เด็กเหลือขออย่างเขาไม่คู่ควรกับงานนี้!

แล้วดูผลลัพธ์ที่เขาทำสิ เราจะแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไร ท่านลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าตระกูลของเราต้องชดใช้ค่าเสียหายให้เขา”

การฟาดฟันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ซูคานแข่งขันในสงครามประมูลเป็นความความขัดแย้งธรรมดา ๆ แต่เขาต้องการตีรวนเรื่องนี้ให้บานปลายยิ่งขึ้น เขาพร้อมที่จะจัดการกับสถานะซูเทียนหงแบบที่ไม่สามารถกู้คืนได้โดยใช้เรื่องนี้

ทว่าซูเทียนหงยังคงสงบนิ่ง หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เขาหันไปหาซูคานและถามว่า “คานเอ๋อร์ ลูกจะชี้แจงเรื่องนี้ว่าอย่างไร?”

ซูคานตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “แม้ว่าข้าจะยังเด็กแต่ข้าเข้าใจดีถึงภาระหน้าที่นี้ดี สัตว์วิเศษที่ซื้อมาจะส่งผลต่ออนาคตของตระกูลเรา แล้วข้า ซูคานจะปฏิบัติกับมันเหมือนเล่นขายของได้อย่างไร?”

ซูเทียนหลี่กล่าวทันทีว่า “ถ้าเจ้ารู้ว่ามันส่งผลต่ออนาคตของตระกูลเรา ถ้าอย่างนั้นให้ข้าขอถามเจ้าได้มั้ยว่า? ใครคือคนที่แข่งขันประมูลกับงูเหลือมโง่ตัวนั้นก่อนหน้านี้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเขาเอง? เจ้าใช้หินวิญญาณระดับต่ำสามพันก้อนเพื่อซื้องูเหลือมที่กำลังจะตาย ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องงี่เง่า ข้าก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว!”

ซูเทียนหงได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ที่นี่จากผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเช่นกัน แน่นอนว่าเขาได้ยินแต่ส่วนสำคัญของมันเท่านั้น หลังจากที่พบว่าลูกชายของเขาใช้หินวิญญาณระดับต่ำไปสามพันก้อนกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง เขาก็ตกตะลึงอย่างมาก

เขาจำได้ว่าได้ให้หินวิญญาณระดับต่ำเพียงสองพันก้อนสำหรับซูคานในงานนี้

‘เขาทำแบบนี้เพราะความขาดสติยั้งคิดจริง ๆ เหรอ?’

ทางด้านซูคานก็ไม่สามารถอธิบายตัวเองได้เช่นกัน มันเป็นความจริงที่เขาเข้าแข่งขันเสนอราคา มันก็จริงเช่นกันที่เขาใช้หินวิญญาณสามร้อยก้อนกับสัตว์วิเศษที่มีรูปร่างผิดปกติ

แต่มันเป็นไปตามคำแนะนำของหลินจิน

เขาหันกลับไปและเหลือบมองหลินจินซึ่งเป็นสัญญาณของความช่วยเหลือ เขาขอให้หลินจินพูดอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเขา

หลินจินยิ้ม เมื่อตระหนักว่าถึงเวลาของเขาแล้ว เขาจึงก้าวออกมา

เมื่อเห็นหลินจิน รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของซูเทียนหง ในทันที โดยไม่รอให้หลินจินพูด เขาเข้าไปทักทายเขาด้วยการคำนับ

“ผู้ประเมินหลิน! แปลกใจมากที่ได้พบท่านที่นี่!”

“ท่านซู! ข้าก็ดีใจที่ได้พบท่านเช่นกัน!” หลินจินทักทายกลับ

ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ตกตะลึงและรู้สึกตกใจ แม้จะดูเหมือนเป็นการทักทายแลกเปลี่ยนธรรมดา แต่ก็มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าเบื้องหลังคำพูดของพวกเขา

เห็นได้ชัดว่าซูเทียนหงให้ความเคารพหลินจินอย่างมาก เนื่องจากเขาเป็นฝ่ายทักทายผู้ประเมินหลินก่อน

แต่ปัญหาก็คือในฐานะผู้นำตระกูลซู ซูเทียนหงมีสถานะที่โดดเด่น คนที่เขาจะปฏิบัติด้วยเกียรติเช่นนั้นจะต้องเป็นคนที่เขาประทับใจจริง ๆ

ซูเทียนหลี่และคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงและสับสน พวกเขาไม่เหมือนซูเทียนหงที่ได้เห็น 'ความสามารถ' ของหลินจิน เมื่อเช้านี้

แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถบอกได้ ซูเทียนหงก็รู้สึกว่าหวังจีที่หลุดจากตำแหน่งเป็นเพราะหลินจินตัดสินใจที่จะโจมตีกลับ นอกจากนี้ หลินจินยังผ่านการสอบประเมินสัตว์วิเศษระดับหนึ่งและการสอบระดับสองในวันเดียว เมื่อพิจารณาถึงอายุของเขาแล้ว อนาคตของชายผู้นี้ก็ไร้ขีดจำกัด ตระกูลซูอาจต้องขอความช่วยเหลือจากเขาในอนาคต ดังนั้นเขาจึงต้องสุภาพต่อชายหนุ่ม

ซูเทียนหงเป็นคนที่มองการณ์ไกลอย่างไม่น่าเชื่อ มิฉะนั้น เขาจะไม่สามารถเป็นผู้นำของตระกูลซูได้

“ท่านซู ข้าเป็นคนขอให้ซูคานแข่งขันในการประมูลเอง” หลินจินแบกรับความรับผิดชอบสำหรับเรื่องนี้ นี่เป็นความตั้งใจของเขามาตั้งแต่ต้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปกบังเรื่องนี้

ทางด้านฝูงชน พวกเขาคาดว่าซูเทียนหงจะแสดงความไม่พอใจและความสงสัยเวลาเดียวกัน ปฏิกิริยาของพวกเขากลับทำให้เขาต้องอ้าปากค้าง

ซูเทียนหงหัวเราะออกมาดัง ๆ ก่อนที่จะหันไปสั่งพ่อบ้านของเขาว่า

“ถอนเงินเพิ่มเติมจากคลังของตระกูล แล้วแปลงเป็นหินวิญญาณและนำพวกเขามาที่นี่ทันที”

หลังจากสั่งการเสร็จ เขาก็หันกลับมาหาหลินจิน “ผู้ประเมินหลิน ท่านมีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินใจว่าจะจัดหาสัตว์วิเศษตัวใดให้ตระกูลของเรา หากมีหินวิญญาณไม่เพียงพอ ข้าสามารถหาเงินมาเพิ่มให้ท่านได้”

บรรดาผู้ที่คุ้นเคยกับซูเทียนหงเป็นอย่างดี ต่างอ้าปากค้าง

‘ซูเทียนหงบ้าไปแล้วเหรอ?’

ไม่เพียงแต่เขาไม่โทษหลินจินที่สั่งซูคานให้ใช้หินวิญญาณสามพันก้อนกับงูเหลือมที่มีข้อบกพร่อง เขายังดูไม่สงสัยในการตัดสินใจของเขาเลย ราวกับว่ายังไม่เพียงพอ เขายังมีคนส่งหินวิญญาณมาเพิ่มอีกและปล่อยให้หลินจินเข้าควบคุมกระบวนการจัดซื้อสัตว์วิเศษ

นี่ยังคงเป็นซูเทียนหงที่โด่งดังจากความรอบคอบและความสงบของเขาหรือไม่?

ซูเทียนหลี่เป็นคนแรกที่ฟาดฟัน

“ท่านพี่ ทำไมท่านตามใจคานเอ๋อร์? เจ้าเด็กเหลือขอหลินคนนี้ยังเด็กมาก เขารู้อะไรเกี่ยวกับการประเมินสัตว์วิเศษบ้าง? จริงสิ ข้ายังไม่ได้แนะนำท่านให้รู้จักกับชายคนนี้ ข้าได้ใช้เงินไปพอสมควรในการจ้างอาจารย์เหลียวหลังจากพยายามติดต่อกับเขาอย่างยากลำบาก อาจารย์เหลียวก็ได้ปรากฏตัวที่นี่ เราไม่ต้องการให้ใครอื่นมาเกี่ยวข้องในการจัดหาสัตว์วิเศษของตระกูลเรา” ซูเทียนหลี่กล่าว

ซูเทียนหงเหลือบมองอาจารย์ที่มีท่าทางหยิ่งยโส เขายกมือขึ้นคำนับทักทาย จากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ

อาจารย์เหลียวผู้โอ้อวดนี้ไม่อาจทนได้อีกต่อไป

เห็นได้ชัดว่าซูเทียนหงมองว่าเด็กเหลือขอหลินมีความสามารถมากกว่าเขา หากข่าวลือของเขาหลุดออกไป เขาจะต้องอับอายไปตลอดชีวิต

เขาเย้ยหยันทันที “ดูเหมือนว่าท่านซูไม่ไว้วางใจข้า ตอนแรกข้าไม่มีแผนจะมาที่นี่ ถ้าไม่ใช่เพราะคำเชิญที่จริงใจของซูเทียนหลี่ ข้าจะไม่ยื่นมือแม้ว่าข้าจะได้รับภูเขาทองคำก็ตาม”

เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็หันไปหาซูเทียนหลี่ "ท่านซูแค่ท่านพูดออกมาคำเดียวเท่านั้น ถ้าท่านไม่ต้องการข้า ข้าจะออกไปทันที”

ซูเทียนหลี่รีบหยุดเขาจากหลีกตัวออกไป

“ท่านพี่ อาจารย์เหลียวเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในฐานะผู้นำตระกูล ทำไมท่านถึงมีมารยาทแย่ขนาดนี้? ข้าจะแจ้งให้ผู้อาวุโสของตระกูลทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้อย่างแน่นอน มาดูกันว่าท่านจะอธิบายตัวเองอย่างไรหลังจากนี้!”

จากนั้น ซูเทียนหลี่ก็นึกถึงการเดิมพันของพวกเขา เขาคิดแผนอย่างรวดเร็ว เขาพูดถึงการพนันของพวกเขาและเสริมว่า “ความสามารถอย่างแท้จริงยังไม่ถูกเปิดเผย เราสามารถตัดสินได้จากสิ่งที่เราซื้อในภายหลังและเมื่อถึงเวลานั้น เราจะได้เห็นว่าใครคือผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง”

การประมูลรอบที่สามได้เริ่มต้นขึ้นแล้วและมีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่จำนวนมากถูกนำออกมาแสดง

ซูเทียนหลี่เยาะเย้ยก่อนจะออกไปกับอาจารย์เหลียวเพื่อเก็บสัตว์เลี้ยงต่อไป พวกเขาจะทำลายศักดิ์ศรีของซูเทียนหงให้สิ้นซากในวันนี้

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ซูเทียนหลี่รู้สึกยินดีที่ซูเทียนหงปรากฏตัวขึ้น นั่นหมายถึงว่าความผิดทั้งหมดจะตกอยู่บนบ่าของเขาหากเขาทำผิดพลาดซึ่งเขารู้สึกว่ามันต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอนแล้ว เมื่ออาจารย์เหลียวมีชัยเหนือเจ้าหนูหลิน ชะตากรรมของซูเทียนหงจะถูกผนึกไว้ เขาจะต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดนี้ในการมอบความไว้วางใจให้กับคนผิด

จากนั้นเขาต้องดึงเชือกเพียงไม่กี่เส้นเท่านั้นและนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ซูเทียนหงหายใจไม่ออก

“อาจารย์เหลียว ข้าต้องหวังพึ่งท่านแล้ว” ซูเทียนหลี่กล่าว

อาจารย์เหลียวมั่นใจ “ไม่ต้องเป็นห่วงท่านซู ด้วยงูเหลือมที่พวกเขาซื้อมา พวกเขาได้ถูกลิขิตให้แพ้แล้ว”

ในทางกลับกันซูเทียนหงแสดงความไว้วางใจอย่างสมบูรณ์กับหลินจิน

แม้ว่าวันนี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับหลินจินแต่ซูเทียนหงเป็นคนกล้าหาญและเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของเขา

ในรอบที่สาม หลินจินวนเวียนอยู่ในห้องโถงประมูลแต่ไม่ได้ทำอะไรเลย

เหตุผลของเขานั้นเรียบง่ายมาก สัตว์ที่ถูกประมูลในรอบที่สามมีราคาแพงทั้งหมด แม้แต่อันที่ถูกที่สุดก็ยังมีราคาอยู่ที่หินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งพันก้อน ราคาของสัตว์วิเศษบางตัวต้องใช้หินวิญญาณระดับกลางด้วย

จะต้องมีผู้คนจำนวนมากแข่งขันกันในการประมูล ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาสนใจแต่ราคาของมันก็สูงเกินกว่าจะรับไหว

และที่สำคัญที่สุด จากมุมมองของหลินจิน สัตว์วิเศษเหล่านี้ในรอบที่แล้วไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับงูเหลือมที่เขาให้ซูคานซื้อก่อนหน้านี้ได้เลย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรในรอบที่สาม

ในขณะเดียวกัน ซูเทียนหลี่ใช้หินวิญญาณระดับต่ำห้าพันก้อนเพื่อซื้อสิงโตเขาแหลม การแข่งขันประมูลสัตว์วิเศษตัวนี้นั้นดุเดือดมากเพราะสัตว์วิเศษตัวนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นสายพันธุ์หายากและมีสายเลือดที่ซ่อนอยู่และมีอัตราที่เป็นไปได้ที่น่าทึ่ง

ในตอนท้ายของการประมูล ซูเทียนหลี่และอาจารย์เหลียวมีสัตว์เลี้ยงสามตัว ในขณะที่ซูคานและหลินจินมีเพียงแค่งูเหลือมแค่ตัวเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด