CD บทที่ 64 นักต้มตุ๋นโดนโกง
“หัวหน้า รายงานคดีไปที่สถานีเลย!” จ้าวหยู่ถือโทรศัพท์พัง ๆ พร้อมตะโกนใส่ไปในโทรศัพท์นั่นเพื่อหลอกกลุ่มนักต้มตุ๋นทั้ง 3 คน ที่กำลังถูกจับเอาไว้ “ชายทั้ง 3 คน ถูกจับตัวได้แล้ว ส่งกำลังเสริมมาได้เลย! ใช่แล้ว…ระหว่างจับกุม คนร้ายได้ตอบโต้กับทางตำรวจด้วยความรุนแรงจนก่อให้เกิดการทำร้ายเจ้าหน้าที่พนักงานด้วย ทั้งตัวฉันและหัวหน้าต่างก็ได้รับอันตรายด้วยกันทั้งคู่ ส่งรถพยาบาลมาด้วย!”
คำพูดของจ้าวหยู่ดูเหมือนกับพวกละครหลังข่าวมากเกินไป จนทำให้ชายทั้ง 3 คนไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นตราตำรวจที่จ้าวหยู่แสดงให้ดูพร้อมกับชุดเครื่องแบบของคูปิงที่นำออกมาจากตัวรถ ทั้ง 3 ก็ไร้ข้อกังขาเกี่ยวกับตัวตนของทั้งคู่อีกต่อไป
“คุณตำรวจ!” คนอ้วนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มเอ่ยเรียกจ้าวหยู่ด้วยสีหน้าตื่นกลัว “คุณต่างหากที่ทำร้ายเรา! พวกเราทั้งหมดก็เห็น! เราไม่ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยแม้แต่นิด!”
*พลัวะ!*
ชายอ้วนยังไม่ทันจะพูดจบ จ้าวหยู่ก็ตีเข้าไปที่ท้ายทอยของเขาเข้าอย่างแรง
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว!” จ้าวหยู่ตะโกนใส่ “พวกแกเพิ่งจะทำร้ายทั้งหัวหน้าและตัวฉันจนเกือบจะได้รับความบาดเจ็บแล้ว! ฉันจะบอกอะไรให้นะ หัวหน้าของพวกเราน่ะเป็นทั้งเบาหวาน ความดัน แล้วก็หัวใจอีกต่างหาก เธอสามารถเป็นลมหน้ามืดล้มไปตอนไหนก็ได้ทุกเมื่อ! เพราะฉะนั้นก็หุบปากไปซะ แล้วเราจะได้รู้ผลกันเมื่อตอนไปทำ MRI ที่โรงพยาบาลไง พวกแกนี่นะกล้าดียังไงมาทำร้ายตำรวจ กล้าดีได้ยังไงมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำร้ายเจ้าหน้าที่”
ทุกครั้งที่จ้าวหยู่พูดว่า ‘ทำร้ายเจ้าหน้าที่’ เขาจะตบไปที่ใบหน้าของคนอ้วนด้วยทุกครั้ง แม้จะเป็นการตบที่ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่ก็ทำให้หน้าของคนอ้วนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงไปได้
“ทำไมคุณทำกับพวกเราแบบนี้” คนอ้วนพูดขึ้นพร้อมกับขบฟันไปมา “พวกเราไม่ได้ทำร้ายใครจริง ๆ! มีแต่คุณคนเดียวที่ทำร้ายประชาชนที่บริสุทธิ์อย่างพวกเรา!”
*พลัวะ!*
จ้าวหยู่ไม่ได้ตบไปที่ชายคนนั้นแต่เขาเลือกที่จะเตะแทน จ้าวหยู่เตะเขามากกว่า 10 ครั้งได้ ก่อนที่เขาจะร้องอ้อนวอนขอชีวิตให้จ้าวหยู่หยุดทำร้ายสักที เมื่อเห็นความดุร้ายที่จ้าวหยู่ ชายชุดกีฬาและคนผอมต่างก็ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักนิด แม้จะแหงนหน้ามอง พวกเขาก็ไม่กล้า
“ทำไมพวกแกถึงได้ดื้อรั้นกันขนาดนี้นะ!” จ้าวหยู่ก้มหน้าลงไปพูดกับคนอ้วนต่ออีกว่า “เดี๋ยวฉันจะอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ให้ ตั้งใจฟังให้ดี! ตัวฉันกับหัวหน้ากำลังตามตัวฆาตกรที่หลบหนีไปอยู่ ซึ่งมีด้วยกัน 3 คน และทั้ง 3 คนนั้นก็ปรากฏตัวออกมาพอดีพร้อมกับทำการขัดขวางการจับกุมอีกด้วย หลักจากนั้นพวกแกก็ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีกลับของพวกเรา…” จ้าวหยู่ลูบหลังชายคนอ้วนไปมาจนเขาเริ่มขนลุกไปด้วยความกลัว “ไม่พูดอะไรกันสักหน่อยเลยเหรอ ดูท่าก็น่าจะรู้กฎหมายกันดี คงไม่ต้องไปพูดถึงความเป็นไปได้ที่พวกแกเป็นจะเป็นพวกสมรู้ร่วมคิดกันการวางแผนนี้หรอก
อย่างแรก พวกแกต้องได้รับโทษจากการขัดขวางการทำงานและพยายามข่มขู่เจ้าพนักงานซะก่อน แน่นอนว่าสามารถไปหาทแกมาช่วยยื่นอุทธรณ์และไม่ต้องเข้าไปนอนในคุกก็ได้ แต่หัวหน้าของเราอาการหัวใจกำเริบเข้าแล้วนี่สิ…เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จะบอกได้ว่านี่คือการทำร้ายเจ้าหน้าที่!”
หลังจากได้ฟังสิ่งที่จ้าวหยู่พูดออกมาทั้ง 3 คน ต่างก็ตกตะลึงไปพร้อม ๆ กัน ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจวิธีการตลบหลังใครบางคนได้ทันที! ทั้ง 3 ต่างก็เป็นแค่พวกต้มตุ๋นไม่มีภูมิหลังอะไรอยู่แล้ว แค่รีดไถคนอื่นไปวัน ๆ พวกเขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับคนที่มีอิทธิพลมากกว่าตนเองได้อย่างไร
คนอ้วนที่ใบหน้าเริ่มมีอาการบวมก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าและเริ่มพูดอ้อนวอนในทันที “พี่ชาย! พวกเราผิดไปแล้ว ปล่อยพวกเราไปเถอะ สัญญาว่าพวกเราจะไม่ทำมันอีก!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จ้าวหยู่ก็หันหน้าไปทางคูปิงที่ตอนนี้กำลังอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
คูปิงคิดว่าจ้าวหยู่น่าจะพอใจและยินยอมปล่อยทั้ง 3 คนไป แต่เธอไม่คาดคิดมาก่อน ว่าจ้าวหยู่จะยกมือตัวเองขึ้นและตบไปที่ใบหน้าของคนอ้วนนั้นอย่างเต็มแรงไปอีกที! ตบนี้หนักกว่าครั้งไหน ๆ มาก จนสามารถทำให้ชายร่างใหญ่เกือบหมดสติในทันที
“กรี๊ด!” คูปิงช็อคและพยายามที่จะหยุดเขา
จ้าวหยู่ไม่สนใจ เขาจับมือชายคนอ้วนข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งก็จับที่มือชายชุดนักกีฬาจากนั้นก็ลากพวกเขาทั้ง 2 ไปยังหน้ารถซูบารุ แล้วก็ตะโกนออกมาว่า
“คิดว่าฉันจะยอมจบเหรอ? จบเรื่องเหี้ยที่พวกแกทำอะนะ?” จ้าวหยู่ชี้ไปที่กันชนหน้ารถ “เห็นนี่ไหม? พวกแกทำรถของรุ่นพี่เป็นรอยเลยเนี่ย! รถใหม่เลยนะเว้ย เราควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไงกันดี?”
“เอ๋?!” ชายชุดกีฬาดวงตาเบิกกว้างไปในทันที เขาพยายามอธิบายอย่างร้อนรนว่า “พี่ชาย มันไม่ได้เสียหายอะไรเลยสักนิด แม้แต่รอยขีดข่วนอะไรก็ไม่มี…”
แม้ว่าพวกเขาจะโกหกว่าถูกรถชนก็ตาม แต่สีก็ไม่ได้หลุดลอกออกมาแต่อย่างใด ร่องรอยการชนอะไรก็ไม่มี!
“เฮ้ย!” จ้าวหยู่ยกขาเขาขึ้นและเตะเข้าไปที่ตัวของชายชุดกีฬาสักที จากนั้นก็กระชากผมของคนอ้วนแล้วกดหัวลงไปบนกันชน “สายตาพวกแกเป็นอะไรไป ไม่เห็นรอยนี่หรือไง? รอยใหญ่ตั้งขนาดนี้! จะหนีไม่จ่ายใช่ไหม?”
“ไม่ครับไม่! พวกเราจะจ่ายให้แน่นอนครับ” คนอ้วนพูดด้วยความกลัวพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมา...
ในที่สุดจ้าวหยู่ก็ปล่อยพวกนั้นเป็นอิสระไปสักที สำหรับคูปิงแล้ว เธอไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดได้เลย เธอไม่สามารถคิดได้ว่าจ้าวหยู่จะจัดการกับพวกต้มตุ๋นด้วยวิธีแบบนี้ได้!
ล้อรถซูบารุสีขาวออกหมุนอีกครั้ง จ้าวหยู่ให้เงิน 2,000 หยวนที่ได้จากพวกต้มตุ๋นแก่คูปิงและมอบบทเรียนให้พวกนั้นกลับไป 2,000 หยวนคือเงินที่พวกนั้นร้องขอแต่กลับกลายเป็นว่าต้องมาเสียเงินนั้นให้แก่เขาแทน อย่างไรก็ตาม คูปิงไม่เคยได้รับเงินด้วยวิธีการแบบนี้มาก่อน เธอเลยเลือกที่จะปฏิเสธเงินนั้นไป
“ไม่เป็นไร!” จ้าวหยู่รู้ดีว่าเธอคงไม่มีทางรับเงินนี้แน่นอน เขาเลยหย่อนมันลงไปในกระเป๋าเสื้อของเขาแทน “ถ้าคุณไม่อยากได้เงินนี่ งั้นพวกเราก็เอาเงินไปดื่มกันสักวันก็แล้วกัน! เตรียมตัวไว้ได้เลย”
คูปิงพยักหน้ารับแบบไม่ใส่ใจ แต่ก็ส่ายหัวปฏิเสธไปในเวลาต่อมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ ตอนนี้จิตใจเธอกำลังว้าวุ่นเป็นอย่างมาก ใจหนึ่งเธอก็อยากหยุดพฤติกรรมอันป่าเถื่อนแบบนี้ของจ้าวหยู่ แต่อีกใจเธอเองก็ต้องยอมรับว่าวิธีการใช้ความรุนแรงต่อกรกับความรุนแรงนั้นก็ได้ผลไม่น้อยเช่นกัน
“หัวหน้าทีม” ดูเหมือนว่าจ้าวหยู่จะคาดเดาสิ่งที่อยู่ในใจของเธอได้เลยเริ่มพูดกับเธอว่า “ที่จริงแล้วทุกอย่างก็มีเหตุผลอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ตัวดีว่าขอบเขตของมันอยู่ที่ไหน”
เมื่อไปถึงถนนชุนเฟิง จ้าวหยู่ก็ตรงเข้าไปที่ธนาคารเพื่อจัดการกับเรื่องเงินในทันที ทั้งเงินที่เขาได้มาจากเชาเจียหยิงและเงินที่ได้จากนักต้มตุ๋นนั้นอีก รวม ๆ แล้วเขามีเงินเป็น 100,000 หยวน เขาไม่คิดมาก่อนว่าแค่ไม่กี่วันตัวเองก็จะสามารถกลายมาเป็นคนรวยได้ในชั่วพริบตาอย่างนี้
นอกเหนือจากความโชคดีจ้าวหยู่ก็อดนึกถึงระบบปาฏิหาริย์ไม่ได้ ผลพวงจากการได้เงินทั้งหมดนี้มาจากระบบหรือเปล่า?และเมื่อเขาได้มองไปที่สมุดบันทึกของตัวเอง ก็พบกับสิ่งที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจ!