CD บทที่ 63 ทำอะไรได้อีก?
แม้ว่าจ้าวหยู่จะคุ้นเคยกับสิ่งที่นักต้มตุ๋นคนนี้กำลังทำเป็นอย่างดีก็จริง แต่เขาไม่เคยลงมือทำด้วยตัวเองแบบนี้มาก่อน ในสายของกลุ่มคนขอเงินหรือรีดไถเงิน มักถูกมองว่าการหลอกเอาเงินชดเชยถือเป็นการรีดไถนั้นเป็นพวกไม่มีชั้นเชิง พวกเขามักจะโดนดูถูกดูแคลนอยู่ตลอด แต่กลุ่มคนเหล่านั้นก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด
ปกติกลุ่มนักต้มตุ๋นจะมีเป็นกลุ่มเป็นแก๊งของตัวเอง แต่จะไม่ได้มีใครหนุนหลังให้แบบพวกอื่น ๆ คนเหล่านี้มักจะเปลี่ยนที่อยู่ไปมา หยิบฉวยโอกาสอะไรได้ก็จะคว้าเอาไว้ พอได้สมใจก็จะย้ายหนีไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่อยู่ชัดเจน คนเหล่านี้มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในการต่อรองเป็นอย่างดี
ดูตัวอย่างง่าย ๆ ได้ จากกรณีของคูปิง เธอกำลังถูกนักต้มตุ๋นคนนี้หลอกเหมือนกับว่าเธอขับรถชนเขาเข้าจริง ๆ เนื่องจากมีร่องรอยบาดเจ็บจากการโดนชนอย่างเห็นได้ชัด และไม่ว่าใครจะมองมันยังไงพวกเขาต่างก็เชื่อว่าเธอเป็นคนชน!
ชายคนนี้พยายามแสดงมากจนเกินไป บนร่างกายของเขามีร่องรอยการกระทำที่รุนแรงมากแต่ทว่าตัวเขายังสามารถลุกขึ้นเดินได้ บาดแผลบนหลังของเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชนของคูปิงเลยสักนิด แต่มันเกิดจากการทำร้ายกันเองในกลุ่มต่างหาก! คนพวกนี้ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย
แม้ว่าตอนนี้จ้าวหยู่จะเป็นตำรวจก็จริง แต่เขาก็เคยใช้ชีวิตเป็นพวกอันธพาลมาก่อน มันทำให้เขาอดคิดถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เมื่อเห็นว่าคูปิงกำลังถูกกรรโชกแบบไม่สามารถทำอะไรได้ จ้าวหยู่เลยลองค้นรถคูปิงดูเผื่อจะพบกุญแจมือหรืออุปกรณ์อะไรบ้าง แต่รถคูปิงกลับไม่มีอะไรเลยสักอย่าง เขาทำได้แค่เพียงกำมือลงจากรถไปอย่างว่างเปล่า
ณ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงเกือบ ๆ จะบ่ายโมงเข้าให้แล้ว นอกเหนือจากรถยนต์ที่สัญจรไปมาพอประมาณก็ไม่มีใครอยู่ตรงถนนเส้นนี้เลยสักคน เมื่อมองดูรอบ ๆ จ้าวหยู่ก็พบว่าอีกฟากหนึ่งของถนนมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ที่เลนขับจักรยาน มีชายอ้วนผอม 2 คน กำลังนั่งอยู่บนรถนั้นแล้วมองมาที่เหตุการณ์ตรงนี้ ไม่บอกก็รู้ว่าต้องเป็นพวกเดียวกันแน่ ๆ
“คุณบอกว่าจะเอาแค่เงินเล็กน้อยเท่านั้นเหรอคะ?” หลังจากบทสนทนาที่เธอไม่สามารถไปต่อได้ คูปิงยอมแพ้และเริ่มต่อรองตามที่ชายคนนี้เรียกร้อง
“อะไรกันเนี่ย เชื่อใจกันสิคุณตำรวจ ฉันเองก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมายสักหน่อย คุณอยากทำอะไรก็ทำเลย เอ้า!” ชายในชุดกีฬากำลังทำการต่อรองโดยไร้ซึ่งความกลัวใด ๆ “แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมเป็นโรคหัวใจอยู่ ถ้าคุณพาผมไปที่โรงพักจริง ผมคงเกิดอาการช็อคหัวใจวายที่หน้าประตูนั่นก็ได้”
ขณะที่เขากำลังพูดจาข่มขู่คูปิงอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาและพบกับชายคนหนึ่งที่กำลังก้าวออกจากรถและเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าเขาชายต้มตุ๋นไม่คิดมาก่อนว่าจะมีคนอื่นนั่งอยู่ในรถมาด้วย เขาทำได้แต่คิดภายในใจว่า
‘ทำไมคนที่นั่งอยู่ในรถไม่ยอมลงมาแต่แรกด้วยกัน?’ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเวลามากพอให้เขาได้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ จากการที่จ้าวหยู่จะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา โชคชะตาของเขาก็ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้วเรียบร้อย!
จ้าวหยู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเพียงแต่ดันคูปิงออกไปด้านข้างด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ตบเข้าไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
*เพี๊ยะ!*
เสียงจากการตบดังพอที่จะก้องไปทั่วถนนตรงนี้
“โอ๊ย!!” ชายในชุดกีฬาตกอยู่ในการตกใจในทันที “นี่แก! กล้าดียังไงมาตบหน้าคนอื่นแบบนี้!”
*เพี๊ยะ!*
การตบครั้งที่ 2 ตามมาติด ๆ ในทันที แม้ว่าเขาจะพยายามยกมือมาป้องกันไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังโดนแรงตบกระแทกไปตามด้านข้างอยู่ดี ความเจ็บค่อย ๆ แทรกซึมไปช้า ๆ พร้อมกับเลือดที่ค่อย ๆ ไหลออกจากปาก ชายชุดกีฬากำลังงุนงง เขาพยามที่จะต่อสู้กลับแต่จ้าวหยู่ก็คว้าคอเสื้อเอาไว้ได้เสียก่อน
*เพี๊ยะ!*
จากการตบครั้งที่ 3 ส่งผลให้ชายในชุดกีฬาร่วงลงพื้นไปในทันที มีฟัน 4 – 5 ซี่ กระเด็นออกจากปากตามมา
“จ้าวหยู่!”
แม้ว่าคูปิงจะถูกขู่กรรโชกแต่ยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ เธอไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่รุนแรงที่เขากำลังทำ เธอรีบเข้าไปคว้ามือจ้าวหยู่เพื่อหยุดเขาเอาไว้ เพื่อนคู่หู 2 คนที่พอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็รีบส่งเสียงตะโกนและรีบวิ่งมาตรงนี้อย่างร้อนรน
จ้าวหยู่จ้าวหยู่ถอนหายใจพลางถามคูปิงอย่างใจเย็นว่า “หัวหน้าทีม คุณได้เอากุญแจมือมาหรือเปล่า?”
คูปิงประหลาดใจกับคำถามเลยตอบออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว “ไม่มี! วันนี้ฉันไม่ได้เอามัน”
“แล้วนี่ล่ะ?” จ้าวหยู่ทำมือเป็นรูปปืนเพื่อจะถามเธอว่าได้เอามันมาด้วยไหม
คูปิงส่ายหัว เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้จะไปสืบสวนอะไรใคร ทำไมเธอถึงต้องพกมันด้วย?
จ้าวหยู่ถอนหายใจและส่ายหัวด้วยความผิดหวัง “ช่างเถอะ! ไปยืนหลบอยู่ข้าง ๆ นู่นไป”
ขณะที่เขาพูดอยู่ ชายอ้วนผอม 2 คนนั้นก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าจ้าวหยู่พอดี คนอ้วนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงข่มขู่ว่า
“เฮ้ย! แกอยากตายหรือไง?”
ยังไม่ทันที่คนอ้วนจะได้พูดจนจบ จ้าวหยู่ก็คว้าคอเสื้อของเขาไว้ซะก่อนแล้ว พร้อมกับเพิ่มแรงอีกนิดหน่อย จ้าวหยู่ก็สามารถก็ยกคนอ้วนขึ้นลอยในอากาศทันที เขาโยนคนอ้วนออกไปด้านข้างจนไปกระแทกเข้ากับรั้วเหล็กข้างถนนจนเกิดเสียงดัง ชายคนอ้วนพยายามป้องกันแต่ใบหน้าเขาก็กระแทกลงพื้นดินไปซะก่อน ทำให้ฝุ่นละอองกระจัดกระจายขึ้นมาในทันทีที่เขากระแทกลงไป
“นี่แก!” เมื่อคนผอมยกมือขึ้นกะจะเข้าไปทพร้ายจ้าวหยู่กลับ แต่เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตรงหน้าก็กลัวจนไม่กล้าทำอะไรจ้าวหยู่เลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิดแต่จ้าวหยู่ก็ไม่ได้สนใจ ด้วยทั้งสองมือของจ้าวหยู่ เขาคว้าไปที่คอเสื้อของคนผอมแล้วก็ยกขึ้นลอยไปในกลางอากาศเหมือนกัน แล้วก็โยนไปที่ถังขยะข้าง ๆ ถนน ถังขยะที่ไม่สามารถรับน้ำหนักคนไว้ได้ก็ล้มกลิ้งลงไปเหมือนกับพินโบว์ลิ่ง คนผอมกลิ้งไปมาจนสุดท้ายก็กลิ้งกลับมาหยุดอยู่ที่เท้าของจ้าวหยู่ ภายในไม่กี่วินาทีสั้น ๆ ทั้ง 3 คนต่างถูกจ้าวหยู่เล่นจนสภาพไม่เหลือชิ้นดี
จ้าวหยู่สังเกตเห็นว่าชายในชุดกีฬาที่สูญเสียฟันไปพยายามจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จ้าวหยู่ยกร่างชายคนนั้นขึ้นมาพร้อมกับโยนไปด้านข้างจนกระแทกเข้ากับเสาโทรศัพท์ เสียงร้องราวกับสัตว์ที่กำลังได้รับบาดเจ็บถูกเปล่งออกมาในทันที พร้อมกับร่างที่ค่อย ๆ ตกลงสู่พื้นอย่างสมบูรณ์แบบ
“นี่มัน…” เวลานี้คูปิงรู้สึกกลัวจ้าวหยู่ขึ้นมาจริง ๆ เธอพยายามขยับไปข้างหน้าเพื่อหยุดการกระทำของเขา แต่จ้าวหยู่ก็โบกมือกลับมาพร้อมบอกให้เธอยืนอยู่ที่เดิม แล้วแกล้งทำหน้าที่เป็นตำรวจว่า
“คนร้ายทั้ง 3 คนสามารถถูกยับยั้งได้สำเร็จ เราได้ลงมือจับกุมและปิดคดีนี้ได้เลย!”
“เอ๋…” สมองของคูปิงเริ่มอยู่ในสภายุ่งเหยิงเกินกว่าจะตั้งสติได้ เลยทำให้เธอหลุดใช้ภาษาอังกฤษแทน “What?”
“ก็ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมไง” จ้าวหยู่แกล้งทำเป็นเสียงเข้มพร้อมตะโกนรายงานคดี แก๊งต้มตุ๋นทั้ง 3 คนถูกจับเอามาไว้ที่เดียวกันพร้อมล็อกกับแขนไว้ด้านหลัง “เอาล่ะ ฟังให้ดี พวกคุณทั้ง 3 คนถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมและหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ!” จ้าวหยู่พูดพร้อมดึงตราตำรวจออกมาแสดง “พวกคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด เพราะทุกคำที่คุณพูดออกมา…อาจใช้เป็น…” จ้าวหยู่ยกหัวขึ้นมามองไปทางคูปิง “เป็นอะไรนะ?”
คูปิงยังคงตกตะลึงและสับสนอยู่ เธอเลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“อะไรก็ก็ช่าง!” จ้าวหยู่ตีไปที่ข้อมือของชายคนอ้วนเข้าอีกที “โอ้ ใช่ แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งกระทงอีกคือโกหกเจ้าหน้าที่พนักงาน กล้าทำแบบนี้กันได้ยังไงนะ ให้ตายสิ อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะรู้กันไว้บ้างว่าโกหกตำรวจน่ะโทษอย่างน้อยนี่อาจติดคุกถึง 3 ปี เลยก็ได้นะ! ฮ่าฮ่า เอาล่ะ! พวกเราไปที่สถานีตำรวจกันเถอะ!”