ตอนที่แล้วCD บทที่ 57 สัมผัสแห่งอิสระ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 59 ประสบการณ์อันตึงเครียดในการตบตา

CD บทที่ 58 คุณพ่อผู้มีหลายบุคลิก


*บรื้น!!*

รถยนต์ BMW ได้ขับออกไปจากบริเวณหน้าร้านผลไม้เจียงต้าเฟิงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่เพียงจ้าวหยู่ที่ยังยืนนิ่งไม่ขยับตัวไปไหน

เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เธอได้ตอบสนองต่อความเจ้าชู้ของจ้าวหยู่กลับไปอย่างนิ่มนวลว่า

“ขอโทษที พอดีฉันไม่ได้พกอุปกรณ์ติดตัวมาด้วยน่ะ”

แม้ว่าเธอจะปฏิเสธออกไปอย่างชัดเจนแต่ทว่าน้ำเสียงของเธอช่างอ่อนโยนและดูสุภาพมากเสียเหลือเกิน

จ้าวหยู่ไม่ได้รู้สึกผิดหวังแต่อย่างใด ในทางกลับกัน เขายิ่งสนใจในตัวหวังเฟ่ยมากขึ้นไปอีก แม้ว่าเธอจะดูน่ารักและมีเสน่ห์มากเพียงใดแต่เธอก็ไม่ได้ง่าย ๆ อย่างที่จ้าวหยู่เคยคิดเอาไว้ ยิ่งยากเท่าไหร่ เขากลับรู้สึกยิ่งท้าทายมากขึ้นเท่านั้น

เขานึกย้อนตอนที่อยู่ในสุสานที่เกิดไม่คาดฝันระหว่างเขากับหวังเฟ่ย ยิ่งทำให้เขารู้สึกอิ่บเอมใจ เขาเริ่มร้องเพลงคลอกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่กำลังก้าวเท้าขึ้นไปยังชั้นบน อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะหยิบกุญแจออกมาเพื่อเตรียมไขประตูเข้าห้องนั้น จู่ ๆ เขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเขาเห็นว่าเจียงเสี่ยวเฉินกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าประตูนั่น!

จ้าวหยู่หยุดเท้าลงโดยอัตโนมัติในทันที เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะเดินหน้าต่อไปหรือถอยหลังกลับออกไปก่อนดี หลังจากที่เขาสามารถปิดคดีลงไปได้ เขาก็กลับมาคิดเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวเฉินขึ้นมาอย่างจริงจัง เขาไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าเขากำลังกลัวอะไร แต่เมื่อเขามองดูเด็กสาวคนนี้ทีไร หน้าผากของเขาจะค่อย ๆ มีเหงื่อซึมออกมาทุกที!

หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนดูแล้ว ในที่สุดจ้าวหยู่ก็สามารถหาคำตอบของคำถามเมื่อกี๊ได้นั่นก็เพราะว่าเสี่ยวเฉินคือบุคคลสำคัญกับเขามากยังไงล่ะ!

ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของจ้าวหยู่มักจะคลุกคลีกับพวกอันธพาลและคนอันตราย ๆ อยู่เสมอ ถ้าเสี่ยวเฉินเป็นเด็กเกเรหรือกระทำผิดอะไรมาก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จ้าวหยู่จะลงมือจัดการเธอไปซะแต่เสี่ยวเฉินไม่ใช่เด็กแบบนั้น

เธอเป็นเด็กเรียนดีอันดับ 1 ของโรงเรียน เธอเก่งทั้งในด้านคุณธรรมและวิชาการต่าง ๆ อนาคตที่สดใสกำลังรอตอบรับเธออยู่อย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม เรื่องคดีมือที่หายไปมีผลกระทบต่อตัวจ้าวหยู่มากเสียเหลือเกิน เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นเสี่ยวเฉิน เขาจะคิดถึงหลี่ดันตลอด! เพราะหลี่ดันเองก็มีพรสวรรค์ที่มากมายไม่ต่างกับเธอเช่นกัน

เขากลัวว่าเสี่ยวเฉินอาจจะเดินตามรอยของหลี่ดันและมีจุดจบที่เลวร้ายเหมือนกันก็ได้ นอกจากนี้ ตัวจ้าวหยู่เองก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเธอต้องเดินไปสู่เส้นทางนั้นได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นเธอ เขาจะมีอาการตกใจขึ้นมาในทันที ยังไม่ทันที่เสี่ยวเฉินจะได้พูดอะไร ตัวของเขาก็ชาไม่รับรู้อะไรไปเสียแล้ว

“คุณจ้าวหยู่!! คุณสนุกมามากพอแล้วหรือยัง!” เสี่ยวเฉินหยิบแอปเปิ้ลลูกหนึ่งขึ้นมากัด เธอพูดพร้อมกับเคี้ยวแอปเปิ้ลว่า “ทำไมคุณถึงตามหาตัวได้ยากอย่างนี้กันนะ!”

“อะ…อะไรนะ!” จ้าวหยู่ตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกัก “ก็ฉันมีคดีใหญ่ให้ต้องทำไง แล้วมันก็จบสิ้นลงแล้ว เอาล่ะ! เรามาคุยเรื่องของเรากันเลยเถอะ!”

“หนูรู้ว่าคดีที่ว่า มันคือคดีมือที่หายไป ถูกต้องไหม?” เสี่ยวเฉินกล่าว

“ใช่แล้ว…” จ้าวหยู่ประหลาดใจ “นี่เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?”

“คุณเป็นนักสืบนี่ ก็ลองคิดดูเอาเองสิ!” เสี่ยวเฉินตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณรู้ใช่ไหมว่าทำไมหนูถึงต้องมาหาคุณดึกดื่นแบบนี้”

จ้าวหยู่พยักหน้ารับ มันจะเป็นเรื่องอะไรได้อีก นอกจากเรื่องความวุ่นวายที่เขาไปสร้างทิ้งเอาไว้ที่โรงเรียน

“หนูไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่!” เสี่ยวเฉินเริ่มตะโกนด้วยความโกรธด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนักเพราะเธอกลัวว่าพ่อที่นอนอยู่ชั้นล่างจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน “คุณไปสร้างเรื่องไว้ตั้งขนาดนั้นที่โรงเรียนได้ยังไงกัน!”

“เอ่อ…คือ…เรื่องนี้ฉันอธิบายได้นะ” จ้าวหยู่เองก็ลดเสียงลงตามด้วยเช่นกัน

“หนูก็แค่อยากช่วยพ่อตัวเองหาเงินเพื่อแบ่งเบาภาระบ้างก็แค่นั้น ทำไมการเป็นลูกสาวที่ดีมันต้องยากถึงขนาดนี้ด้วย?” น้ำเสียงของเสี่ยวเฉินเริ่มเต็มไปอารมณ์มากกว่าเดิม “ถ้าเรื่องของหนูถูกเปิดโปงล่ะก็ หนูจะมีหน้าไปพบคุณครูได้ยังไงกัน? แม่ของหนูก็คงจะเสียใจตามไปด้วย คุณเข้าใจใช่ไหม…”

ในที่สุดเสี่ยวเฉินก็เริ่มร้องไห้ออกมาและเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังจนเกินไป เธอพยายามระงับเสียงร้องของเธอด้วยการทุบไปที่หน้าอกตัวเองเบา ๆ เพื่อให้สงบลง

จ้าวหยู่ไม่คิดว่าเธอจะร้องไห้ออกมาเร็วขนาดนี้ “อย่าร้องไห้สิ โธ่ ฟังจากที่เธอพูดมาแสดงว่ามันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นล่ะสิ ใช่ไหม? เรายังมีโอกาสแก้ตัวกันใหม่อยู่นะ! อย่างแรกเลย เธอต้องบอกสถานการณ์ตอนนี้มาก่อนว่าเป็นยังไง แล้วฉันจะพอช่วยเหลืออะไรได้บ้างโอเคไหม?”

“จริง ๆ นะ?”

เด็กสาวช่างถูกชักจูงได้ง่ายเสียเหลือเกิน ทันทีที่จ้าวหยู่พูดจบ บ่อน้ำตาของเธอก็หยุดลงไปในทันที

“แน่นอนอยู่แล้ว! ก็เราคือพาร์ทเนอร์กันไง!” จ้าวหยู่ทุบไปที่หน้าอกตัวเองเบา ๆ “ธุรกิจของเธอก็คือธุรกิจของฉัน”

“ถ้างั้น!” เสี่ยวเฉินสะบัดคราบน้ำตาออกไปพร้อมกับพูดด้วยน้า เสียงจริงจังว่า “หนูเตรียมการมาแล้วว่าต่อไปนี้เราจะแบ่งกันเป็น 90:10 คุณเอาไปแค่ 10 % ก็พอ!”

‘อะไรนะ!’ จ้าวหยู่คิด

เขากระพริบตาไปมาแล้วก็เข้าใจเรื่องราวได้ในทันที ว่าทั้งหมดก็แค่ทริคหลอก ๆ ของเด็กสาวตรงหน้านี้ก็เท่านั้น!

“ตอนนี้เพื่อนในห้องต่างก็พากันเอาเรื่องที่คุณทำลงไปในวันนั้นลงหนังสือพิมพ์โรงเรียนไม่หยุด พวกเขาเริ่มค้นข้อมูลสร้างความวุ่นวายในโรงเรียนเข้าอีกครั้งแล้วนะรู้ไหม!” เสี่ยวเฉินพูดต่ออีกว่า “ครูประจำชั้นเรียกหนูเข้าไปพบตั้ง 3 ครั้ง! เพราะเขาไม่เชื่อว่าคุณคือพ่อของหนูจริง ๆ”

“ก็ฉันไม่ใช่จริง ๆ นี่น่า…” จ้าวหยู่ตอบอย่างตรงไปตรงมา

“ครูเขาพบแฟ้มข้อมูลที่บอกว่าพ่อของหนูขายผลไม้แต่คุณกลับไปแอบอ้างบอกว่าตัวเองเป็นตำรวจ เพราะฉะนั้น…”

“เฮ้!! หมายความว่าไงกันที่ว่าแอบอ้างน่ะ ฉันเป็นตำรวจจริง ๆ นะ เดี๋ยวเถอะ!” จ้าวหยู่ตอบกลับไปโดยสัญชาตญาณตัวเองทันทีหลังจากได้ยินคำว่า ‘แอบอ้างเป็นตำรวจ’

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ยังไงครูเขาก็โทรมาที่บ้านนี้ 3 ครั้งแล้ว” เสี่ยวเฉินพูดต่อ “แต่เบอร์ที่โทรมาคือของหนูเอง ครูเขาเลยตัดสินใจที่จะมาที่นี่ตอนพรุ่งนี้เช้า! ถ้าครูได้เจอกับพ่อของหนูเข้า คุณก็คงจะรู้นะว่าจะเกิดขึ้น”

“อืม” จ้าวหยู่ขมวดคิ้ว “ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องคิดหาวิธีให้พ่อของเธอออกจากบ้านไปในวันพรุ่งนี้ แล้วฉันก็ต้องอยู่ที่นี่เพื่อไม่ให้ครูของเธอสงสัยสินะ”

“หนูเตรียมการเอาไว้หมดแล้ว!” เสี่ยวเฉินพูดอย่างมั่นใจ “พรุ่งนี้เช้า พ่อจะได้รับข้อความจากโรงพยาบาลเรื่องบิลรักษา ว่าบิลนั่นถูกเอาไปเสี่ยงโชคจนได้รับรางวัล แล้วเขาก็จะต้องไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับรางวัลนั่นซะ!”

“อะไรนะ?…ฮ่า ๆ” จ้าวหยู่ไม่สามารถคุมเสียงหัวเราะตัวเองเอาไว้ได้เลยหลังจากที่ได้ฟังแผนการของเธอ “บิลค่ารักษาเนี่ยนะถูกรางวัล มันจับฉลากได้ด้วยเหรอ? คนโง่ก็ยังไม่เชื่อเรื่องแบบนี้เลย!”

“แต่…” เสี่ยวเฉินจ้องมองจ้าวหยู่ด้วยสายตาเย็นชาอย่างไม่ชอบใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่พ่อหนูเชื่อ!!”

“ว่าไงนะ” จ้าวหยู่กลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ เขาคิดกับตัวเองว่า ‘นี่ใช่พ่อลูกกันจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย ทำไมระดับสติปัญญาถึงได้ต่างกันขนาดนี้ล่ะ’

“แล้วเมื่อพ่อหนูออกจากร้านไป คุณก็มาแกล้งทำเป็นเขาซะ!” เสี่ยวเฉินกล่าวพร้อมพยักหน้าด้วยความมั่นใจ

“แต่” จ้าวหยู่คิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย “มันจะไม่เป็นไรเหรอ ก็ฉันไปบอกต่อหน้าผู้คนมากมายเอาไว้แล้วว่าตัวเองเป็นตำรวจ แล้วตอนนี้ฉันจะมาเป็นคนขายผลไม้ได้ยังไงกัน?”

“เรื่องนั้น หนูก็เตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้วเช่นกัน ลองดูนี่สิ…” เสี่ยวเฉินหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่เตรียมไว้ออกมาโชว์ให้เขาได้เห็น

เมื่อจ้าวหยู่ลองมองดูดี ๆ ก็แทบจะเป็นลมล้มพับไปในทันที มันคือใบรับรองทางการแพทย์ที่เสี่ยวเฉินปลอมแปลงขึ้นมา ในนั้นระบุว่า

เจียงต้าเฟิงเป็นโรคทางจิตเวช โรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด