ตอนที่แล้วCD บทที่ 55 ความเจ็บปวดที่เหมือนกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 57 สัมผัสแห่งอิสระ

CD บทที่ 56 สำนึกที่เกิดจากช่วงเวลาที่อ่อนแอ


เชาเจียหยิงพยายามสงบสติอารมณ์ให้เป็นปกติอีกครั้ง เธอยิ้มบาง ๆ พร้อมกับถอนหายใจ “บางทีนี่คงเป็นโชคชะตาละมั้งคะ เธอตั้งใจจะตัดมือของฉันตรงหน้าหลุมฝังศพของพ่อของฉัน เนื่องจากเรื่องราวทั้งหมดนี้ จุดเริ่มต้นมันเกิดคุณพ่อของฉัน บางทีนี่คงเป็นความประสงค์ของพระเจ้าที่ท่านตั้งใจไว้”

“เอ่อ…” ทันทีที่ได้ยินคำพูดของเธอ จ้าวหยู่ก็สามารถเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างได้ในทันที ใบมีดที่ไปทำร้ายหลี่ดันนั้นไม่ได้เป็นเพราะเชาเจียหยิงแต่เป็นเพราะพ่อของเธอต่างหาก!

“เมื่อ 18 ปี ที่แล้วก่อนรอบสุดท้าย ขณะที่เรากำลังฝึกซ้อมกันอยู่ที่ห้องฝึกซ้อมตามกฎของการแข่งขัน” เชาเจียหยิงเริ่มเท้าความเล่าเรื่องราวให้จ้าวหยู่ฟัง “รอบซ้อมของฉันคือรอบบ่าย 3 โมง พอฉันซ้อมเสร็จก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการแข่งขัน แต่จู่ ๆ พ่อของฉันก็พูดขึ้นมาในตอนหัวค่ำว่าเขาลืมของไว้ที่นั่นและต้องการให้ฉันพักที่โรงแรมไปคนเดียวก่อนพ่อจะกลับไปเอาของ ฉันเห็นว่าเขาดูเป็นกังวลมาก ฉันเลยคิดว่าเขาคงลืมของสำคัญมากแน่ ๆ ฉันก็เลยเป็นห่วงพ่อมากเลยอยากตามไปด้วย แต่พ่อก็ยื่นคำขาดว่าไม่ให้ฉันตามไปเด็ดขาด พ่อไม่เคยใช้น้ำเสียงจริงจังกับฉันมาก่อน ฉันเลยตัดสินใจที่จะไม่ตามไป เลยทำได้แต่นอนรอที่โรงแรม

และในที่สุดพ่อก็กลับมาช่วงราว ๆ 5 ทุ่มได้ ใบหน้าของพ่อดูเหน็ดเหนื่อยและซีดเซียวมาก ฉันถามเขาไปเยอะมากว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาทำอะไรหายไปเหรอ? ทำไมกลับมาดึกขนาดนี้? แต่เขาก็ไม่ตอบคำถามอะไรฉันสักอย่าง พ่อเพียงแต่พูดว่าฉันจะต้องตั้งใจแข่งขันและทำให้ดีที่สุด

ฉันเป็นพวกความรู้สึกช้า ถึงจะรู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพ่อแน่ ๆ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ตอนนั้นฉันเอาแต่คิดเรื่องการแข่งรอบชิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ฉันก็ทำตามมาตรฐานตัวเองจนในที่สุดก็สำเร็จ ฉันได้อันดับที่ 3 มาครอบครอง!

ที่เป็นแบบนั้นได้ก็เพราะว่าหลี่ดันไม่ได้อยู่ในการแข่งรอบนั้นด้วย เธอมีแต่ชื่อเสียงดีมากในรอบก่อน ๆ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างก็ชอบเธอกันทั้งนั้น ฉันก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่ได้อยู่ในรอบชิงนี้ด้วย

ฉันที่เก็บความสงสับไว้ไม่ไหวเลยไปถามคุณแม่ของหลัวเหม่ยนาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอบอกฉันว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลี่ดันในคืนก่อนการแข่ง ตอนนี้เธอกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่เธอก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน ถึงตอนนั้นฉันก็ยังไม่ได้เอะใจอะไรมาก

ฉันคิดแค่ว่าฉันช่างโชคดีจริง ๆ ที่หลี่ดันไม่ได้มาแข่งด้วยเพราะถ้าเธอมาเข้าร่วมด้วยฉันก็คงจะ ฉันคงไม่ได้ที่ 3 แบบนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่เป็นเพราะฉันเป็นกังวลมากจนต้องไปเข้าห้องน้ำ ฉันอาจจะอยู่ด้วยความสงบสุขตลอดชีวิตก็ได้!

เมื่อตอนที่ฉันออกมาจากห้องน้ำ ฉันเห็นแม่ของหลี่ดันกำลังโต้เถียงกับใครบางคนอยู่อาจจะเป็นคณะกรรมการสักคนหนึ่งฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ผมของเธอยุ่งไปหมด สวมใส่เสื้อผ้าที่มีรอยขาดและค่อนข้างจะสกปรกมาก เธอเอาแต่ร้องไห้ ก้มหัวเหมือนกับขอทานขอร้องอะไรบางอย่างจากคน ๆ นั้น

ด้วยความอยากรู้ ฉันเลยแอบซ่อนตัวอยู่แถวนั้นฟังพวกเขาพูดคุยกัน ฉันได้ยินมาว่าที่หลี่ดันต้องออกจากการแข่งเพราะมีใครบางคนไปแอบซ่อนใบมีดวางเอาไว้ที่เปียโนจนทำให้นิ้วของเธอขาด ฉันก็คิดถึงพ่อขึ้นมาในทันที พ่อต้องการว่าอยากกลับไปที่ห้องซ้อมมาก ฉันจึงมั่นใจเลยว่าพ่อของฉันต้องเป็นคนลงมือทำเรื่องนี้แน่นอน

ฉันไม่รู้เลยว่าฉันควรจะออกไปรับรางวัลที่ได้อย่างไรดี ทุกสิ่งทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาทั้งหมด พ่อก็เอาแต่บอกให้ฉันยิ้มเอาไว้ แต่…ฉันจะยิ้มได้ยังไงกัน? ฉันอยากจะคิดว่าเรื่องทุกอย่างมันก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ พ่อไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องหลี่ดันทั้งนั้น แต่ความจริงมันช่างโหดร้าย เมื่อตอนที่เราพ่อลูกกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม ฉันเห็นกล่องเก็บของของพ่อหล่นมาจากกระเป๋าซึ่งในกล่องนั้น มันมีใบมีดที่เปื้อนเลือดอยู่ด้วย!”

เมื่อเธอเล่าถึงจุดนั้น น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ในที่สุดก็ไหลออกมา

“มันเป็นใบมีดแบบที่มืออาชีพงานศิลปะเขาใช้กัน มันทั้งแข็ง คมและบาง ถ้าเอามันไปวางไว้ที่เปียโนนั่น นอกจากไม่ถูกพบแล้วมันจะให้เราบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย”

หลังจากการร้องไห้เธอก็เริ่มเล่าเรื่องต่อ

“ครอบครัวเราไม่มีใครที่เก่งศิลปะสักคนและมีดนั่นก็ราคาแพงเกินกว่าจะซื้อมาได้ มันเป็นเรื่องที่แปลกมากที่จะพบจากครอบครัวเรา! วันนั้นฉันเลยทะเลาะกับพ่ออย่างหนัก หลังจากที่ฉันถามพ่อซ้ำไปซ้ำมาในที่สุดพ่อก็ยอมรับว่าคนที่ทำร้ายหลี่ดันก็คือพ่อของฉันเอง

ฉันแทบจะเป็นบ้าเมื่อได้รู้ความจริงเข้า ความเจ็บปวด ความกดดันที่ฉันมีมันไม่ได้น้อยไปว่าหลี่ดันเลย ฉันรู้สึกว่าตัวเองหน้าไม่อายมาก ๆ ที่ได้รับตำแหน่งนี้มาด้วยวิธีการแบบนี้ หลังจากนี้ฉันจะมีความเคารพในตัวเองได้อย่างไรกัน?พ่อเองก็เป็นกังวลมาก ท่านขอร้องไม่ให้ฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใครเด็ดขาด” เชาเจียหยิงร้องไห้อีกครั้ง

“พ่อกับแม่ของฉันหย่ากัน พ่อเลยเป็นคนดูแลฉันทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่นั้นมาพ่อไม่ยอมมีความรักครั้งใหม่กับใครก็เพราะฉัน ยอมให้ฉันได้เรียนเปียโน บางครั้งก็ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาส่งฉันเรียน พ่อคนที่น่ารักของฉันกลับกลายเป็นคนที่โหดร้ายแบบนี้ได้ยังไงกัน แม้ว่าฉันจะรู้สึกผิดกับหลี่ดันเป็นอย่างมากก็จริง แต่ฉันก็ไม่สามารถทนดูพ่อตัวเองเข้าคุกไปได้ ฉันเลยตัดสินใจเข้าเรียนต่อมหาลัยด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด พอจบการแข่งครั้งนั้น ฉันก็ไม่แตะต้องเปียโนอีกเลย! เมื่อใดก็ตามที่ฉันมองไปที่เปียโน ฉันจะคิดถึงหลี่ดันอยู่ตลอด ทั้งนิ้วของเธอ ทั้งเลือดของเธอ ฉันไม่เคยลืมมันไปได้เลย!”

จ้าวหยู่ตั้งใจฟังที่เธอเล่ามาอย่างเงียบ ๆ และแปลกใจกับเรื่องราวระหว่างเธอกับพ่อของเธอ ทั้งแม่ของหลี่ดันและพ่อของเชาเจียหยิงทั้งสองต่างมีความคิดที่เหมือนกัน นั่นก็คือการทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อลูกสาวอันเป็นที่รัก เพียงแต่ว่าวิธีการของพ่อเชาเจียหยิงนั้นเกินกว่าที่จะยอมรับได้ จึงทำให้ต้องเกิดเรื่องร้าย ๆ แบบนี้ขึ้นตามมา

“แต่สวรรค์มีตาจริง ๆ นะคะ” เชาเจียหยิงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับกำลังเช็ดคราบน้า ตาตัวเอง “คงเป็นเพราะกรรมตามทัน จึงทำให้เมื่อ 8 ปี ก่อน พ่อต้องเป็นอัมพาตไป หลังจากที่ท่านล้มตกบันได ปีถัดมาก็ได้รับวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับอ่อนและจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านไม่สามารถพูดอะไรได้เลย แต่ฉันรับรู้ได้ว่าพ่อไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องอะไรแบบนั้นกับหลี่ดันมากขนาดนี้ ท่านจากไปด้วยความรู้สึกผิดต่อหลี่ดันและความผิดที่ไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้”

‘สำนึกแห่งความเสียใจมักเกิดในช่วงเวลาที่เราอ่อนแอ’

 

เมื่อความจริงปรากฏออกมา จ้าวหยู่ได้แค่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ หากเขาใช้ชีวิตเก่าด้วยความระมัดระวังมากกว่านี้ เขาเองก็คงไม่จบชีวิตด้วยความเศร้าแบบนั้นเหมือนกัน

“คุณจ้าวหยู่คะ ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้ระบายเรื่องนี้ออกไปสักทีฉันคิดว่าพ่อเองก็คงอยากทำแบบนี้เช่นกัน เพียงแค่ว่าพวกเราขาดความกล้าที่จะเล่ามันกันทั้งคู่ เอาแบบนี้ดีไหมคะฉันจะจัดหาทนายที่ดีที่สุดมาให้หลี่ดันเพื่อให้จุดจบเรื่องนี้มันดีที่สุด ส่วนแม่ของหลี่แดนคุณไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ ฉันจะจัดหาคนมาดูแลเธอให้เช่นกัน ฉันรู้ว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาระหว่างฉันกับหลี่ดัน และฉันก็ไม่ได้ทำเพื่อหวังว่าให้เธอมายกโทษให้ ฉันแค่หวังว่าต่อไปนี้จะไม่มีเรื่องร้าย ๆ อะไรเกิดขึ้นอีกก็เท่านั้นพอ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวหยู่ก็ทรุดตัวเอนหลังไปกับเก้าอี้อย่างโล่งใจ ในที่สุดคดีมือที่หายไปก็ได้รับการแก้ไขจนเสร็จสิ้นสักที แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าใครคือคนผิดและใครคือคนถูกในเรื่องนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด