ตอนที่แล้วCD บทที่ 53 ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 55 ความเจ็บปวดที่เหมือนกัน

CD บทที่ 54 คะแนนที่แตกต่าง


ณ ห้องทำงานของทีม A จ้าวหยู่กำลังแปะรูปถ่ายของตัวเองตอนที่จับตัวหลี่ดันไว้ได้บนกลางกระดานไวท์บอร์ด จากรูปถ่ายนั้นสามารถสื่อความหมายได้ว่า คดีมือที่หายไปได้รับคลี่คลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อมองไปยังกระดานที่มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับคดีมากมาย ยิ่งทำให้จ้าวหยู่รู้สึกพึงพอใจกับผลงานในครั้งนี้ของเขาเป็นอย่างมาก ในตอนแรกของการสืบสวน คดีนี้ดูไม่มีวี่แววว่าจะสามารถแก้ไขได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือมาจากระบบปาฏิหาริย์มาก็จริง แต่มันคงจะไม่สำเร็จแบบนี้ถ้าตัวเขาไม่มีความพยายามกับมันมากเช่นกัน ขั้นตอนในระหว่างการสืบสวนที่มีทั้งขึ้นและลงนั้น มันทำให้เขารู้สึกติดใจการสืบสวนขึ้นมาเล็กน้อย

ขณะที่เขากำลังจ้องมองไปยังกระดานไวท์บอร์ดและคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น จู่ ๆ หลี่เบ่ยหนีก็ยื่นถุงเงินที่เขาวางทิ้งมาไว้ตรงข้าง ๆ

“รุ่นพี่! มาย้อนความหลังเหรอคะ?” หลี่เบ่ยหนีโยนเหรียญ 100 หยวน ไปมาบนมือของเธอ พร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ “พูดตามตรงเลยนะคะ การกระทำของรุ่นพี่เนี่ยทำฉันสงสัยไม่หยุดเลยจริง ๆ รุ่นพี่ดูน่าทึ่งมาก!” หลังจากที่หลี่เบ่ยหนีพูดกล่าวแสดงความประหลาดใจของตัวเธอเสร็จแต่จ้าวหยู่ยังคงไม่ตอบสนองอะไรกลับไป เขาเอาแต่จดจ้องไปยังข้อมูลบนกระดาน ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรบางอยู่

“รุ่นพี่คิดอะไรอยู่หรือคะ?” เธอกำลังสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“เบ่ยหนี!” จางจิงเฟิงมองซ้ายขวาไปมาก่อนจะตัดสินใจเรียกชื่อของเธอ “ฉันว่าเขาคงกำลังคิดเรื่องสืบสวนอะไรอยู่นั่นแหละ เรามาคุยเรื่องคอขาดบาดตายที่สำคัญมาก ๆ กันดีกว่า ฉันได้ข่าวว่าเธอกำลังทำสรุปรายงานคดีมือที่หายไปอยู่ใช่ไหม? อย่าลืมใส่ผลงานที่ฉันทำลงไปด้วยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันก็คง…”

“หื้ม!?” ก่อนที่จางจิงเฟิงจะพูดได้จบประโยค จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็ส่งเสียงร้องตกใจขึ้นมาเสียก่อน ทำเอาทั้งหลี่เบ่ยหนี จางจิงเฟิงและคนอื่น ๆ ในระแวกนั้นสะดุ้งไปตาม ๆ กัน

“มีอะไรงเหรอคะ รุ่นพี่?” หลี่เบ่ยหนีเอ่ยถาม

“ใช่แล้ว!” จ้าวหยู่ยังคงจ้องมองไปยังกระดานเหมือนเดิม พร้อมกับน้ำเสียงที่ฟังแล้วไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก “คะแนน…คะแนนนี้ไงที่แตกต่าง! ทำไมฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยกันนะ!?”

“อะไรนะคะ? คะแนนไหน คะแนนอะไร?” หลี่เบ่ยหนีหันไปสนใจที่บนกระดานบ้างแต่เธอก็ไม่สามารถมองเห็นจุดสังเกตอะไรได้เลย

“เธอจำหญิงท้องแก่คนนั้นได้ไหม สิ่งที่เธอพูดออกมาตอนนั้นน่ะ?” จ้าวหยู่กางแขนขึ้นมาขยับเล็กน้อยอย่างตื่นเต้น “ที่เธอพูดแบบนั้นก็เพราะว่ากรรมการตัดสินล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญกันทั้งนั้นเลยทำให้คะแนนในรอบสุดท้ายมีความต่างของคะแนนที่ค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ อาจจะต่างกันถึง 300 – 400 สำหรับบางคนเลยก็ได้”

“เธอคนนั้นพูดแบบนั้นเหรอคะ?” หลังจากสงสัยอยู่นานว่าจ้าวหยู่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร ในที่สุดเธอก็สามารถเข้าใจได้ว่าเขากำลังพูด มันเกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันในครั้งนั้นนี่เอง

“ดูนี่!” จ้าวหยู่ชี้ข้อมูลสักอย่างบนกระดานนั่น “อันดับที่ 6 เกาเทียน เธอมี 1,020 คะแนน แต่อันดับที่ 7 กลับมีแค่ 700 คะแนน รู้ไหมว่ามันหมายความว่ายังไง?”

เมื่อได้ยินข้อสงสัยที่จ้าวหยู่เอ่ยถึง สมาชิกทีม A ต่างก็เริ่มมารุมมองดูด้วยความสนใจในทันที

“หมายความว่ายังไงเหรอคะ?” หลี่เบ่ยหนีพยายามคิดอย่างหนักถึงความหมายของคำถามที่จ้าวหยู่ส่งมาให้

“มันหมายถึงว่า ตั้งแต่อันดับที่ 7 เป็นต้นไป ผลงานของพวกเธอไม่ได้เรื่องยังไงล่ะ พวกเขาไม่ได้มีความสามารถในการเข้าแข่งขันมากเท่าไหร่นัก หลี่ดันเลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปลงมือกับพวกเขาด้วยซ้ำ!” จ้าวหยู่หันกลับมาชี้บนกระดานต่อ “ดังนั้นแผนของหลี่ดันจึงเริ่มต้นจากอันดับที่ 6 ขึ้นไป ตั้งแต่เกาเทียน หยวนหลีลี่ หลัวเหม่ยนา จากนั้นก็ เชาลูลู่ จากที่ 6 ถึง ที่ 3 มีแค่ 4 คนนี้เท่านั้นที่เป็นเป้าหมายของเธอ! แล้วมาดูนี่…” จ้าวหยู่ชี้ไปที่ส่วนสำคัญของข้อมูล “อันดับ 1 ลู่เทา เขามีมากกว่า 1,900 คะแนน เขาสมควรแล้วที่จะได้เป็นแชมป์ในครั้งนั้นด้วยคะแนนที่เขาทำได้และด้วยความสามารถที่เขามี มันไม่มีแรงจูงใจใด ๆ เลยที่เขาจะต้องไปวางแผนทำร้ายหลี่ดัน

ส่วนอันดับ 2 หลี่ฉินฮัว คะแนนมีมากกว่า 1,600 คะแนน แม้ว่าเธอจะไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองแต่เธอก็ยังมีความสามารถมากพอที่จะเอาชนะอันดับ 3 มาได้ ดังนั้นก็ตัดหลี่ฉินฮัวออกไปจากเป้าหมายของหลี่ดันไปได้เลย แม้ว่าเธอจะแพ้หลี่ดันในรอบรองสุดท้าย แต่เธอก็ยังคงรักษามาตรฐานตัวเองไว้เป็นอย่างดี!”

“คุณกำลังจะหมายถึง…” หลี่เบ่ยหนีต้องการพูดอะไรบางอย่างแต่เธอก็ยังไม่แน่ใจเลยเลือกที่จะไม่พูดออกมา

“และเชาลูลู่ มีเพียง 1,400 คะแนน” จ้าวหยู่เริ่มพูดต่ออย่างรวดเร็ว “คะแนนของอันดับที่ 3 ถึง อันดับที่ 6 ไม่ค่อยจะต่างกันมากเท่าไหร่นัก มีความเป็นไปได้สูงที่สุดว่าคนร้ายที่ทำกับหลี่ดันก็คือ 4 คนนี้! เพราะแค่ 4 คนนี้เท่านั้นที่จะได้รับผลประโยชน์จากการที่หลี่ดันถอนตัวออกจากการแข่งไป!”

“รุ่นพี่คะ…” หลี่เบ่ยหนีเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าหากัน “อย่าบอกนะคะว่าคุณ…”

“ใช่! ฉันเจอตัวคนร้ายคนนั้นแล้ว!” จ้าวหยู่ขยับแขนไปมาด้วยความตื่นเต้น เขารีบควานหากระเป๋าตังตัวเองออกมาเพื่อค้นหานามบัตรของเชาลูลู่ในทันที “เบ่ยหนี…” เขาพูดกับเธออย่างร้อนรนว่า “ช่วยไปจองห้องพักที่โรงแรมเรดดราก้อนไว้ให้ที แล้วก็ส่งข้อความหาสมาชิกทีม A ทุกคนด้วยนะว่าให้ไปรวมตัวกันที่นั่นตอน 6 โมงเย็น ฉันต้องรีบแล้วก่อนที่จะไม่สามารถจับตัวเธอได้!”

“รุ่นพี่คะ!” หลี่เบ่ยหนีรู้สึกทึ้งกับการกระทำของเขาไปหมด “คุณจะ…”

“คดีนี้มันยังไม่จบหรอกนะ!” จ้าวหยู่กล่าวด้วยน้า เสียงจริงจัง “ทั้งฉันและหลี่ดันต่างก็มีเรื่องให้ต้องทำต่อเหมือนกัน!”

หลังจากพูดจบ จ้าวหยู่ก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานทีมเอไปทันที ทิ้งเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ที่กำลังสงสัยเรื่องราวต่าง ๆ ไว้เบื้องหลัง

“ฉันว่านะ...” จางจิงเฟิงค่อย ๆ กลืนน้ำลายตัวเองลงด้วยความรู้สึกหลากหลายที่กำลังปะปนไปหมด เขาพูดกับหลี่เบ่ยหนีว่า “จ้าวหยู่เริ่มพูดเหมือนเชอร์ล็อกโฮมส์เข้าไปทุกทีแล้วล่ะ”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เชาเจียหยิงที่กำลังสวมเสื้อขนสัตว์อันหรูหราได้เดินเข้าไปที่ร้านกาแฟข้าง ๆ สถานีตำรวจอีกครั้ง ด้วยความกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา ชุดเสื้อผ้าของเธอสร้างความสนใจจากคนในร้านกาแฟได้เป็นอย่างดี

จ้าวหยู่มารอเธออยู่ก่อนหน้านี้สักพักแล้ว เขาเลือกที่นั่งตรงริมหน้าต่างทันทีที่เชาเจียหยิงมาถึง เขารีบโบกมือเพื่อแสดงตำแหน่งตัวเองในทันที

“ขอโทษนะคะที่มาช้า ฉันไม่คิดว่าคุณจะติดต่อกลับมาเร็วขนาดนี้ มีเรื่องสำคัญอะไรงั้นหรือคะ คุณจ้าวหยู่?”

จ้าวหยู่มองชายชุดดาที่ยืนอยู่รอบโต๊ะ เขาส่งเสียงกระแอมขึ้นมาเล็กน้อยเชาเจียหยิงเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อได้ในทันที การกระทำเช่นนี้สามารถพบได้บ่อยตามวงการธุรกิจที่เธอกำลังทำ เธอเข้าใจว่าจ้าวหยู่ต้องการพูดคุยกับเธอแบบส่วนตัวแต่เธอก็ไม่ได้ไล่บอดี้การ์ดออกไปแต่อย่างใด

จ้าวหยู่เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อโชว์รูปภาพบางอย่างให้เชาเจียหยิงได้ดู ภาพนั่นก็คือรายชื่อการแข่งขันเปียโนในรอบสุดท้าย หลังจากที่เธอได้มองมัน เธอก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยและด้วยสิ่งนั้นที่ทำให้เธอยอมยกมือเพื่อให้บอดี้การ์ดออกไปรอที่ข้างนอกก่อน

“คุณจ้าวหยู่คะ?” เชาเจียหยิงหุบยิ้มในทันที “คุณต้องการจะสื่ออะไรกันแน่?”

“คุณลองดูให้ดี ๆ สิครับ!” จ้าวหยู่ชี้ไปที่รูปภาพ “เกาเทียน 1,020 คะแนน หยวนหลีลี่ 1,058 คะแนน หลัวเหม่ยนา 1,336 คะแนน เชาลูลู่ 1,426….”

“คุณจ้าวหยู่!” เชาเจียหยิงพูดขัดจ้าวหยู่พร้อมกับปิดภาพนั้นบนมือถือเขาในทันที “คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณอ่านพวกนี้ให้ฉันฟังทำไม?”

“ก็เพราะว่าผมรู้ที่มาของผลงานคุณในตอนแรกว่าเป็นอย่างไรน่ะสิครับ” จ้าวหยู่กล่าวอย่างใจเย็น

“แม่ของหลี่ดันบอกว่าตัวหลี่ดันได้อันดับที่ 3 ในการแข่งรอบก่อนชิงชนะเลิศ คะแนนก็ไม่ได้ต่างจาก 2 คนหน้านี้มากไหร่นัก ดังนั้นคุณที่อยู่อันดับที่ 4 จึงมีเหตุผลเพียงพอที่จะได้รับประโยชน์จากการบาดเจ็บของเธอที่สุด!”

“นี่คุณ….คุณจะมากล่าวหากันง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะคะ!” เชาเจียหยิงสามารถเข้าใจสิ่งที่จ้าวหยู่พูดได้เป็นอย่างดี

“ยังไม่จบนะครับ” จ้าวหยู่ส่ายมือก่อนจะเริ่มพูดต่อ “ตอนนี้หลี่ดันบอกว่าเธอได้ตัดมือของเกาเทียน หยวนหลีลี่และหลัวเหม่ยนาไป แล้วถ้า 1 ใน 3 คนนี้สามารถเข้าใจได้ว่าเรื่องราวเบื้องหลัง มันเป็นมายังไง หลี่ดันก็คงถูกจับไปก่อนหน้านี้ด้วยแรงจูงใจอันนั้นไปแล้ว”

“คุณจ้าวหยู่!!” เชาเจียหยิงเริ่มไม่สบายใจ เธอพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาและใบหน้าที่เริ่มบึ้งตึง “คุณกำลังจะกล่าวหาว่าฉันเป็นทำงั้นหรือคะ? คิดดูให้ดี ๆ สิคะ หลี่ดันต่างหากที่ต้องการจะตัดมือของฉัน ฉันเป็นเหยื่อนะคะ!”

“เชาลูลู่!” จ้าวหยู่ตะโกนดังลั่นทั่วร้าน “คุณทำให้หลี่ดันต้องเจอกับอะไร คุณเคยรู้อะไรบ้างไหม…”

เธอหยุดนิ่งทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ราวกับว่าตอนนี้เธอกำลังถูกทุบตีเข้าไปที่ศีรษะอย่างรุนแรง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด