ตอนที่แล้วCD บทที่ 50 ไปเก็บจากอูฐสิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 52 กฎของโลกใต้ดิน

CD บทที่ 51 เรียกฉันว่าลูกพี่


“โธ่! คุณตำรวจ เราจะทำแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ!” ชายผมทองคัดค้าน

“ใช่แล้ว! จะให้เราไปเก็บเงินกับอูฐแบบนั้นได้อย่างไรกัน?!” คนอื่น ๆ ที่มาเข้าร่วมเรียกร้องเงินเริ่มพากันต่อต้าน

“นี่มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือคะ!!” หลี่เบ่ยหนีพูดขัดจังหวะกลุ่มตัวแทน “พวกเรามีความจำเป็นต้องจับขโมยนะคะ! ถ้าถามความเห็นฉันแล้ว ฉันคิดว่าขโมยคนนั้นต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้สิ เพราะต้นเรื่องก็มาจากเขานี่คะ!”

หลังพูดจบ หลี่เบ่ยหนีแอบชำเลืองมองบิลเก็บเงินจากชายผมทองและก็ต้องตกใจกับตัวเลขบนบิลนั่น

“อะไรกัน?! 9,000 หยวน! นี่พวกคุณบ้ากันไปแล้วหรือไง! กับแค่หม้อและกระทะ มันจะมากมายขนาดนั้นได้อย่ำงไร พวกคุณนี่มัน!!”

“แหม่ ๆ คุณตำรวจครับ” ชายผมทองยังคงพูดไปยิ้มไป “มันไม่ใช่แค่หม้อกับกระทะเท่านั้นนี่ครับ ยังมีพวกยาแพง ๆ อีกด้วย พวกเราจัดทำรายการความเสียหายมาให้หมดแล้ว คุณสามารถตรวจสอบได้เลยเพื่อความมั่นใจ แล้วอีกอย่าง พวกเราไม่สนใจหรอกนะครับว่าจะเพราะขโมยหรือเพราะอะไรก็ตาม เรารู้แต่ว่าพวกคุณเป็นคนทำให้ข้าวของของพวกเราพังเสียหาย เพราะฉะนั้นพวกคุณก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้!”

“ฮ่าฮ่า!!”

อยู่ดี ๆ จ้าวหยู่ก็หัวเราะออกมาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง ทุกคนต่างตกใจกับการกระทำของเขากันถ้วนหน้า อะไรกันที่ทำให้จ้าวหยู่ถึงหัวเราะออกมากัน?

จ้าวหยู่ก้มมองดูรายการค่าเสียหายที่ทางกลุ่มตัวแทนแอบอ้างขึ้น หลังจากพิจารณามันอยู่สักพัก จ้าวหยู่ก็หัวเราะออกมาอย่างหนักอีกครั้งจนเกือบจะสำลักน้ำลายตัวเอง

“โอ้ย...ฮ่าฮ่าฮ่า” จ้าวหยู่คว้าเสื้อคอชายผมทองไปใกล้ ๆ พร้อมพูดว่า “เฮ้ย!! นี่คือรายการค่าเสียหายทั้งหมดจริง ๆ งั้นเหรอ? คิดว่ากำลังเล่นขายของอะไรอยู่หรือไง?”

“คะ…คุณตำรวจ คุณหมายความว่ายังไงกันครับ?” ชายหนุ่มผมทองทำท่ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย

จ้าวหยู่ส่ายหัวยียวนพร้อมตบไปที่หน้าอกตัวเองเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“มา ๆ เดี๋ยวลูกพี่ คนนี้จะสอนอะไรดี ๆ ให้เอง แกลองมองดูรายการพวกนี้ดี ๆ สิ มันมีแต่พวกวัตถุของใช้ต่าง ๆ ถูกไหม? ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยทั้งสิ้น! มันไม่ค่อยจะเป็นข้อเสนอที่ดีเท่าไหร่หรอกนะ”

“คุณกำลังหมายถึงอะไรกันครับ?” ชายผมทองสงสัย

“ถ้าเป็นฉันล่ะก็นะ” จ้าวหยู่ชี้นิ้วไปที่รายการนั้นและเริ่มพูดต่ออีกว่า “มันควรจะมีใครสักคนขาหักสักหน่อยน่าจะดีกว่า อืม สมมุติว่าอูฐตัวนั้นเผลอไปเหยียบเข้าที่ขาเป็นไง? หรือไม่ก็มีใครบางคนล้มกระแทกพื้นจนเป็นแผลขณะวิ่งหนีอูฐตัวนั้น กรณีร้ายแรงอาจทำให้พวกแกกลายเป็นอัมพาต! เป็นไง? ถ้าแกใส่พวกนี้ลงไปด้วย รับรอบว่าจะต้องเรียกเงินได้อื้อแน่นอน เข้าใจ้!”

“งั้นก็หมายความว่า พวกเราจะต้องแต่งเรื่องพวกนั้นขึ้นมาหรือครับ?” ชายผมทองเอ่ยถาม

“เฮ้อ ฉันเองก็เคยเห็นพวกข่มขู่เงินคนอื่นมานักต่อนักแล้วนะ แต่ไม่เคยเจอคนที่อ่อนหัดขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ!” จ้าวหยู่เริ่มทำท่าสอนคนอื่น ๆ ราวกับผู้มากประสบการณ์อีกครั้ง “นี่พวกแกโง่หรือเปล่า? เป้าหมายของพวกแกทุกคนคือเงินใช่ไหม? การที่จะรีดไถให้สำเร็จก็ต้องสร้างข้อมูลเท็จกันหน่อยสิ ถูกไหม?!

สิ่งของมันไม่มีชีวิต! แต่คนเรายังต้องมีชีวิตอยู่ต่อ ฉันจะรู้สึกเป็นกังวลมาก ถ้าพวกแกบอกว่ามีคนได้รับบาดเจ็บจากเรื่องนี้ แล้วถ้าฉันปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปรู้ไหมว่าจุดจบของฉันจะเป็นยังไง? นอกจากนั้น ถ้ามีคนได้รับบาดเจ็บจริงขึ้นมาจริง ๆ แล้วฉันจะยืนยันเรื่องนั้นว่าจริงเท็จได้ที่ไหนกัน?”

“ถ้างั้น…” ผู้คนที่มาประท้วงเริ่มพากันแลกเลี่ยนสายตากัน

“นี่ถือเป็นหัวใจสำคัญ! ถ้าพูดถึงเรื่องการบาดเจ็บทางร่างกาย พวกแกก็แค่หาอาสาสมัครสักคน สองคนแล้วก็ตีคนเหล่ำนั้นให้ ๆ หนัก!” จ้าวหยู่ชี้ไปที่รายการอีกครั้ง ก่อนพูดต่ออีกว่า “รายการของพวกแกเหมือนกับเด็กประถมกำลังจะหลอกขอเงินแม่อย่างงั้นแหละ ถ้าทำตามที่ฉันแนะนำแล้วล่ะก็ พวกแกจะสามารถเรียกเงินเริ่มต้นด้วยเงิน 500,000 หรือแม้แต่หนึ่งล้านก็ยังได้!”

“อา…” ชายผมทองอึ้งไปสักพัก “มันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือครับ?”

“อย่าเพิงขัด ฉันยังพูดไม่จบ!” จ้าวหยู่เริ่มบรรยายต่อ “ถ้าฉันมองราคาแต่แรก ฉันก็คงช็อกแล้วปฏิเสธไป ถูกต้องไหม? เพราะฉะนั้นฉันก็จะต้องเริ่มต่อรองเจรจากับพวกแกก่อนเป็นลำดับแรก แล้วถ้าพวกแกเล่นละครได้เนียน ๆ หน่อย ก็ลดราคาลงไปสักหมื่น สองหมื่น ถ้าฉันรู้สึกว่าการเจรจามันง่าย ฉันก็ยินดีที่จะจ่ายเงินให้พวกแกได้ง่าย ๆ เช่นกัน นั่นคือหัวใจสำคัญในการเจรจาต่อรอง!”

“โอ้โห” หลังจากได้ฟังคำแนะนำจากจ้าวหยู่ ชายผมทองรู้สึกว่าตัวเองช่างอ่อนหัดในเรื่องรีดไถเงินจริง ๆ

ขณะนั้นจ้าวหยู่ก็คิดกับตัวเองว่า เด็กน้อย ฉันน่ะรีดไถเงินชาวบ้านมาเกือบ 1,800 ครั้งแล้ว ฉันคนนี้นี่แหละคือผู้บุกเบิกเส้นทางนี้เอง! พวกแกแน่มากที่กล้ามารีดไถเงินจากคนอย่างฉัน”

จ้าวหยู่เริ่มพูดกับกลุ่มคนต่ออีกครั้ง “เด็ก ๆ ฉันเห็นว่าพวกแกกำ ลังตั้งใจเรียน เลยจะสอนอะไรแถมไปให้อีกอย่างแล้วกัน ที่สถานีตำรวจน่ะ แตกต่างจากที่ทำงานอื่น ๆ น่ะรู้ไหม ถ้าพวกแกเล่นใหญ่มากเกินไป แน่นอนว่าเรามีห้องขังมากพอที่จะให้ภวกแกทุกคนไปอยู่ในนั้น!”

“งั้นพวกเราควรจะทำยังไงดีล่ะครับ?” ชายผมทองมองจ้าวหยู่ด้วยความชื่นชม

“มีแค่สองอย่าง! ที่จะสามารถใช้กดดันเราได้” จ้าวหยู่เริ่มกล่าวต่อในทันที “หนึ่ง! หาพวกนักข่าวมาหรือแกล้งทำเป็นยืนถือไมค์พร้อมกล้องก็ได้! ถ้าพวกแกหาพวกเราด้วยวิธีนี้ พวกเราจะไม่กล้าทำ อะไรพวกนำยสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน!”

“โอ้..แล้วอย่างที่สองล่ะครับ?”

“ตามหาหัวหน้าที่นี่ให้เจอ!” จ้าวหยู่ยิ้ม “ฉันจะให้ที่อยู่หัวหน้าแผนกที่นี่ไป จากนั้นพวกแกก็ไปเริ่มทำตามแผนแกล้งเจ็บแล้วไปยืนเคาะประตูบ้านได้เลย ฉันรับประกันได้เลยว่าวิธีนี้พวกแกจะต้องได้เงินดีแน่ ๆ!”

“โอ้” ชายผมทองมองจ้าวหยู่ด้วยความเคารพอย่ำงสุดซึ้ง คนอื่น ๆ ต่างก็พากันชื่นชมในตัวจ้าวหยู่เช่นกัน แต่สมาชิกในทีมสืบสวนทุกคนกำลังตกตะลึงกับเทคนิคขู่กรรโชกของจ้าวหยู่ มันเป็นวิธีที่บ้ามาก! ถ้ามีใครไปทำตามวิธีนี้เพื่อขู่กรรโชกเงินเข้าจริง ๆ จะไม่มีหน่วยสืบสวนใดตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ได้เลย!

“จ้าวหยู่!” หลิวชางฮูทนดูไม่ไหวได้ตวาดขึ้น “แกพูดอะไรไปรู้ตัวบ้างไหม! แกไปสอนพวกคนพวกนั้นแบบนั้นได้ยังไง!! แล้วไหนจะเรื่องหัวหน้าอีก”

“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ!” ในเวลานั้น การแสดงออกต่อจ้าวหยู่ของชำยผมทองก็เปลี่ยนไปในทันที เขาพูดกับจ้าวหยู่ต่ออีกว่า “เห็นแก่บทเรียนที่คุณให้มา ผมก็จะซื่อสัตย์กับคุณบ้างเช่นกัน รายการนี้พวกเราทำขึ้นมาปลอม ๆ เอาแบบนี้แล้วกัน ผมขอเรียก ค่าเสียหายคุณแค่ 2,000 หยวน แล้วกัน อย่างน้อยผมก็สามารถให้เงินกับคนอื่น ๆ ได้บ้าง แถมคุณก็จะไม่ต้องเสียอะไรเยอะด้วย เป็นไงบ้างครับ…”

เมื่อชายผมทองยื่นมือไปข้างหน้าจ้าวหยู่ สีหน้าจ้าวหยู่ก็เปลี่ยนไปในทันที ชายผมทองกลัวเกินกว่าจะพูดอะไรต่อเมื่อเห็นท่าทำงที่แปลกไปของจ้าวหยู่

“เจ้าหนูเพราะฉันเอ็นดูพวกแกเป็นพิเศษหรอกนะเลยสอนอะไรแบบนี้ให้” จ้าวหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกต้องระวังเรื่องวิธีคิดสักหน่อยนะ ว่าแกต้องการแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม…?”

“เอ่อ..คือ..ผม..” ชายผมทองยกคิ้วขึ้นขณะพิจารณาน้ำเสียงของจ้าวหยู่แต่ในขณะนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีคนวิ่งพรวดเข้ามาที่นี่

“จ้าวหยู่! เจ้าหน้าที่จ้าวคะ!!” เสียงของผู้หญิงที่มีสำเนียงต่างชาติเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้น “ขอโทษนะคะ เจ้าหน้าที่จ้าวคือคนไหนหรือคะ?”

ทุกคนต่างหันไปมองต้นเสียงในทันที เธอเดินนำเข้ามาในสถานีตำรวจด้วยชุดขนสัตว์สีฟ้าอ่อนพร้อมกับชายชุดดำที่เดินตามหลังเธออีกสองสามคน เนื่องจากเธอมีรูปร่างค่อนข้างสูงและการแต่งตัวที่เป็นจุดเด่น ทำให้ทุกสายตาต่างกำลังจับจ้องไปที่เธอ

เมื่อเห็นกลุ่มคนจำนวนมากบุกเข้ามาถึงในสถานี ทำให้หลิวชางฮูไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาตะโกนลั่นสถานีทันที

“นี่มันอะไรกัน!! พวกคุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไง ที่นี่สถานีตำรวจนะ!!”

“ครับ ผมเองครับ! ผมเอง!” ทันใดนั้นจางจิงเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูอย่างรวดเร็ว เขารีบไปยืนด้านหน้าผู้หญิงคนนั้นแล้วกล่าวว่า “ผมเป็นคนให้พวกเขาเข้ามาที่นี่เองครับ นี่คือคุณเชาเจียหยิง เธอมาเพื่อขอบคุณพวกเรานะครับ!” จากนั้น จางจิงเฟิงชี้นิ้วไปที่จ้าวหยู่ทันทีที่พูดจบ “คนนั้นไงครับเจ้าหน้าที่จ้าว คนที่คุณกำลังตามหาอยู่ครับ”

“ขอบคุณค่ะ...” เชาเจียหยิงรีบพุ่งเข้ำไปหาจ้าวหยู่ทันที เธอจับมือเขามาเขย่าอย่ำงแรงด้วยความชื่นชม “คุณจ้าวหยู่คะ! ฉันต้องขอบคุณคุณจริง ๆ! ถ้าไม่ได้คุณช่วย มือฉันก็คง…”

“โอ้ ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” มือของเธอช่างนุ่มและเนียนเสียจริง จ้าวหยู่ไม่อยากจะจับปล่อยมือคู่นี้ไปเลย

“โอ้ใช่แล้ว! และเพื่อเป็นการขอบคุณที่คุณช่วยชีวิต…” เชาเจียหยิงหันไปพูดอะไรสักอย่างกับชายชุดดำด้านหลังเธอ ทันทีที่เธอพูดจบ ชายชุดดำก็รีบเขยิบไปยืนอยู่ตรงหน้าจ้าวหยู่พร้อมกับยื่นกระเป๋าใบหนึ่งให้เขา “คุณจ้าวหยู่คะ นี่คือเงินจำนวน 100,000 หยวน ค่ะ!” เชาเจียหยิงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “นี่คือสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากฉันเองค่ะ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉันขอให้คุณช่วยรับน้ำใจจากฉันไปด้วยนะคะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด