บทที่ 28 องค์ชายเย่ตัดแขนเสื้อ?
บทที่ 28
องค์ชายเย่ตัดแขนเสื้อ?
“แล้วทำไมถึงต้องซ่อนตัวอยู่หลังพระพุทธรูป?” ตัวหัวหน้านั้นยังไม่คลายความสงสัยง่ายๆ
หลินซีเหยียนจึงได้แกล้งทำเป็นกลัวและก้มหัวลงแล้วกล่าว “ข้าได้ยินเสียงพวกท่านคุยกันอยู่ด้านนอก ข้าที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวจึงเกิดกลัวขึ้นมาเจ้าค่ะ”
“พวกเจ้าไปดูซิว่ามีคนอื่นอยู่ด้านหลังพระพุทธรูปอีกไหม?” หัวหน้าหน่วยสังหารได้สั่งการออกไป
หลินซีเหยียนจึงได้หยิบเอาผงยาไว้ในมือของนาง แล้วเตรียมหาจังหวะเหมาะๆที่จะใช้มัน เพราะนางไม่สามารถที่จะปล่อยเจียงหวายเย่เอาไว้ได้ ดังนั้นนางจำแต่จะต้องจัดการกับคนทั้ง 15 คนนี้เท่านั้น
แต่คนเหล่านี้ต่างก็มีวรยุทธ์ไม่น้อยด้วยวรยุทธ์ของนางแล้วไม่อาจที่จะต่อกรได้ นางจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ยาเข้าช่วยเท่านั้น แต่ในเวลานี้พวกเขาก็ระวังตัวมากด้วย เรียกง่ายๆว่าหมดโอกาสหลบหนีแล้ว
แล้วทันใดนั้นหัวหน้าหน่วยสังหารก็เห็นลูกน้องของเขาทั้งสามคนที่จู่ๆก็ร่วงลงไปนอนกับพื้น เขาจึงได้สั่งให้คนอื่นๆถอยห่างออกจาก หลินซีเหยียนและไม่ปล่อยให้นางมีโอกาสให้ใช้ยาพิษได้
หลินซีเหยียนรีบวิ่งมาทางเจียงหวายเย่และต่อสู้เพื่อปกป้องเขา
สถานการณ์ที่คุมเชิงได้อยู่นั้นคงอยู่ได้ไม่นานนัก และหลินซีเหยียนก็ได้ทรุดลงไปแต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้ ในเวลานี้เหลือเพียงแค่ 5 คนจาก 15 คนแล้วด้วย นางยังพอมีความหวังอยู่บ้าง
“จัดการพร้อมกัน เราจะปล่อยยืดเยื้อไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว” หัวหน้าหน่วยสังหารเงยหน้ามองฟ้าแล้วสั่งการออกไป ในเวลานี้ฝนหยุดตกแล้ว เขาเชื่อว่าพวกหน่วยอันน่าจะมาตามหาพวกเขาในไม่ช้าแน่
หลินซีเหยียนได้ต้านทานสองคนที่อยู่ตรงหน้านาง แต่ก็ไม่อาจสามารถป้องกันคนที่มาจากด้านข้างและด้านหลังได้ นางจึงได้หลับตาและเตรียมรับความเจ็บปวด
แต่นางก็ไม่รู้ว่าทำไมความเจ็บปวดที่คาดเอาไว้ถึงยังไม่มา แต่ในหูของนางกลับได้ยินเสียงร้องของพวกคนเหล่านั้นแทน
หลินซีเหยียนได้ลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปเห็นเจียงหวายเย่ที่ยืนอยู่ข้างนางตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ห้าคนที่เหลือต่างก็กรีดร้อง “เจ้า....เจ้าสามารถยืนได้”
หลินซีเหยียนคิ้วขมวด “หรือว่าเขากินยานั่นอีกแล้ว?” นางจำได้ว่านางยึดยานั้นเอาไว้หมดแล้วแท้ๆ
เจียงหวายเย่ไม่ตอบหลินซีเหยียน แล้วดวงตาที่เย็นชาของเขาก็ได้จับจ้องไปที่ 5 คนนั้น ความลับถูกเปิดโปงแล้ว เขาไม่อาจที่จะปล่อยให้ 5 คนนี้มีชีวิตรอดได้
แล้วทันใดนั้นทั้ง 5 คนก็ตายลงทันที หลินซีเหยียนมองไปที่เจียงหวายเย่อย่างตะลึง นี่คือความสามารถที่ของชายคนนี้อย่างนั้นเหรอ? ไม่นึกเลยว่าจะทรงพลังมากขนาดนี้
ซึ่งในขณะที่หลินซีเหยียนอยากที่จะถามอะไรบางอย่างนั้น เจียงหวายเย่ก็ได้สลบลงไปอีกครั้ง ซึ่งหลินซีเหยียนก็รับเขาเอาไว้ได้ก่อนที่เขาจะลงไปนอนกับพื้น
ความรู้สึกดีที่คุ้นเคย เจียงหวายเย่สลบลงไปในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น นั่นคือความคิดสุดท้ายของเขาก่อนที่จะจมลงไปในห้วงความมืดมิด
ร่างกายที่ร้อนจัดของเจียงหวายเย่นั้นได้ทะลุผ่านเสื้อผ้าของหลินซีเหยียน หลินซีเหยียนมองไปที่เลือดที่ติดอยู่ที่มุมปากของเขา จึงอดไม่ได้ที่จะดุเขา “รู้ดีว่าตัวเองกำลังจะตายแต่ก็ยังกินยาที่มีผลข้างเคียงแบบนั้นอีก ดูเหมือนว่าท่านเนี่ยอยากจะทำลายชื่อเสียงของข้าเสียจริงๆนะ”
หลินซีเหยียนนั้นโกรธมากที่เจียงหวายเย่ไม่รักตัวเองเช่นนี้ แต่นางจะว่าเขามากก็ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงหวายเย่ช่วยไว้ล่ะก็ ทั้งคู่ก็คงจะตายไปแล้ว
อุณหภูมิของเขาที่แผ่มาที่แขนของนางนั้นร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ หลินซีเหยียนจึงได้พยายามแบกเจียงหวายเย่ไว้ที่หลังของนางแล้วเดินทางออกจากที่นี่ แต่ด้วยร่างกายเล็กๆของนางจึงไปได้ไม่ไกลนัก แต่ทว่าก็พบกับอันอี้และคนอื่นๆเข้าพอดี
“เจ้าทำอะไรกับองค์ชายน่ะ?” อันอี้มองไปที่หลินซีเหยียนอย่างระแวดระวัง และมีแววตาที่อันตรายออกมาจากสายตาของเขา
แล้วหลินซีเหยียนก็นึกขึ้นได้ว่านางนั้นยังเป็นหมอผีอยู่ นางจึงได้ทำเป็นไอแล้วเปลี่ยนเสียงของนางให้เป็นแบบแหบแห้ง “มีคนที่คิดลอบสังหารนายท่านของพวกเจ้า แล้วนายท่านของพวกเจ้าจึงได้กินยาต้องห้ามเข้าไปเพื่อเอาชีวิตรอด”
อันอี้นั้นอยากที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูก หลินซีเหยียนขัดเข้าด้วยความโกรธ “นายท่านของเจ้ากำลังเป็นอันตราย พวกเจ้ารีบไปหาสถานที่รักษาองค์ชายเร็วเข้า”
ด้วยความเป็นห่วงในชีวิตของเจียงหวายเย่ อันอี้ได้ตัดสินใจที่จะเชื่อใจหมอผีอีกสักครั้ง
อันอี้และคนอื่นๆทำงานกันอย่างดีมาก ไม่นานนัก หลินซีเหยียนกับองค์ชายเย่ก็ได้ถูกพาไปโรงเตี๊ยมที่อยู่ใกล้ที่สุด
“และช่วยเตรียมผ้าสะอาด และเตรียมน้ำร้อนให้ข้าสักถังด้วย” หลินซีเหยียนกล่าวและผลักพวกเขาออกไปจากห้อง
เมื่อนางกลับมาที่เตียงนอน แล้วมองไปที่เจียงหวายเย่ที่กำลังหลับใหล เพราะไข้ที่ขึ้นสูงทำให้แก้มทั้งสองข้างของเขาแดงขึ้นมาบนใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา ซึ่งในเวลานี้แม้แต่หลินซีเหยียนเองก็ต้องตกตะลึง
“หลินซีเหยียน เจ้ามีสติหน่อย” หลินซีเหยียนมีสติกลับมาและตบหน้าของตัวเอง
หลินซีเหยียนหยิบเข็มเงินขึ้นมาแล้วเตรียมปักลงไปที่ตัวของเจียงหวายเย่ แต่ก่อนที่เข็มจะได้ปักลงไปที่ตัวเขา ข้อมือของหลินซีเหยียนก็ได้ถูกจับเอาไว้
หลินซีเหยียนเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่ดวงตาสีเข้มที่หาที่เปรียบไม่ได้ของเขา ซึ่งในเวลานี้เต็มไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระแวดระวังและการฆ่าฟัน
“ปล่อยข้านะ” นางเริ่มมีอาการเจ็บที่ข้อมือของนาง แล้วสีหน้าของหลินซีเหยียนก็ไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ
องค์ชายเย่ก็ได้หรี่สายตาลง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาแล้วเข้าใกล้กับริมฝีปากแดงๆของนางมากขึ้นเรื่อย
“เจียงหวายเย่ เจ้า.....” หลินซีเหยียนสายตาเบิกกว้างและพยายามปลุกให้เจียงหวายเย่ได้สติ แต่แล้วเขาก็ฉวยโอกาสประกบปากของนางและล่วงล้ำอนาธิปไตยในปากของนาง
“ท่านหมอผีขอรับ ข้าได้เตรียมที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้ว” ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามา เขาก็พบกับภาพที่ทำให้เขาต้องตกใจ และหวาดกลัวที่จะอยู่ตรงนั้นต่อ องค์ชายของเขาชอบหมอผีเหรอเนี่ย? แต่ทว่าหมอผีเป็นผู้ชายนะ! แล้วอายุก็น่าจะมาก.....
การจูบนี้จบลงด้วยหลินซีเหยียนที่แทบจะขาดอากาศตาย ในขณะที่หลินซีเหยียนกำลังเวียนศีรษะจนแทบจะขาดสตินั้น นางก็ได้ปักเข็มเงินลงไปที่เจียงหวายเย่ที่กำลังลวนลามนาง
“นายท่าน” อันอี้ตะโกนด้วยความตกใจ
หลังจากที่เข็มเงินปักเข้าไปที่ตัวของเขา แก้มซีดๆของเจียงหวายเย่ที่ซีดอยู่แล้วในเวลานี้กลับไม่มีสีของเลือดบนใบหน้าอีกเลย แล้วเหงื่อก็ได้เริ่มผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเขาแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดของเขา แต่ดูแล้วเขาคงไม่สนใจมากนักเพราะเขามีรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วหลินซีเหยียนก็โกรธมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อสักครู่นางนั้นอยากที่จะฆ่าเขามาก แต่นางก็ทำไม่ได้เพราะไม่เพียงแต่เจียงหวายเย่นั้นจะเป็นองค์ชาย แต่ยังเป็นอาจารย์ของเทียนเอ๋อและผู้นำของหอพันกลอีกด้วย
นางเขียนใบสั่งยาลงกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับอันอี้แล้วกล่าวอย่างโมโห “โยนเจ้านายของเจ้าใส่ลงไปในน้ำอุ่นเพื่อขับไล่ความเย็น”
ถึงแม้ว่าหมอผีนั้นจะพูดด้วยวาจาที่รุนแรง แต่เขาก็ยังทำตามแล้วมองดูหลินซีเหยียนที่หยิบเอายาออกมาจากในแขนเสื้อของเขาแล้วเอายาเหล่านั้นลงไปในน้ำด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด
“ท่านหมอ นั่นคืออะไรหรือขอรับ?” อันอี้ถามอย่างสงสัย
“นี่คือผงยาที่ข้าทำขึ้นมาเองอย่างยากลำบากและใช้สมุนไพรล้ำค่าจำนวนมาก มันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย, ขับพิษทำให้พลังฉีเพิ่มขึ้น” ยิ่งหลินซีเหยียนพูดมากเท่าไร นางก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น “เจียงหวายเย่ ข้าจะคิดราคายานี้แก่เจ้าในราคามิตรภาพ 5,000 ตำลึงทองเท่านั้น”
เจียงหวายเย่ก็ยิ้มด้วยริมฝีปากบางๆของเขา ราวกับเขาไม่สนใจราคาที่ขูดรีดของหมอผีเลย
“ถ้ามันสามารถขับพิษได้ ก็แสดงว่านายท่านจะสามารถลุกขึ้นยืนได้โดยไม่ต้องใช้ยาพิษนั่นอีกแล้วใช่ไหมขอรับ?” อันอี้มีสีหน้าตื่นเต้นมาก
หลินซีเหยียนลูบจมูกของนางแล้วตอบอย่างเขินๆ “ถ้าโดยปกติน่ะใช่ แต่พิษอยู่ในร่างกายขององค์ชายนานเกินไปจึงทำให้ยากมากที่จะขับออกได้ ซึ่งยาตัวนี้ทำได้แค่ขับออกไปแค่บางส่วนเท่านั้น”
เจียงหวายเย่ที่กำลังเอนตัวอยู่อ่างก็ได้หลับตาลงช้าๆ ถึงแม้ว่าการอาบยาอุ่นๆนี้จะไม่สามารถรักษาพิษในร่างกายของเขาได้ แต่ก็สามารถนำพาความอบอุ่นที่หายไปนานของเขากลับมาได้ก็เพียงพอแล้ว
หลินซีเหยียนมองดูเขาที่ดูเหนื่อยล้าก็รู้สึกสงสารขึ้นมานิดหน่อย จากนั้นนางก็ได้ยกมือขึ้นมาแล้วตบลงไปที่หลังของเขาแล้วจากนั้นก็ดึงเข็มเงินที่แสนเจ็บปวดนั้นออกมา
“ดูแลองค์ชายของเจ้าให้ดี ข้ายังมีธุระอื่นต้องไปทำ ลาก่อน” หลังจากที่พูดจบ หลินซีเหยียนก็ได้สะบัดแขนเสื้อของนางแล้วจากไปโดยไม่เห็นแม้แต่เงา