CD บทที่ 49 หาฉันเจอได้อย่างไร
ระบบกำลังทำงาน Dui(ทะเลสาบ) Zhen(สายฟ้า)! สายฟ้าหวนย้อนกลับ กระจายออกจากภายใน ซ้ำร้ายไม่อาจแยกจากธาตุทั้งห้าได้ เงินตราอาจผันผวน เรื่องไม่คาดจะปรากฏ
หลังจากอาการไอที่รุนแรง ระบบปาฏิหาริย์ก็เริ่มทำงานขึ้นอีกครั้งในตอนเช้า
“Dui-Zhen งั้นเหรอ?” จ้าวหยู่สงสัย
จ้าวหยู่พยายามนึกคำนายเก่า ๆ และตระหนักได้ว่าไม่เคยมีเหตุการณ์เกี่ยวกับฟ้าร้อง ฟ้าผ่าอะไรแบบนี้มาก่อน มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
แม้ว่าในครั้งก่อน ๆ คำว่า ‘ย้อนกลับ’ จะปรากฏตัวอยู่หลายครั้งก็ตามแต่จ้าวหยู่เองก็ยังคงไม่สามารถคาดเดาความหมายของมันได้เช่นเดิม คำทำนายในตอนเปิดระบบเริ่มตีความยากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้จ้าวหยู่รู้สึกอับจนหนทางมากขึ้นไปอีก เขาไม่อาจสามารถเข้าใจข้อความนั้นได้เลย ทำได้แค่พัยงบันทึกข้อความเหล่านั้นลงบนสมุดอย่างระมัดระวังเพื่อหวังว่าในภายภาคหน้าที่กลับมาอ่าน เขาจะสามารถเข้าใจมันได้มากกว่าเดิม
เหตุผลในการตื่นเช้าของจ้าวหยู่ไม่ใช่เพราะเขาต้องการไปทำงานให้ทันเวลาแต่อย่าใดแต่เป็นเพราะหลี่เบ่ยหนีโทรมาสักครู่นี้ต่างหากที่ทำให้เขาต้องตื่นเช้าขนาดนี้ หลี่เบ่ยหนีกล่าวว่า หลี่ดัน คนร้ายที่สามารถจับกุมตัวได้เมื่อวาน เธอได้ปฏิเสธการพูดคุยในระหว่างการสอบปากคำ เธอถามหาแต่เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่จับตัวเธอ เห็นได้ชัดว่าตำรวจที่เธอตั้งการจะพบก็คือ จ้าวหยู่!
จ้าวหยู่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่ดันถึงอยากพบตัวเขานัก? เธอต้องการจะทำอะไร?
แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะได้พบกับเธออยู่เช่นกัน แม้ว่าเขาจะรู้เบื้องหลังการก่อคดีนี้อยู่แล้ว แต่เขายังคงมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเธอ ดังนั้นหลังจากที่เปิดระบบปาฏิหาริย์เสร็จ เขาก็รีบตรงไปยังห้องสอบปากคำในทันที
ที่ห้องสอบปากคำ ทั้งมืดและเงียบ มีเพียงแต่แสงสว่างจากหลอดไฟแกว่งไปมาเท่านั้น การจัดฉากแบบนี้ทำให้มีผลต่อความคิดของอาชญากร มันจะส่งผลให้พวกเขายอมรับและสารภาพได้เร็วขึ้น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จ้าวหยู่ได้มาที่ห้องสอบปากคำ เขามักจะนั่งอยู่อีกด้านของโต๊ะเสมอแต่ในครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะเขากำลังอยู่ฝั่งที่ตรงข้ามกับผู้ต้องหา! มันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ในใจเล็กน้อย
หลี่ดันยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ห้องสอบสวน แขนของเธอถูกใส่กุญแจมือเพื่อป้องกันการก่อเหตุเอาไว้ ศีรษะของเธอกำลังก้มลงพร้อมกับผมยาว ๆ ที่พาดอยู่บนบ่า มองดูเผิน ๆ เธอดูเหมือนพวกผีจากหนังสยองขวัญ
เมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง เธอผงกศีรษะขึ้นและพบกับเจ้าหน้าที่ตรงหน้าอย่างชัดเจน
จ้าวหยู่มองดูเธออย่างระมัดระวัง ส่วนสูงของหลี่ดันไม่ได้สูงมากนัก เธอมีใบหน้าเรียวงามและผิวของเธอก็เรียบเนียน แม้ว่าเธอจะอายุ 36 ปี แต่เธอกลับดูคล้ายพวกเด็กนักเรียนมัธยมเสียมากกว่า มันเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากมากว่าผู้หญิงที่เขากำลังมองอยู่นี้ได้ลงมือก่อเหตุตัดมือคนไปแล้วถึงสามคนแล้ว!
“ได้ยินว่าคุณถามหาฉัน? มีเรื่องอะไรกัน? คุณไม่เชื่อหรือไงว่าฉันจะสามารถจับตัวคุณได้?” จ้าวหยู่ไม่รู้ว่าวิธีการสอบปากคำที่ถูกต้องนั้นควรทำอย่างไร เขาเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่ผู้สอบปากคำคนอื่น ๆ หลีกเลี่ยงที่จะใช้ เมื่อผู้สอบสวนคนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างพากันขมวดคิ้วกันไปหมด
“เป็นคุณหรอกหรือ!?” ราวกับว่าเสียงของหลี่ดันนั้นไม่ได้ผ่านมาจากลำคอของเธอ แต่ส่งตรงมาจากส่วนหน้าอกของเธอต่างหากซึ่งฟังดูแล้วไม่ค่อยจะเป็นมิตรมากสักเท่าไหร่นัก
“ใช่ ฉันเอง มีปัญหาหรือไง?” จ้าวหยู่พยายามพูดนิ่ง ๆ พร้อมด้วยท่าทีข่มขู่ เขากระแทกมืองลงบนโต๊ะอย่างแรง พร้อมกล่าวต่ออีกว่า “สารภาพทุกอย่างออกมาซะดี ๆ! ยอมรับความผิดในขณะที่ยังได้รับความปรานีเสียดีกว่า มิเช่นนั้นทางเราคงต้องบังคับจนกว่าคุณจะยอม!”
“ถ้าคุณสามารถจับตัวฉันได้ แสดงว่าคุณต้องรู้เรื่องทั้งหมดแล้วสินะ ว่าฉันลงมือไปทำไมกัน” หลี่ดันเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “บอกฉันเร็วว่ามันเป็นใคร!”
“ห๊ะ? อะไรนะ?” จ้าวหยู่ประหลาดใจ “หมายความว่ายังไง มันเป็นใคร? ทำไมเหรอ?”
“ใครเป็นคนวางใบมีดที่เปียโนนั่น!” ดวงตาหลี่ดันเบิกกว้าง “ใครเป็นคนวางกับดักเล่นงานฉัน!!”
จ้าวหยู่มองไปที่มือขวาของหลี่ดัน เขาสังเกตเห็นได้ว่าเธอมีชิ้นส่วนนิ้วเล็ก ๆ ที่ขาดหายไปจากนิ้วกลาง ซึ่งมันทำให้เสียรูปไปเล็กน้อย แต่ก็ยากที่จะบอกได้ถ้าคุณไม่ได้มองดูให้ดีเท่าที่ควร
“เดี๋ยวนะ ขอเวลาฉันคิดอะไรสักหน่อย” จ้าวหยู่ขมวดคิ้วและพยายามนึกถึงสถานการณ์ความเป็นไปได้ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า “เป็นไปได้ไหมว่าคุณไม่รู้ว่าใครคือคนร้ายที่วางใบมีดในครั้งนั้น? แล้วทำไมคุณถึงตัดมือคนมากมายขนาดนี้? คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!”
“ฮึ่ม!” หลี่ดันพูดอย่างป่าเถื่อน “ถ้าพวกมันไม่มายุ่งกับเวลาซ้อมของฉันเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น! ไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ พวกมันก็ต้องรับผิดชอบ! บอกฉันมาว่าใคร! เกาเทียน? หยวนหลีลี่? หรือหลัวเหม่ยนา? คนไหน!”
“นี่!” จ้าวหยู่กำลังงง “คุณหมายความว่ายังไง? ผู้เข้าแข่งขันรอบนั้นก็มีจำนวนตั้งมากมาย ทำไมถึงเจาะจงมาที่สามคนนี้ว่าเป็นคนร้าย?”
“ก็ฉันได้ตัดมือพวกนั้นไปแล้วไงล่ะ!” หลี่ดันกัดฟันขณะพูด “ฉันไม่คิดว่าแผนของฉันจะมีช่องว่างเกิดขึ้นได้! ถ้า 1 ใน 3 คนนั้นยอมรับว่าเป็นคนวางใบมีดไว้ที่เปียโน พวกคุณก็สามารถดำเนินคดีกับฉันได้เลย! เร็วสิ! บอกมาว่ามันเป็นใคร!” หลี่ดันตื่นเต้นมากขณะพูด เธอพยายามดิ้นรนไปมาบนเก้าอี้สอบสวน
‘หรือว่า...’
“เฮ้? คุณไม่มั่นใจเกินไปหน่อยหรือไง?” จ้าวหยู่ส่ายหัว “คิดว่าเหยื่อในสามคนนั้นเป็นคนบอกเราเรื่องคุณหรือ? คิดว่าเราไม่มีวิธีหาทางเจอตัวคุณได้เลยหรือไง? นี่คุณไม่ได้มองว่า…”
จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าสิ่งที่หลี่ดันพูดอาจจะมีความจริงอยู่บ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะระบบปาฏิหาริย์ เขาก็คงไม่สามารถพบตัวหลี่ดันได้และไม่ใช่แค่นั้นยังมีหลักฐานต่าง ๆ รวมทั้งมือของเหยื่อทั้งสามอีกที่หลี่ดันเก็บไว้ที่บ้านของเธอ เลยทำให้เธอมั่นใจได้ขนาดนี้งั้นหรือ? สองคดีแรกที่เกิดขึ้น ทางตำรวจเองก็ไม่สามารถไขคดีได้เป็นปี ๆ! ใครจะไปคิดกันว่าคดีมือที่หายไปจะเกิดขึ้นเพราะเรื่องเปียโนเมื่อ 18 ปี ก่อน!?
“ก็ได้! ไม่ต้องบอกก็ได้!” หลี่ดันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันได้ลงมือแก้แค้นไปแล้ว! ไม่ว่าจะเป็นใครในสามคนนั้นก็ตาม! ทั้งหลักฐานและมือพวกมันก็อยู่ที่บ้านของฉันเอง แค่ให้พวกมันตกต่ำลงไปพร้อมกับฉันได้ก็พอ! หึ ตอนนี้ฉันจะปล่อยให้พวกมันได้ลิ้มรสความรู้สึกของการสูญเสียดูบ้าง ดูสิว่าชีวิตที่ไร้มือมันเป็นยังไง!”
“ไม่! คุณคิดผิดแล้ว!” จ้าวหยู่ส่ายหน้าและถอนหายใจ “สามคนนั้นไม่มีใครบอกเราเรื่องคุณเลยสักคน! คุณพลาดแล้วล่ะ ฉันใช้วิธีอื่นในการสืบข้อมูลของคุณต่างหาก!”
“ว่าไงนะ?” หลี่ดันรู้สึกทึ่ง “วิธีการอะไร? เป็นไปไม่ได้!”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเหยื่อทั้งสามรายต่างเคยเข้าร่วมการแข่งขันเปียโนเมื่อ 18 ปีก่อน หลังจากนั้นก็พบพยานที่บอกเล่าเรื่องราวคุณได้ จากนั้นก็ค้นหาบ้านของคุณเจอจนสามารถจับกุมตัวคุณได้นี่ไง!”
“ใครกัน?! เป็นไปไม่ได้!” หลี่ดันยังคงไม่เชื่อ “ไม่น่าจะมีคนรู้เรื่องนี้เท่าไหร่นี่!”
“ถึงจะมีน้อยแต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย” จ้าวหยู่ย้อนกลับ “แต่เพราะเรื่องมันเกิดมานานถึง 18 ปี เลยยากที่จะค้นหาก็เท่านั้น!”
“แต่ก็นั่นแหละ!” หลี่ดันโต้กลับ “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอาศัยอยู่ที่ไหน!?”
“เมื่อตอนที่แม่ของคุณเข้าโรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็ง เธอใช้ที่อยู่จริงกรอกข้อมูลลงไปยังไงล่ะ”
“อะไรนะ!?” หลี่ดันตกใจมาก “เมื่อตอนที่แม่ลงทะเบียนฉันนึกว่าเธอจะใช้แค่เลขประกันสังคมซะอีก บ้าเอ๊ย!”
“นั่นเป็นเหตุผลที่เราบอกว่าไม่มีอาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบอยู่หรอกนะ!” จ้าวหยู่กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
“แค่นี้ฉันไม่ยอมรับหรอก!” หลี่ดันยังคงโต้เถียง “หากสิ่งที่คุณพูดเป็นจริงก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้รวมถึงเรื่องที่ฉันจะซ่อนตัวในหลุมฝังศพอยู่ดี คุณหาฉันเจอได้อย่างไร?”
“ยาสลบคุณใช้การไม่ได้ยังไงล่ะ” จ้าวหยู่เริ่มโกหกโดยไม่กระพริบตา “แม้ว่าฉันจะหมดสติล้มลงไปก็จริง แต่ก็เห็นว่าคุณกำลังมุดหนีเพื่อนซ่อนตัวที่นั่น!”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง!” หลี่ดันพึมพา “เป็นไปไม่ได้” เธอพูดต่อเรื่อย ๆ ด้วยใบหน้าที่ยุ่งเหยิงและร่างกายของเธอก็ทรุดตัวลงด้วยความผิดหวัง