ตอนที่แล้วCD บทที่ 44 ที่ไหนคือที่เกิดเหตุ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 46 นักพยาธิวิทยามีคนสวยขนาดนี้เลยเหรอ?

CD บทที่ 45 ปืนฉีดน้ำที่คาดไม่ถึง


จ้าวหยู่บนโลกใบนี้เขาไม่เคยขับรถมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต เลยทำให้เขาไม่มีใบขับขี่ซึ่งแตกต่างกับสิงห์ประจำถนนอย่างจ้าวหยู่จากอีกโลกหนึ่งโดยสิ้นเชิง

ในโลกเก่าเขามักจะถูกทางตำรวจเรียกตัวไปพบที่โรงพักอยู่เป็นประจำ แม้ว่าการขับรถของเขาจะไม่ได้หวือหวาหรือเก่งกาจอะไรมากนัก แต่ฝ่ายตรงข้ามมักจะเกรงกลัวเขาอยู่เสมอ เนื่องด้วยวิถีการขับรถของเขาเป็นแบบเดียวกันกับที่เขาใช้ในการต่อสู้ เขาไม่เคยสนใจเลยว่าชีวิตตัวเองจะเป็นอย่างไร ขอเพียงแค่ได้ลงมือทำแบบสุดชีวิตก็พอ

จ้าวหยู่ยูกำลังขับรถตำรวจพร้อมกับเปิดไซเรน เขาเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วรถให้มากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้าไปสถานที่ที่หนึ่งที่เรียกว่าหม่าเจียเชียง ระหว่างทางเขาขับรถผ่านคันอื่น ๆ ไปนับไม่ถ้วน ไม่สนใจไฟจราจรใด ๆ ทั้งสิ้นว่าไฟจราจรจะแสดงสีอะไรอยู่และเกือบทำให้รถคันอื่น ๆ เสียหลักจนตกคลองมาแล้วสองถึงสามคัน คนขับรถคันอื่นต่างพากันสาปแช่งเขาไม่รู้จบ

แน่นอนว่าเหตุผลที่จ้าวหยู่ขับรถแบบนี้เพราะเป็นเหตุฉุกเฉินจริง ๆ เขากำลังไปที่หม่าเจียเชียงเป็นสุสานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองฉินชานและยังเป็นสถานที่ฝังศพของพ่อเชาลูลู่อยู่อีกด้วย เขากำลังเร่งรีบเพื่อไปช่วยชีวิตใครบางคนก็เท่านั้น

ถึงแม้ว่าจ้าวหยู่จะใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาที ในการเดินทางมาที่หม่าเจียเชียงก็ตาม แต่เนื่องจากที่นี่เป็นพื้นที่สุสานที่ค่อนข้างกว้างใหญ่พอสมควร แถมเขาไม่รู้อีกด้วยว่าตำแหน่งหลุมฝังศพของพ่อเชาลูลู่อยู่ตรงส่วนไหน จ้าวหยู่ทำได้แค่เพียงขับวนไปรอบ ๆ เพื่อตามหาหลุมศพนั่นให้เจอ

ณ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาปลายเดือนเมษายน จึงทำให้วัชพืชต่างพากันขึ้นจนรกหูรกตาเต็มไปหมด บดบังการมองเห็นต่าง ๆ ของจ้าวหยู่ได้เป็นอย่างดี การค้นหาของเขายิ่งยากขึ้นไปอีก เขาไม่สามารถนา รถขับเขามาในสุสานได้ตรง ๆ เลยทำได้แค่เพียงงขับรถวนไปรอบ ๆ บนถนนที่ค่อนข้างสกปรกข้าง ๆ ตัวสุสานนี้เท่านั้น

ในขณะเดียวกัน จางจิงเฟิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการตามหาคนก็สามารถพบสถานที่ที่แน่นอนของเชาลูลู่และติดต่อกลับมาที่จ้าวหยู่ในทันที เบื้องต้นเขาต้องการส่งตำแหน่งไปยังโทรศัพท์ของจ้าวหยู่แต่ทว่าจ้าวหยู่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตใช้ ดังนั้นเขาจึงขอให้จางจิงเฟิงบอกพิกัดมาตามสายโทรศัพท์นี้เลยแล้วเขาจะระบุตำแหน่งลงไปในอุปกรณ์ติดตามที่มีอยู่ภายในรถตำรวจคันนี้เอาเอง

หลังจากใส่ข้อมูลตำแหน่งลงไป ดวงตาของจ้าวหยู่ก็เบิกกว้างขึ้นในทันที การคาดเดาของเขาถูกต้อง! ตำแหน่งของเชาลูลู่กำลังอยู่ในสุสานหม่าเจียเชียงจริง ๆ ถ้าหากเชาลูลู่อยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่าหลี่ดันเองก็อาจจะอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน!

เขาแทบจะขับรถพุ่งพรวดเข้าไปภายในสุสานทันทีแต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ จ้าวหยู่ทำได้แค่เพียงพยายามจดจำพิกัดตำแหน่งที่ได้มาแล้วทิ้งรถตำรวจไว้อยู่ด้านนอกก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังพื้นที่หลุมฝังศพด้านใน

ถึงแม้จะเป็นปลายเดือนเมษาที่เกือบจะเข้าเดือนพฤษภาคมก็ตาม แต่อากาศที่นี่ยังหนาวเย็นพร้อมอากาศที่อับชื้น ที่นี่ไม่ได้รับการดูแลมากว่าสองสัปดาห์มีทั้งเศษกระดาษ เศษประทัดกระจายอยู่เต็มพื้น ที่สุสานที่ว่างเปล่านี้เต็มไปหมด

ขณะที่จ้าวหยู่ก้าวข้ามกลุ่มวัชพืชและหลุมฝังศพมากมาย เขาก็บังเอิญเจอกับแท็กซี่สีฟ้าคันหนึ่งเข้า

“โอ้? ทำไมแถวนี้ถึงมีแท็กซี่มาจอดอยู่กัน?” จ้าวหยู่รีบวิ่งไปหารถคันนั้นในทันที รถแท็กซี่คันนั้นถูกจอดอยู่ข้างทาง พร้อมกับคนขับรถที่กำลังสูบบุหรี่และฟังวิทยุอยู่ด้านใน

“มีคนขับอยู่ด้วย?” จ้าวหยู่คิดอยู่ภายในใจ “แถวนี้น่าจะเป็นตำแหน่งที่เชาลูลู่อยู่ หรือว่าแท็กซี่คันนั้น!” จ้าวหยู่รีบตะโกนไปทันที “เฮ้!” เขารีบวิ่งไปหาคนขับรถพร้อมกับชูตราสัญลักษณ์ตำรวจขึ้นมา “ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุณมาทำอะไรแถวนี้?”

เมื่อเห็นคนเป็น ๆ กระโดดมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ในบริเวณสุสานด้วยท่าทีร้อนร้นทำให้คนขับตกใจเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาเกือบจะกลายเป็นสีเขียวซีดด้วยความกลัวจนเผลอทำบุหรี่ตกจนเกือบจะเผาขาของตัวเขาเอง เมื่อเขาเห็นตราตำรวจของจ้าวหยู่ เขาก็พูดติดอ่างออกมาว่า

“เอ่อ คือ ผมแค่มาส่งลูกค้าก็เท่านั้นเองนะครับ!! ไม่ได้มาทำอะไรไม่ดีนะ”

“ใช่คนจากสนามบินหรือเปล่า?” จ้าวหยู่ถามด้วยความเร่งรีบ “เป็นผู้หญิงใช่ไหม?”

“คุณรู้ได้อย่างไรครับ?” คำถามของจ้าวหยู่สร้างความงุนงงให้กับคนขับเป็นอย่างมาก เขารีบปิดวิทยุลงเพื่อจะได้พูดคุยกับจ้าวหยู่ได้ถนัด ๆ “เธอเป็นผู้หญิงสวย ๆ ที่มาจากประเทศอะไรสักอย่างนี่แหละครับ!”

“จริงเหรอ!!” จ้าวหยู่ตกใจจนเกือบเผลออุทานใส่กับคนขับรถเข้าให้ เขารีบถามคำถามต่ออีกว่า “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”

“อยู่แถว ๆ นู่นน่ะครับ!” คนขับยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาทำแค่เพียงชี้ตำแหน่งที่อยู่ของหญิงสาวคนนั้นว่าอยู่ตรงไหนเท่านั้น

“เธอไปนานแค่ไหนแล้ว!” จ้าวหยู่ตะโกนถาม

“ไม่กี่นาทีเองมั้ง…ครับ” คนขับยังคงสงสัยไม่หยุด “คุณเป็นตำรวจจริง ๆ หรือครับ เกิดอะไรขึ้น?”

จ้าวหยู่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาต่อบทสนทนาอะไรด้วยได้ เขารีบวิ่งไปทางที่คนขับคนนั้นชี้ไปในทันที “ไม่กี่นาที แค่ไม่กี่นาที ขอให้ทันทีเถอะ!”

เขาไม่มั่นใจเท่าไหร่นักว่าเขาจะได้พบเธอในอีก ‘ไม่กี่นาที’ ในสภาพแบบไหน

จ้าวหยู่ออกวิ่งอย่างเร็วแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ขณะที่เขาเลี้ยวผ่านสุสานที่คดเคี้ยวไปเรื่อย ๆ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยตามวัชพืชอย่างผิดสังเกต พวกมันมีสีที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

“สีเขียว? ทำไมถึงเป็นสีนี้ไปได้?” จ้าวหยู่ขยับเข้าไปมองใกล้ ๆ เพื่อจะได้มองเห็นชัด ๆ เขากระโดดข้ามหลุมฝัง

ศพบางส่วนและในที่สุดเขาก็สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากในระยะไกล ๆ นี้ได้ สิ่งที่เขาเห็นทำให้ท่าทางเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“ให้ตายสิ จริงเหรอเนี่ย!”

จากจุดที่เขาอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 20 เมตรเท่านั้น เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมใส่ชุดรัดรูปกำลังยุ่งอยู่กับอะไรสักอย่างตรงหน้าหลุมศพ เธอสวมหมวกผ่าตัดอยู่ด้วย! หมวกนั่นเป็นสีเขียว สีเดียวกันกับที่จ้าวหยู่เห็นมาตลอดทางขณะมาที่นี่! ใต้ร่างของเธอมีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อขนสัตว์สีขาวและรองเท้าส้นสูงนอนอยู่บนพื้น! หญิงที่ใส่หมวกผ่าตัดดูเหมือนกับว่าเธอจะทำอะไรบางอย่างเสร็จไป เธอรีดแขนเสื้อของผู้หญิงบนพื้นขึ้นสูงพร้อมกับวางมือของเธอลงบนกระดานอะไรสักอย่างเพื่อเอามารองในการตัดมือ!

ทันใดนั้น ขณะที่จ้าวหยู่เฝ้ามองดูอยู่ เธอก็ยกขวานสีเงินขึ้นมากลางอากาศ!

“เฮ้ย!?” จ้าวหยู่ตกใจจนกระโดดขึ้นมาจากจุดที่ซ่อนอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย! หยุดนะ!!”

เสียงตะโกนของเขาเต็มไปด้วยความดุดันและเด็ดขาด ผู้หญิงสวมหมวกผ่าตัดเผลอชะงักไปในทันที เธอตัวสั่นเงยหน้าขึ้นมามองจ้าวหยู่อย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตระหนกตกใจ จ้าวหยู่พยายามรีบเข้าไปทำการเข้าล็อคตัวเธอพร้อมกับออกเสียงตะโกนอีกว่า

‘ให้ตายสิ!! ในที่สุดก็จับตัวได้สักที!!!’ จ้าวหยู่คิดอยู่ภายในใจ

ทันทีที่หลี่ดันเห็นจ้าวหยู่ สัญชาตญาณของเธอก็เริ่มทำงานและออกวิ่งไปในทันที!

“เฮ้! หยุดนะ! อย่าวิ่งหนีสิโว้ยย!!”จ้าวหยู่ตะโกนขณะไล่ล่าเธอ “หนีไปไหนไม่ได้หรอก! พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว!! จะหนีไปไหน!!”

เมื่อจ้าวหยู่วิ่งผ่านหลุมฝังศพ เขารีบทำการกวาดตามองตรวจสอบผู้หญิงที่ดูสวยและทันสมัยที่นอนสลบอยู่บนพื้นในทันที เธอถูกทำให้สลบแต่โชคดีที่เธอยังไม่ได้เป็นอะไรไป เธอคือเชาลูลู่อย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นคนร้ายที่กำลังวิ่งหนีไปนั่นก็ หลี่ดัน!

“หลี่ดัน!” ทันทีที่จ้าวหยู่คิดได้ เขาก็ปล่อยเชาลูลู่ทิ้งไว้และเริ่มไล่ล่าหลี่ดันต่อในทันที

หลี่ดันออกวิ่งไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันกับรถแท็กซี่ซึ่งมีทางเดินเล็ก ๆ ที่ทอดยาวไปสู่ถนนใหญ่ได้

“ฮึ่ม!! เธอหนีไม่พ้นหรอก!!” เมื่อจ้าวหยู่นึกถึงตำแหน่งที่เขาอยู่ตอนนี้ ความมั่นใจของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขามีความเชื่อมั่นในฝีมือการไล่ล่าคนของตัวเองไม่น้อย

“หลี่ดัน!! คิดจะไปที่ไหนห๊ะ!” จ้าวหยู่พยายามก้าวในการวิ่งให้มากขึ้นเพื่อจะได้ตามเธอได้ทัน เขาวิ่งได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ จนในที่สุดก็ไล่ตามเธอทันแต่ทันทีที่หลี่ดันถึงจุดสิ้นของเขตสุสาน เธอก็หยุดวิ่งขึ้นมากะทันหัน

“หื้ม?” จ้าวหยู่เองก็หยุดวิ่งตามเธอเช่นกัน ‘ทำไมเธอถึงหยุดล่ะ? หรือว่าในที่สุดเธอก็คิดได้ว่ายังไงก็หนีไม่พ้นเลยยอมจำนน?’ จ้าวหยู่คิดแค่เพียงว่าจะเข้าไปจับกุมตัวให้เธอเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ก็เท่านั้น

เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ดันแต่เขาคิดไม่ถึงมาก่อนว่าหลี่ดันจะมีปืนฉีดน้ำแบบพิเศษอยู่ด้วย จ้าวหยู่จำมันได้จากสิ่งที่เขาพบในห้องของเธอแต่เนื่องจากเขารีบ

ร้อนเพื่อจะทำการจับกุมทำให้เขาเผลอละเลยมองข้ามมันไปจนไม่รู้ว่าด้านในนั้นมียาสลบบรรจุเอาไว้อยู่ จ้าวหยู่ไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่ามันคืออะไร เข็มฉีดยาถูกยิงออกมาจากปืนฉีดน้ำ ในทันทีที่เขาพยายามจะจับตัวเธอ ด้วยระยะที่ใกล้ของจ้าวหยู่กับหลี่ดันทำให้เขาไม่สามารถหลบไปทางไหนได้

เขาโดนยิงเข้าที่หัวไหล่ ของเหลวกำลังไหลเข้าสู่ร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว!

“อ๊าก!! โธ่เว้ย! นี่ฉันโดนหลอกเหรอเนี่ย!!”

ดวงตาจ้าวหยู่เบิกกว้างจ้องมองหลี่ดันที่ห่างจากตัวเขาไปไม่กี่เมตร เขารู้สึกได้ว่าแขนขาเขาเริ่มอ่อนแรงลงและโลกก็หมุนไปมาไม่หยุด ภาพตรงหน้าค่อย ๆ เลือนหายไป เขาเห็นว่าหลี่ดันกำลังวิ่งออกไปทางถนนใหญ่ จากนั้นเสียงไซเรนก็ดังขึ้นรอบ ๆ บริเวณที่เขาอยู่ ก่อนที่เขาจะหมดสติไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด