CD บทที่ 42 หลุมในสุสาน
เหยื่อรายที่สองในคดีมือที่หายไป หยวนหลีลี่ มือของเธอถูกตัดออกขณะนอนอยู่ภายในบ้านพักของเธอเอง โอกาสในการแฝงตัวไปในฝูงชนแบบในเคสแรกแทบเป็นไปได้ยาก แต่กรณีของหยวนหลีลี่นับว่าพิเศษกว่ามากเนื่องจากรอบบ้านของเธอเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิดมากมาย แต่กลับไม่พบร่องรอยชวนสงสัยใด ๆ เคสนี้ทำให้ทางตำรวจหัวหมุนและค่อนข้างที่จะสับสนว่าคนร้ายใช้วิธีการแบบไหนกันถึงสามารถหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายดายขนาดนี้?
แต่เมื่อจ้าวหยู่เห็นรายละเอียดของแผนที่หลี่ดันทำเอาไว้เขาก็เข้าใจมันได้ทันทีว่าเธอทำได้อย่างไร ถ้าคีย์เวิร์ดในคดีของเกาเทียนคือ ‘ช่องระบาย’ คีย์เวิร์ดของหยวนหลีลี่ก็คือ ‘บันได!’
หลี่ดันใช้บันไดแบบสามารถพับได้ปีนขึ้นไปที่อาคารข้างบ้านหยวนหลีลี่ตัวอาคารห่างกับห้องพักของหยวนหลีลี่ประมาณ 5 เมตร หลี่ดันจึงนำบันไดนั้นมาสร้างเป็นสะพานเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างตึกนั่นเอง
หลี่แดนไม่เพียงแต่วางแผนเรื่องการใช้บันไดอย่างรอบคอบเท่านั้น แต่เธอยังเตรียมพร้อมเรื่องเสบียงพวกน้ำและอาหารไว้อีกด้วย เธอนำสิ่งของเหล่านี้ซ่อนเอาไว้ที่ชั้นดาดฟ้า ในวันที่ 23 เมษายน
หลังจากที่หลี่แดนก่อเหตุตัดมือเกาเทียนเสร็จ เธอไม่ได้ตรงกลับบ้านในทันทีแต่เธอตรงไปเขตที่หยวนหลีลี่พักอาศัยอยู่แทน ด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่มฝูงชนที่กำลังเดินไปทำงาน เธอจึงสามารถขึ้นไปชั้นดาดฟ้าและซ่อนตัวอยู่ที่นั่นได้ ขณะที่เธอเดินเข้ามาจากตัวอาคารอื่นและออกไปในไม่กี่วันข้างหน้า ตัวแทนหมู่บ้านที่ดำเนินเรื่องการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจึงไม่ทันได้สังเกตุเห็นเธอ
หลี่แดนรอคอยอย่างอดทนจนกระทั่งถึงเวลาค่า ของวันที่ 25 เธอใช้บันไดปีนข้ามไปฝั่งบ้านหยวนหลีลี่ จากชั้นดาดฟ้าไม่สามารถทำให้ข้ามไปห้องพักหยวนหลีลี่ได้โดยตรง หลี่ดันเลยใช้เชือกเป็นทางลงเข้าสู่ทางเดินจากชั้นหน้าต่างแทน
ห้องพักหยวนหลีลี่อยู่ที่ชั้นสาม หลี่แดนได้เตรียมกุญแจสำรองเข้าห้องหยวนหลีลี่เอาไว้แล้วล่วงหน้า นอกจากนั้นเธอยังเตรียมเครื่องดักฟังแอบฟังข้อมูลไว้อีกด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าวันนี้หยวนหลีลี่จะอยู่บ้านตามลำพัง
หลี่แดนได้ดำเนินการตามแผนเช่นเดียวกันกับเคสของเกาเทียน เธอฉีดยาชาและเริ่มลงมือก่อเหตุในเวลาต่อมา หลังจากก่อเหตุเสร็จเรียบร้อย หลี่ดันเก็บเครื่องดักฟังและทำที่ล็อคประตูให้เสียหายเหมือนมีใครบุกเข้ามาเพื่อเป็นการอำพรางคดี หลังจากนั้นเธอก็ใช้เชือกปีนขึ้นกลับไปและใช้บันได้ที่เตรียมมาข้าม
กลับไปดาดฟ้าอีกฝั่ง
เมื่อจ้าวหยู่ได้อ่านสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทำให้เขารู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ เธอซ่อนตัวอยู่ที่มุมของดาดฟ้าและอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นอาทิตย์หลังเกิดเหตุคดีของหยวนหลีลี่ไปแล้ว!
จ้าวหยู่คิดภาพไม่ออกเลยว่าถ้าตำรวจที่กำลังสืบคดีในตอนนั้นอยู่รู้ว่าคนร้ายซ่อนตัวอยู่ที่ดาดฟ้าฝั่งตรงข้ามนี้เองจะเป็นอย่างไร!
ความมั่นใจและความกล้าของหลี่ดันเหนือชั้นไปมาก ช่วงเวลาตอนนั้นทางตำรวจยุ่งอยู่กับการตรวจสอบอาคารห้องพักของหยวนหลีลี่จึงมองข้ามดาดฟ้าอีกฝั่งที่หลี่ดันกำลังซ่อนตัวอยู่ จนทำให้เธอไม่ถูกใครพบกระทั่งหลบหนีได้สำเร็จ
หลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ หลี่ดันก็ลงบันไดลงมาตามปกติและหลบออกจากเมืองไป บันไดที่เธอเตรียมไปถูกเก็บออกจากดาดฟ้าหลังเวลาผ่านไปแล้วค่อนข้างนานพอสมควร
ดูจากการวางแผนทั้งเรื่องการทำกุญแจห้องสำรอง, เครื่องดักฟัง,การเตรียมบันไดและนำเสบียงอาหารเตรียมไว้พร้อม จนในที่สุดก็เกิดเป็นเหตุอาชญากรรมเข้า กระบวนการทั้งหมดถูกใช้เวลาคิดและวางแผนอยู่หลายเดือน ความพิถีพิถันของหลี่ดันเหนือกว่าที่จินตนาการเอาไว้มากทีเดียว!
ขณะที่เธอซ่อนตัวอยู่บนดาดฟ้า เธอเตรียมถังขยะส่วนตัวไปเพื่อไม่ให้บริเวณนั้นมีร่องรอยการอาศัยอยู่ มันเป็นอาชญากรรมที่ ถ้าไม่วางแผนให้รอบคอบมากพอ ทางตำรวจก็อาจจับสังเกตได้
นอกจากนี้ทางตำรวจเองก็ไม่สามรถระบุแรงจูงใจที่ชัดเจนได้ จึงทำให้คดีนี้ไม่ได้รับการแก้ไขมาเป็นเวลานาน
เมื่อได้ดูข้อมูลตรงหน้าจ้าวหยู่กลับมารู้สึกมึนงงในคดีเข้าอีกครั้ง วิธีการก่อเหตุที่พิถีพิถันมากของหลี่ดันสะท้อนให้เห็นถึงความเกลียดชังในตัวเธอที่มีกับเหยื่อทุกราย!
แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องการแก้แค้นเธอถึงได้สร้างอาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้ แต่เธอกำลังโดนความเครียดแค้นบังตาอยู่หรือเปล่า?เบื้องหลังอาการบาดเจ็บของเธออาจมีคนร้ายแค่คนเดียว แต่เธอใช้ความเกลียดชังที่มีมาแก้แค้นทุกคนที่เข้ารอบการแข่งอย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นเธอต้องการตัดมือผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายทั้งหมดเลยหรือไม่?
ณ จุดนั้น จ้าวหยู่ไม่สนใจที่จะมองหาแผนการของหลี่ดันที่ใช้กับหลัวเหม่ยนาอีกต่อไป เขาเลือกมองหาเป้าหมายคนอื่น ๆ ของหลี่ดันแทนว่าใครจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป คำตอบที่เขาได้พบสร้างความประหลาดใจได้อีกครั้ง นอกเหนือจากเหยื่อทั้งสามรายที่ก่อเหตุไปแล้วยังมีข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวของบุคคลอื่นอยู่อีกด้วย! คนนี้แหละที่น่าจะเป็นเป้าหมายต่อไปของหลี่ดัน!
รูปภาพประกอบเป็นรูปผู้หญิงที่แต่งตัวดีสไตล์ผู้หญิงทำงานแถมเธอยังมีส่วนสูงที่สูงมากอีกด้วย! ข้างรูปภาพเธอเป็นรูปประกอบภาพขาวดำ
เมื่อจ้าวหยู่สังเกตมองดูดี ๆ จึงรู้ได้ว่ามันคือเนินศพในสุสาน! ด้านหน้าเนินศพมีหลุมสีดำถูกขุดเอาไว้อยู่ แต่ที่น่าแปลกคือมันถูกขุดเอาไว้ระหว่างป้ายฝังศพกับเนินศพนี่สิ
“หื้ม? นี่มันหมายความว่าอะไรกัน? สุสานมาเกี่ยวข้องกับแผนการของหลี่ดันได้ยังไง? เธอตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?!” จ้าวหยู่สงสัย
เขารีบมองหาข้อมูลด้านล่างรูปภาพนั้นในทันที
เป้าหมายต่อไปของหลี่ดันที่เขากับหลี่เบ่ยหนีคาดการณ์ไว้ครั้งต่อไปคือ หลี่ฉินฮัวแต่ข้อมูลนี้กลับไม่ได้แสดงอะไรที่เกี่ยวข้องกับหลี่ฉินฮัวเลยสักอย่างแต่เป็นผู้หญิงคนอื่นที่ชื่อ เชาเจียหยิง แทน จ้าวหยู่จำไม่ได้ว่ามีรายชื่อนี้ผ่านเข้ารอบไปด้วย
“อะไรกันล่ะเนี่ย?”
จ้าวหยู่อ่านข้อมูลต่อถึงได้เข้าใจว่าเธอเป็นใคร ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่ชื่อ เชาเจียหยิง เป็นผู้บริหารการซื้อขายแลกเปลี่ยนของระหว่างประเทศและได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลีย!
“พระเจ้า! เป็นเธอนี่เอง!!”
ในที่สุดเจ่ายูก็เข้าใจว่า เชาเจียหยิง แท้จริงแล้วคือ เชาลูลู่ ผู้ชนะอันดับที่ 3 นั่นเอง!
จากข้อมูลของหลี่เบ่ยหนีที่แสดงให้เห็นว่า เชาลูลู่ เป็นคนแรกที่ได้รับการเข้าเรียนต่อในสถาบันดนตรีแห่งชาติ ภายหลังจากจบการศึกษาในต่างประเทศ เธอได้เริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดนตรี จนกลายมาเป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ราวกับเธอกำลังแล่นเรือใบออกสู่ทะเลแถมเธอยังแล่นได้สวยงามมากจนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากมายขนาดนี้
“อย่าบอกนะว่าเธอคือเหยื่อรายต่อไป!!”
จ้าวหยู่พยายามข่มใจให้สงบนิ่งและเริ่มหาข้อมูลอื่น ๆ อ่านต่อแต่แล้วเขาก็ไม่พบข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับคนอื่น ๆ เลยนอกจากเชาเจียหยิง! ไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับหลี่ฉินฮัวหรือกระทั่งผู้ชนะในการแข่งขันในครั้งนั้นแบบลู่เทาเลย!
หรือหลี่ดันวางแผนแก้แค้นสองคนถัดไปในปีหน้า? หรือทั้งสองคนนี้ไม่ใช่ศัตรูของเธอ เธอเลยไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องไปแก้แค้นทั้งคู่?
“แต่เดี๋ยวนะ!” จ้าวหยู่เหมือนจะเอะใจอะไรได้บางอย่าง เขารีบกลับไปมองภาพบนหลุมศพนั่นอีกครั้งด้วยความระมัดระวัง แม้ว่าข้อความบนหลุมศพจะมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่หลุมตรงกลางระหว่างนั้นสามารถมองได้ชัดเจนมาก
หลังจากที่เขาพยายามอ่านจนสามารถเข้าใจได้ว่าเนื้อหาที่เขาเข้าใจ มันสร้างความตกใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก!
“พระเจ้า! นี่มัน…! ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ มันต้องแย่แน่นอน!!”