CD บทที่ 40 ทำไมคุณไม่สวมถุงมือ
“คุณพอจะทราบไหมครับว่าตอนนี้ลูกสาวคุณอยู่ที่ไหน?” จ้าวหยู่ความรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก เขาสอบถามหญิงชราเพิ่มเติมทันที “ผมสามารถไปเจอเธอที่ไหนได้บ้าง?”
“คุณตำรวจ ฉันเองก็บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปหมดแล้ว ทำไมคุณถึงยังต้องการตามหาตัวลูกสาวของฉันอีกกัน?” หญิงชรายังคงเป็นกังวลกลัวว่าจ้าวหยู่จะไปพูดเกี่ยวกับเรื่องเปียโนกับลูกสาวตัวเอง เธอกลัวว่าเขาจะเข้าไปสาดเกลือใส่แผลใจที่ลูกของเธอ
“ไม่มีอะไรมากครับ ทางเราต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอเพิ่มเติมนิดหน่อยเท่านั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุทำไมผมถึงต้องหาตัวเธอให้เจอ” จ้าวหยู่ทำท่าโชว์ป้ายชื่อตำรวจพลางแกล้งจดบันทึกเรื่อยเปื่อยลงสมุดตัวเอง “ผมกำลังทำตามหน้าที่ที่ได้รับมาอยู่น่ะครับ ตอนนี้ทางตำรวจเรากำลังสืบสวนคดีที่มีเปียโนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่แน่ว่าทางเราอาจจะได้รู้ตัวคนร้ายที่ลงมือทำกับลูกสาวของคุณก็ได้นะครับ!”
“จริงเหรอ…” หญิงชราทำท่าครุ่นคิดกับคำพูดของจ้าวหยู่ “ลูกสาวของฉันน่าจะอยู่ที่โรงละครนะ น่าจะเป็นพวกการแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ ของเมืองหรืออะไรนี่แหละ เมื่อตอนที่เธอออกจากบ้านไปวันนี้ เธอบอกกับฉันว่าเธอจะออกไปแถบชานเมืองชนนบทกับคนอื่น ๆ แล้วจะกลับบ้านหลังจากนี้สักประมาณ 4 – 5 วันน่ะ”
“ออกนอกเมืองงั้นหรือครับ?” จ้าวหยู่กำลังใช้ความคิดพร้อมกับรู้สึกเครียดไปพร้อม ๆ กัน
ทำไมหลี่ดันถึงต้องออกนอกเมืองไปในวันนี้กันด้วย? หรือว่าเธอกำลังเตรียมลงมือก่อเหตุอีกครั้ง?!
“เอาอย่างนี้ดีไหมคุณตำรวจ” หญิงชราพยายามให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ “ให้ฉันโทรหาและสอบถามเธอทางโทรศัพท์เลยดีไหม?”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ!” จ้าวหยู่รีบโบกมือปฏิเสธในทันที ถ้าเกิดคนร้ายเป็นเธอขึ้นมาจริง ๆ การโทรไปหาเธอจะเป็นเหมือนกับเป็นการเตือนให้เธอระวังตัวแทน มันน่าจะดีกว่าถ้าได้ตรวจสอบเรื่องราวให้รอบคอบกว่านี้ “ไม่จำเป็นต้องโทรไปหาเธอหรอกครับ หน้าที่ของผมเกือบจะเสร็จแล้ว ผมคงจะไม่รบกวนอะไรคุณอีกแล้วล่ะครับ”
เขาต้องการออกไปข้างนอกแล้วรีบโทรหาหลี่เบ่ยหนีในทันที เขาต้องการตรวจสอบเรื่องที่อยู่ของหลี่ดันในตอนนี้ว่าเธออยู่กับพวกคณะโรงละครจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังเดินออกจากบ้านไป เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง มันคือประตูห้องห้องหนึ่งที่ถูกล็อคเอาไว้ เขาหยุดเดินแล้วหันไปถามกับหญิงชรา
“ทำไมประตูถูกล็อคไว้ล่ะครับ?”
“อ่อ นั่นห้องลูกสาวฉันเองแหละจ๊ะ” เธอตอบไปตามความจริง “ลูกสาวของฉันใส่ใจเรื่องความสะอาดกับห้องตัวเองเป็นอย่างมาก เธอมักจะล็อคห้องเอาไว้เสมอและจะไม่ให้ใครเข้าห้องเธอได้เลยสักคน”
‘ไม่ให้ใครเข้าห้องเลย?’ จ้าวหยู่เริ่มสงสัยมากยิ่งขึ้น เขาถามหญิงชราว่าเธอสามารถเปิดประตูห้องให้เขาดูได้บ้างไหม
“ไม่ ๆ ไม่ได้แน่นอน!” หญิงชราปฏิเสธ “ลูกสาวฉันให้ความสำคัญมาก ๆ ไม่ว่ากับใครก็ตามที่จะเข้าห้องเธอ แม้กระทั่งฉันเองยังไม่สามารถเข้าไปได้เลยและที่สำคัญกุญแจห้องก็อยู่ที่เธอด้วย ยังไงก็เข้าไปไม่ได้หรอก”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมสามารถเปิดมันได้!” จ้าวหยู่ไม่สนใจคำเตือน
“ไม่ได้นะคุณ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้!” หญิงชราพยายามหยุดยั้งเขา เธอเดินมาขวางทางเขาที่หน้าประตู “ฉันขอเตือนคุณด้วยความจริงใจเลยนะ ลูกสาวของฉันเป็นคนรักสะอาดมาก! ถ้าเธอรู้ว่ามีใครเข้าห้องเธอ เธอจะรู้สึกโกรธและโมโห ฉันขอร้องเถอะนะ ลูกสาวฉันได้รับความทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว ได้โปรดอย่าทำร้ายจิตใจของเธออีกเลยนะ”
“รักความสะอาด? แน่ใจหรือครับ?” จ้าวหยู่กำลังใช้คิด
ในจุดนี้ เขาไม่สามรถเดินถอยหลังและทำอะไรผิด ๆ ได้อีกต่อไป เขาจะไม่ยอมยอมแพ้! แต่หญิงชราดันมายืนขวางทางกั้นเขาเอาไว้นี่สิ พอได้เห็นเธอทำท่าปกป้องประตูบานนี้ด้วยชีวิต ทำให้เขาต้องเลือกใช้วิธีการบีบคั้นให้เธอยินยอม
ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าเป็นตำรวจคนอื่น ๆ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาทางแก้ไข แต่เรื่องแค่นี้ไม่อาจขวางกั้นอะไรจ้าวหยู่ผู้ฉลาดแกมโกงเป็นที่สุดคนนี้ไปได้ เขาเอ่ยถามหญิงชราออกไปอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่ขึงขังว่า
“คุณป้า ผมขอถามคุณอีกครั้งนะครับ ว่าระหว่างความสะอาดในห้องนอนของลูกสาวคุณกับชีวิตของลูกสาวคุณ อะไรมันสำคัญไปกว่ากัน?”
“เอ่อ” หญิงชราทำท่าสับสน “คุณตำรวจ คุณกำลังจะสื่ออะไรกันแน่?”
จ้าวหยู่ถอนหายใจยาว ๆ และแกล้งทำสีหน้าเป็นกังวล “ที่จริง ผมเองก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้สักเท่าไหร่แต่เรื่องก็มาถึงจุดนี้แล้ว ผมคงต้องแสดงความซื่อสัตย์และจริงใจให้คุณได้รับรู้บ้าง เพื่อช่วยชีวิตของลูกสาวคุณ นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงมาตามหาเธอที่นี่…มีใครบางคนกำลังมุ่งทำร้ายเธออยู่น่ะครับ!”
“เอ๋?!” หญิงชราตกใจ ตัวเธอเริ่มสั่นด้วยความกลัวอีกครั้ง “ใครกัน! ไอ้คนชั่วคนนั้นมันเป็นใคร มันต้องการอะไรถึงต้องมาทำร้ายลูกสาวฉันด้วย!?”
“อาจเป็นใครบางคนที่เกี่ยวข้องกับคนที่วางใบมีดโกนในตอนนั้น หรืออาจจะเป็นใครก็ได้” จ้าวหยู่โกหก “ลูกสาวคุณมีหลักฐานสำคัญมาก ๆ บางอย่างไว้ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงอยากตรวจสอบห้องของเธอ ยิ่งคนร้ายถูกจับได้เร็วขึ้นมากเท่าไหร่ ลูกสาวคุณก็จะยิ่งปลอดภัยเร็วขึ้นเท่านั้น คุณไม่เห็นด้วยหรือครับ?”
“เข้าใจแล้ว!” ถึงหญิงชราจะพูดอย่างนั้นแต่เธอก็ยังสับสนและเป็นกังวลอยู่ดี “ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องรีบโทรไปหาเธอและบอกให้เธอระวังตัวดี ๆ!”
“เรื่องนี้คุณป้าไม่ต้องเป็นกังวลไปครับ!!” จ้าวหยู่รีบเข้าไปห้ามเธอ “เราจะส่งคนจากหน่วยงานเราไปเฝ้าระวังเธอให้ คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ แต่ขอให้ผมได้ตรวจสอบดูห้องเธอหน่อยได้ไหมครับ? เอาอย่างนี้แล้วกัน เชื่อมือในทักษะของผมนะ ผมรับประกันเลยว่าจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ในห้องนอนลูกสาวคุณเลยนะครับ?”
“คุณตำรวจแน่ใจนะ?” หญิงชราค่อย ๆ เขยิบออกห่างจากหน้าประตูห้องไปช้า ๆ หลังได้ยินคำบอกเล่าจากจ้าวหยู่
“ไม่ต้องห่วงครับ! ผมน่ะเป็นผู้เชี่ยวชญด้านนี้นี้เชียวนะครับ!”
จ้าวหยู่ยิ้มอย่างมีความสุขขณะเดินไปที่ประตู โดยไม่ต้องใช้ไขควงหรืออะไรก็ตามแต่เพียงแค่เขาจับที่ลูกบิดของประตูห้องด้วยมือข้างเดียวประตูก็ถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย
“เห็นไหมครับ ไม่เกิดความเสียหายอะไรเลย ผมจะล็อคมันเอาไว้อีกครั้งเมื่อตอนที่ออกมา แล้วทุกอย่างก็จะดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
จ้าวหยู่ทำท่า ‘โอเค’ ส่งให้หญิงชรา เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งได้รับกุญแจผีล่องหนจากการผจญภัยที่ผ่านมา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเปิดประตูใดก็ได้อย่างไร้ที่ติ
ในที่สุดประตูห้องก็เปิดโล่ง สิ่งแรกที่เขาสัมผัสได้คือกลิ่มจากตัวห้องที่คล้าย ๆ กับกลิ่นเรซิ่น ห้องที่อยู่ตรงหน้าจ้าวหยู่ทั้งเรียบร้อยและสะอาดไปหมด
การตกแต่งภายในห้องถูกตกแต่งเอาไว้อย่างเงียบง่าย ข้าวของทุกอย่างต่างถูกจัดวางเอาไว้เรียบร้อยและไร้ที่ติ เห็นได้ชัดว่าเจ้าของห้องไม่เพียงแต่รักความสะอาดเท่านั้น แต่ยังเป็นคนพิถีพิถันมากด้วยต่างหาก
แม้ว่าตัวจ้าวหยู่จะไม่เคยมีประสบการณ์ในการสืบสวนอาชญากรรมมาก่อนแต่เขาสามารถสังเกตุผู้คนได้เป็นอย่างดี เขาสังเกตเห็นได้ว่าลักษณะของตัวหลี่ดันมีความคล้ายคลึงกับคนร้ายในคดีนี้ตามหลักของจิตวิทยาอยู่ไม่น้อย คนร้ายเป็นคนที่พิถีพิถัน มุ่งมั่น และสงบ เป็นคนที่มีความสามารถในการดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดและรอบคอบสมบูรณ์แบบมาก
จ้าวหยู่ก้าวเข้าไปในห้อง หญิงชราพยายามจะเดินตามเขาเข้าไปด้วยแต่ก็ถูกจ้าวหยู่สั่งห้ามเอาไว้ เขาบอกให้เธอรออยู่ข้างนอกเนื่องจากจำนวนคนที่มากเกินอาจจะทำให้ลูกสาวเธอสังเกตุเห็นความผิดปกติเข้าได้ เธอจึงทำได้แค่เพียงเชื่อฟังจ้าวหยู่และรอเขาอยู่ด้านนอกห้องของหลี่ดันเป็นห้องที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าไหร่นัก มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ประกอบห้องเล็กน้อย มีเตียงไม้เก่า ๆ ชั้นวางไวน์ ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางหนังสือ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนดูเก่า ๆ แต่ทั้งหมดต่างได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี
หลังการสังเกตง่าย ๆ จ้าวหยู่รู้สึกว่าเขาต้องเริ่มค้นจากชั้นวางหนังสือก่อนเป็นอันดับแรก บนชั้นวางหนังสือนั้นหนังสือแต่ละเล่มต่างได้รับการดูแลเป็นอย่างดี หนังสือถูกจัดวางตามหมวดหมู่อักษรเอาไว้อย่างเรียบร้อย หลี่ดัน ช่างเป็นคนที่ใส่ใจในความพิถีพิถันมากจริง ๆ
จากการจัดวางประเภทและชื่อหนังสือ จ้าวหยู่สามารถบอกได้เลยว่าหลี่ดันอ่านหนังสือได้แบบกว้างขวางมาก มีตั้งแต่วรรณคดีทั่วไป วิทยาศาสตร์ จนไปถึงเทคโนโลยีและวิทยาการทางแพทย์ต่าง ๆ หนังสือสาหรับทางการแพทย์มีบางเล่มที่เกี่ยวกับวิสัญญีวิทยา[1]และกายวิภาคศาสตร์[2]ด้วย!
ช่วงเวลาที่เขาได้เห็นหนังสือเหล่านั้น จ้าวหยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจ ขณะที่เขากำลังจะหยิบหนังสือมาตรวจสอบ
ทันใดนั้นก็มีเสียง จากหญิงชราดังเข้ามาว่า “คุณตำรวจ ทำไมคุณไม่สวมถุงมือล่ะ?”
[1] วิสัญญีวิทยา คือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการให้ยาชาและยาสลบ โดยมักทำงานร่วมกับแพทย์ผ่าตัดเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บปวดของคนไข้ก่อนทำการผ่าตัด
[2] กายวิภาคศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต มีตั้งแต่การศึกษาจากสัตว์ไปจนถึงการชำแหละศพมนุษย์