CD บทที่ 39 คำตอบที่ใกล้เข้ามา
“ถ้าเราหาชิ้นส่วนที่เหลือไม่เจอ ดันดันของเราก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่” หญิงชราหยุดพักไปประมาณหนึ่งก่อนที่เธอจะเช็ดคราบน้ำตาออกจนหมดและเริ่มเล่าเหตุการณ์วันนั้นต่อ “ตอนที่คุณหมอกำลังผ่าตัด พ่อของดันดันคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าคุณหมอและพูดว่าจะให้เขาทำอะไรให้ก็ได้เขายอมหมดทุกอย่างแค่ขอให้ลูกของเรากลับมาเป็นปกติได้อีกครั้งก็พอ เพราะเธอเป็นความหวังเดียวที่เรามีจริง ๆ แต่ถึงเราจะขอร้องไปยังไงก็ไร้ประโยชน์ หลังการผ่าตัดเสร็จ คุณหมอบอกว่าข้อต่อที่นิ้วของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจนเธอไม่สามารถฟื้นฟูให้มันกลับไปเป็นแบบเดิมได้ เธอได้รับผลกระทบรุนแรงจนพูดอะไรไม่ออก สำหรับเด็กที่ชีวิตทั้งชีวิตของตัวเองมีแต่การเล่นเปียโนอย่างเดียว การสูญเสียนิ้วของตัวเองไปก็ไม่ต่างอะไรกับการสั่งประหารชีวิตของเธอเลย ตอนที่ได้ยินเรื่องนี้ พ่อของดันดันเกิดอาการหัวใจวายฉับพลันจนเป็นลมล้มพับไป ถ้าหากตอนนั้นพวกเราไม่ได้อยู่ที่แผนกฉุกเฉินเข้าพอดี วันนั้นฉันก็คงสูญเสียสามีตัวเองไปด้วยเหมือนกัน”
“หลังจากวันนั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ?” จ้าวหยู่สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ความรู้สึกแรกเขาเองก็รู้สึกสงสารในความโชคร้ายที่เด็กคนนั้นได้รับจนส่งผลกระทบต่อมายังครอบครัวของเธอแต่เขาก็ต้องทำหน้าที่สืบสวนต่อไปด้วยเช่นกัน
“หลังจากนั้น พวกเราก็ขอเข้าพบกับทางผู้จัดงานแข่งขันพร้อมกับเข้าแจ้งตำรวจ” ใบหน้าของหญิงชราตอนนี้ปราศจากความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น “แต่ในตอนนั้นได้เริ่มการแข่งขันรอบสุดท้ายไปแล้ว ทางผู้จัดไม่ต้องการให้เรื่องของดันดันมากระทบกับงานเพราะเกรงว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอจะส่งผลกระทบกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ พวกเขาเลยเลือกที่จะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้แล้วค่อยเข้าให้การกับทางตำรวจหลังงานแข่งขันสิ้นสุดลง”
“ตัวฉันเองก็เป็นเพียงแค่แม่บ้านธรรมดา ๆ ลูกสาวและสามีกำลังเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคู่ ฉันไม่รู้เลยว่าจะต้องทำตัวอย่าง
ไร ได้แต่ฟังสิ่งที่พวกเขาพูด ตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ได้เลย!“ความโศกเศร้ากำลังแสดงออกมาอยู่ทั่วใบหน้าของเธอ”หลังงานแข่งขันจบลง ทุก ๆ คนก็กลับกันไปหมด แล้วจะไปตามหาตัวคนร้ายได้อย่างไรกัน? ทางตำรวจเองก็ไม่ได้ตามเรื่องอะไรให้เลย จนสุดท้ายพวกเขาก็ทิ้งเรื่องราวของเราไว้ที่นั่น”
“สิ่งเดียวที่พวกเรารู้คืออาวุธที่ใช้ตัดนิ้วของลูกสาวเรา มันเป็นใบมีดโกนคม ๆ ที่ค่อนข้างบางแต่แข็งแรง มันถูกซ่อนเอาไว้ตรงระหว่างตัวโน้ตสีดำ บนเปียโนตัวนั้น! ตามที่ดันดันเคยบอกใบมีดโกนถูกวางไว้อย่างจงใจในจุดที่ผิดปกติ เธอลงน้ำหนักตัวโน้ตนั้นหนักมาก มันจึงทำให้เธอถูกบาดจนตัดนิ้วเธอออกไป”
“ใครก็ตามที่วางใบมีดนั้นจงใจที่จะทำร้ายลูกสาวของคุณโดยเฉพาะเลยใช่ไหมครับ?” จ้าวหยู่เอ่ยถาม
“มันก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นแหละ แม้ว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ จะเล่นผ่านจุดนั้นมาเหมือน ๆ กัน แต่ไม่มีใครที่ลงโน้ตหนักเท่าลูกสาวของเราเลยสักคน ดังนั้นหากพวกเขาจะถูกบาดไปด้วยก็คงไม่รุนแรงเท่าสิ่งที่ดันดันของเราได้รับ!!”
“คนร้ายจะต้องเป็นหนึ่งในเก้าคนที่เหลือแน่เลยครับ! หนึ่งในนั้นคงจะอิจฉาความสามารถของลูกสาวของคุณ หรือไม่ก็กลัวว่าเธอจะทำได้ดีกว่า เลยก่อเหตุแบบนี้ขึ้น!” ไม่รู้ทำไมแต่จ้าวหยู่รู้สึกโกรธกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก “ตอนที่ลูกสาวของคุณกำลังโดนตัดนิ้วอยู่ ตัวคนร้ายอาจจะกำลัง
เฝ้ามองอยู่ที่ไหนสักแห่ง แล้วพอพวกคุณทั้งสามคนออกจากที่ซ้อมไป คนร้ายก็กลับมาเก็บใบมีดนั่นแล้วทำความสะอาดบริเวณนั้นพร้อมกับเก็บชิ้นส่วนของนิ้วลูกสาวคุณไปด้วย! ไอ้ชาติชั่วเอ๊ย!!”
“แน่นอนว่าเรารู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว” หญิงชราส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง “แต่ ณ ตอนนั้นไม่มีทั้งกล้องวงจรปิดไม่มีคนดูแล แม้กระทั่งอาวุธที่ใช้ก็หาไม่เจอ ยังไม่นับรวมเรื่องที่จะต้องส่งตรวจสอบและสืบสวนนั่นอีก ไม่มีทั้งคราบเลือดและรอยนิ้วมือ ไม่มีหลักฐานใด ๆ เอาไปให้ตรวจสอบได้เลย และแม้ว่าสามีของฉันจะพยายามทำทุกวิถีทางแล้วก็ตามแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้อีก”
“จิ๊ จิ๊” จ้าวหยู่กำลังใช้ความคิดกับตัวเอง “ถ้าเรื่องมันเกิดขึ้นในตอนนี้แล้วล่ะก็ ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้คนประเภทแบบนั้นลอยนวลได้แน่!!”
“ถึงแม้ว่าในตอนแรกนิ้วของเธอจะได้บาดเจ็บมาก็ตาม” หญิงชรายังคงเล่าต่อ “ด้วยระยะเวลาและการฝึกซ้อม ทำให้เธอกลับมาใช้พรสวรรค์ของเธอได้อีกครั้ง นิ้วของเธองอกเพิ่มออกมาบ้างและสามารถโค้งงอมันได้เล็กน้อย เหมือนกับว่าเธอแค่ต้องพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิมก็เท่านั้น แต่พอเวลาผ่านไปพวกเราถึงได้รู้ว่าในวันนั้นเธอไม่ได้เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บเฉพาะที่นิ้ว แต่ยังรวมไปถึงที่หัวใจของเธอด้วยเช่นกัน”
“หลังจากเหตุการณ์นั้นเธอพยายามจะกลับมาเล่นเปียโนให้ได้อีกครั้ง แต่เธอค่อย ๆ เริ่มกลัวเปียโนขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่แย่ที่สุดคงจะเป็นตอนที่แค่เธอเห็นเปียโน ตัวของเธอก็สั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัว เราพยายามใช้จิตแพทย์เข้าช่วยเธอแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของเธอไม่เคยจางหายไปจากใจ”
“หลังจากนั้นไม่กี่ปีพวกเราทั้งครอบครัวก็ตกอยู่ในสภาพล้มละลาย ไร้ซึ่งความหวังใด ๆ อีกต่อไป ไม่นานพ่อของดันดันก็เริ่มล้มป่วยจนในที่สุดก็จากพวกเราไป” เธอได้แต่ถอนหายใจออกมายาว ๆ “แต่มันก็คือชีวิตคนนั่นแหละนะ อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ลูกสาวฉันเองก็แข็งแรงมาก ๆ แถมยังขยันขันแข็งอีกต่างหาก พวกเราเลยยังสามารถอยู่รอดกันต่อไปได้ แต่ตอนนี้ ฉัน…”
บางทีหญิงชราคงอยากจะพูดเรื่องมะเร็งที่เธอกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่หลังจากที่เธอใช้ความคิดสักพัก เธอก็ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องไปทันที
“คุณตำรวจ ตอนนี้คุณเองก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ถ้าคุณได้เจอกับลูกสาวฉัน อย่าพูดเรื่องเปียโนต่อหน้าเธอเลยนะ ฉันขอร้องล่ะนะ” คำพูดที่แสนเจ็บปวดถูกถ่ายทอดออกมาจากปากเธออีกครั้งพร้อมกับใบหน้าเปื้อนน้ำตา
จ้าวหยู่พยักหน้าตกลง เขารู้สึกสงสารครอบครัวนี้เป็นอย่างมากที่ต้องมาเจอกับเหตุการ์ร้าย ๆ ถึงแม้พวกเขาจะยากจนแต่นิสัยก็ไม่ได้แย่ พวกเขาเคยวาดฝันอนาคตที่สดใสกันเอาไว้แต่แล้วก็ถูกพรากจากไป ถ้าโศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้น ครอบครัวของพวกเขาอาจจะกำลังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าใครหลาย ๆ คนในตอนนี้เลยก็ได้!
“ถ้าเป็นแบบนี้..” จ้าวหยู่ยังคงถามต่อ “แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่ยอมกลับบ้านกันล่ะ? ด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ ไม่คิดจะให้ญาติพี่น้องช่วยเหลือหน่อยหรือ?”
“คุณก็น่าจะเห็น” เธอถอนหายใจอีกครั้ง “พ่อของดันดันเป็นคนที่หัวแข็งและดื้อรั้นมาก ๆ ญาติของเขาไม่ใยดีพวกเราเลยและหลังจากที่พวกเราขายบ้านหลังนั้นไปแล้ว เราก็ออกจากหมู่บ้านแห่งนั้นมาด้วยตัวเอง แล้วพวกเราจะเอาหน้าที่ไหนกลับไปที่นั่นได้?”
“โอ้…”
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กอัจฉริยะและครอบครัวถึงได้หายสาบสูญไปหลังจากการแข่งในครั้งนั้น จ้าวหยู่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเรื่องทั้งหมดจะลงเอยแบบนี้ แม้ว่าเรื่องราวจะผิดคาดจากสิ่งที่คิดไปบ้าง แต่ก็พิสูจน์ได้อย่างหนึ่งแล้วว่าทิศทางการสืบสวนคดี ตอนนี้จ้าวหยู่กำลังมาถูกทางแล้วจริง ๆ จากเรื่องราวต่าง ๆ ของหญิงชรา เด็กอัจฉริยะคนนี้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกของคดีมือที่หายไปอย่างแน่นอน!
แรงจูงใจก็ชัดเจน ชีวิตทั้งชีวิตของหลี่ดันต้องถูกทำลายลงไปจากการแข่งเปียโนครั้งนั้น เธอมีเหตุจูงใจที่ดีที่จะลงมือเพื่อทำการแก้แค้นกับคนที่ทำกับเธอ!
ตัวหลี่ดันเองก็ได้รับบาดเจ็บที่มือขวา เช่นเดียวกันกับเหยื่อที่ถูกตัดมือขวาไป ความเป็นไปได้ทั้งหมด รวมถึงแรงจูงใจต่างสอดคล้องกันไปหมด
จ้าวหยู่ได้อ่านเวชระเบียนทางการแพทย์ของแม่หลี่ดันเรียบร้อยแล้ว ปีที่แล้วในเดือนพฤษภาคมแม่ของเธอเข้ารับการผ่าตัดหลังจากคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุครั้งที่สอง เก้าเดือนต่อมาแม่ของเธอเข้ารับการรักษาเคมีบำบัด เธอมีช่องว่างเพิ่มขึ้นจึงมีโอกาสได้ลงมือก่อเหตุอีกครั้งซึ่งเป็นเหตุการณ์ครั้งที่สามที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไปนี้เอง รวมไปถึงเรื่องที่เธอทำงานโรงละครและบ้านของเธอก็อยู่ใกล้ ๆ กับจุดเกิดเหตุนี้อีก
ในที่สุดจ้าวหยู่ก็สามารถพบเบื้องหลังที่แท้จริงของคดีมือที่หายไปได้สำเร็จ!
คนร้ายที่เขาเฝ้าตามหาตัวอยู่ตั้งนานจะเป็นใครไปอีกไม่ได้นอกจากเด็กอัจฉริยะคนนี้!