บทที่ 4 ผู้ชายผู้หญิงแตะต้องกันไม่ได้
บทที่ 4
ผู้ชายผู้หญิงแตะต้องกันไม่ได้
ก่อนนางเดินพ้นสายตาเซียวเป่าเอ๋อร์ไม่ลืมที่จะตะโกนไล่หลังเตือนเซียวเยี่ยน “ท่านป้า อย่ามัวแต่ไปเล่นพนันนะ”
“จะ...เจ้าตัวแสบ พูดอะไรเหลวไหลออกมาเนี่ย คนอย่างป้าของเจ้าจะมาล้อเล่นกับชีวิตของคุณชายท่านนี้ได้อย่างไร?”
เซียวเป่าเอ๋อร์ยักไหล่ เขาก็แค่เตือนเท่านั้น
หลังจากที่เซียวเยี่ยนจากไป สองแม่ลูกก็เตรียมที่จะกลับบ้านของตัวเองเช่นกัน อย่างไรก็ดีหรงสวินคนนี้มองดูแล้วคงไม่ใช่มิตรสหายที่ดีเท่าไรนัก เขาน่าจะเป็นพวกรอให้คนมาหาเขาและทำตามเขาแน่ ๆ
แต่ทว่าหรงสวินรีบตะโกนขึ้นมา “ช่วยอยู่ก่อน!” คิ้วของเขาขมวดมากขึ้น
“มีอะไร?” เซียวหลีถามกลับ และเห็นว่าเขามีสีหน้าเหมือนเจ็บปวดแล้ว เนื่องด้วยความเคยชินในอาชีพของนางแล้ว นางก็ได้รีบเดินไปใกล้ ๆ หรงสวิน นางเปิดผ้าห่มออกมาอย่างเบา ๆ และเห็นว่ามือของเขากำลังกุมเข่าอยู่ และพบว่ามีเลือดไหลจนย้อมที่นอนจนกลายเป็นสีแดง
“ไปตามหมอในหมู่บ้านของเจ้ามาให้เราที”
หรงสวินพยายามทำเป็นใจเย็นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ขาคู่นี้ของเขาไม่สามารถใช้เดินได้มานานแล้ว แต่ทว่าหากเขาไม่สามารถรักษาได้ทันแผลอาจจะติดเชื้อได้ และเกรงว่าชีวิตนี้ของเขาก็คงหาไม่แล้ว
เมื่อสักครู่เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำเป็นเย็นชากับ เซียวเยี่ยนมากนัก เขาเพียงแค่ต้องการออมแรงของเขาเอาไว้เพื่ออดทนต่ออาการบาดเจ็บ แต่ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ร้องเพลงและเต้นรำ ไม่ไปตามหมอให้มาดูอาการของเขาเสียที
เซียวหลีไม่ได้ตอบอะไร ทำให้สีหน้าของหรงสวินนั้นมืดครึ้มขึ้นมาทันที สองพี่น้องคู่นี้เหมือนกันจริง ๆ ถ้าพวกนางคิดที่จะช่วยคนทำไมถึงไม่ออกไปตามหมอมาดูอาการของเขาสักที?
“นี่ เจ้าได้ยินข้าไหม? เจ้าพอจะรู้จักคนที่พอจะเป็นวิชาแพทย์บ้างไหม?”
“เงียบน่า!”
เซียวหลีมองไปที่เขาแล้วพูดน้ำเสียงที่เย็นชา “เจ้าอยากให้ขาของเจ้าใช้การได้ไหม?”
“ขาของข้ามันใช้การไม่ได้มานานแล้ว” หรงสวินรู้ถึงสภาพขาของเขาดีว่ามันรักษาไม่ได้แล้ว แต่หากว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เขาเองก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
เหมือนเซียวหลีไม่สนใจฟังว่าเขาพูดอะไร นางแกะเอาผ้าที่โพกหัวของนางออกแล้วเอาอุดปากของหรงสวิน ทำเอา หรงสวินถึงกับตกใจ ผู้หญิงคนนี้ช่างหยาบคายยิ่งนัก ไม่เคยมีใครในแผ่นดินนี้ที่ทำเช่นนี้กับเขามาก่อน เขาคิดที่จะคว้าตัวนาง แต่ก็ถูกนางจี้สกัดจุดทำให้ไม่สามารถขยับแขนของเขาได้
หรงสวินถ่มน้ำลายแล้วพูดอย่างโมโห “บัดซบ ใครส่งเจ้ามา?” เขาจะไม่ยอมปล่อยผู้หญิงอวดดีเช่นนี้ไปง่าย ๆ เด็ดขาด
เซียวหลีส่ายหัวของนางอย่างไม่พอใจ “ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่แท้ ๆ ถ้าหากเจ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อก็หุบปาก ไม่อย่างนั้นกว่าเถ้าแก่เฉียนของท่านจะมาถึงขาของท่านคงได้ถูกตัดทิ้งแน่”
“เจ้า.....” เขาตะโกนออกมา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามขัดขืนมากเพียงใดก็เปล่าประโยชน์ เขามองผู้หญิงคนนั้นดึงเอาปิ่นปักผมของนางออกจากหัวแล้วคาบไว้ในปากพลางพูดกับตัวเอง “ไม่ได้ สงสัยจะต้องใช้ไฟ”
“เป่าเอ๋อร์ ไปเอาตะบันไฟมาแล้วจุดกับเทียนไขบนโต๊ะให้หน่อย”
เซียวเป่าเอ๋อร์ตกตะลึงยืนนิ่งอยู่กับที่ มองดูเซียวหลีที่กำลังจับแขนของผู้ชายอยู่ชั่วขณะ แล้วก็ไล่มาที่ขา ก่อนจะมาที่หน้าอกและหลัง
ไม่ใช่ว่าผู้ชายกับผู้หญิงนั้นห้ามแตะเนื้อต้องตัวกันหรอกเหรอ?
“ยังไม่รีบไปอีกเหรอ?” เซียวหลีที่หันหน้ามาตะโกนอย่างนุ่มนวล เซียวเป่าเอ๋อร์ฟื้นสติคืนมาและรีบไปหาตะบันไฟที่ลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งของเซียวเยี่ยน แล้วจากนั้นก็ได้หยิบเอาที่วางเทียนไขบนโต๊ะมา
“เจ้ากำลังจะทำอะไรน่ะ?” หรงสวินก็ได้จ้องด้วยความโกรธแต่ก็พูดอะไรออกไปไม่ได้
“ท่านแม่ ท่านกำลังจะทำอะไรน่ะ?” เซียวเป่าเอ๋อร์นั่งลงแล้ววางที่วางเทียนไขลง มองดูเหมือนกำลังดูการแสดงแล้วกล่าว “หรือว่าจะฆาตกรรม?”
เซี่ยวหลีถลึงตาใส่เซียวเป่าเอ๋อร์ “นี่เจ้าคิดว่าแม่ดูเหมือนพวกฆาตกรขนาดนั้นเลยเหรอ? เจ้าควรจะเรียนรู้จากแม่มากกว่านี้นะ นี่มันคือการฆ่าเชื้อต่างหาก” หลังจากที่พูดจบนางก็ได้ไม่รอช้า ถอดเสื้อผ้าของหรงสวินออก
หรงสวินตกใจ “เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ?”
“ก็ดูไงว่ามีแผลที่ตรงอื่น ๆ บนตัวเจ้ารึเปล่า?” หรงสวิน มองไปที่ใบหน้าของนางที่ไม่แดงและหัวใจก็ไม่เต้นเร็ว ราวกับว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเห็นอะไรเช่นนี้ ราวกับว่านางเป็นหมอที่มีความสามารถ ตอนนี้ตัวเขาไม่สามารถขัดขืนนางได้เลย ในเวลานี้ไม่ว่านางจะเป็นใคร แต่เขาก็ทำได้แค่ปล่อยให้นางควบคุมเท่านั้น
ส่วนเซียวเป่าเอ๋อร์นั้นกลัวจนต้องปิดตาของเขา “ท่านแม่ ผู้ชายผู้หญิงจะแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้นะขอรับ ไม่ว่าท่านจะหิวหรือกระหายขนาดไหนท่านแม่ก็ไม่ควรยุ่งกับผู้ชายที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้นะขอรับ อย่ามองแค่ว่าเขาสวมเสื้อผ้าดี ๆ เขาอาจจะสิ้นเนื้อประดาตัวหรือหนีคดีความที่เขาก่อหรืออะไรบางอย่างก็ได้นะขอรับ”
ถ้าหากหัวหน้าหมู่บ้านหรือท่านตารู้เข้าว่าท่านแม่ทำอะไรแบบนี้แล้วล่ะก็ เซียวเป่าเอ๋อร์รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปปิดประตู ถ้าหากคนนอกมาเห็นเข้า นางคงได้ตายจริง ๆ แน่
“ท่านแม่.....”
หันกลับไปมองด้านหลัง เซียวเป่าเอ๋อร์ก็เห็นท่านแม่ของเขามองหาปิ่นปักผมเงินขนาดเล็กไม่ต่างจากเข็มจำนวนมากในกองเครื่องประดับของเซียวเยี่ยนแล้วก็นำพวกมันมาลนไฟ โดยไม่สนใจความรู้สึกของหรงสวิน โดยไม่รอช้านางใช้ปิ่นเงินขนาดเล็กพวกนั้นปักแทนเข็มเงินลงไปที่ตัวของเขาไม่ต่ำกว่า 10 เล่ม
ชายที่นอนกองอยู่นั้นก็ได้คิ้วขมวดหนักขึ้น และมีเหงื่อที่เหมือนไข่มุกผุดออกมาจากหน้าผากของเขาแล้วไหลลงมา
“ลูกรัก เจ้าไปหาผ้าสะอาด ๆ ในห้องของป้าเจ้าแล้วนำมาให้ข้าที”
ในขณะที่กำลังตรวจดูเข่าของหรงสวินอยู่นั้น เซียวหลีสั่งเซียวเป่าเอ๋อร์ โดยที่นางไม่ได้มองดูดวงตาสีเลือดของหรงสวินที่ปูดมาแทบเป็นระฆังทองแดงเลย
เซียวเป่าเอ๋อร์ไม่รอช้า ช่วยชีวิตผู้ชายมีเงินด้วยเสื้อผ้าของท่านป้า ท่านป้าคงไม่ว่าอะไรหรอกใช่ไหมนะ?
หรงสวินที่กำลังทนต่อความเจ็บปวดอยู่นั้นก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงสั่น ๆ “แม่นางรักษาบาดแผลให้ข้าก่อน ขาของข้าน่ะมันหักมานานแล้ว....”
เซียวหลีดึงกระดูกของเขาทันที แล้วหรงสวินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เจ้า......”
“ข้าทำไม? กระดูกเจ้าแตกละเอียดแบบนี้ ไม่ว่าจะแผลเก่าหรือแผลใหม่ ถ้าหากเจ้ายังอยากได้ขานี้เอาไว้ก็อยู่เงียบ ๆ และอย่าขยับ”
หรงสวินนั้นยังอยากที่จะถามอะไรเพิ่มเติม แต่เซียวหลีได้ใช้ปิ่นปักผมที่ฆ่าเชื้อแล้วปักลงไปเพื่อห้ามเลือด เขามองดูนางที่กำลังรักษาแผลของเขาอย่างตั้งใจและเกิดเชื่อผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ดวงตาสีดำและคิ้วที่ยาวของนาง ผิวที่เหลืองและบาง ในเวลานั้นเองที่เขาแอบคิดว่าถ้าหากเขาดูแลหญิงสาวคนนี้ให้อ้วนและขาวก็คงจะดี
ในขณะที่เขากำลังคิดเช่นนั้นอยู่เมื่อได้สติคืนกลับมา ก็ไม่รู้ว่าเซียวหลีนั้นไปเอาท่อนไม้มาจากไหนแล้วมัดพวกมันไว้กับขาของเขา
“ท่านแม่ ท่านไปเรียนพวกนี้มาจากไหนขอรับ?”
เซียวเป่าเอ๋อร์ถามแล้วก็ชี้ไปที่ขาของหรงสวิน และตัวของเขาที่ถูกพันด้วยด้ายและเศษผ้า
“แม่เรียนมาจากในฝันน่ะ” นางหยิกใบหน้าน้อย ๆ ของเขา จากนั้นก็ได้ลุกขึ้นยืนแล้วยืดตัว “เฮ้อ ช่างเหนื่อยเหลือเกิน ร่างกายนี้อ่อนแอเกินไปจริง ๆ สงสัยคงต้องออกกำลังกายช้า ๆ สักหน่อยแล้ว”
ในขณะที่นางกำลังยืดเส้นยืดสายอยู่นั้น เซียวหลีมองไปที่เซียวเป่าเอ๋อร์และหรงสวิน ทำไมพวกเขาถึงได้ดูเหมือนกันขนาดนี้นะ “ฮึ เป่าเอ๋อร์ วานเจ้ารับผิดชอบดูแลท่านลุงคนนั้นให้หน่อยนะ”
“ขอรับ”
เซียวเป่าเอ๋อร์เช็ดเลือดบนใบหน้าของเขาด้วยความรังเกียจ แล้วมองไปที่เซียวหลีที่เดินไปถึงห้องรับแขกแล้วกล่าว “ข้าจะดูแลเขาแน่นอนขอรับ”
เซียวหลีส่ายหัวของนางแล้วกล่าว “นี่เป็นการรักษาและช่วยคนครั้งแรกของแม่ เรื่องของค่าตอบแทนนั้นเจ้าก็ไปคำนวณกับลุงคนนั้นดูละกัน?”
โอ้ เงินค่าตอบแทน!
เขาเข้าใจทันทีแล้วก็รีบผงกหัวราวกับไก่ที่กำลังกินข้าวสารอย่างมูมมาม เขาก็พอจะเข้าใจล่ะนะแต่.....
เท่าไรถึงจะดีนะ?
มองไปที่แผ่นหลังที่จากไปของเซียวหลีแล้ว เซียวเป่าเอ๋อร์ก็คิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าอะไรทำให้แม่ของเขาเปลี่ยนไปมากขนาดนี้?
หันกลับไปมองที่หรงสวิน แต่ทว่าสายตาของเขากลับจับจ้องไปที่แผ่นหลังของท่านแม่ที่จากไปและยังคงตาค้างอยู่แบบนั้น เขาจึงได้ยืนมือน้อย ๆ ออกไปแล้วโบกไปมาอยู่ตรงหน้าของหรงสวินแต่ราวกับว่าชายหนุ่มไม่เห็นมือของเขา จนกระทั่งเขาตบไปที่ไหล่ของหรงสวิน หรงสวินจึงได้มีสติคืนกลับมาอย่างอาย ๆ